บทที่27
อาหารและน้ำกลายเป็นหน้าที่ของทาชิงิ ส่วนรอนก็ไปช็อปปิ้งด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น คายะซึ่งอาศัยในหมู่บ้านไซรัปมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยออกมาเห็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเลยก็ถูกดึงดูด้วยสินค้าต่าง ๆสองข้างทาง
“ว้าว คุณรอน ดูนั่นสิคะ... คนเยอะแยะเลย!” คายะอุทานออกมาพร้อมกับจับมือรอนวิ่งไปข้างหน้า
รอนมองเห็นนักเล่นกลปาหี่บนท้องถนน ชายคนนั้นโยนแอปเปิ้่ลหลายลูกขึ้นไปบนอากาศ มันลอยเป็นวงกลมแล้วก็ตกลงมาบนมือของเขาทีละลูก ๆ
มีเด็ก ๆจำนวนมากส่งเสียงเชียร์ท่ามกลางฝูงชนที่คอยเฝ้าดูอย่างสนุกสนาน
ผ่านไปครู่หนึ่งชายคนนั้นก็คว้าแอปเปิ้ลทั้งหมดที่ตกลงมาจากอากาศแล้วมอบมันให้กับเด็ก ๆที่ยืนดูอยู่ด้วยรอยยิ้ม เด็ก ๆที่ชอบเขาต่างตะโกนเรียกเขาเสียงดัง มีเด็กคนหนึ่งที่ออกมาจากด้านหลังชายคนนั้น ซึ่งน่าจะเป็นผู้ช่วยของอีกฝ่ายเดินถือหมวกมา
เด็กกลุ่มที่ได้รับแอปเปิ้ลไปกินก็มีความสุข ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่รอบ ๆ เองก็คว้าเหรียญทองโยนไปให้เด็กผู้ช่วยนักเล่นมายากลคนนั้น
เด็กชายคนนั้นเดินไปหารอนและคายะซึ่งไม่ถือว่าเป็นเด็ก เขาวางแผนที่จะเดินไปรอบ ๆเพื่อมอบแอปเปิ้ลให้กับเด็ก ๆที่อายุน้อย แต่เมื่อเห็นคายะมองมาที่เขาด้วยสายตาชอบใจ เขาก็ตัดสินใจมอบแอปเปิ้ลให้กับคายะ
“ขอบคุณนะ!” คายะขอบคุณเด็กชายคนนั้นแล้วมองที่แอปเปิ้ลในมือด้วยความสุข
เมื่อเห็นสิ่งนี้รอนก็ยิ้มออกมา เขาหยิบแบงก์ออกมาแล้วโยนไปใส่หมวกเด็กที่เดินมาหาเขา
เมื่อเด็กน้อยเห็นว่ารอนมีน้ำใจ ให้เงินเขามากกว่าคนอื่น ทันใดนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มมีความสุขออกมาทันที เขาโค้งคำนับรอนอย่างจริงใจ “ขอบคุณพี่ชาย ขอบคุณพี่สาว!”
รอนจูงมือคายะออกไปแล้วมองดูแอปเปิ้ลสีแดงสดในมือคายะแล้วรอนก็กระแอม “รอจนกว่าเธอจะล้างมันก่อนแล้วค่อยกินนะ”
คายะที่กำลังจะกัดมันลงไปก็หยุดการกระทำนั้นลง เธอหันศีรษะไปมองรอนแล้วพยักหน้า “อื้ม”
ทั้งสองคนเดินต่อไปตามถนนที่ปูด้วยหิน ซื้อของเล็ก ๆน้อย ๆให้กับคายะที่หยุดหน้าแผงลอยเป็นครั้งคราว คายะเริ่มมีของในมือมากขึ้น มีขนมหลายอย่าง เช่น ผลไม้แห้ง ผลไม้สุก ตุ๊กตาที่ทำจากเศษผ้าที่สร้างขึ้นมาอย่างประณีต
คายะมีความสุขมาก แต่รอนต้องลอบเกาหัว ตอนนี้เขากำลังเลี้ยงเด็กที่ชื่อคายะอยู่เหรอ?
แค่ก ๆ เธออายุสิบหกแล้ว ทำตัวแบบนี้ไม่แย่ไปหน่อยเหรอ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูท่าทางไร้เดียงสาของเธอ รอนก็ตัดสินใจไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เอ๊ะ?”
ทันใดนั้นรอนก็มองเห็นร่างเล็ก ๆตรงหน้าเขา และอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “ผมสีส้มนั่น รูปร่างสมส่วน ดวงตาเจ้าเล่ห์ที่เผลอมองมาทางนี้ ผู้หญิงคนนี้... นามินี่นา”
“ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เจอนามิที่นี่”
รอนเผยรอยยิ้มออกมาแล้วกล่าวกับคายะว่า “ไปพบลูกเรือคนใหม่ของเรากัน!”
“หือ?” คายะกินขนมอย่างมีความสุขก็ตกตะลึงกับสิ่งที่รอนกล่าวอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
นามิเดินไปตามถนน สอดส่องหาเป้าหมาย เธอมาที่เมืองนี้เพราะต้องการขโมยเงิน แต่ไม่ใช่กับคนธรรมดา แต่เป็นเศรษฐีท้องถิ่นที่ดูมีเงินหรือไม่ก็โจรสลัดที่มาซื้อเสบียง
นามิจ้องไปที่ฝูงชนและทันใดนั้น สายตาของเธอก็สว่างวาบขึ้น เธอเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยงาม มีสาวน้อยน่ารักอยู่ด้านข้าง นามิค่อย ๆเดินเข้าไปหาเขา
‘ดูจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว คนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา มีของหลายอย่างในอ้อมแขนของหญิงสาวคนนั้น ซึ่งมันหมายความว่าอีกฝ่ายรวยมาก’
นอกจากนี้ เมื่อรอนและคายะจากไป พ่อของคายะให้เงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาด้วยหลายล้านเหรียญ โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน
รอนยิ้มมุมปากที่แผนของเขาสำเร็จ ส่วนคายะยังคงติดตามเขามาด้วยท่าทางไร้เดียงสา
นามิคิดในใจ ‘นายต้องมีเงินมากแน่ ๆ’
นามิเริ่มเคลื่อนไหวเข้าไปในฝูงชนที่หลั่งไหล เธอค่อย ๆเคลื่อนที่มาทางที่รอนอยู่
เมื่อเธอลูบผ่านร่างของรอน มือเล็ก ๆของนามิลูบผ่านร่างเขาไปด้วยความว่องไว เธอดีใจสุด ๆแล้วมองไปที่ถุงเงินที่ถืออยู่ในมือ ‘หนักจัง สงสัยมีเงินเยอะแน่ ๆ รวยแล้ว!’
นามิดีใจแล้วรีบวิ่งไปที่อื่นพร้อมกับถุงเงินในมือของเธอ
หลังจากวิ่งไปได้สักพักก็หันกลับมามองรอนอย่างระแวดระวัง พอไม่เห็นคนวิ่งไล่ รอยยิ้มก็เผยออกมา “ฮะฮะ ในที่สุดวันนี้ก็ตกได้เหยื่อตัวโต ไหนดูสิว่าในนี้มีเงินเท่าไหร่”
นามิซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ค่อย ๆเปิดถุงเงินออกดู ทันใดนั้นพอเห็นเงินจำนวนมากในถุงก็เริ้่มนับจำนวนอย่างมีความสุข “หนึ่งพัน สองพัน...”
“ไม่ต้องนับหรอก ในนั้นมีหนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยเบรี!”
เสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลัง ทำให้เธอตกใจ
นามิรีบหันกลับไปมองอย่างอดใจไม่ไหว
รอนและคายะได้มายืนอยู่ด้านหลังนามิ สายตามองดูท่าทางประหลาดใจของหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม รอนเห็นสายตาของเธอที่กวาดไปทั่วก็รู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมทางหนีแล้ว
โดนคนที่โดนขโมยเงินจับได้ ถ้าไม่หนีเธอจะทำไงล่ะ?
“มันจบแล้ว” นามิหงุดหงิด “สองคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา ฉันไม่รู้ตัวเลยตอนพวกเขาเข้ามาใกล้ๆได้ขนาดนี้” นามิมองไปที่ดาบบนร่างกายเด็กหนุ่ม ‘เขาต้องเป็นคนแข็งแกร่ง ฉันอาจจะไม่สามารถสู้กับเขาได้ ทางเดียวคือต้องหาโอกาสวิ่ง’
นามิหันหลังกลับแล้วเริ่มการหลบหนี แต่โชคร้ายที่เธอเจอกับรอน
ฟุบ!
อยู่ ๆร่างของรอนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้านามิ ขวางการวิ่งของเธอไว้เหมือนกำแพง
“โอ๊ย!”
นามิจับหัวตัวเองด้วยความเจ็บ เธอรู้สึกเหมือนเธอจะชนอะไรสักอย่าง พอเธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นรอน เด็กหนุ่มที่เคยยืนอยู่ด้านหลังเธอ เขาวิ่งมาดักหน้าเธอได้ยังไง?
นามิคิดไม่ออก แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอกำลังรีบ นามิลุกขึ้นแล้วอุทานออกมา “ฉันคืนถุงเงินให้คุณแล้ว อย่าวิ่งตามฉันมาอีกนะ”
นามิโยนถุงเงินให้กับรอน เธอพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของรอนด้วยถุงเงินแล้วหนีต่อไป!
น่าเสียดาย
รอนเอื้อมมือไปจับถุงเงินแล้วเคลื่อไหวเล็กน้อยเขาก็มาถึงจุดที่นามิกำลังวิ่งหนี เขาคว้าเธอด้วยมือข้างเดียวด้วยท่าทางคล้ายการจับแมว รอนคว้าหลังคอนามิแล้วปล่อยให้เธอพยายามต่อสู้ขัดขืนเพื่อหลบหนีต่อไป