ตอนที่ 1162 ปราณกระบี่ที่ห้ากระบี่เหลืองหลงหยวน
มังกรพิรุณสามารถสร้างได้แต่พลังขับเคลื่อนคือปัญหาใหญ่
ผังภูมิรูนสวรรค์และผังภูมิรูนโบราณกระจายไปตามส่วนร่างกายทุกส่วนแน่นอนว่าทุกๆ ส่วนของมังกรต้องใช้พลังงาน อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่หุ่นรบที่มีความยาว 108กิโลเมตรจะถูกขับเคลื่อนโดยดูดซับพลังงานด้วยผังอักขระรูน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องต่อสู้! อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่การออกแบบสมบูรณ์เย่ว์หยางคิดวิธีแก้ปัญหาไว้แล้ว
นั่นคือศิลาศักดิ์สิทธิ์
ศิลาศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘พลังงานอนันต์’
ตราบใดที่มีแสงก็สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ไม่เคยแห้งเหือดและให้สิ่งที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง
ในโลกนี้เขาเชื่อว่าไม่มีแหล่งพลังงานหลักของหุ่นรบที่ใช้ง่ายไปกว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องมีศิลาศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถทำให้มังกรพิรุณทำงานได้ แต่ด้วยศิลาศักดิ์สิทธิ์เขาจะสามารถปล่อยให้มังกรพิรุณต่อสู้ได้ตามที่เขาต้องการ
เมื่อผสานเข้ากับผังภูมิรูนสวรรค์และรูนโบราณ ศิลาศักดิ์สิทธิ์สามารถดูดซับและเปลี่ยนแปลงพลังงานทั้งหมดส่งให้มังกรพิรุณ
ทั้งยังรวมถึงพลังงานทุกชนิดที่เกิดขึ้นในการต่อสู้
“เจ้าจะได้ศิลาศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนั้นมาได้อย่างไร?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกว่านี่เป็นของดีแต่ยากจะนำมาใช้
ก็เหมือนกับเคล็ดลับของจอมเจ้าชู้ในตำนาน
ใครก็ตามที่ได้เรียนทักษะอุ้มสาวใช้ทักษะทำให้สาวหันมาโอบกอดกันได้ให้ความมั่นใจว่าสาวจะตกหลุมรักไม่แยกจากกัน ทักษะแบบนี้ดูเหมือนยอดเยี่ยมในทางผิวเผินแต่การคิดอย่างใจเย็นได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้เรียนรู้
ดังนั้นทุกอย่างจะต้องผ่านการพิจารณาให้ดีก่อน
ศิลาศักดิ์สิทธิ์เป็นของดี
แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย ยังเป็นการลงแรงที่ไร้ประโยชน์
“เราค้นหาดินแดนลับเทพสังหารในวันนี้เราไม่ได้อะไรเลยอย่างนั้นหรือ?” เย่ว์หยางหัวเราะ และทุกคนก็หัวเราะด้วยเช่นกัน “เราทำผิดพลาดมาก่อนเสมอ เรารู้สึกว่าความลับทั้งหมดถูกเก็บไว้ในดินแดนลับเทพสังหารขึ้นอยู่กับวิธีขุดหาความลับ... ความคิดที่ผิดนี้ข้าไม่ได้ตระหนักจนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ในความเป็นจริงความลับของดินแดนลับเทพสังหารอย่างน้อยที่สุดความลับนั้นไม่ได้อยู่ภายนอกผิวเผิน แปดเทพต่างระแวงกันเองและแข่งชิงดีชิงเด่นกันเองพวกเขาจะนำเสนอความลับนี้หรือไม่? เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้!”
“เจ้าหมายความว่าความลับที่แท้จริงอาจซ่อนอยู่นอกดินแดนลับเทพทำลายล้างใช่ไหม?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกตื่นเต้นมาก นางไม่สามารถควบคุมตนเองได้เพื่อตั้งสติเรียกความรู้สึกตนเองนางต้องกัดนิ้วชี้ให้เจ็บเพื่อควบคุมอารมณ์ตนเอง
“ข้ารู้แล้ว” โล่วฮัวฉลาดมากแค่ไหน นางเข้าใจความหมายทันทีนางดีใจกระโดดกอดเย่ว์หยาง “โอว..ข้าเข้าใจแล้ว”
“ไปกันเถอะ....”
คนที่กังวลมากกว่าคือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม่เสือสาวคิดออกนางรีบให้อาหงพาออกจากโลกคัมภีร์ทันที
ร่างนั้นเบาเหมือนนกนางแอ่นบินตรงเข้าไปในเมฆซึ่งปกคลุมพื้นดินและท้องฟ้าจากนั้นโล่วฮัวและเย่ว์หวี่ออกมาเป็นกลุ่มละสองกระจายกันไปแปดด้านและพุ่งเข้าไปในทะเลเมฆครึ้มความจริงเย่ว์หยางยังอยู่ในระยะห่างเขาเพียงแต่หันหลังลอยตัวไปยังดินแดนลับเทพสังหาร และเริ่มสร้างมังกรพิรุณต่อ
รอเวลาเย็นจนเย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์อย่างอ่อนล้า
ชิ้นส่วนที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาคือศิลาศักดิ์สิทธิ์กองเป็นภูเขาส่องแสงสว่างสุกใส
จำนวนหินศักดิ์สิทธิ์คาดว่ามีเป็นแสนชิ้นมีทั้งขนาดใหญ่และน้อยแตกต่างกันเล็กที่สุดก็เท่าเมล็ดข้าว จากนั้นขนาดเมล็ดอัลมอนด์ บางชิ้นใหญ่กว่ากำปั้นบางชิ้นใหญ่กว่าลูกบอล นอกจากนี้ยังมีผลึกหินศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ธรรมดาเปรียบได้กับเนินเขาซ้อนๆกันขึ้นไปเป็นพันเมตร
เย่ว์หยางมองดูและตะลึง “นี่พวกเจ้าไปปล้นมาจากไหน?”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโบกมือด้วยความภูมิใจ “แปดเทพใจกว้าง แต่เราปฏิเสธแต่สุดท้ายเราก็ไม่เกรงใจ”
ทางด้านเซี่ยอี หลิวเย่ มารเคราะห์ฟ้า เป่าเอ๋อเย่ว์ปิงและพวกรวมตัวกันอย่างมีความสุขต่างแย่งกันเพื่อให้เย่ว์หยางชื่นชมตนเอง กล่าวกันว่าในทะเลเมฆเราพบห้องวิจัยค้นคว้างานสร้างยานแม่ของพวกเทพ อีกคนกล่าวว่าใช้อักขระรูนสวรรค์ทำลายผนึกและพบศิลาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร พวกนางต่างแย่งกันพูดจนเย่ว์หยางปวดเศียรเวียนเกล้า เดิมทีวันนี้ก็เหนื่อยกับการสร้างหุ่นรบมากพอแล้วเขาแทบไม่ต้องสะกดจิตตัวเองก็หลับได้อย่างสบาย
ทุกคนตื่นเต้นและวุ่นวายมาก
แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เขาพบศิลาศักดิ์สิทธิ์และได้ผลเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
แปดเทพแม้ว่าพวกเขาจะจากไปแล้วโดยผนึกห้องปฏิบัติการที่แต่เดิมนั้นไม่สามารถเข้าถึงได้รวมถึงยานแม่ที่ไม่ว่าจะสร้างมาอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถขยับขับเคลื่อนได้
อย่างไรก็ตามแปดเทพดูเหมือนจะมีความสงบสุขก่อนที่พวกเขาจะหันมาเผชิญหน้ากัน
พวกเขาไม่ขโมยของกันและกัน
ยานแม่แต่ละลำเป็นตัวแทนปณิธานและพลังของเทพและเทพอื่นจะไม่มอบให้เทพอีกคนหนึ่งแน่นอน
ดังนั้นยกเว้นศิลาศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างในโรงงานผลิตไม่ได้ป้องกันไว้ สาวๆ นำโดยนางเซียนหงส์ฟ้าทันทีที่พบเป้าหมายลึกเข้าไปในทะเลเมฆจึงผนึกกำลังทำลายผนึกด้วยปณิธานปราณราชันย์และสมบัติวิเศษจากนั้นขนสมบัติเข้ามาในโลกคัมภีร์ดังนั้นพวกนางจึงประสบความสำเร็จอย่างที่เย่ว์หยางเห็นแล้วทึ่งศิลามีค่าซ้อนกันราวกับภูเขา
ขนศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่แปดเทพเก็บรักษามาหลายพันปีจนเกลี้ยง
นี่คือผลงานขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในวันเดียว
มิน่าเล่าพวกนางถึงภูมิใจกันนัก
“แปดเทพถ้ามายังดินแดนลับเทพสังหารเห็นว่าถูกปล้นคงโกรธพวกเจ้าเป็นแน่” เย่ว์หวี่เป็นกังวลเล็กน้อยเกี่ยวเทพทั้งแปด เพราะหากพวกเขาโกรธเกินไป พวกเขาคงผนึกกำลังกันเล่นงานน้องสามของนาง
“พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเรา...” สาวน้อยมารเคราะห์ฟ้าพูดอย่างสบายใจ “เราทำงานดีแล้ว ยังตำหนิผู้อื่นอีกหรือ?”
“เงินสามร้อยเหรียญไม่ได้ซ่อนอยู่ที่นี่” เย่ว์หยางตบหน้าผาก ดูเหมือนว่าเขายังประเมินหัวใจดรุณีผู้ซุกซนผู้นี้ต่ำเกินไป
“โอว...อย่างไรก็ตาม เราไม่ยอมรับสารภาพหรอก” นิสัยของมารเคราะห์ฟ้าร้ายกาจเล็กน้อยมิฉะนั้นจะได้รับเลือกเป็นคนของวังมารหรือ แม้แต่หัวหน้าก็ยังปวดเศียรเวียนเกล้า
“ไม่ต้องห่วง หลังจากศึกเทพคงจะมีเทพเหลืออยู่ไม่กี่คน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่เก่งในทางโน้มน้าวใจคน
“ก็แค่เทพเทียม มีอะไรน่ากลัว?” นางเซียนหงส์ฟ้าทำสีหน้าดูแคลน
“ใช่แล้ว, เรามาเพื่อท้าทายเทพเทียม”
“ทุบพวกเขาให้หมด เอาให้ถึงคลานหาฟันตัวเองไปเลย...”
เพราะจักรพรรดินีเทียนฟายกตัวอย่างแย่ๆ ตอนนี้และอารมณ์ก้าวร้าว แต่สำหรับเย่ว์หยางดูเหมือนไม่เห็นอย่างนั้น
เย่ว์หยางไม่ขัดคอพวกนาง แค่ยิ้มให้อู๋เหิน ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างเรียบร้อย แค่หาวัตถุโบราณ เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วัตถุโบราณลึกลับจะปรากฏบางทีต้องรอให้มันปรากฏจึงจะแก้ปริศนาเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสองเทพผู้ยิ่งใหญ่ได้
เนื่องจากเย่ว์หยางสร้างมังกรพิรุณด้วยสำนึกเทพและสนามพลังสร้างโลกและพลังเทพปั่นป่วนเต็มที่
ในตัวของเขากำลังมีวิวัฒนาการอย่างเงียบๆ
เพราะเขามัวจดจ่อมากเกินไป เย่ว์หยางจึงไม่รู้อะไร
ในขณะที่อยู่ในโลกความฝันทั้งที่แสนเหน็ดเหนื่อยเทพธิดากระบี่ฟ้าที่เขาไม่ได้พบเจอมานานปรากฏตัวขึ้นมองหน้าเย่ว์หยางโดยไม่คาดฝันแม้นางจะไม่พูดอะไรก็ตามแต่การปรากฏตัวของนางเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ทำให้เย่ว์หยางมีแรงจูงใจอย่างไม่จำกัดทันที และสภาพดีกว่าปกติถึงร้อยเท่าแม้แต่ปราณกระบี่ที่ห้าหวงหลงหยวนก็ยังพุ่งออกมาจากมือ
เย่ว์หยางจมอยู่กับการฝึกในโลกแห่งความฝันแม้ว่าเขาตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น ก็ยิ่งรู้สึกสดชื่นยิ่งกว่าปกติ
เมื่อเขายืนอยู่บนดินแดนลับเทพสังหารอีกครั้ง
เขาค้นหาความรู้สึกในฝันอีกครั้ง
หนึ่งความคิด
ปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ที่ห้า กระบี่เหลืองหลงหยวน (มังกรทอง)ถูกยิงออกมาทันที
กระบี่กลายเป็นมังกรทองยักษ์เปล่งรัศมีทองเจิดจ้าราวกับมีชีวิตพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าและตกกลับมาที่ บนศีรษะของเย่ว์หยางมีลำแสงฉายออกและโค้งพุ่งลงข้างล่างในทันที นางเซียนหงส์ฟ้าแม้จะยืนอยู่ในที่ไกลแต่นางรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ นางรู้สึกชื่นชมยินดี
ที่ตนสนิทเป็นมิตรกับเย่ว์หยาง ไม่ใช่ศัตรู
แต่ยังคงห่างไกล
ยังคงต้านพลังเทพไม่ได้
ทุกคนไม่กล้าจินตนาการจริงๆ ถ้าเผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรงจะได้รับผลกระทบทางจิตวิญญาณแบบไหน?
มังกรทองพุ่งเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางและกลายเป็นมังกรน้อยเก้าตัวโผล่ออกมาจากทุกส่วนของร่างกายและรวมกับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามของเย่ว์หยาง และใช้ประโยชน์จากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เสียงมังกรคำรามลั่นขึ้นท้องฟ้า
กรรรรร
มังกรคำรามครั้งนี้ไม่เหมือนใครในโลกด้วยพลังมังกรเกิดคลื่นระเบิดกวาดกระจายไปทั่วดินแดนลับเทพสังหารรอบตัวเย่ว์หยาง
โลหะลับเทพสังหารที่กล่าวกันว่ามีแต่พลังเทพเท่านั้นที่สามารถทำลายได้แต่ภายใต้มังกรทองคำราม
พังทลายทันที
แม้แต่หิมะน้ำแข็งยังละลายกลายเป็นควัน
ภายใต้พลังปณิธานของเย่ว์หยางมีการเปลี่ยนแปลง และปรับโครงสร้างเต็มที่ปกติเย่ว์หยางสามารถเปลี่ยนในระยะร้อยเมตร แต่ตอนนี้ภายในหมื่นเมตรไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายใต้พลังเทพมังกรทอง
พวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกตะลึงอยู่นานยากจะเรียกความรู้สึกกลับมาได้ นี่คือพลังของเย่ว์หยางหรือ?
นี่คือปราณกระบี่ที่ห้าพลังที่แท้จริงของกระบี่หวงหลงหยวน?
สำเร็จแล้วหรือ?
เย่ว์หยางไม่อยากเชื่อ เขายกมือและมองดู
ปราณกระบี่หวงหลงหยวนออกมาได้อย่างราบรื่นหรือ? นี่ถ้าเป็นเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการจริงๆนอกจากนี้แม้ว่าจะใช้ออกมาได้สำเร็จแต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ออกมาได้อย่างราบรื่นในความเป็นจริง
เขามองดูพื้นที่สูงต่ำโดยรอบอีกครั้งกลายเป็นเกล็ดมังกรฉายประกายนับร้อย
ทำได้สำเร็จในทันที
ส่วนใหญ่เขาสามารถสร้างได้แต่เพียงเกล็ดมังกรของมังกรพิรุณ ตอนนี้ด้วยปราณกระบี่เขาสามารถสร้างเป็นร้อย...เย่ว์หยางมีความสุขมากจนหัวเราะลั่นออกมา แต่เขาพบว่าตนเองไม่สามารถกระดิกนิ้วได้ร่างของเขาร่วงหล่นบนเกล็ดมังกรใต้เท้าเขาอย่างช่วยไม่ได้
“เสี่ยวซาน”เย่ว์หวี่กลัวแทบตาย นางผสานกับนางฟ้าอรุณกางปีกนางฟ้าบินเข้าไปรับร่างเย่ว์หยางพลางร้องเรียกชื่อเขาตลอดเวลานางกลัวว่าเขาจะมีอาการผิดปกติ เย่ว์หยางต้องการอ้าปากปลอบนางแต่ก็พบว่าเขาไม่มีแรงพูดตลอดทั้งตัวอ่อนแออย่างหนัก แม้แต่จะยิ้มให้นางก็ยังลังเล
“เขาไม่เป็นไร,เพียงแต่ปราณกระบี่เมื่อครู่นี้ทรงพลังเกินไปเขายังควบคุมได้ไม่เต็มที่และฝืนใช้ออกมาจึงได้รับผลสะท้อนเล็กน้อย” นางเซียนหงส์ฟ้าเองก็กลัวมากรีบเข้ามาตรวจอาการของเขาและพบว่าเจ้าเด็กนี่ใช้กำลังเกินตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจึงค่อยรู้สึกโล่งอก
“เจ้าช่างโง่จริง”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเงื้อมือ แต่พอเห็นสีหน้าเย่ว์หวี่ นางลดมือลงถอนหายใจ
“ปราณกระบี่รูปมังกรเมื่อครู่นี้น่ากลัวมากจริงๆ ข้าคิดว่าแม้จะเป็นเทพเทียมคงต้านรับไม่ได้แน่เกล็ดมังกรจำนวนมากเราถือโอกาสกระโดดข้ามเล่นได้ไหม?” มารเคราะห์ฟ้าและเป่าเอ๋อตกใจ พวกนางเริ่มกังวล เมื่อเย่ว์หยางหายดีพวกนางพบว่าเกล็ดมังกรน่าเอาไว้เล่นเกมอย่างสนุกสนานได้
“เฮ้..พวกเจ้าหยุดได้ไหม?” เย่ว์หยางรำคาญแต่น่าเสียดายเขาไม่แรงด่า มิฉะนั้นคงคงได้หวดก้นเด็กสาวทั้งสองจนบวมแน่นอน