ตอนที่ 1149 หนทางรอด
“หือ!”
แถบดาวเคราะห์น้อยที่ต้อนรับเหมาพั่วตี้แห่งอาณาจักรเทพอาคเนย์ เขาคุกเข่าข้างหนึ่งด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
เขารู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาหายใจเหมือนกับมีไฟเผาอยู่ในปอดแต่หลังจากหายใจไม่ออกเป็นเวลานานร่างกายของเขาต้องการหายใจอย่างเต็มที่เพื่อเติมอากาศที่ขาดไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้อากาศในแถบดาวเคราะห์น้อยก็มีอยู่บ้างแต่เบาบางมาก แม้ว่าจะไม่มีการต่อสู้ แต่แค่ยืนอยู่ในที่นี้จะรู้สึกอ่อนแอและยากจะยืนอยู่ได้นาน
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องสู้ที่นี่เท่านั้น แต่ยังต้องทุ่มกำลังทั้งหมดสู้
ในการต่อสู้ส่วนที่ทรมานที่สุดก็คือการหายใจไม่ออก
เหมาพั่วตี้รู้ว่าเขาสามารถหายใจออกได้เป็นเวลาไม่กี่วินาทีนั่นโอกาสรอดชีวิตของเขา...ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่ใช่เพราะจอมพลกริฟฟินและแม่ทัพอินทรีทองเกรงว่าเขาคงตายในเงื้อมมือของกู้ไห่ไปแล้ว
กู้ไห่คือจอมพลซ้ายแห่งอาณาจักรเทพประจิมในแปดอาณาจักรเทพมีพลังระดับขุนพลเทพชั้นสูง ไม่ว่าคนผู้นี้จะเลวร้ายและน่าเกลียดน่าชังเพียงใดก็ไม่สามารถลบล้างบิดเบือนความจริงที่ว่าคนผู้นี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ในบรรดาแปดอาณาจักรเทพจอมพลซ้ายกู้ไห่แห่งอาณาจักรเทพประจิมแข็งแกร่งอยู่ในห้าอันดับแรก! ไม่ว่าจะจัดอันดับอย่างไรก็ไม่สามารถดึงเฒ่าผู้นี้ออกมาจากห้าอันดับแรกได้ มีบางคนก็บอกว่ากู้ไห่นี้มีพลังเหนือกว่าอีกห้าคนเสียอีก และมีพลังพอเอาชนะสามสุดยอดขุนพลได้ขณะที่อาณาจักรเทพประจิมยังมีจอมพลขวาผู้ทรงพลังพอกันอีกคนหนึ่งนามว่าจอมพลหมื่นปีศาจ ต่างจากอาณาจักรเทพอื่นที่มีจอมพลอยู่อาณาจักรละคน ดังนั้นพวกเขาจึงดูแคลนอาณาจักรเทพอื่น
ครืนน ครืนนน บึ้ม!
เหมาพั่วตี้สูดลมหายใจอย่างบ้าคลั่งและเงยหน้าขึ้นก็พบว่ามีดาวเคราะห์น้อยนับสิบระเบิดภายใต้การโจมตีของกู้ไห่
แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งพอๆกับจอมพลกริฟฟินและแม่ทัพอินทรีทอง แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้ซ่อนตัว
ใครจะกล้าเผชิญหน้ากับกู้ไห่ที่มีวิชาระเบิดดวงดาวเล่า
“หนีไป,กลับไปรายงานเทพอาคเนย์ทุกเรื่องที่เกิดทั้งหมด” จอมพลกริฟฟินไม่โง่ ตอนนี้เขาเข้าใจความจริงนานแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนโจรดวงดาวก็คือกู้ไห่แห่งอาณาจักรเทพประจิมอาจเป็นเทพประจิมต้องการพิชิตฟ้าเหนือฟ้าก็ได้ นั่นคือสาเหตุที่โจรถล่มฟ้าสามารถควบคุมพลังต้องห้ามและพวกเขาเข้ามายังยานแม่นกกระทุงได้อย่างไร พวกเขาคุ้นเคยกับทุกเส้นทางและเข้าโจมตียานแม่ได้อย่างง่ายๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอาณาจักรเทพประจิมที่ให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือโจร
อาณาจักรเทพประจิมพร้อมจะสร้างความยุ่งยากให้กับยานแม่นกกระทุง
แต่ไม่ทำโดยเปิดเผย
ดังนั้นพวกเขาจึงมองหาโจรดวงดาว
โจรดวงดาวผู้โง่เขลาถูกเทพประจิมหลอกใช้กลายเป็นหนอนน่าสมเพชของอาณาจักรเทพประจิม
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือยานรบนกกระทุงถูกโจรกรรมและอาณาจักรเทพประจิมก็เท่ากับชิงทุกอย่างไปจากอาณาจักเทพอาคเนย์...ในบรรดาอาณาจักรเทพทั้งแปด มีเพียงอาณาจักรเทพบูรพาที่พอจะเทียบกับอาณาจักรเทพประจิมได้ มีแต่เทพบูรพาแห่งอาณาจักรเทพบูรพาจึงสามารถแข่งขันต่อสู้กับเทพประจิมได้
ถ้าเทพอาคเนย์แห่งอาณาจักรเทพอาคเนย์รู้ว่ายานรบนกกระทุงถูกปล้นและเทพบูรพาเผชิญหน้ากันทั้งสองอาณาจักรอาจตัดสินใจทำสงคราม จากนั้นอาณาจักรเทพประจิมจะเป็นเหมือนชาวประมง
จอมพลกริฟฟินยังรู้ว่าอาณาจักรเทพประจิมได้วางแผนมาเป็นเวลานานแล้วและเป็นไปไม่ได้ที่เขากับแม่ทัพอินทรีทองจะถอนตัวกลับอาณาจักรได้ปลอดภัยและรายงานทุกเรื่องต่อเทพอาคเนย์ กู้ไห่ยากจะรับมือได้ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี่ยังมีจอมพลขวาหมื่นปีศาจที่มีพลังระดับเดียวกับกู้ไห่? แน่นอนว่าจอมพลกริฟฟินและแม่ทัพอินทรีทองเองไม่คิดว่าจะฝ่าฟันออกไปได้ เขาเพียงแต่หวังว่าจะส่งข่าวได้เท่านั้น
แผนการชิงยานรบของอาณาจักรเทพประจิมแทบจะสมบูรณ์แบบ
จุดผิดพลาดเดียวก็คือทูตต้อนรับอย่างเหมาพั่วตี้เลิกงานตนเองก่อนกำหนดและโดยสารยานนกกระทุงกลับอาณาจักร
แม้ว่าเหมาพั่วตี้จะมีพลังแข็งแกร่งไม่พอเขายังสงบไม่ปั่นป่วนไปตามสถานการณ์
ถ้าเขาหนีไปได้ก็ควรจะมีความหวัง
ลมพัดรุนแรง
แม่ทัพอินทรีทองใช้ประโยชน์จากจอมพลกริฟฟินยึดร่างที่บาดเจ็บจากการต่อสู้หนักและอ่อนเพลียคว้าตัวเทวทูตเหมาพั่วตี้ลากเขาออกจากพื้นที่กฎสวรรค์นำเขาออกจากแถบดาวเคราะห์น้อยไปได้หลายกิโลเมตร
ข้างหลังเขามีกู้ไห่ที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้านพุ่งทำลายดาวเคราะห์น้อยทุกที่ๆผ่านไป
นั่นคือวิชาระเบิดดวงดาวที่เขาใช้ได้ไม่หยุดยั้ง
จอมพลกริฟฟินสูญเสียการช่วยเหลือสนับสนุนจากแม่ทัพอินทรีทองประสานทั้งซ้ายขวาใช้พลังลมช่วยถ้ากำลังลมหมดลงและแม่ทัพอินทรีทองไม่กลับมาช่วยคาดว่าอีกไม่นานเขาคงพ่ายแพ้และถูกกู้ไห่ฆ่าตาย...ทำไมแม่ทัพอินทรีทองจะไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของจอมพลกริฟฟินเมื่อได้ยินเสียงระเบิดที่ด้านหลังเขารีบสูดหายใจปล่อยเหมาพั่วตี้อย่างไม่ลังเล “ข้าส่งเจ้าได้แค่นี้เท่านั้น ข้าซ่อนยานชูชีพไว้ในส่วนมืดของดาวเคราะห์น้อยห่างออกไปห้าสิบกิโลเมตรข้างหน้า เจ้าสามารถใช้มันแล้วหนีออกไป จำไว้ว่าเราต้องรายงานความจริงต่อเทพของเราโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นความพยายามทั้งหมดของเราจะไร้ประโยชน์!”
“ท่านแม่ทัพ” เหมาพั่วตี้รู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเขาจะลังเลอีกไม่ได้ เขาพยักหน้าทันทีแสดงความเคารพแม่ทัพอินทรีทองด้วยธรรมเนียมทหาร
“ไม่ต้องมากมารยาท, รีบไปเถอะ!” เหมาพั่วตี้ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพอินทรีทองโดยตรง เขาเป็นสหายเก่าของแม่ทัพอินทรีทอง และแสดงความเคารพต่อแม่ทัพอินทรีทองด้วยธรรมเนียมทหารอย่างจริงจังเพราะเหมาพั่วตี้รู้ว่ากำลังจะออกไปจากสนามรบกลัวว่าจะไม่มีโอกาสกล่าวคำอำลาอีก
แม่ทัพอินทรีทองชูกำปั้นให้เขา
เขากอดเหมาพั่วตี้แน่และหันกลับไปที่สนามรบระหว่างกริฟฟินกับกู้ไห่
เหมาพั่วตี้เคารพแม่ทัพอินทรีทองด้วยธรรมเนียมทหารอีกครั้งเขาสูดหายใจลึกกำหมัดแน่นและแยกออกมาบินต่อไปข้างหน้า ตราบใดที่เขาหายานชูชีพพบเขาจะหลบหนีได้ ถ้าเขากลับไปได้เขาจะขัดขวางแผนการร้ายของอาณาจักรเทพประจิมได้ อย่างนั้นจะไม่เป็นการรานความตั้งใจของจอมพลกริฟฟินและแม่ทัพอินทรีทอง
ขณะที่เรื่องอื่นๆ เหมาพั่วตี้รู้สึกว่าสายเกินกว่าจะคิดมากเกินไป
หนี และหนีต่อไป!
ในใจของเหมาพั่วตี้มีอยู่แค่ความคิดเดียว
ห้าสิบกิโลเมตรสำหรับนักสู้ระดับเทวทูตไม่ไกลเกินไป
แม้ว่าแนวดาวเคราะห์น้อยที่นี่จะมีอากาศเบาบางและแรงโน้มถ่วงแปลกประหลาดไม่ดีเท่ากับบนภาคพื้น แต่เหมาพั่วตี้รีบเร่งไปยังพื้นที่มืดของแนวดาวเคราะห์น้อยอย่างรวดเร็วเพื่อหาเรือชูชีพที่เก็บซ่อน
“ท่านจอมพล, ท่านแม่ทัพ,ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” เหมาพั่วตี้หันกลับไปดูที่สนามรบห่างไกล ก่อนกระโดดลงเรือชูชีพ
เขาหันกลับครั้งนี้
ตกใจ หัวใจเย็นเฉียบราวกับตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง
เพราะว่าที่ด้านหลังของเขาไม่รู้ว่ามีคนห้าคนมายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อใด คนทั้งห้านี้ดูแปลกประหลาดคนที่อยู่ตรงกลางตัวเตี้ยที่สุด แขนขาหดเหมือนกับไม่มีแรงปากของเขามีฟันเขยินยื่นออกมานอกปากสองซี่คนที่ยืนข้างบุรุษที่เหมือนหนูนี้บินอยู่ในอากาศเสื้อคลุมสีดำแดงกระพือในอากาศแต่ไม่ส่งเสียง เมื่อเขาส่งเสียงจะแหบราวกับเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากน่ารังเกียจที่สุดส่วนอีกคนที่ลอยตัวอยู่ในอากาศมีหูใหญ่กลมดูตลกมาก แต่ใบหน้าของเขาหยิ่งยโส
ข้างคนหูใหญ่เป็นบุรุษที่มีตาโตเป็นพิเศษ
ตัวเขาผอมยิ่งกว่าลิงแต่หน้าเรียวแคบมีดวงตาคู่หนึ่งที่โตกว่าคนทั่วไปถึงสามเท่า
บางครั้งในดวงตาที่มีขนาดใหญ่นี้มีแสงแปลกประหลาดพุ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด เหมาพั่วตี้เห็นเช่นนั้นสั่นสะท้านอย่างมิได้ตั้งใจ
อีกข้างหนึ่งของกลุ่มคนทั้งห้าเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดสองตัว ลิ้นของมันยาวมากใบหน้าของมันซีดขาวราวกับผี ตาของมันเปล่งประกายสีเขียว ลิ้นแดงเหมือนเลือดห้อยลงแทบจะลากเรี่ยพื้น... อีกคนหนึ่งมีจมูกที่ยาวถ้าเย่ว์หยางอยู่ที่นี่เขาจะชี้ไปที่บุรุษผู้นี้แล้วหัวเราะขำขันเจ้าผู้นี้หน้าประหลาดเหมือนตัวละครในเกมออนไลน์
เมื่อเขาเห็นคนทั้งห้านี้ปรากฏตัว
เหมาพั่วตี้พยายามใจเย็นเว้นแต่คนตาบอดตั้งแต่เกิด ใครเห็นห้าคนนี้ก็จะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร!
ห้าคนเหล่านี้เป็นคนของอาณาจักรเทพประจิม นอกจากห้าจอมโฉดที่น่ารังเกียจที่สุดแล้ว ยังมีกลุ่มวายร้ายอีกห้าคนเรียกว่า ‘ขุนพลห้าสัมผัส’ บางคนล้อลับหลังว่าหัวสุนัขห้าหัว
พวกเขาแตกต่างจากห้าจอมโฉดเล็กน้อย
ขุนพลห้าสัมผัสโดยทั่วไปพวกเขาทั้งห้าจะมีตำแหน่งและสถานะอย่างเป็นทางการในอาณาจักรเทพประจิม ทุกคนเป็นแม่ทัพนายกองในกองทัพของอาณาจักรเทพประจิม! ต่างจากห้าจอมโฉดถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าพวกเขาเป็นสุนัขรับใช้ของจอมพลกู้ไห่แห่งอาณาจักรเทพประจิม แต่ในทางเปิดเผยอาณาจักรเทพประจิมไม่ยอมรับพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรอย่างเป็นทางการ แต่เป็นบริวารส่วนตัวของจอมพลกู้ไห่... ขุนพลสัมผัสห้านั้นจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาเป็นแม่ทัพอย่างเป็นทางการของอาณาจักรเทพประจิมเจ้านายเหนือเขาก็คือจอมพลขวาท่านหมื่นปีศาจที่มีชื่อที่สุด
การปรากฏตัวของคนทั้งห้านี้หมายความว่าเหตุการณ์นี้เป็นการฉีกหน้าลงมือ
ไม่มีทางกอบกู้สถานการณ์คืนมาได้
เพราะยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายทั้งห้าคนนี้จะไม่แสดงตัวอย่างง่ายดาย
“หนีได้เร็วมาก!” หัวหน้าที่ดูคล้ายหนูหัวเราะ “น่าเสียดายที่เราพบเป้าหมายก่อนที่เจ้าจะขับเรือชูชีพหนีได้ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคงยังไม่รู้ ด้านมืดแนวดาวเคราะห์น้อยนี้เราวางแผนซ่อนตัวที่นี่อยู่แล้ว”
“พี่ใหญ่! คุยเรื่องไร้สาระกับเขาทำไมจัดการโดยตรงเลย” บุรุษหูใหญ่เหมือนค้างคาวเย้ยหยันครั้งแล้วครั้งเล่า
“แมลงน้อยนี้อ่อนแอเกินไปอย่าให้ความสนใจเลย” คนลิ้นยาวและคนจมูกยาวหันหลังให้ดูเหมือนเขาไม่พอใจกับการต่อสู้ก่อนที่จะปล่อยให้เหมาพั่วตี้ตายและแน่นอนว่าทั้งห้าคนมีพลังพอที่จะฆ่าเหมาพั่วตี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย คนตาโตและมีแสงเหมือนปีศาจส่ายหัว “เราเสียเวลาไปหน่อยห้าจอมโฉดตอนนี้กำลังอวดดี เราต้องรีบไปทำคะแนน ไม่ว่ายังไงจะให้เจ้านายเราเสียหน้าไม่ได้”
“ก็ได้ เจ้าไปก่อน! หูโต, เจ้าลงมือฆ่าเจ้าผู้นี้เร็วๆเราจะได้ไปทำแต้มความดีความชอบ!” หัวหน้าฟันเหยินเป็นคนระมัดระวัง มีแค่เจ้าค้างคาวหูโตก็เพียงพอฆ่าเหมาพั่วตี้ได้แล้ว แต่เขาไม่ทำเช่นนั้นเขายังคงอยู่เพื่อดูว่าเหมาพั่วตี้ตายจริงๆ ไม่มีเหตุคาดไม่ถึงอื่นๆ เกิดขึ้น
“ขอเวลาสิบวินาที!” ค้างคาวหูโตแสดงท่าทางหยิ่งและยกมือสีดำ
“สู้!”เหมาพั่วตี้รู้สึกสิ้นหวังในใจ
ขณะที่เขาเตรียมจะสู้ตายกับค้างคาวหูโต ทันใดนั้นมีเสียงเหนื่อยหน่ายดังออกมาจากส่วนลึกของพื้นที่ด้านมืดดาวเคราะห์น้อย“ในฐานะที่เจ้าเป็นทูตต้อนรับ กลับไม่สนใจดูแลอะไรเลยใช่ไหม? ในห้วงเวลาอันตรายเช่นนี้เจ้าตั้งใจจะหนีไปตามลำพังหรือ? ข้าอุตส่าห์เชื่อใจเจ้ามากมาก่อนนั้น นี่ทำร้ายจิตใจกันมากเกินไปแล้ว”
เหมาพั่วตี้อ้าปากค้าง
เขาอ้าปากค้างจนแทบยัดคางคกเข้าไปได้ทั้งตัว
เขาไม่อยากเชื่อข้อเท็จจริงที่อยู่ต่อหน้าเขา เด็กหนุ่มยังรอดชีวิตอยู่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ในเขตมืดแนวดาวเคราะห์น้อยและย่างก้าวอย่างสบายใจราวกับเดินอยู่ในสวนหลังบ้าน
พี่ใหญ่หน้าหนูสีหน้าเปลี่ยนไปด้วยพลังแข็งแกร่งของเขา เขายังไม่รู้ว่าว่าเด็กหนุ่มนี้ปรากฏตัวขึ้นเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตามเขาสนองตอบอย่างรวดเร็ว
รีบบินเข้าหาเหมาพั่วตี้เตรียมฆ่าเหมาพั่วตี้ในทันทีที่เด็กหนุ่มนี่เข้ามาหาเหมาพั่วตี้
ขณะเดียวกันเขาส่งสัญญาณสั่งสหายของเขาให้ร่วมมือกัน “ฆ่า!”