ตอนที่ 1147 เจ้าเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่
จัตุรัสนักรบตัวหนอนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นจากซากศพ
บางตัวมีความคล้ายคลึงกับคนธรรมดาเพียงแต่ร่างแดงเหมือนเลือดหรือสีดำ อย่างไรก็ตามมีช่องว่างขนาดใหญ่ บางตัวสูงกว่าคนสิบเท่า นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของลักษณะเขี้ยว เขาหนวด งวง แนวสันหลัง บางตัวมีรูปร่างประหลาดไม่มีรูปทรงมนุษย์ น่าเกลียดน่ากลัว
หนอนปรสิตหลายหมื่นตัวจากศพวิวัฒนาการเป็นตัวโตเต็มวัย สั่งการโดยหนอนพิษหัวหน้าของห้าคนโฉด
มันไปตามส่วนต่างๆ ของยานแม่
เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังหลบซ่อนอยู่
ในไม่ช้าผู้หลบหนีบางคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับก็ถูกพวกมันค้นพบด้วยความรู้สึกที่ไวต่อกลิ่น พวกมันล้อมโจมตีและรวมกำลังกันเพื่อบุกเข้าประตู และฆ่าผู้รอดชีวิตที่น่าสงสารเหล่านั้นและจับกิน...ฮัวยาและกัวกัววิ่งหนีหนอนกลุ่มใหญ่ที่ไล่หลังมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารและถูกหนอนพวกนั้นหาตัวพบ
เย่ว์หยางผู้มีความสามารถในการป้องกันพวกเขาออกมาพร้อมกันออกมาพร้อมกับกาดำและเจ้ากระทุงยักษ์ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ตอนนี้ฟื้นฟูพลังจากชิ้นส่วนโบราณวัตถุหลังจากออกจากห้องโดยสารไปก็พบกับหัวหน้าโจรดวงดาวสามคน พยัคฆ์บินอินทรีป่าและฟลามิงโก แม้ว่าเขาจะเอาชนะผีตะกละได้อย่างง่ายดายและผนึกไว้ในเจดีย์ปราบปีศาจแต่ไม่ได้หมายความว่าเย่ว์หยางจะพบกับงานเบา พลังของผีตะกละเป็นเพียงหนึ่งในห้าจอมโฉดที่ชั่วร้ายที่สุดแต่ความแข็งแกร่งของมันยังไม่เท่ากับสตรีไฟนรกและภูตพรายสภาพจิตใจยังสู้ศพบินและหนอนพิษไม่ได้ นอกจากงานอดิเรกและจิตใจที่ชั่วร้ายแล้ว ผีตะกละสามารถจัดอันดับอยู่ท้ายๆในห้าจอมโฉดเท่านั้น
แต่เขาเป็นจอมวายร้ายแข็งแกร่งที่สามารถเอาชนะกาดำและเจ้ากระทุงยักษ์ได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นเป็นแค่เบี้ยเล็กๆ ในแปดอาณาจักรเทพไม่ต้องพูดถึงเทพทั้งแปด พวกเขาเทียบได้กับจอมพลผู้มีพลังสุดยอดขุนพลเทพ
ศัตรูของศัตรูก็คือพันธมิตร
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดเขายังจำเป็นต้องปกปิดตัวตนของเขาเย่ว์หยางรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องดีในการช่วยพยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโก
ก่อนที่เขาจะสามารถเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเทพทั้งแปดได้ เย่ว์หยางไม่ต้องการให้พวกเขาเพ่งเล็งมาที่ตัวของเขาเอง
เว้นแต่ไม่มีวิธีอื่น เขาต้องการสำรวจขุนเขาเหนือขุนเขาตามวิถีที่ไม่โดดเด่น
หลังจากได้ข้อมูลขุนเขาเหนือขุนเขาทั้งหมดแล้วเขาค่อยท้าทายอีกครั้ง
ก็ยังไม่สายเกินไป!
“พยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโกทั้งสามคนนี้สู้ติดพันกับกัปตันกริฟฟิน,แม่ทัพอินทรีทองและเหมาพั่วตี้หรือเปล่า?” เย่ว์หยางมีลางสังหรณ์ไม่ดี และรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ นั้นไม่ง่าย สังหรณ์ของเย่ว์หยางแม้ว่าปกติแล้วจะด้อยกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ แต่ในการต่อสู้เขามีสัญชาตญาณและการคาดการณ์ที่แม่นยำ ในความเป็นจริงก็คล้ายกับทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและในบางช่วงเวลาก็เหนือกว่าเล็กน้อย
“ห้าจอมโฉดเราได้พบเห็นทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีกันแค่นี้?” เจ้ายักษ์กระทุงร้องลั่น และจนถึงตอนนี้ เขายังไม่สามารถรับความจริงได้ว่าเด็กใหม่ผู้นี้เป็นสุดยอดนักสู้ที่ช่วยเขาไว้
“ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังห้าจอมโฉดมาด้วยสถานการณ์จะแย่มากขึ้น” กาดำถอนหายใจอย่างกังวลและบินไปข้างหน้า
“จอมพลซ้ายกู้ไห่แห่งอาณาจักรเทพประจิมไม่ใช่หรือ? เขามักจะไม่รับมือกับกริฟฟินและอินทรีทอง ตราบใดที่เขาปรากฏตัวที่นี่ กริฟฟินและอินทรีทองจะต้องสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพวกเขาอาจไปหาจอมพลกู้ไห่โดยตรง!” เจ้ากระทุงไม่เหมือนกับคนหยาบ เขามักจะหุนหันพพลันแล่นในช่วงเวลาสำคัญ เขาสามารถไว้ใจได้จริงๆเขาเป็นคนฉลาดที่สังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มองผิวเผินบุคลิกหุนหันพลันแล่นของเขาและอาการไอคิวต่ำจะสอดคล้องกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงว่ามือใหม่อย่างเย่ว์หยางกลายเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของเขากับเจ้ากาดำ ตอนแรกเขายังกังวลแต่ความเป็นจริงเมื่อเจ้ากระทุงได้สติและเห็นเกราะหนักโลหะลับเทพสังหารที่เย่ว์หยางสวมใส่ แต่เขาก็ยังปากแข็งไม่เชื่อ
“คำพูดเหมือนเป็นเช่นนี้แต่ความจริงไม่ควรจะเกิดขึ้น” กาดำรู้สึกว่าแนวโน้มสถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
“หัวหน้าพยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโกทั้งสามคนคงไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ บางทีพวกเขาอาจกำลังตามหาเราเมื่อสมทบกำลังได้แล้ว เราจะไปตามฆ่าพวกมัน!” เจ้ากระทุงยังคงมองโลกในแง่ดี นี่เป็นนิสัยของเขาที่คิดทุกอย่างในทางดี
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!” กาดำไม่ได้มองโลกในแง่ดีไม่มีทางที่เขาจะมองโลกในแง่ดี
“มีเสียงดัง!” เย่ว์หยางรู้สึกว่ามีเสียงอยู่ข้างหน้าเขา
รอให้ทั้งสามคนหยุดและเตรียมตัวเล็กน้อยเขาเห็นหนอนนับไม่ถ้วน กำลังรีบเร่งไปตามทางเดินเรือฝูงผู้คนจำนวนมากไม่สามารถเคลื่อนไหวบนพื้นได้ ต่างพากันปีนขึ้นไปบนเพดานหรือไม่ก็ทางเดินทั้งสองข้างเพื่อหนีการไล่ล่า
ข้าหน้าตัวหนอนเหล่านี้มีทหารหลายคนและพ่อค้าที่หนีไปข้างหน้าด้วยอาการงุนงง
คนที่ช้าลง
จะถูกหนอนกัดขาดเป็นชิ้นเหลือแต่เลือดเนื้อนับไม่ถ้วนและกลืนลงไปทันที
ทหารสองคนที่เหลือไม่มีความกล้าจะถืออาวุธเผชิญหน้า เขาไม่กล้าวิ่งออกไปสู้ ได้แต่หันหลังวิ่งตรงมาที่เย่ว์หยาง
กาดำไม่ต้องการให้ความสนใจกับผู้รอดชีวิตเหล่านี้ เพราะเขาไม่สามารถป้องกันตนเองได้
เป็นการยากที่จะดูแลผู้อื่น
แต่ในบรรดาผู้รอดชีวิตเขาเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังร้องไห้และรั้งอยู่หลังกลุ่มข้างหลังมีตัวหนอนหางแมลงป่องและหางของมันเป็นหางตะขอ ดูเหมือนมันต้องการใช้หางเกี่ยวมารดาและบุตรสาวคู่นี้ มารดาพยายามอย่างดีที่สุดหลบหนีจนหมดแรง นางไม่ยอมแพ้ปกป้องลูกสาวในอ้อมแขนอย่างสิ้นหวัง
“....” ขณะที่กาดำสีหน้าเปลี่ยน เขาต้องการวิ่งเข้าไปช่วยแม่ลูกที่กำลังจะตกเป็นอาหารหนอน
“ปีกดำ, อย่าทำเรื่องโง่แบบนี้!” เจ้ากระทุงรีบห้ามเขา
“เจ้าหลีกทาง” กาดำโกรธ เพราะเขาเห็นเจ้ากระทุงขวางทางเขาไว้ ไม่ให้ขึ้นไปข้างหน้าหางหนอนแทงทะลุร่างมารดาจากข้างหลัง
และหางนั้นพยายามกระตุกกลับ
อกของมารดาสาวและท้องทะลุเลือดกับอวัยวะภายในไหลออก
ไม่มีใครกล้าอยู่หรือกลับไปช่วยมารดาและลูกสาว ทหารและพ่อค้าเห็นพวกเย่ว์หยางสามคนรีบวิ่งไปหาราวกับได้ชีวิตใหม่ พวกเขาแสวงหาผู้แข็งแกร่งเพื่อความปลอดภัย ขณะที่กาดำจะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อช่วยชีวิตเด็กหญิงที่ยังรอดชีวิตอยู่ภายใต้การช่วยเหลือของผู้เป็นมารดา เจ้ากระทุงก็ใช้ร่างดุจเนินเขาของเขาขวางอีกครั้ง
เจ้ากระทุงจับเสื้อคลุมของกาดำแล้วตะคอก “คนบนเรือห้าหมื่นหรือหกหมื่นคนตายไปแล้วเจ้าช่วยได้สักกี่คน? แม้ว่าเจ้าจะช่วยนางได้ตอนนี้ แต่เจ้าสามารถปกป้องนางได้หรือไม่?มีศัตรูที่แข็งแกร่งมากปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา และแม้กระทั่งตัวเราเองอาจไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้แล้วเจ้าจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร? ช่วยนางให้รอดตอนนี้ นางก็จะมีชีวิตรอดต่อไป เมื่อเจ้ายืนยันจะทำอย่างนี้มันจะเพิ่มความเจ็บปวดให้กับนางมากขึ้น ขนดำ! เจ้าควรจะมีเหตุผลมากกว่านี้ นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ เจ้าเป็นคนฉลาดมากกว่าข้า เจ้าควรจะเข้าใจความจริงเหล่านี้ได้ดีกว่าข้า!”
กาดำคำรามด้วยความเจ็บปวด “ความจริงก็คือหัวหน้าพยัคฆ์บินก็ช่วยข้าจากความตายไม่มีเขา ก็ไม่มีข้าในวันนี้! เจ้าไปถามเขาบ้าง ทำไมเขาทำตัวไร้เหตุผล?”
อาการบาดเจ็บของมารดาสาวแม้ใกล้จะตายก็ยังจับลูกสาวหลบตะขอหางหนอนไม่ให้หางหนอนแทงลูกสาวของนาง
นางชูทารกลูกสาวของนางสูงขึ้น
เกรงว่านางคงไม่รอดแล้ว
แต่ความสามารถในการปกป้องลูกสาวให้ได้แม้สักวินาทีเดียวก็เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของนาง...เมื่อเห็นเช่นนี้ กาดำน้ำตาแทบร่วง “แม่! แม่ข้า, ในปีนั้นนางก็ปกป้องข้าข้าขนดำจะต้องไม่นิ่งเฉยดูสิ่งนี้ การช่วยนางคือการช่วยตัวข้าเอง เพื่อสนองความปรารถนาของผู้เป็นแม่! ธอร์นตัน เจ้าหลบไป!”
เขาขยับเสื้อคลุมปาดร่างใหญ่ของเจ้ากระทุงโดยตรง
และพุ่งไปบนฟ้าเหมือนนกราตรี
ร่างของกาดำเร็วมากขึ้นทุกทีและพุ่งตรงไปที่มารดากับทารกหญิง
แต่สายเกินไป...หนอนยาวดึงหางตะขอเกี่ยวร่างที่อ่อนแอของแม่เด็กลากมาข้างหน้าตะขอเหล็กของมันชูสูงก่อนที่กาดำจะเข้ามาช่วยชีวิตมันเตรียมจะทำร้ายกาดำที่อยู่ข้างหน้าอย่างดุร้าย มารดาสาวพยายามปกป้องลูกน้อยอย่างสิ้นหวังต่อหน้ากาดำ!
“ไม่!” กาดำตะโกนร้องอย่างเศร้าใจ เหมือนกับว่าเขาเห็นเด็กถูกฆ่าเพราะได้รับการช่วยเหลือ
“แครก!”ดูเหมือนหนอนจะมีความสุขกับความสิ้นหวังและเจ็บปวดของศัตรู
หนามแหลมของมันหนาเป็นชั้นๆ
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ นั้นเกินความคาดหมายของทุกคนในตอนนี้ เขี้ยวเล็บที่สามารถตัดทารกหญิงเป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดร่องรอยของการฆ่า แต่กลับถูกกระแทกแตกหักร่วงลงกับพื้น
มารดาสาวที่ยังหลับตาลืมตาอย่างอ่อนล้าของนางและพบบุรุษคนหนึ่งสวมชุดเกราะหนักยืนอยู่ข้างหน้านางร่างของเขาเปล่งประกายลึกลับ สงบและอบอุ่นมาก... มารดาสาวอดส่งเด็กทารกให้เขาไม่ได้ นางหลั่งน้ำตาด้วยความปิติและถามเขา “ท่านเป็นเทพในตำนานหรือ? โปรดเมตตาธิดาของข้าด้วยเถิด โปรดให้ชีวิตเธอ แม้ว่าเธอจะต่ำต้อยแต่ไม่ใช่ความผิดของเธอ..”
เย่ว์หยางยื่นมือรับทารกหญิงที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
มารดาสาวสูดหายใจและพยักหน้า “เจ้าเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ เพราะเจ้าปกป้องเธอ ลูกสาวของเจ้าจึงปลอดภัย ไม่ใช่ข้าแต่ตัวเจ้าเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับลูกสาว!”
“ถ้าเจ้าไม่ว่ากระไรข้ายินดีรับเธอไปเลี้ยงดูเป็นธิดาตนเอง” กาดำยังคงบินมาสมทบและยืนอยู่ข้างเย่ว์หยาง และขอให้มารดาสาวรับรอง ขณะเดียวกันเขาโบกเสื้อคลุมและโจมตีหนอนยาวพุ่งออกไปราวกับอุกกาบาต พวกหนอนเห็นการกระทำของผู้ทรงพลังเหล่านี้พวกมันไม่กล้าแสดงความก้าวร้าว รีบถอยหนีไปทีละตัวและพร้อมจะกลับมาโจมตี
“ขอบคุณ!”มารดาสาวคลายลมหายใจอึดสุดท้ายด้วยความโล่งใจ แม้ว่านางจะตายนางไม่มีความกังวลใจ นางจากไปอย่างสงบ
“กาดำ! เจ้าบ้าไปแล้ว เจ้าคิดว่ามีเด็กตัวน้อยอยู่ด้วย ศัตรูจะหยุดโจมตีหรือ? มอบเด็กให้กับทหารเหล่านั้นไปและเราไปกวาดล้างสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด!” เจ้ากระทุงคิดว่านำเด็กผู้หญิงตัวน้อยไปด้วยจะเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ ถ้ายืนยันจะทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่ช่วยคนอื่นไม่ได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ทุกคนติดกับดัก
“ไม่, สำหรับข้า เธอคือข้า ข้าต้องไม่ทอดทิ้งเธอ มิฉะนั้นก็เท่ากับทิ้งตัวตนเองในตอนนั้นที่แม่ข้ายอมปกป้องข้าจนตัวตายเพื่อให้ข้ารอดอยู่ได้!” กาดำปฏิเสธจะรับเด็กหญิงน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง เขาลูบแขนเธออย่างแผ่วเบา
“เจ้าช่างไร้เหตุผลเสียจริง!” เจ้ากระทุงโกรธจับคอเสื้อกาดำและตวาดลั่น “นี่เป็นเรื่องสำคัญสองเรื่องและตอนนี้เจ้าไม่ควรเอาแต่ใจตนเองด้วย เจ้ายังจะไปช่วยคนอยู่หรือเปล่า?”
“ไป, แต่ต้องพาเธอไปด้วย” กาดำเช็ดน้ำตาทารกหญิงที่กำลังหลับเบาๆ
“โมโหแล้วโว้ย!” เจ้ากระทุงทุบหน้าอกตัวเองและรู้สึกเสียใจที่รู้จักเป็นสหายกับเจ้ากาดำ
เย่ว์หยางกระแอมทันที
เตือนทั้งสองคนว่าอย่าลืมว่าเขายังอยู่
เมื่อเจ้ากระทุงและกาดำหันมามองเย่ว์หยางชูมือขวาเรียกคัมภีร์อัญเชิญและยิ้มให้ทั้งสองคน “ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าจะส่งเธอไปพักก่อนรับรองได้ว่าข้าไม่ชิงลูกสาวเจ้าแน่”
เมื่อเห็นภาพข้างหน้านี้เจ้ากระทุงและกาดำไม่ได้แสดงความดีใจเพราะพวกเขาคลี่คลายปัญหาได้ แต่พวกเขามีสีหน้าตกใจ “เจ้า เจ้ามีคัมภีร์อัญเชิญหรือ? นี่คือคัมภีร์อัญเชิญในตำนานใช่ไหม?”
คราวนี้เย่ว์หยางพูดไม่ออก
คัมภีร์อัญเชิญในตำนาน? ที่นี่ขุนเขาเหนือขุนเขาไม่มีคัมภีร์อัญเชิญหรือ?