บทที่6
“หืม? พูดถึงเรื่องดาบปีศาจเล่มแรก ดาบชั้นยอดนี้มีเพียงสิบสองสุดยอดแห่งดาบเท่านั้นที่เทียบได้ ไม่รู้ว่าฉันจะเรียนรู้ทักษะตีเหล็กจากที่ไหนดี”
ในขณะที่เขาหิ้วดาบซังไดคิเทซึอยู่ เขาก็ได้เดินไปรอบบ ๆเมืองโร๊คทาวน์ ที่ซึ่งราชาโจรสลัดโรเจอร์เคยอาศัยอยู่ในตอนเด็ก และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ตาลุกวาวเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
เคนโด้... โรงฝึกเคนโด้แห่งนี้ดูเหมือนค่อนข้างมีชื่อเสียงในโร๊คทาวน์ และครูฝึกด้านในก็ดูเหมือนจะเคยเป็นนักดาบที่มีชื่อเสียงในทะเลอีสต์บลู รอนยกนิ้วแตะที่ปลายคางของเขาและรอยยิ้มก็ปรากฎในมุมปาก รอนคิดว่าโรงฝึกเคนโด้นี้จะไม่ทำให้เขาผิดหวังอย่างแน่นอน
รอนก้าวเข้าไปในโรงฝึกเคนโด้ มีเด็กอายุราวสิบสามสิบสี่ปีกำลังถือดาบไม้ ทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ย่าห์!!!
ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเหล่าเด็กทั้งหลายคือชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่มีดาบจริงเหน็บเอาไว้ที่เอว ใบหน้าเย็นชา เฝ้าดูนักเรียนฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด
“หืม?” ชายวัยกลางคนขยับตัวแล้วมองไปยังประตูโรงฝึกที่เปิดออก รอนเดินเข้ามาด้านในช้า ๆ ขาชำเลืองมองดาบชื่อดังที่รอนถืออยู่ในมือ พอเห็นเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
รอนยิ้มให้เขาโดยไม่พูดอะไร แต่เขากลับมองดูการฝึกของเด็ก ๆอยู่ด้านข้างสนามเท่านั้น
ปีก่อน ตอนที่เขากำลังข้ามมาที่โลกโจรสลัดครั้งแรก ชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาเต็มไปด้วยความยากลำบาก เขาทำได้เพียงมองดูคนอื่นฝึกเคนโด้ รอนทำได้เพียงครูพักลักจำ ฝึกจนกระทั่ง... มือหัก
ระหว่างมองดูชายแก่สอนเคนโด้ให้กับเด็ก ๆ เขาก็พบว่าชายแก่คนนั้นส่งดาบไม้มาให้เขาอย่างเงียบ ๆ ชายแก่คนนั้นไม่ได้พูดอะไรกับเขา สิ่งที่เขาทำเพียงแค่เดินหันหลังกลับไปช้า ๆเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่เด็กคนอื่นเริ่มฝึกเคนโด้กันไปแล้วครึ่งเดือน รอนได้ใช้เวลามากกว่าคนอื่น ๆในการฝึกวิชาดาบขั้นพื้นฐาน
ต่อมา กลุ่มโจรสลัดวูล์ฟเข้ามาทำการปล้นหมู่บ้าน กลุ่มโจรสลัดวูล์ฟไม่ได้ฆ่าทุกคน แต่เขาไว้ชีวิตเพื่อที่จะปล่อยให้คนที่รอดตัดสินใจว่าจะขึ้นเรือไปกับพวกเขาหรือเปล่า มีหลายคนที่อยากไปเข้ากองทัพเรือ แต่รอนห้ามพวกเขาไว้ก่อน รอนเลยหมายมั่นว่าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องหมู่บ้านของตัวเองให้ได้
“น่าเสียดาย อดีตยากจะลืม” รอนส่ายหน้า ปัดเป่าความทรงจำเก่า ๆทิ้งไปแล้วมองไปยังโรงฝึกด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
“พยายามให้มากกว่านี้ ไม่ได้กินข้าวมาหรือไง!!” ทันใดนั้นชายกลางคนก็ก้าวออกมาด้านหน้าแล้วตวัดขาเตะเด็กที่อ่อนแอที่สุดลงไปกองกับพื้น “มือที่จับดาบอ่อนแอมาก มันไม่ควรค่าแก่การจับดาบเลยสักนิด! เธอยังต้องกาจะเป็นนักดาบได้ด้วยฝีมือที่อ่อนแอแบบนี้อีกน่ะเหรอ ห๊ะ!”
“ครับ!”
เด็กคนนั้นไม่เจ็บมากนัก เขายิ้มทั้ง ๆที่เขาถูกเตะ เด็กคนนั้นรู้ว่าอาจารย์ของเขาไม่ได้เตะเขาสุดแรง ไม่อย่างนั้นด้วยความแข็งแกร่งของอาจารย์ซึ่งอันดับหนึ่งในโร๊คทาวน์นี้ เขาสามารถเตะตัวเองตายได้ไม่ยาก
“ลุกขึ้นแล้วฝึกต่อไป!” อาจารย์กล่าวด้วยเสียงไม่แยแสแล้วกลับไปยืนที่เดิม
เด็กที่ดูอ่อนแอคนนั้นค่อย ๆลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วกลับมาซ้อมต่ออย่างไม่ลดละความพยายาม
หลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์วัยกลางคนคนนั้นก็พูดกับเด็กที่เขาเตะล้มไปเมื่อสักครู่ “ดี ฉันจะมาฝึกซ้อมอีกทีตอนเช้า วันนี้เธอกลับบ้านไปได้แล้ว”
“ครับอาจารย์!” เด็กชายคนนั้นเดินออกไปอยู่ด้านข้างสนามฝึก เขาหายใจหอบแล้วเริ่มการพักผ่อน ขณะที่พวกเขามองรอนซึ่งเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาแปลก ๆ
“นี่ เธอว่าผู้ชายคนนั้นมาที่นี่เพื่ออะไร?” บรรดาลูกศิษย์ต่างพูดคุยกันด้วยความสงสัย
“ไม่ทราบสิครับ เห็นเขามายืนข้าง ๆผมได้สักพักแล้วนะ”
“เฮ้! นายน่ะมาที่นี่เพื่อฝึกเคนโด้ด้วยเหรอ?”
“ฉันคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงนะ” เด็กหนุ่มร่างสูงแววตาเป็นประกาย เขาหันไปมองอาจารย์แล้วกล่าวกับคนอื่นว่า “อาจารย์ของเราเป็นอาจารย์ที่เก่งที่สุดในโร๊คทาวน์ เป็นเรื่องปกติที่นักดาบจากที่อื่นจะมาเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการฝึกดาบ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อาจารย์เป็นนักดาบที่มีชื่อเสียงโด่งดัง” ชายคนนี้อาจมาที่นี่เพื่อขอคำแนะนำจากอาจารย์ของพวกเขา เด็กหนุ่มคนอื่น ๆต่างก็รู้สึกดีใจมากขึ้น ยิ่งชื่อเสียงอาจารย์สอนเคนโด้พวกเขาดีขึ้นเท่าไหร่ ความสำเร็จในอนาคตของพวกเขาก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อคิดถึงสิ่งพวกนี้ พวกเขาก็มองไปยังรอนที่ยืนถือดาบของเขาอยู่ด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า
“นายเป็นใคร?”
ชายวัยกลางคนที่หน้าตาไม่แยแสอะไรเดินตรงเข้ามาหาเขาและมาหยุดยืนด้านหน้ารอนสามเมตร ในตำแหน่งนี้ เขาจะอยู่ในจุดที่เขาสามารถชักดาบออกมาฟันได้ดีที่สุด
“นายมาที่นี่เพื่อฝึกฝนเหรอ?”
รอนยิ้มอย่างสุภาพ เขาตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า “ฉันได้ยินมาว่านายเป็นตระกูลนักเคนโด้ที่สืบทอดกันมาช้านาน มันจริงไหมคุณเกรซ” รอนกล่าวกับอีกฝ่ายไป “ฉันเป็นรุ่นน้องของนาย หวังว่านายไม่รังเกียจที่ฉันจะมาขอคำชี้แนะนิดหน่อย”
.“ขอคำชี้แนะ?” ในใจของชายวัยกลางคนสั่นไหวและเย็นชามากขึ้น ดวงตาของเขาปรากฆขึ้นมาแต่ภาพของรอนที่ยืนอยู่ด้านหน้า