บทที่12
“พลินตัน นายก็รู้นี่ว่าในโร๊คทาวน์น่ะ ร้านตีดาบของนายน่ะมันเป็นร้านเล็ก ๆไม่มีอะไรเลย ชิ้นส่วนเหล็กชั้นดีที่นายโชคดีซื้อมาได้มันเป็นวัตถุดิบล้ำค่าที่สามารถใช้ตีดาบชั้นดีได้ และมันสิ้นเปลืองเกินกว่าที่จะถูกใช้งานในร้านตีดาบเล็ก ๆ”
ในฝูงชน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ มือซ้ายของเขาไพล่หลังในขณะที่มือขวาถือลูกเหล็กสองลูกอยู่ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าต้องเสียวัตถุดิบชั้นดีแบบนี้ไป สู้ขายให้เราในราคาสสูง ให้เราใช้งานมันดีกว่า บางทีเราอาจตีดาบชั้นดีขึ้นมาได้สำเร็จก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นนายก็จะได้เงินค่าวัตถุดิบด้วยไงล่ะ”
“ไอ้เวร! ร้านตีดาบของแกคิดว่าจะตีดาบชั้นดีขึ้นมาได้อย่างนั้นเหรอ แกฝันอยู่หรือไง?” พลินตัน ชายที่มีรูปร่างผอมสูงได้มองไปยังชายกลางคนด้วยความโกรธจัด “แกพูดว่าขายในราคาสูง หมายความว่ายังไง ฉันใช้เงินครึ่งล้านเบรีซื้อมัน แต่นายต้องการซื้อมันในราคาแสนเบรีเนี่ยนะ!”
“ไอ้แก่ไข่เหล็ก” ในตอนนั้นเอง จอห์นก็เดินเข้ามา เขามองดูชายกลางคนด้วยสายตาน่าเกลียดและกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่น “แกกำลังเอาเปรียบฉันอยู่เหรอ?”
“ไง นี่ไม่ใช่เจ้าแก่จอห์นหรอกเหรอ นายยังไม่ตายอีกเหรอเนี่ย?” ชายวัยกลางคนได้ยิ้มออกมา แต่คำพูดกลับเชือดเฉือน “วัตถุดิบล้ำค่า แต่ฉันว่านายคงไม่สามารถตีดาบล้ำค่าออกมาได้หรอกมั้ง ใช่หรือเปล่า? หลายปีที่ผ่านมา ตระกูลของนายสามารถตีดาบชั้นดีได้ แต่เรื่องนั้นมันนานกว่าร้อยปีมาแล้ว ตอนนี้มันไม่เหมือนเก่าอีกแล้ว ยังยังไม่ยอมรับมันอีกเหรอ?”
“แฮ่ม!” ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ดวงตาของจอห์นก็เบิกโพลง ในใจของเขาเกิดความเศร้า ใช่ ครอบครัวของเขาไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้จริง ๆ
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว บรรพบุรุษของจอห์นสามารถตีดาบที่แข็งแกร่งออกมาได้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทำได้แล้ว ร้านตีดาบหลายร้านในโร๊คทาวน์สามารถตีมันออกมาได้ แต่เห็นได้ชัดว่าร้านของเขาไม่สามารถทำมันได้
เมื่อเห็นว่าจอห์นพูดไม่ออก ชายกลางคนก็พูดต่อด้วยความสบายใจว่า “เพราะฉะนั้น แร่เหล็กชั้นดีนั่น เอามาให้ฉันดีกว่า ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“แกฝันไปเถอะ เรายอมโยนมันทิ้งดีกว่าที่จะให้มันกับแก” พลินตั้นจ้องไปด้านหน้าด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“ใช่ เราจะไม่แลกวัตถุดิบนี้กับแกแน่ ออกไปเดี๋ยวนี้ไอ้แก่ไข่เหล็ก” (ไข่เหล็กนี่น่าจะมาจากลูกเหล็กกลม ๆที่มันถือไว้นะ) จอห์นตะโกน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชายกลางคนคนอื่นที่อยู่ด้านหลังหัวเราะออกมา เขาแตะหนวดสั้นสีดำของเขาแล้วกล่าวว่า “จอห์น ถ้าอย่างนั้นเรามาแข่งขันกันไหมล่ะ เราใช้วัตถุดิบในมือนั่นเป็นเดิมพัน เป็นอย่างไร?”
“นั่นคือนักดีดาบแห่งร้านเตาหลอมเหล็ก” พลินตันและจอห์นมองไปยังใบหน้าของผู้พูดด้วยสีหน้าน่าเกลียด นี่เป็นนักตีดาบเจ้าของร้านเตาหลอมเหล็กที่โด่งดัง เป็นนักตีเหล็กระดับสูงกว่าจอห์นที่สามารถตีดาบที่แข็งแกร่งออกมาได้ การเดิมพันครั้งนี้สำหรับจอห์นมันคือการขายร้านของตัวเอง เพราะเขาไม่มีทางชนะตั้งแต่แรก แถมยังเป็นการแข่งขันที่มีสายตาพยานตั้งมากมาย
“พวกนายกลัวอะไร?” นักตีดาบคนนั้นเยาะเย้ย “ในเมื่อกลัว อย่างนั้นก็มอบวัตถุดิบชิ้นนั้นมาดี ๆเถอะ จะได้ไม่อายคนอื่น!”
“แก...” จอห์นโกรธจัด เขาอยากจะตอบว่าตกลงไป แต่มันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีคนอื่นเห็นเหตุการณ์นี้ หากเขาแพ้ ครอบครัวและร้านเขาในโร๊คทาวน์คงจบสิ้น
“พ่อ ตอบตกลงไปเลย เราจะไม่ถอย!” พลินตันเบิกตาแล้วตะโกน
“หุบปากนะ” จอห์นหยุดพลินตัน แต่เขาก็ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถรักษาวัตถุดิบชั้นดีชิ้นนี้ได้ การตีดาบของเขาไม่ได้ดี มันมีโอกาสแพ้มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ หากชนะคงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์
“ฉัน... พวกเรา...” จอห์นกัดฟัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ถอนหายใจ เขทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้แล้วเตรียมจะส่งมอบวัตถุดิบให้กับอีกฝ่ายไป
ในตอนนั้นเอง รอนก็ได้เดินยิ้มออกมา เนื่องจากทักษะการตีดาบของเขาได้เรียนมาจากจอห์น ดังนั้นก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็จะชดใช้หนี้คืนอีกฝ่ายก่อน
“เดี๋ยวก่อน!” รอนยิ้มมเล็กน้อย เขามองดูจอห์นแล้วกล่าว “อาจารย์จอห์น ทำไมไม่ลองให้เด็กฝึกหัดอย่างผมจัดการเรื่องนี้เองล่ะ”
“รอน!” จอห์นมองที่รอนด้วยสายตาสงสัย ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เธอเป็นเด็กฝึกหัดแต่เธอจะบอกว่าเธอเป็นตัวแทนร้านตีดาบ แข่งกับนักตีดาบมีชื่อเสียงคนอื่น ๆน่ะเหรอ?
ไม่เพียงแค่จอห์นที่ตกตะลึง แม้แต่พลินตันลูกชายของจอห์นก็ตกตะลึงด้วย เขาได้ยินพ่อที่อยู่ด้านข้างเขาอธิบาย อีกฝ่ายเป็นเด็กฝึกหัดที่พ่อของเขาจ้างมาช่วยงานหลังจากที่ตัวเขาออกไปซื้อวัตถุดิบที่อื่น แต่นายเป็นแค่เด็กฝึกหัด เด็กฝึกหัดที่ไหนจะกล้าเผชิญหน้ากับนักตีดาบชื่อดังแบบอีกฝ่ายเล่า!
อยู่ ๆสีหน้าของพลินตันก็เปลี่ยนสี แม้ว่าเขาจะโกรธและไม่เต็มใจจะยอมแพ้ แต่มันไม่ใช่แบบนี้
“เด็กฝึกหัด?” ก่อนที่พลินตันจะได้พูดอะไร คนจากร้านตีเหล็กที่อยู่ตรงข้ามก็ได้หัวเราะออกมา
“ฉัน... ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันได้ยินถูกหรือเปล่า?” ชายกลางคนระเบิดเสียงหัวเราะ “เด็กฝึกหัดกล้าดีอย่างไรที่จะมาเผชิญหน้ากับนักตีดาบจากร้านเตาหลอมเหล็ก? ฮ่าฮ่า นี่มันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดที่ได้ยินในปีนี้เลยนะเนี่ย!”
“อุ๊ป!” เหล่านักดีดาบชื่อดังหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นถนน พวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าถูกดูหมิ่นแบบนี้มาก่อนเลย พวกเขามองไปที่รอนเหมือนกับมองคนโง่ “เด็กฝึกหัดในโรงตีเหล็กกล้ามาท้าทายฉันด้วยเหรอ นี่ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?”
“แน่นอนว่าไม่” รอนกล่าวคำพูดอย่างตรงไปตรงมา “แม้ว่าฉันจะเป็นเด็กฝึกหัดของอาจารย์จอห์น แต่แค่ฉันคนเดียวก็พอที่จะจัดการพวกนายด้วยวิชาการตีดาบแล้ว... อะไร ไม่กล้ายอมรับคำท้าเหรอ?”
“ได้ ฉันยอมรับคำท้า ทำไมฉันจะไม่ยอมรับกันล่ะ?” นักตีดาบชื่อดังคนนั้นกับชายวัยกลางคนมองหน้ากัน ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก พวกเขาต่างเห็นพ้องกันว่าอีกฝ่ายทำเรื่องโง่ลงไปแล้ว อย่งไรก็ตามมันเอื้อประโยชน์ให้พวกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายวัยกลางคนหัวเราะกล่าวแล้วพูดต่อ “เดิมพันด้วยวัตถุดิบล้ำค่าชิ้นนั้น ถ้าร้านตีดาบของเราแพ้ เรายินดีจ่ายให้หนึ่งล้านเบรี แต่ถ้าฝั่งพวกนายแพ้ต้องมอบวัตถุดิบชิ้นนั้นให้พวกราฟรี ๆ แค่นั้นล่ะ”
ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่ปล่อยให้จอห์นได้มีโอกาสพูดออกมาเลย พอพวกเขาพูดกันจบแล้วก็เดินกลับไปอย่างรวดเร็ว