บทที่11
เบื้องหลังร้านตีอาบของจอห์นเป็นธุรกิจครอบครัว พวกเขาทำทั้งการตีดาบและการขายดาบผสมกัน
ในวันนี้ รอนกำลังเรียนทักษะการตีดาบกับจอห์น หลังจากศึกษาอย่างจริงจังมาครึ่งเดือน แม้ว่ารอนจะรู้ว่าพรสวรรค์ของเขาเป็นขยะ เป็นเขาก็สามารถเรียนรู้ทักษะเบื้องต้นได้แล้วในวันนี้
“ไอ้หนุ่ม ถึงเธอจะโง่ แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยความพยายามที่มากพอของเธอ” ลุงจอห์นมองไปที่รอน ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาเห็นมาตลอดว่ารอนเรียนรู้หนักขนาดไหน นอกจากนี้เขายังเห็นอีกว่าการเรียนรู้ของรอนแย่มากจริง ๆ แต่เขาเรียนรู้อย่างหนัก พยายามอย่างหนักมาก และในที่สุดเขาก็สามารถทำขั้นตอนพื้นฐานของการตีดาบได้แล้ว
“ขอบคุณครับลุงจอห์น” รอนกล่าวแล้วยิ้มให้เขา
“อืม!” จอห์นยิ้มตอบเล็กน้อยขณะที่ตรวจสอบดาบในมือเขา เขากล่าวต่อว่า “นี่เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ทักษะการตีดาบนั้นลึกซึ้ง นายใช้เวลาครึ่งเดือนในการเรียนแคเบื้องต้น หากอยากจะไปขั้นตอนี่ยากกว่านี้ มันต้องใช้เวลานานเกินไปนะ”
ใบหน้าของรอนยังคงเฉยเมย แต่เขาไม่สามารถบอกจอห์นได้ อันที่จริงเขาต้องการบอกจอห์นมากว่าเขาต้องการจะเป็นนักตีดาบที่ไปถึงจุดสูงสุดของวิชาชีพนี้
“ผมเรียนทักษะตีดาบเบื้องต้นสำเร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้วล่ะครับลุงจอห์น” รอนกล่าวกับจอห์น เขากำลังจะออกทะเลแล้วไปตามหานามิ คายะและคนอื่น ๆจากนั้นการเดินทางอันยิ่งใหญ่มากมายยังรอให้เขาไปพิชิตอยู่ อืม... หรือบางทีอาจเป็นสาวงามบนเกาะทั้งหลายที่รอเขาไปพิชิต
“เธอพอใจกับการเรียนแค่ทักษะพื้นฐานแค่นี้เหรอ?” จอห์นชะงักไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วแล้ววางดาบในมือลง สายตาของจอห์นจ้องมองไปที่รอนแล้วส่ายหัว เดิมทีเขาคิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นคนที่พยายามหนักมากกว่าใคร เลยคิดว่าเขาเป็นคนน่าสนใจ ปรากฏว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างที่เขาเคยคิดจริง ๆ เป็นเพียงคนที่สนใจเรื่องการตีดาบเพียงแป๊บเดียว
“ถ้าแบบนั้นฉนก็จะไม่รั้งเธอเอาไว้ ถ้านับเวลาแล้ว ไอ้ลูกชายของฉันก็คงใกล้จะได้เวลากลับมาแล้วล่ะ คราวนี้เขาออกทะเลไปซื้อวัตถุดิบนานมาก” ลุงจอห์นไม่ได้พูดอะไรกับรอนอีก เขาบอกเพียงว่าอีกไม่นานลุกชายที่ไปซื้อวัตถุดิบตีดาบจะกลับมา เมื่อเขากลับมา จอห์นกับผู้ช่วยอย่างลูกชายเขาก็จะไม่ต้องห่วงเรื่องอะไรอีกต่อไป
“ขอบคุณลุงที่สอนผมมาตลอดครึ่งเดือนนะครับ!”
รอนกล่าวพร้อมกับก้มหัวทำความเคารพจอห์น
ไม่ว่าจะเป็นจอห์นที่สอนทักษะการตีดาบให้เขา เกรซที่สองวิชาสองดาบหรือแม้แต่กัปตันวูล์ฟที่สอนวิชาหมัดหมาป่าปีศาจให้เขา รอนก็รู้สึกขอบคุณพวกเขาทุกครั้งที่คิดถึงมัน และถ้ามีโอกาส เขาจะตอบแทนอีกฝ่ายกลับไปเหมือนกับตอนที่เขาช่วยให้กลุ่มโจรสลัดวูล์ฟรอดจากการตามล่าของกองทัพเรือ
รอนไม่ใช่คนชอบเนรคุณคน แม้ว่าพลังของเขาจะแข็งแกร่งกว่าใครในโลก เขาก็จะไม่เปลี่ยนหลักการในใจของเขาไปเด็ดขาด
หากเขาติดหนี้บุญคุณใคร เขาก็จะตอบแทนอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นความแค้นหรือความสุขก็ตาม
นั่นเป็นหลักการของรอน
รอนเก็บของเตรียมออกเดินทาง
ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็มีชายวัยกลางคนร่างเตี้ยและอ้วนวิ่งเข้าไปในร้านตีดาบ “ตาแก่จอห์น ตาแก่จอห์น เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว!”
“หืม?” รอนหยุดดูรูปร่างของชายคนนั้นและเขาเห็นเหงื่อและความวิตกกังวลบนใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ดูแข็งแรง มันต้องมีบางอย่างที่ใหญ่โตเกิดขึ้นที่ทำให้ชายกลางคนในร้านตีดาบยากจะจัดการ
ใช่ ชายวัยกลางคนคนนี้คือผู้ช่วยช่างตีดาบที่คอยช่วยเหลือครอบครัวของจอห์นจัดการกับอาวุธในร้าน จอห์นรับผิดชอบในการตีดาบ ส่วนเขารับผิดชอบในการขายดาบออกไป ลูกชายของเขารับผิดชอบในการจัดซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ มีการแบ่งงานกันชัดเจน
“มีอะไรเกิดขึ้น ดอร์โล่” จอห์นขมวดคิ้ว “เกอดอะไรขึ้น?”
“นายน้อยพลินตันกลับมาแล้ว” ดอร์โล่อ้าปากพูด
“เด็กคนนั้นกลับมาแล้ว?” จอห์นได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้ว ลูกชายเขากลับมาเป็นสิ่งที่ดี ทำไมดอร์โล่ถึงมีสีหน้าแบบนั้น “พลินตันมีปัญหาอะไร?”
“ตาแก่จอห์น มากับฉัน เจ้าของร้านตีเหล็กทั้งหลายในเมืองได้พากันไปล้อมนายน้อยพลินตันเอาไว้”
“อะไรนะ?” จอห์นหน้าเปลี่ยนสี เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้แก่นั่นมันต้องการทำอะไรกันแน่?”
“ดูเหมือนว่านายน้อยจะซื้อวัสดุตีเหล็กที่ล้ำค่ามาได้ พวกเขาเลยต้องการจะปล้นมันไป” ดอร์โล่กล่าวอย่างรวดเร็ว “เรารีบไปดูกันเถอะ”
“ดี ไปกัน!” จอห์นวิ่งออกไปด้านนอกร้านกับดอร์โล่
รอนมองดูชายสองคนที่วิ่งจากไป เขาตัดสินใจเดินตามทั้งสองคน รอนมอดูปู่จอห์นจากด้านหลัง แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูแก่ไปบ้างแต่ก็ยังมีพลังเหมือนวัยรุ่นอยู่ ปู่จอห์นใช้เวลาทั้งหมดในการตีเหล็ก ทำให้ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงไม่ได้อ่อนแอเลย
รอนเดินตามเขาต่อไปอย่างเงียบงันไปอยู่ด้านนอกร้านตีดาบ ในขณะนี้ประตูร้านถูกล้อมด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก เสียงดัง อึกทึก มีชาวบ้านจำนวนมากที่เฝ้าดูเหตุการณ์นี้อยู่
รอนมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง เฉยเมย เขาเอื้อมมือไปบนหน้าจอแผงข้อมูล สะบัดนิ้วแล้วทักษะที่เขาเลือกก็ถูกอัพเกรดอย่างบ้าคลั่งจนถึงระดับสูงสุดในทันที ในตอนนี้ เขาได้กลายเป็นนักตีดาบอันดับต้น ๆของโลก เขาเก่งกว่านักตีดาบที่มีชื่อเสียงเลื่องลือหลายคนในโลกนี้ไปแล้ว โดยเขาใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น