บทที่ 60 : การเลื่อนระดับอันบ้าคลั่ง!เทคนิคการหายใจพื้นฐานขั้นที่ 42!
บทที่ 60 : การเลื่อนระดับอันบ้าคลั่ง!เทคนิคการหายใจพื้นฐานขั้นที่ 42!
"ตูม!!"
การต่อสู้อันดุเดือดกินเวลาหกชั่วโมงเต็มสิ้นสุดลง และสิ่งในที่สุดสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ก็ล้มลงภายใต้การโจมตีร่วมกันของผู้เเข็งเเกร่งทั้งสี่คน
อย่างไรก็ตาม เเม้ว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่จะล้มลงไปแล้วแต่สีหน้าของพวกเขาไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
ในแง่หนึ่งเพราะว่าฉินหลงหลบหนีไปได้, เเละในทางกลับกันการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นี้ทำให้พวกเขารู้สึกถึงคลื่นใต้น้ำที่น่ากลัวขึ้นมา
ในอนาคตเมื่อคลื่นใต้น้ำนี้ปะทุขึ้นมา มันก็อาจพลิกสถานการณ์ปัจจุบันของมนุษยชาติได้
“เราต้องรายงานสถานการณ์ที่นี่ให้ระดับสูงทราบโดยเร็วที่สุดและนำศพของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นี้กลับไปด้วย” เฉินปาโจวกล่าว
"ตามนั้น" โหวซีไห่, ฟูหยวน และ นายพลเสวี่ยพยักหน้า, สิ่งที่ค้นพบในวันนี้คือปัญหาร้ายแรงมากเกินไปและต้องรีบรายงานเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาโดยเร็วที่สุด
"ภารกิจเสร็จสิ้นเเล้ว นักรบทุกคนกลับฐานได้" ในไม่ช้าชูโจวและนักรบคนอื่นๆ ก็ได้รับคำสั่งให้ยุติภารกิจ
“ภารกิจเสร็จสิ้นสักที” ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินว่าภารกิจสิ้นสุดลง…… ภารกิจนี้อันตรายเกินไปจริงๆตอนเเรกสุดพวกเขามีคนมากกว่า 300 คน แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียง 100 กว่าคนเท่านั้นที่ยังรอดชีวิตอยู่
สองในสามของพวกเขาเสียชีวิตลง, ยิ่งกว่านั้หากไม่ใช่เพราะเฉินปาโจวและมหาอำนาจอีกสามคนพวกเขาคงถูกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่น่ากลัวตัวนั้นกำจัดไปแล้ว
……
"ช่วยฉันมองหาร่องรอยของจินจิงหวูที ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่เราต้องเขาและถ้าเขาตาย เราต้องเห็นศพ" ทันทีที่ภารกิจเสร็จสิ้นชูโจวก็ขอให้หลิงซานและคนอื่นๆช่วยค้นหาร่องรอยของจินจิงหวู
หลังจาดนั้นพวกเขารีบเข้าไปในซากปรักหักพังของฐานการทดลองรวมทั้งค้นหาอีกครั้งในสนามรบที่แตกสลาย, แต่กลัวไม่พบร่างของจินจิงหวูเลย
"กัปตันชู, เป็นไปได้ไหมว่าจินจิงหวูได้ตายไปแล้วและร่างกายของเขาถูกทำลายโดยสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นั้น" ซีเหมิงกล่าว
"มันเป็นไปได้, แต่... ตราบใดที่ฉันยังไม่เห็นศพของเขา ฉันจะทำเหมือนเขายังมีชีวิตอยู่” ชูโจวกล่าวอย่างใจเย็น
อันที่จริงในปัจจุบันเขาไม่ได้สนใจจินจิงหวู อีกต่อไปเเล้ว…… ครั้งนี้พวกเขาได้รับประโยชน์มามาก, นอกจากกล่องสารอาหารพันธุกรรมขั้นสูงที่เขาโยนให้หลิงซานที่ฐานการทดลองแล้ว, หลิงซานและคนอื่นๆ ยังพบกล่องสารอาหารพันธุกรรมขั้นกลางอีกหลายกล่องด้วย
นอกจากนี้ พวกเขายังเก็บเกี่ยววัตถุดิบหลักของนักรบมอนสเตอร์ระดับสูงหลายสิบตัวที่ถูกสังหารจากผลพวงของการต่อสู้ในสนามรบเมื่อก่อนหน้านี้
การเก็บเกี่ยวเหล่านี้จะกลายเป็นทรัพยากรการฝึกฝนเพื่อเพิ่มคะแนนคุณสมบัติ ซึ่งเพียงพอที่จะยกระดับความแข็งแกร่งของชูโจวไปสู่ระดับระดับพิเศษได้ไม่ยาก
เเละเมื่อถึงเวลานั้น หากจินจิงหวูมาเคาะที่ประตูบ้านเขาอีกครั้ง มันจะต้องพบกับความตายอย่างเเน่นอน
…….
ตากนั้นชูโจวและคนอื่นๆ ก็รีบกลับไปที่ฐานเสบียงทันที
นักรบในฐานเสบียงที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจลับ, ได้ระเบิดความโกลาหลครั้งใหญ่ทันทีเมื่อพวกเขารู้เรื่องภารกิจลับที่ชูโจวและคนอื่นๆ ปฏิบัติมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นเฉินปาโจวและมหาอำนาจอีกสามคนบินกลับมาพร้อมกับศพของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่….. พวกเขาก็ยิ่งเเสดงความโกลาหลมากขึ้น
"ชูโจว……นายต้องไปเยี่ยมฉันที่โรงยิมศิลปการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณในเมืองกวางตุ้งด้วยนะ!"
เซียวเตี๋ยบอกลาชูโจวและคนอื่นๆอย่างไม่เต็มใจจากนั้นกูถูกฟูหยานพาตัวไปทันที
ชูโจว, หลิงซาน, ซีเหมิง และหลี่ชิงฉีก็โบกมือลาเซียวเตี๋ย, ขณะที่ใบหน้าของพวกเขาก็เศร้าหมองเล็กน้อย
แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งอยู่ด้วยกันไม่ถึงหนึ่งวันแต่ในช่วงเวลาสั้นๆผู้หญิงคนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกรักเธอมาก
ในชีวิตจริง, บางคนสามารถกลายเป็นเพื่อนกันได้หลังจากคบกันได้ไม่ถึงหนึ่งวัน, เเต่บางคนเจอกันทุกวันก็ยังเป็นเพียงคนแปลกหน้า……..นี่คือความละเอียดอ่อนของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
………
"การเก็บเกี่ยวในภารกิจนี้….. หลังจากเปลี่ยนเป็นทรัพยากรการเพาะปลูกเเล้ว ก็เพียงพอสำหรับพวกเราจะฝึกฝนได้เป็นเวลานาน……ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะอยู่ในฐานเสบียงนักรบและฝึกฝนต่ออีกสักระยะหนึ่งแล้วพวกคุณล่ะ, มีเเผนอะไรกันบ้าง?" ชูโจวยิ้มและหันไปถามพวกหลิงซานทั้งสามคน
"ฉันตัวคนเดียว มีดาบเพียงเล่มเดียว….ตราบใดที่ฉันสามารถฝึกดาบได้ จะอยู่ที่ไหนมันก็เหมือนกันหมด ดังนั้นในฉันจะอยู่ที่นี่กับนายด้วย" หลิงซานกล่าวด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า
ชูโจวมองจ้องลึกไปที่ดวงตาของหลิงซานเเละเขารู้สึกถึงความเหงาที่ทะลุถึงไขกระดูก, และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินหลิงซานพูดถึงประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง
ตามลำพัง?..... เป็นไปได้ไหมว่าหลิงซานเป็นเด็กกำพร้า?
“ฉันก็จะอยู่ที่นี่เหมือนกัน ที่นี่สามารถออกไปล่ามอนสเตอร์ได้ทุกเมื่อ ดังนั้นฉันจะใช้มอนสเตอร์รอบๆนี้เพื่อฝึกฝนทักษะการลอบสังหารของฉัน” หลี่ชิงฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ในเมื่อพวกนายทุกคนอยู่ที่นี่... แน่นอนว่าฉันก็จะอยู่ด้วยเหมือนกัน ไม่ยอมให้ทุกคนได้ฝึกหนักเเล้วนำหน้าไปเเน่ๆ" ซีเหมิงพูดติดตลก
"เอาล่ะ งั้นมาอยู่ที่ฐานเสบียงนักรบและพัฒนาตัวเองกันเถอะ" ชูโจวสรุป
เเต่อันที่จริงเขารู้จริงว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาเลือกจะอยู่ที่นี่ พวกหลิงซานทั้งสามอาจจะกลับไปเจียงเฉิงเพื่อพักผ่อน, ท้ายที่สุดแล้ว คนไม่ใช่เครื่องจักร ผู้คนส่วนใหญ่จะเลือกที่จะกลับเข้าเมืองเพื่อพักผ่อนสักระยะหลังจากภารกิจการออกล่ามอนสเตอร์
……
หลังจากตกลงที่จะอยู่ที่นี่ต่อ หลี่ชิงฉีก็นำวัสดุมอนสเตอร์ทั้งหมดที่พวกเขาเก็บเกี่ยวได้ไปให้เจ้าหน้าที่ที่ฐานเพื่อจัดการกับพวกมัน
จากที่ตกลงกันก่อนหน้านี้เเล้วว่าสารอาหารเสริมพันธุกรรมมอบให้กับชูโจวทั้งหมด(ส่วนวัสดุอื่นๆเป็าของคนอื่น), ชูโจวจึงหยิบกล่องสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับสูงและกล่องสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับกลางและเข้าไปในห้องพักของตนเองโดยตรง
ภายในห้าวัน สารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับสูง 50 ชนิดและสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับกลาง 50 ชนิดได้ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายของชูโจวทั้งหมด, หลังจากใช้หมดเเล้วเขาก็ทำการจ้องไปที่แผงคุณสมบัติของตัวเอง
ชื่อ: ชูโจว (ผู้ปลุกพลังขั้นสูง, สนามพลัง ระดับ 32)
คะแนนคุณสมบัติ : 2375
- เทคนิคการหายใจขั้นพื้นฐาน (ระดับ A): ขั้นที่ 17 (รูปแบบการหมุนวน) (สามารถอัพเกรดได้)
- ย่างก้าวลวงตา (ระดับ B): ขั้นที่ 2, เชี่ยวชาญ (สามารถอัพเกรดได้)
- ร่างไทเทเนียมทองคำ (ระดับ C): ขั้นแรก (เกราะสามเหลี่ยม) (สามารถอัพเกรดได้)
- มิเอะชิ (ระดับ SS): ระดับเริ่มต้น (สามารถอัปเกรดได้)
- การทำสมาธิรูปแบบเจดีย์ (ระดับ A): ยังไม่เริ่มต้น
- ฝ่ามือมีด (ระดับ D): ขั้นที่ 5 - ปรมาจารย์ (สามารถอัพเกรดได้)
- เท้าใบมีด (ระดับ D): ขั้นที่ 4 - สมบูรณ์แบบ (สามารถอัพเกรดได้)
เมื่อเห็นตัวเองมีคะแนนคุณสมบัติทั้งหมด 2375 คะแนน ชูโจวก็ยิ้มกว้างทันที…… นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีคะแนนคุณสมบัติมากมายขนาดนี้
"ดูเหมือนว่าประสิทธิภาพของสารอาหารเสริมพันธุกรรมจะเร็วกว่าการกินเนื้อมอนสเตอร์จริงๆ……. การกินเนื้อมอนสเตอร์ถูกจำกัดด้วยความสามารถในการย่อยของร่างกาย ฉันกินได้เเค่สามมื้อต่อวัน..."
"แต่ข้อจำกัดของสารอาหารเสริมพันธุกรรมนั้นดีกว่ามาก ฉันสามารถฉีดสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับสูงได้ถึง 10 มื้อต่อวัน และสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับกลาง อีก 10 มื้อต่อวัน..."
ชูโจวพึมพำกับตัวเอง จากนั้นมองไปที่คอลัมน์ทักษะ "มิเอชิ (ระดับ SS): เริ่มต้น (สามารถอัพเกรดได้)
ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา นอกจากการฉีดสารอาหารเสริมพันธุกรรมระดับสูงอย่างต่อเนื่องแล้ว เขายังฝึกฝนและทำความเข้าใจทักษะดาบมิเอะชิอย่างต่อเนื่อง
ฉากที่ผู้อำนวยการเฉินปาโจวและคนอื่นๆ ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นั้นประทับใจเขามาก, โดยเฉพาะฉากที่นายพลเสวี่ยใช้ดาบในการต่อสู้……ซึ่งสิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขามากที่สุด
ดังนั้น,ในช่วงห้าวันที่ผ่านมาเขายังคงนึกถึงฉากที่นายพลเสวี่ยหยิบดายออกมาต่อสู้และในที่สุดเขาก็เข้าใจเทคนิคดาบมิเอะชิระดับเริ่มต้นได้
สำหรับชูโจวเเล้วไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการหายใจ, ทักษะการต่อสู้, ทักษะการฝึกร่างกาย, ทักษะการทำสมาธิ...หรืออะไรก็ตาม, ตราบเท่าที่เขาเข้าสู่ระดับเริ่มต้นเเล้ว….. ที่เหลือก็จะง่ายมากเพราะทุกอย่างจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ "พรสวรรค์เเผงคุณสมบัติ" ของเขา
……
"เทคนิคการหายใจเป็นหัวใจหลักของทุกสิ่ง มาอัพเกรดเทคนิคการหายใจก่อนเเล้วกัน!"
จากนั้นชูโจวก็สั่งให้แผงคุณสมบัติอัพเกรดเทคนิคการหายใจให้ถึงขีดจำกัดที่จะสามารถอัพเกรดได้ในตอนนี้
ติ้ง!
ในช่วงเวลาสั้นๆ แผงคุณสมบัติกลายเป็นกลุ่มของภาพลวงตาที่มีความถี่สูงและปรากฏข้อมูลจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังอัปเดตด้วยความเร็วสูงในภาพลวงตานั้น
ในขณะเดียวกันชูโจวที่อยู่ภายใต้ผลกระทบของแผงคุณสมบัติ, เขาได้เข้าสู่สถานะของการบ่มเพาะเทคนิคการหายใจขั้นพื้นฐานโดยสัญชาตญาณ, เเละมันทำให้เส้นทางการเดินทางของพลังในร่างกายของเขาซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ภายนอกร่างกายของชูโจวมีแสงหลากสีจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันที่รอบๆร่างกายของเขา, นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแสงพลังงานของธาตุต่างๆ เช่น ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ฯลฯ โผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าและหมุนวนจนสุดท้ายมาบรรจบกันที่ร่างกายของเขา
อย่างไรก็ตาม, ครั้งนี้กลุ่มแสงและพลังงานเหล่านี้ไม่ได้รวมกันเป็นกระแสน้ำวนหลากสีเหนือศีรษะของเขา เเต่กลับหมุนรอบตัวเขาด้วยความเร็วสูงแทน
เเละทันใดนั้น เส้นพลังงารสีดำที่บิดเป็นเกลียวก็ปรากฏขึ้นบนผิวกายของเขา ราวกับเหวขนาดเล็กที่กลืนกินได้ทุกสิ่ง, กลุ่มแสงและพลังงานทั้งหมดได้ถูกกลืนหายไปด้วยเส้นพลังสีดำที่บิดเบี้ยวนี้
ในห้องที่เขาอยู่ แสงรอบๆเริ่มมืดลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า, ในที่สุดทั้งห้องก็กลายเป็นความมืดมิดจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เลย
ในตอนนี้เอง ชูโจวรู้สึกได้ถึงพลังงานจักรวาลนับไม่ถ้วนกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง หล่อหลอมร่างกาย อวัยวะ เซลล์ ยีน ฯลฯ ของเขาทุกด้าน, เเละเขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสนามพลังของเขากำลังพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ!
เเละกระบวนการนี้ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงเต็มก่อนที่มันจะหยุดลงอย่างช้าๆ, จากนั้นห้องก็กลับสว่างไสวเหมือนเดิม
ชูโจวค่อยๆ ลืมตาขึ้น ปล่อยลมหายใจยาวๆ และตอนนี้เขารู้สึกได้เลยว่าเขาแข็งแกร่งมากกว่าก่อนหน้านี้ถึงสิบเท่า
ในขณะนี้เขารู้สึกได้เลยว่าด้วยหมัดเดียวของเขา, เขาสามารถระเบิดตึกระฟ้าได้โดยตรง
จากนั้นเขาก็มองไปที่แผงคุณสมบัติของตัวเอง
…
ชื่อ: ชูโจว (ผู้ปลุกพลังขั้นสูง สนามพลัง 402 (+370))
คะแนนคุณสมบัติ : 125
เทคนิคการหายใจขั้นพื้นฐาน (ระดับ S): ขั้นที่ 42 (รูปแบบเหวลึก) (ยังไม่สามารถอัพเกรดได้)
…
"เทคนิคการหายใจขั้นพื้นฐานได้รับการอัพเกรดเป็นขั้นที่ 42, ซึ่งตอนนี้มันเทียบได้กับเทคนิคการหายใจระดับ S เเล้ว"
"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสนามพลังเพิ่มขึ้น 370 ตอนนี้เป็นระดับ 402 เเล้ว!"
"ปกติเเล้วขีดจำกัดล่างสุดสนามพลังของนักรบขั้นพิเศษระดับต้นคือ 100,
ขีดจำกัดล่างสุดสนามพลังของนักรบขั้นพิเศษระดับกลางคือ 200
ขีดจำกัดล่างสุดสนามพลังของนักรับขั้นพิเศษระดับสูงคือ 300..."
"...ดังนั้นด้วสถานการณ์ตอนนี้ สนามพลังในปัจจุบันของฉันมีมากกว่านักรบขั้นพิเศษระดับสูงหลายคนเเล้ว"
"แม้ว่าฉันจะยังไม่ได้ปลดล็อคยีนขั้นที่สอง…... แต่ตอนนี้ นักรบขั้นพิเศษระดับต้นและระดับกลางล้วนไม่ใช่คู้ต่อสู้ของฉันเเล้ว" ชูโจวตื่นเต้นอย่างมาก, เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพัฒนาไปได้มากขนาดนี้ในเวลาเเค่ 5 วัน
…..
อีกด้านหนึ่ง, ในถ้ำห่างที่จากซากปรักหักพังของฐานการทดลองลับหลายสิบไมล์ จู่ๆ ร่างที่ห่อด้วยเลือดก็พุ่งออกมาจากถ้ำ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ขั้นพิเศษ, ในที่สุดฉันก็ได้เลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นพิเศษเเล้ว"
“ชูโจว เเกคงจะคิดไม่ถึงว่าฉันยังไม่ตาย เเถมตอนนี้ฉันยังได้เลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นพิเศษอีกด้วย”
“ครั้งนี้ ฉันจะท้าทายเเกโดยตรงในการท้าประลองเป็นตาย... จากนั้น ฉันจะทรมาเเกจนตายในการประลองนี้!”
ใบหน้าของจินจิงหวูปรากฏความโหดร้าย, จากนั้นร่างของเขากลายเป็นภาพติดตา และรีบเดินทางกลับไปที่ฐานเสบียงนักรบด้วยความเร็วสูงสุด
(กลับไปหาตีนชัดๆ (-___-))
…………………….