ตอนที่ 1143 มีใครอยู่บ้างไหม?
ปรากฏว่ายานแม่กระทุงที่บินด้วยเร็วสูงราบรื่นแทบไม่รู้สึกกลับหยุดนิ่งกะทันหัน เหมือนกับติดเบรคในอากาศ
ผู้คนบนยานถลาพุ่งไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้
คนที่ตอบสนองช้าไม่สามารถหยุดยั้งตัวได้
ก็ร่วงลงจากดาดฟ้า
คนส่วนใหญ่อยู่ในท่าต่างๆ กันสิ่งของต่างๆ บนเรือร่วงตกลงมาแตกกระจาย ฉากภาพแบบนี้เห็นได้ยากมาก คาดว่าทั่วทั้งยานแม่คงไม่ได้ทดลองเหตุฉุกเฉินมาหลายปีนับแต่เปิดใช้บริการสีหน้าของกาดำที่เฝ้ามองดูเย่ว์หยางเปลี่ยนไปเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วมากรีบพุ่งไปที่ทางเข้าและสังเกตร่องรอยศัตรูอย่างรอบคอบฮัวยาและโจรดวงดาวคนอื่นมีสีหน้ากลัวเล็กน้อย “เจ้าเฝ้าเขาไว้ก่อนอย่าให้ใครเข้ามาใกล้ ข้าจะออกไปตรวจสอบสถานการณ์และจะรีบกลับมาทันที! เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการตอบโต้ของกัปตันกริฟฟินแม่ทัพอินทรีทองและเหมาพั่วตี้กับคนอื่น ถ้าเหมาพั่วตี้มาช่วยคนจริงๆ เจ้าสามารถพาเขาลงเรือชูชีพหนีไปได้เลย”
ฮัวยามองดูกาดำพุ่งจากไปราวกับสายฟ้า เขารีบปิดห้องพักทันที
เขาหันหน้ามายิ้มให้เย่ว์หยาง “เราผู้พี่ไม่สงสัยเจ้าทั้งไม่ช่วยเจ้าออกไปตอนนี้ เราจะรอฟังข่าวอยู่ที่นี่!”
เย่ว์หยางพูดไม่ออก เจ้าสามารถใช้สมองน้อยๆ ของเจ้าก็ได้หรือ? ถ้าเป็นศัตรูพวกเขาจะร่วมมือหรือไม่
ห้องโดยสารไม่อาจปิดได้!
แน่นอน ถ้าฮัวยาไม่หัวเราะอารมณ์ดี เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาไม่ได้เลวร้ายกับตนเอง
กาดำรีบวิ่งไปที่จัตุรัสนักรบด้วยความเร็วสูงสุด แต่โศกนาฏกรรมนองเลือดที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าทำให้เขาตกใจ ข้างหน้าเขาเป็นซากศพนับไม่ถ้วนแขนขาบิดผิดรูปกองพะเนินอยู่ข้างหน้า
เหมือนภูเขาซากศพ
บนพื้นมีโลหิตไหลนองเป็นท้องธาร!
ปรากฏว่าทหารชายแดนพ่อค้ารวมทั้งโจรดวงดาวที่ถูกกักกันตัวที่นี่ชั่วคราวทั้งหมดถูกฆ่าตายซากศพนับพันนับหมื่นกองซ้อนกัน บนพื้นเต็มไปด้วยแขนขาที่และศีรษะคนตายกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แม้ว่ากาดำจะเป็นคนเข้มแข็งผ่านความเป็นความตายมามากก็ยังอาเจียนออกมาทันที
กาดำอาเจียนออกมาขณะที่สั่นไปทั้งตัวราวกับอยู่ในห้องเก็บน้ำแข็ง
ตอนนี้ เขาเข้าใจขึ้นมาบ้าง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผน
ศัตรูที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ไม่สนใจความเป็นความตายของตัวประกัน แม้ว่าพวกเขาวางแผนที่จะใช้ชีวิตของผู้คนนับหมื่นเหล่านี้เพื่อต่อรอง
ยานแม่กระทุงนี้แปดเปื้อนเลือดจะกลายเป็นหลักฐานกล่าวหาที่รุนแรงกล้าแข็งบางอย่างในอนาคต และกลุ่มที่จะตกเป็นเป้าหมายระบายความโกรธแค้นในอนาคตก็คือกลุ่มโจรดวงดาว
ครั้งนี้โจรดวงดาวเผชิญหน้ากับหายนะทำลายล้างสาหัส
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือการสมคบคิดทั้งหมดเหล่านี้ก่อตัวขึ้นแล้ว สถานการณ์โดยรวมได้ถูกกำหนดไว้แล้วและโจรดวงดาวไม่สามารถเถียงได้!
เรื่องนี้ต้องรายงานต่อพยัคฆ์บินอินทรีป่าและฟลามิงโกทันที ไม่มีเวลาจี้ยานแม่กระทุงและใช้สิ่งนี้เป็นฐานพัฒนาเติบโตเป็นรากฐานตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องหลบหนีจากนี้ไปโจรดวงดาวจะกลายเป็นเป้าหมายความโกรธเกรี้ยวของนักสู้ระดับเทพ หากเขาไม่รีบออกไปหลบซ่อนตัวโดยเร็วที่สุดโจรดวงดาวอาจถึงกาลอวสานตลอดกาล!
“ฮึ่ม!” เสียงคำรามเจ็บปวดดังขึ้นมาจากที่ไกลเหมือนสัตว์ร้ายบาดเจ็บจากการถูกนายพรานไล่ล่าและส่งเสียงกรีดร้องคร่ำครวญ
“เป็นเจ้ากระทุง เขากำลังถูกรุมเล่นงาน..นี่เป็นการบอกว่าห้องควบคุมตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรูกลุ่มนักสู้ของโจรดวงดาวที่นั่นล้วนแต่เป็นนักสู้ฝีมือดี เจ้ากระทุงหยุ!” กาดำยังคงเยือกเย็นในห้วงอันตรายสุดขีด เขารีบข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นรีบไปช่วยเหลือก่อนอื่นเขารีบขึ้นไปบนหลังคาเพื่อตรวจดูภาพรวมข้างนอกและพบว่ายานแม่นกกระทุงหยุดตรงข้างหน้าเขตอุกกาบาตที่อันตราย กาดำรีบกดเปลือกตาตนเองสูดหายใจลึกสะกดอารมณ์ที่ว้าวุ่นในใจเขารีบไปยังที่ๆ เขาได้ยินเสียงคำรามเจ็บปวดก่อนหน้านั้น
บุรุษร่างใหญ่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยบอบช้ำได้ต่อต้านศัตรูที่รุมล้อมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ศัตรูหลายคนที่รายล้อมบุรุษร่างยักษ์มีไหวพริบผิดปกติ
ไม่มีการโจมตีด้านหน้าโดยตรงแม้แต่น้อย
พวกมันใช้วิธีวนสู้และล่าให้คนหรือสองคนหลอกล่อ อีกคนหนึ่งฉวยโอกาสลอบโจมตี
แม้ว่ากลยุทธ์หมาป่านี้จะไม่สามารถฆ่าได้ในทันทีแต่ก็มีประสิทธิภาพมากพวกเขาใช้พลังมากมายทำให้บุรุษร่างยักษ์เหนื่อยล้าและไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะไม่สามารถต้านทานศัตรูได้และจะถูกฆ่าในที่สุด
สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือความเร็วของศัตรูนั้นเร็วกว่าบุรุษร่างยักษ์ที่เนื้อตัวโชกเลือดอยู่มาก
เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษร่างยักษ์จะต่อสู้และหนี
ถ้าไม่ใช่เพราะกาดำมาถึงเจ้ายักษ์ร่างโชกเลือดคงตายอย่างแน่นอน ส่วนจะล้มลงเมื่อไหร่เป็นเรื่องของเวลา
“เจ้าโง่! ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!” กาดำรีบพุ่งลงไปที่สนามรบเหมือนกับสายฟ้าสีดำเสื้อคลุมดำของเขาปรากฏเหมือนกับกำแพงทองแดงผนังเหล็กป้องกันการโจมตีของศัตรูที่เจ้าเล่ห์ทั้งสองให้เจ้ายักษ์ร่างโชกเลือดในขณะที่ต่อต้านป้องกันได้สำเร็จกาดำโบกชุดคลุมของเขาอย่างรุนแรงใช้พลังต้องห้ามที่มิอาจต้านทานได้ สองคนที่กำลังจู่โจมกระเด็นออกไปสิบเมตรกระอักโลหิตได้รับบาดเจ็บสาหัส
“กาดำใช่ไหม? ดีเป็นการประหยัดเวลาไม่ต้องเสียเวลาตามหา ข้านึกไม่ถึงเลยว่าหนูจะวิ่งออกมาให้จับเอง!” ในท่ามกลางความมืดไกลออกไปมีศัตรูกำลังปรบมือยกย่อง
“ปีกดำ! เจ้าโง่ เจ้ามักจะฉลาดมากในเวลาปกติ ทำไมเจ้ามาโง่เอาในเวลานี้? ทำไมเจ้าวิ่งมาหาที่ตาย? เจ้าไม่เห็นข้าหรือ? ไม่เพียงแต่เจ้าไม่สามารถช่วยข้าไปจากที่นี่ได้ แต่เจ้าเข้ามาอย่างนี้ ต้องการให้ข้าคลั่งใจตายหรือ? ในขณะที่ข้ายังเหลือพลังอยู่เล็กน้อยรีบทิ้งข้าหนีไปไกลๆ จากนั้นค่อยมาล้างแค้นให้ข้า ข้าฝากไว้กับเจ้าด้วย!” บุรุษร่างยักษ์ที่เต็มไปด้วยเลือดเห็นกาดำแทนที่จะดีใจ แต่เขากับโกรธจัดและด่าทอ
“หนีไปด้วยกัน ธอร์นตัน,แม้ว่าเราจะผิดใจกันบ้าง แต่ตอนนี้เป็นเวลาเคียงไหล่เคียงสู้กัน เจ้าไม่สามารถมีชีวิตโดยขาดข้าได้! ถ้าข้าก็ติดแหงกอยู่ที่นี่ เจ้าก็ต้องมาช่วยข้าเหมือนกัน” กาดำกดหมวกลงบังนัยน์ตาเขาไว้และยืนอยู่หน้ายักษ์ร่างโชกเลือด
“เราเป็นโจรยังจะมาพูดเรื่องความซื่อสัตย์อะไรอีก มิน่าเล่าชีวิตเจ้าถึงไม่มีอนาคต” ยักษ์โชกเลือดพูดเสียงดุและหลั่งน้ำตา
เป็นน้ำตาปนสายเลือด
น้ำตาไหลผ่านแผลที่แก้มซึ่งถูกอาวุธมีคมฟันใส่
ในท่ามกลางความมืดมีบางคนปรบมือเสียงดังพร้อมกับตะโกน “เป็นพี่น้องที่ดี เป็นพี่น้องที่มีมิตรภาพลึกซึ้งยิ่งกว่าพี่น้องท้องเดียวกันเสียอีกน่าอิจฉาจริงๆ ทำไมศพบินอย่างข้าถึงไม่มีพี่น้องดีๆ อย่างนี้กับเขาบ้าง?
ขณะนั้นมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกหนึ่งในความมืดเย้ยหยันขึ้น “ศพบิน! เจ้าต้องการมีพี่น้องที่นี่หรือ? ถึงได้พูดเรื่องมีพี่มีน้อง?”
บุรุษผู้ปรบมือกระแอมสำลักและหัวเราะ “ข้าก็แค่นึกสนุกไปอย่างนั้นใครจะมาดีกว่าผีตะกละเจ้าเล่า อย่างน้อยข้าไม่เคยเห็นคนอื่นที่น่าเกลียดกว่าตอนที่เจ้ากินหัวมนุษย์และข้าไม่ไม่เคยได้ยินว่ามีคนอื่นกินหน้ามนุษย์ทั้งเป็นเพื่อความบันเทิงใจสูงสุด ผีตะกละ! พูดถึงคนผิดปกติอย่างเจ้าแล้ว ก็น่าชื่นชมเหมือนกัน!”
แขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกคนไม่โกรธแต่เขาหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำอีก “ข้าไม่ใช่ตัวดีงามอยู่แล้วเจ้าก็ไม่ใช่ เราทุกคนเป็นขยะที่สามารถทำงานร่วมกันได้? อย่างนี้เขาเรียกว่าคอเดียวกัน ทำอะไรคล้ายๆ กันพร้อมกัน ศพบิน! เจ้าไม่คิดว่าเจ้าอยู่บนเส้นทางแสงสว่างที่ยอดเยี่ยมหรือ”
ศพบินและผีตะกละ?
กาดำและยักษ์ร่างโชกเลือดได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยน
กาดำได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับสองคนนี้ที่จะเริ่มกัดกันเหมือนสุนัขทันทีที่พวกเขาพบกัน
ไม่ว่าจะเป็นศพบินหรือผีตะกละ พวกเขาทุกคนอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของจอมพลแห่งอาณาจักรเทพประจิมกู้ไห่ กู้ไห่มีพลังระดับขุนพลเทพมีนักสู้ในสังกัดพันคน แต่มีเพียงห้าคนเท่านั้นซึ่งเป็นที่จดจำ ได้แก่หนอนพิษ,ศพบิน, ผีตะกละ, ไฟนรก, ภูตพราย ทั้งห้าคนนี้ไม่เพียงแต่ชั่วร้ายแต่เป็นเหมือนสุนัขล่าเนื้อที่ขึ้นชื่อแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาและหุบเขาโลกธาตุแต่ยังมีความแข็งแกร่งระดับขุนพลเทพซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถสังเกตเห็นได้ยกเว้นเทพทั้งแปดและนักสู้ระดับสุดยอดขุนพลเทพนักรบอื่นไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือวายร้ายทั้งห้านี้คุ้นเคยกับการลงมือร่วมกัน
ปกติถ้ามีคนหนึ่งปรากฏตัวอีกสี่คนจะอยู่ไม่ไกล
ตอนนี้ที่นี่ปรากฏสองคน ที่เหลือคือหนอนพิษไฟนรกและภูตพรายสามคนยังจะอยู่ห่างหรือ?
วายร้ายทั้งห้าปรากฏตัวเช่นนี้นับเป็นลางร้ายตอนนี้กาดำเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าทำไมผู้คนนับหมื่นในจัตุรัสนักรบถึงได้ถูกสังหารอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลว่า เพราะวายร้ายจอมอำมหิตทั้งห้ามาถึงแล้วพวกเขาจึงสังหารชีวิตคนบริสุทธิ์นับพันนับหมื่น
หือ?
เดี๋ยวก่อน!
ห้าวายร้ายมาถึงที่นี่ทำไมยังต้องรออีกนาน มีเพียงสองคนหรือ?
อีกสามคนอยู่ที่ไหนคำตอบทำให้กาดำตัวเย็นเฉียบ... เด็กหนุ่มนั่น พวกเขาต้องไปฆ่าเด็กหนุ่มนั่น! เด็กหนุ่มนั่นคือผู้ทำสัญญาจ้างของเทพอาคเนย์ บางทีเทพอาคเนย์ฝึกฝนเด็กหนุ่มนั่นขึ้นมาอย่างลับๆ ตอนนี้หากห้าจอมโฉดฆ่าเขาแล้วป้ายสีไปที่โจรดวงดาวเขาคงไม่สามารถรับความผิดนี้ได้ เทพอาคเนย์ได้สูญเสียยานแม่ไป แม้ว่าจะโกรธ แต่ยานแม่สามารถกู้คืนได้แต่ถ้าลูกศิษย์ที่เขาฝึกขึ้นมาถูกฆ่า นั่นจะไม่มีวันฟื้นตัวได้เลย!
ถ้าเป็นเช่นนั้น อย่างนั้นโจรดวงดาวจบสิ้นแน่นอน!
แปดอาณาจักรเทพอาจตกอยู่ในภาวะสงครามและหุบเขาโลกธาตุกับขุนเขาเหนือขุนเขาอาจถดถอยนับเวลาถอยหลังเข้าสู่การทำลายก่อนกำหนดเวลา
อย่างไรก็ตามคนที่หัวเราะคนสุดท้ายอาจเป็นผู้ชนะที่แท้จริงที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดคอยปลุกปั่นหลายฝ่ายให้เข้าใจผิดต่อไป
“ไม่, เราไม่อาจตายได้ เราต้องช่วยคนก่อน เราต้องช่วยให้คนผู้นั้นหนีรอดจากยานกระทุงและเอาความจริงที่นี่ไปบอกต่อชาวโลก!” ยิ่งกาดำคิดมากเท่าใดเขาตะโกนใส่เจ้านกกระทุงยักษ์ที่หน้าไร้สีเลือดด้วยความสิ้นหวัง “ตายพร้อมกันกับข้า แต่เรายังตายตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเราตายที่นี่ อย่างนั้นทุกอย่างจบสิ้น!”
“เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ!” กระทุงยักษ์กำหมัดแน่น “แต่ก่อนที่ข้าจะตาย ข้าจะทำในสิ่งที่เจ้าพูด เจ้าฉลาดกว่าข้า ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก!”
ขณะนั้นห้องโดยสารเงียบสนิท
ได้ยินแต่เสียงหายใจ
เย่ว์หยางนอนหนุนแขนตัวเองบนโซฟาไขว่ห้างพริ้มตาลงเหมือนว่าหลับไป
ฮัวยาและโจรดวงดาวอีกสองสามคนกระสับกระส่ายแม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าส่งเสียง แต่พวกเขาจ้องมองไปทางประตูอย่างใจจดใจจ่อรอให้กาดำกลับมาเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พวกเขาเบื่อ ขณะนั้นเองพวกเขาได้กลิ่นคาวเลือดแม้แต่ประตูก็ไม่สามารถป้องกันกลิ่นได้
เพราะเลือดเหล่านั้นซึมเข้าไปในประตูที่ปิดสนิทผ่านเข้าไปทางผ่านเล็กๆ
“มีใครอยู่ข้างในไหม?”
ขณะที่ฮัวยาอึดอัดอยู่นั้นทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูเบาๆ ที่ข้างนอก