ตอนที่ 1140 พบชิ้นส่วนวัตถุโบราณ
ทุกคนเห็นเย่ว์หยางแล้วพูดไม่ออก
กลายเป็นตัวประกัน
ทุกคนหวาดผวาและกลัวที่จะหลบหนี แต่เจ้าเด็กนี่ร่ำร้องมิอาจรอมีส่วนร่วมในกระบวนการ นี่เขาแยกแยะไม่ออกจริงๆหรือว่าควรจะดูอยู่เฉยๆ?
รวมทั้งกาดำที่เห็นการแสดงออกของเย่ว์หยางก็อดทึ่งไม่ได้ เขาหัวเราะลั่น “ไม่เลวไม่ว่าจะทำอะไรที่สำคัญ ไม่ต้องพูดถึงก็ได้ อย่างน้อยก็มีทัศนคติที่ถูกต้องข้าต้องขอโทษทุกคน แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ข้าค่อนข้างดูถูกและเห็นแก่การหยอกเล่นเล็กน้อย ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ต่อไปนี้ข้าจะตัดสินใจว่าต่อแต่นี้ไปข้าจะเอาจริงในฐานะโจรดวงดาวมืออาชีพ!”
บุรุษร่างใหญ่คนหนึ่งใช้มือข้างหนึ่งจับกัวกัวและอีกข้างหนึ่งชิงมีดจากเย่ว์หยางและมีปฏิกิริยาคล้ายกัน “กาดำ ข้าไม่สนใจว่าสองคนนี้เป็นใครไม่สนใจว่าเจ้าจะมีกลอุบายใด ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น ข้าจะฆ่าพวกมันจริงๆ!”
กัวกัวหวาดกลัวจนปัสสาวะแทบราด
นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไป
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้โดยสารบริสุทธิ์ แต่โชคร้ายถูกชิงตัวมาเป็นโล่มนุษย์สหายพวกโจรดวงดาวไม่มีวิธีจำแนกโจรหรือ?
กาดำที่หัวเราะอยู่แล้วกลับหัวเราะลั่น “ฆ่าเลย ฆ่าพวกมัน ถ้ายังไม่พอก็จับพวกที่อยู่ข้างๆ ฆ่าอีกด้วยข้ายกให้เจ้าฆ่าแก้เครียดได้เลย ไม่ว่ายังไงคนพวกนี้เลี้ยงไปก็เปลืองข้าวสุกยังไงต้องโยนทิ้งอีกหลายคนอยู่แล้ว เจ้าเต็มใจช่วยข้าก็นับว่าดีแล้ว!”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าหรือ?” บุรุษร่างใหญ่โกรธจัดจนตัวสั่น
“ก็ฆ่าไปสิ!” กาดำไม่ยอมแม้แต่จะมองเขา
“เจ้าขยะ!” บุรุษร่างใหญ่ไม่รอให้กัวกัวร้องของความเมตตา ใช้ร่างกัวกัวเป็นโล่มนุษย์เสียงกัวกัวร้องลั่นไม่หยุด คิดว่าร่างกายของเขาคงแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้วแต่ก็พบว่าร่างกายของเขาถูกทำลายตั้งนานแต่ไม่มีความเจ็บปวดอะไรเลยเขามองขึ้นไปทันใดและพบว่าบุรุษร่างใหญ่กระโจนขึ้นไปเหมือนเสือบินเข้าหาบุรุษชุดดำ
“เหลวไหล” เย่ว์หยางส่ายหน้าและประเมินผลที่เข้าใจได้ยาก
แม้ว่าบุรุษร่างใหญ่จะตัวสูงใหญ่ แต่เขาไม่ได้งุ่มง่าม กลับเคลื่อนที่ได้ปราดเปรียวเหมือนเสือดาว
ในท้องฟ้าเขาหลบการรุมล้อมของโจรดวงดาวได้
เขาหลบเลี่ยงในอากาศได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ในท่ามกลางวงล้อมเส้นทางหนีถูกบีบแคบ จากนั้นเขาพุ่งไปหากาดำที่อยู่บนพื้น
กาดำที่อยู่ในชดคลุมดำดูเหมือนไม่ได้คิดว่าบุรุษร่างใหญ่จะมีความสามารถในการเคลื่อนตัวฝ่าอากาศและฏิกิริยาเขาช้าเล็กน้อยเมื่อหมัดของบุรุษร่างใหญ่ใกล้จะโจมตีถูกหน้าเขาอยู่แล้ว
บึ้ม!
เสียงระเบิดดังสนั่น
พลังหมัดที่กล้าแข็งพร้อมทั้งแรงระเบิดกวาดเข้าหากาดำที่อยู่ห่างออกไปมากกว่าสิบเมตรรวมทั้งคนที่อยู่ใกล้
ไม่ว่าจะเป็นโจรดวงดาวสมาชิกลูกเรือหรือพ่อค้านักธุรกิจที่ยกมือเหนือหัวโดยรอบที่กำลังมองภาพที่ปรากฏข้างหน้าต่างก็ลอยปลิวขึ้นไปในอากาศ ฉากภาพความวุ่นวายคนซ้อนเป็นชั้นบางคนก็ปลิวออกไปไกลร่วงลงในกลุ่มผู้ก่อความวุ่นวาย แรงระเบิดทำให้เกิดลมกระชากรุนแรงจนโจรดวงดาวไม่สามารถเดินขึ้นหน้าได้และคนที่อยู่ใกล้ไม่สามารถลืมตาได้...อย่างไรก็ตามพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ด้วยพลังหมัดได้
แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบแต่ความว่างเปล่า
บุรุษชุดคลุมดำอยู่ข้างหน้า
หน้าแข็งๆของเขาต้านรับหมัดเหล็กถล่มภูผาได้
เจ้ากาดำผู้สวมชุดคลุมดำมีหมัดค้างอยู่บนหน้าของเขา แต่เขากลับมีรอยยิ้มแปลกประหลาดไม่รู้ตัวเขากดมือลงเบาๆ ปล่อยให้หมวกส่งแรงสั่นสะเทือนไปที่มือข้างหนึ่งและรับแรงอัดกระแทกส่วนมืออีกข้างค่อยยกแขนของบุรุษร่างใหญ่ปาดออกไปด้านตรงข้ามพร้อมทั้งกระแทกหมัดใส่บุรุษร่างใหญ่อย่างหนักหน่วง
“ปัง!”
บุรุษร่างสูงใหญ่ถูกกระแทกร่างพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่
กระแทกกับโดมของจัตุรัสนักรบที่สูงหลายร้อยเมตรและสะท้อนพุ่งกลับมากระแทกกับพื้นเหมือนดาวตก
บุรุษร่างใหญ่หมดสติชั่วคราวศีรษะและเท้าของเขากองอยู่แทบชายเสื้อบุรุษชุดดำ
ทั่วทั้งจัตุรัสนักรบสั่นสะเทือน
บุรุษชุดดำชูมือสูงทำท่ามือเหมือนวาทยากรวงออเครสตาด้วยท่วงท่าที่สวยงามเต้นระบำปลายเท้า บุรุษร่างใหญ่ที่ร่วงอยู่กับพื้นพยายามท้าสู้อย่างดีที่สุด แต่ล้มเหลว!
ในฐานะผู้ชนะ บุรุษชุดดำไม่รีบร้อน
เขารออย่างเงียบสงบ
กำลังรอคนร่างใหญ่ที่หมดสติอยู่กับพื้น
“อา.....”ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด เสียงครางเจ็บปวดดังออกมาจากบุรุษร่างใหญ่ดวงตาของเขายังไม่เปิด แต่พอสติของเขาเริ่มฟื้นฟู ทำให้เขาเจ็บปวดทันที หน้าของเขากระตุกบิด บุรุษร่างใหญ่นอนราบกับพื้นสะบัดศีรษะอย่างแรงพยายามเรียกสติตัวเองและฝืนลุกขึ้นยืนบนพื้นทันทีอย่างไรก็ตามความปรารถนาของเขาไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะดิ้นรนยืนอย่างไร แขนที่อ่อนแรงของเขาไม่สามารถค้ำร่างที่หนักและโชกเลือดของเขาได้
“วัวบ้าอูปาถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้ากาดำได้ แล้วยังกล้ามาที่นี่เพื่อชิงยานแม่อีกหรือ? เจ้าต้องรู้ว่ามีนักสู้ระดับขุนพลเทพขึ้นยานมาถึงสองคน แค่ระดับผู้รับใช้เทพเล็กๆอย่างเจ้าแค่หัวหน้านายกองทหารเจ้ายังโค่นไม่ลง แล้วยังเสนอหน้ามาที่นี่ มิเท่ากับมาหาที่ตายหรือ?”
กาดำส่ายหัวและโบกมือยิ้มให้จริงใจ “บางทีเจ้าอาจไม่เต็มใจ แต่ข้าอาจบอกเจ้าอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ข้ากาดำนอกเหนือจากขุนพลเทพสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนยานแม่กระทุงพระยาราชสีห์และผู้บัญชาการทหารชายแดนอินทรีสายฟ้าแล้ว ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ข้าได้รวมทั้งเจ้า อสูรสายฟ้า เสือดาวโลหิตและฉีกู่ด้วย!”
บุรุษร่างใหญ่ตกใจและสงสัยเขาเค้นเสียงรอดไรฟัน “เป็นไปไม่ได้ข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!”
อีกาดำยิ้มและหัวเราะอย่างมั่นใจ “ข้าพูดความจริง”
บุรุษร่างใหญ่วัวบ้าอูปาคำราม “เจ้ามันเจ้าเล่ห์ กาดำ, พลังเจ้าไม่ชัดเจนสำหรับคนอื่น แต่ข้ามีหรือจะไม่เข้าใจ? เจ้าระดับเดียวกับข้าพลังระดับผู้รับใช้เทพ ทั้งยังเป็นรองข้า! ข้าไล่ตามโจมตีเจ้ามาเกือบสิบปี มีหรือจะไม่รู้ว่าเจ้ามีน้ำหนักแค่ไหน?ต้องเป็นเพราะเจ้าใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งแปลงพลังของข้าไปเป็นพลังอื่น”
กาดำไม่ปฏิเสธ
เขาสะบัดเสื้อคลุมไปด้านหลังและให้เสื้อคลุมพาบินขึ้นไปในอากาศ “เจ้าพูดถูก แต่นั่นมันเมื่อก่อน! ตอนนี้ข้าแตกต่างจากตอนนั้นวัวบ้าอูปา ข้าเอาชนะเจ้าได้แค่นิ้วเดียวก็พอแล้ว”
วัวบ้าอูปาได้ยินเช่นนี้สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเขาถามเสียงสั่น “เจ้าเอาพลังต้องห้ามมาใช่ไหม?พระเจ้า เจ้าตายแน่!”
กาดำหัวเราะ “ใช่,ถ้าใช้พลังต้องห้ามอย่างไม่เหมาะสมก็ตายจริงแต่ข้ารู้แล้วว่าจะใช้มันอย่างที่ถูกที่ควรอย่างไร จึงจะไม่ถูกคำสาปของเทพ และเจ้าก็รู้ว่ามีบางอย่างที่ปกป้องเจ้า แม้ว่าเจ้าจะใช้พลังต้องห้ามนั่นก็ไม่สำคัญ!”
คนทั่วไปสับสน
แต่เย่ว์หยางผู้มีจักษุญาณทิพย์สังเกตได้ว่าในเสื้อคลุมดำของกาดำที่คอจะมีสร้อยคอจี้สีม่วงชิ้นหนึ่ง
ดูเหมือนไม่ใช่หินแร่ หรือทองหรือโลหะ แต่เป็นของใหม่ที่เย่ว์หยางไม่เคยเห็นมาก่อน มองอย่างผิวเผิน มันธรรมดามาก ถ้าใครไม่รู้อาจคิดว่าเป็นของตกแต่งที่ปลายปกคอชุดคลุมอย่างไรก็ตามในสายตาของเย่ว์หยาง เขาสามารถเห็นจี้นี้เหมือนเศษเสี้ยวพลังเทพพลังเทพแบบนี้ค่อนข้างสงบไม่ก้าวร้าวนอกจากนี้ยังมีความอ่อนโยนต่อร่างกายสิ่งมีชีวิตซึ่งเนื่องกันและมองไม่เห็นเงียบสงบ
เพราะสิ่งนี้ กาดำใช้พลังต้องห้ามกับวัวบ้าอูปาอย่างไร้ยางอาย
แต่เท่าที่เย่ว์หยางสังเกต
กาดำฉลาดมาก เขาไม่ใส่พลังต้องห้ามกับร่างเขาแม้แต่น้อย แต่ติดเข้ากับชุดคลุมสีดำด้วยวิธีที่ไม่มีใครรู้ ถ้ากาดำถอดชุดคลุมดำออกเชื่อได้ว่าพลังการต่อสู้จะลดลงทันทีร้อยเท่า แต่ตอนนี้เขาเทียบเท่ากับสวมใส่ชุดเกราะที่ดีที่สุดและมีอาวุธที่ดีที่สุด...สามารถใส่พลังต้องห้ามบนเสื้อผ้าชุดคลุมดำความแข็งแกร่งและการข่มพลังอย่างสงบของชิ้นส่วนจี้ทำให้เย่ว์หยางอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
ชิ้นส่วนจี้นี้คืออะไรกันแน่?
โบราณวัตถุ!
เย่ว์หยางแทบไม่ต้องคิด ชื่อนี้ก็ผุดแว่บขึ้นมาในใจ
คำอธิบายเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถโน้มน้าวใจเย่ว์หยางไม่อย่างนั้นแม้ว่าจะเป็นขุนเขาเหนือขุนเขาในหุบเขาโลกธาตุคงไม่มีพลังเทพที่สงบสุขเช่นนี้ มันถูกเก็บไว้ในจี้เล็กๆ
หากจี้นี้เป็นโบราณวัตถุจริงๆ อย่างนั้นก็พออนุมานจากชิ้นส่วนของมันว่าวัตถุโบราณเดิมควรมีขนาดใหญ่
อย่างน้อยก็ไม่เป็นชิ้นเล็กๆ
ทำไมกาดำในฐานะโจรดวงดาวถึงมีวัตถุโบราณ? ขณะเดียวกันกาดำไม่ได้เป็นผู้นำของโจรดวงดาวเขาเป็นผู้นำระดับรองในกลุ่มโจร แม้แต่เขาก็มีชิ้นส่วนของโบราณวัตถุหัวหน้าใหญ่ของเขาพยัคฆ์บินและอินทรีป่าก็ต้องมีเหมือนกัน!
ใครเป็นคนมอบชิ้นส่วนโบราณวัตถุให้โจรดวงดาวเหล่านี้
ใครอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนทุนโจรเหล่านี้
มีวัตถุประสงค์ใดกัน?
ตามคำสนทนาของกาดำและวัวบ้าเวลาที่พวกเขาได้เศษชิ้นส่วนวัตถุโบราณไม่ควรสั้นเกินไปมิฉะนั้นวัวบ้าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทราบการเปลี่ยนแปลงของกาดำ! ยิ่งไปกว่านั้นโจรดวงดาวได้บุกเข้ามาและปล้นยานแม่ นั่นเป็นการพิสูจนว่าหัวหน้าโจรดวงดาวได้รับชิ้นส่วนวัตถุโบราณและพลังต้องห้ามมาในไม่ช้านี้..นอกจากโจรดวงดาวเหล่านี้แล้วใครเป็นเจ้าของวัตถุโบราณ
ความสงสัยมากมายหลั่งไหลเข้ามาในใจของเย่ว์หยางจนยากจะทำความเข้าใจได้
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางถึงจะงงเล็กน้อยแต่ก็ดีใจ
โชคดีที่พบโจรดวงดาวตั้งแต่แรกและพบที่อยู่ของวัตถุโบราณและชิ้นอื่นๆ มิฉะนั้นเขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปตามหาที่ไหน! ตอนนี้โจรดวงดาวมาถึงที่หน้าประตูตราบใดที่เขาติดตามเงื่อนงำไป เขาจะได้รับความจริงในที่สุด
ขณะที่ตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องลงมือระยะหนึ่งก่อน ดังนั้นเขาจะรอพัฒนาการของเหตุการณ์ต่อไป
บางทีในที่สุดอาจมีเรื่องน่าประหลาดใจออกมาเพิ่มอีกก็ได้