บทที่ 59 : มังกรพิษ ฉินหลง!
บทที่ 59 : มังกรพิษ ฉินหลง!
"นี่... นี่มันมอนสเตอร์ประเภทไหนกัน" ทุกคนมองไปยังร่างที่ใหญ่โตเหมือนภูเขาเเละรู้สึกชาไปทั่วร่างกาย
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี้ประกอบด้วยใบหน้าของมนุษย์และร่างกายของมอนสเตอร์ เเละมีพลังมากกว่ามอนสเตอร์ทั่วไปมาก มันเหมือนสิ่งมีชีวิตในหนังสยองขวัญที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวัง!
“บัดซบ ไอ้พวกพันธมิตรเงาสร้างสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเเบบนี้ขึ้นมาทำไม….. นี่มันเป็นการทรยศต่อมนุษยชาติโดยสิ้นเชิงไม่ใช่หรือ?” ซีเหมิงสาปแช่งเสียงดัง
"มอนสเตอร์ที่น่ากลัวพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร... ฉันหวังว่ามันจะเป็นกรณีพิเศษที่ทำได้ยาก, มิฉะนั้นมนุษย์เราจะต้องประสบปัญหาใหญ่อย่างเเน่นอน" หลี่ชิงฉีกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“เรายังมีพลังน้อยเกินไป!” เมื่อมองไปที่ร่างที่ใหญ่โตและน่าสะพรึงกลัว ความคิดเดียวของชูโจวคือการต้องการควาทแข็งแกร่งที่มากขึ้นไปอีก
ในปัจจุบัน, พลังของเขานั้นอ่อนแอเกินไปยิ่งสถานการณ์เเบบนี้เขาเเทบจะเหมือนฝุ่นเลย, ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีความปรารถนาที่ต้องการพลังเป็นอย่างมาก….. ในในอนาคตเขาจะไม่ยอมให้ตัวเองไร้อำนาจเเบบนี้อีกต่อไป
……
"จี๊!!!"
ทันใดนั้น, สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ก็ส่งเสียงร้องแหลมออกมา
ในอากาศมีระลอกคลื่นเป็นชั้นๆ ก่อตัวเป็นพายุคลื่นโซนิกที่น่าสะพรึงกลัวพัดผ่านในระยะทางหลายไมล์
ในทะเลสาบปรากฏคลื่นขนาดใหญ่, ต้นไม้รอบๆถูกทำลายอย่างกะทันหัน, พายุคลื่นโซนิกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากวาดไปทั่วนักรบทุกคนเเละพวกเขาก็กระอักเลือดทันที
"เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ!" เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ สีหน้าของชูโจวก็เปลี่ยนไป จากนั้นเขารีบพาหลิงซานและคนอื่นๆ ถอยห่างออกไปหลายไมล์แล้วค่อยหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาดู, นักรบคนอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกันกับพวกชูโจว
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นี้มีพลังมากเกินไป ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมได้เลย
คนพวกเดียวที่จะสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นี่ได้คือผู้แข็งแกร่งทั้งสี่คน เฉินปาโจว, โหวซีไห่, ฟูหยาน และนายพลเสวี่ย
พวกเขาทั้งสี่กำลังมองดูสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่อย่างเคร่งขรึม เเละทันใดนั้นรูม่านตาของพวกเขาก็หดลงเมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
ภายใต้สายตาที่จับตามองของพวกเขาทั้งสี่ปรากฏชายหนุ่มที่ดูเย่อหยิ่งในชุดสีดำ, ผลักผมสีดำของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ออกเเล้วเดินออกมานั่งไขว่ห้างอยู่บนหัวของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่
ชายหนุ่มในชุดดำมองไปที่เฉินปาโจวและคนอื่นๆและพูดว่า "เฉินปาโจวผู้อำนวยการของโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์ก, โหวซีไห่ผู้อำนวยการของโรงยิมศิลปการต่อสู้เเห่งธรรมชาติ, ฟูหยานผู้อำนวยการของโรงยิมศิลปการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณ และ นายพลเสวี่ยจากกองทัพ..…ฉันจำพวกเเกได้”
"ดูเหมือนว่าพวกเเกไม่ได้โจมตีเเค่กับฐานที่ฉันรับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฐานอื่นๆ ของพันธมิตรเงาในภูมิภาคนี้ด้วย"
"จุ๊จุ๊ การกระทำของพวกเเกชั่งเด็ดขาดดีจริงๆเเละมันก็ทำให้ฉันโกรธมากด้วย”
…….
“เป็นเเกนี่เอง ฉินหลง” เฉินปาโจวจ้องไปที่ชายหนุ่มในชุดดำและพูดชื่อของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้อำนวยการเฉินเก่งมาก เเกจำฉันได้อย่างรวดเร็วจริงๆ” ฉินหลงหัวเราะเยาะ
โหวซีไห่, ฟูหยานและนายพลเสวี่ยก็เปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังเช่นกัน, แน่นอนว่าพวกเขารู้จักฉินหลงเหมือนกัน
ฉินหลงมีชื่อเล่นว่า "มังกรพิษ" เเละเป็นหนึ่งในสี่จัตุรเทพของกลุ่มพันธมิตรเงาและเป็นบุคคลระดับสูงของพันธมิตรเงา
ในรายชื่อพันธมิตรมนุษยชาติ, ชิงหลงเป็นบุคคลที่อันตรายมากพอที่จะติดอันดับ 1 ใน 100…….แม้แต่ผู้มีอำนาจระดับราชาในหมู่นักรบที่ล่มสลายก็ไม่ติดอันดับสูงเท่ากับฉินหลงเลย
"กลายเป็นฉินหลงหนึ่งในสี่จัตุรเทพของกลุ่มพันธมิตรเงา…..เขาเป็นบุคคลที่อันตรายมาก" ชูโจวและคนอื่นๆ ก็เห็นฉินหลงผ่านกล้องส่องทางไกลเช่นกัน
เเละในคนเหล่านี้ก็มีคนจำตัวตนของฉินหลงได้ทันทีและเมื่อเขาพูดชื่อออกมา, หลายคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นฉินหลง, ชูโจวก็นึกถึง 'จิ้งจอกเงิน' ซูไป๋ที่เขาเคยพบมาก่อนอย่างช่วยไม่ได้
'จิ้งจอกเงิน' ซูไป๋ ก็เหมือนกับ 'มังกรพิษ' ฉินหลงเพราะทั้งคู่เป็นหนึ่งในสี่จัตุรเทพของพันธมิตรเงาเช่นเดียวกัน…. ดังนั้นหาก 'มังกรพิษ' ฉินหลงน่ากลัวมาก ซูไป๋ 'จิ้งจอกเงิน' ก็น่าจะน่ากลัวมากเหมือนกัน
เมื่อคิดได้ดังนี้, ชูโจวก็อดไม่ได้ที่จะดีใจที่ซูไป๋ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเขา มิฉะนั้นเขาอาจจะตายไปนานเเล้ว
………
"ฉินหลง พันธมิตรเงาของเเกต้องการจะทำอะไรกันแน่ การสร้างสัตว์ประหลาดแบบนี้ขึ้นมาเเล้วถ้ามันหลุดการควบคุม มันจะน่ากลัวกว่ามอนสเตอร์ในปัจจุบัน และเป็นอันตรายต่อมนุษย์เราโดยรวมหรือไม่”
"เป็นไปได้ไหมว่าพวกเเกพันธมิตรเงาต้องการยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมนุษย์จริงๆ" เฉินปาโจวตวาดด้วยความโกรธ ออร่าที่น่าอัศจรรย์พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับว่าสัตว์ป่าที่กำลังค่อยๆ ตื่นขึ้น และอากาศรอบๆตัวเขาก็แสดงอาการบิดเบี้ยว
"หืมมมม, ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของมนุษย์งั้นหรอ…….โรงยิมศิลปการต่อสู้หลักสามแห่งของเเกและกองทัพของประเทศต่างๆ สามารถเป็นตัวแทนของมนุษย์ทั้งหมดได้หรือ?" ฉินหลงเยาะเย้ยและพูดต่ออย่างเย็นชา "เฉินปาโจวถ้าเเกสามารถเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่านี้ได้ เเกอาจรู้เรื่องวงในบ้าง"
"ฝ่ายพันธมิตรมนุษย์เหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนว่าจะสามารถปราบปรามมอนสเตอร์และแม้แต่โจมตีมอนสเตอร์กลับไปได้..."
“แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรอ? ….. ฉันยอมรับว่าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดสามตน 'ดราก้อน' 'ธอร์' และอาปาซามีพลังมหาศาลจริงๆ...โดยเฉพาะ 'ดราก้อน' มันทรงพลังมากจนพวกเราสิ้นหวังเลย”
"แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่อาจระงับทุกสิ่งได้เหมือนเมื่อก่อน เเละถ้าไม่ใช่เพราะคนคนนั้น... ฉันเกรงว่าในวันนี้ทุกอย่างจะต่างออกไป"
เฉินปาโจวและคนอื่นๆ เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของฉินหลง, อันที่จริง เเล้ว…… ถ้าสถานการณ์อันน่าตกใจในตอนนั้นไม่ได้เกิดจากคนๆ เดียวที่ทำการล้างโลกด้วยเลือดและฆ่าคนทะเยอทะยานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว, เกรงว่าสถานการณ์ของฝ่ายพันธมิตรมนุษย์จะไม่เเข็งเเกร่งอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“ฮึ่ม เเกก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน... เเล้วเเกไม่กลัวหรือว่าเขาจะทำการฆ่าล้างบางสำนักงานใหญ่ของพันธมิตรเงาอีกครั้งและทำให้หัวหน้าของคุณคุกเข่าลงบนพื้นเหมือนสุนัข” เฉินปาโจวหัวเราะเยาะ
ใบหน้าของฉินหลงแข็งค้างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ จากนั้นเขาจ้องมองที่เฉินปาโจวอย่างแผ่วเบาและพูดอย่างเย็นชาว่า "หึๆ นับประสาอะไรกับคนคนนั้นที่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แล้วจะทำอะไรได้…… เวลากำลังเดินหน้าเเละในตอนนี้กลุ่มพันธมิตรเงาของเราก็พัฒนาขึ้นเเล้ว
“ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของเขาอีกต่อไป”
……..
"เฉินปาโจว, โหวซิไห่, ฟูกยาน และนายพล เสวี่ย, ฉันจะให้โอกาสพวกเเกในตอนนี้ มาเข้าร่วมพันธมิตรเงาของเรา"
"ยุคใหม่กำลังมาและกลุ่ทพันธมิตรเงาของเราจะเป็นหนึ่งในปรมาจารย์แห่งยุคใหม่อย่างแน่นอน, ถ้าพวกเเกเข้าร่วมกับเราตอนนี้, มันก็ยังเป็นเวลาที่ดี"
คำพูดก่อนหน้านี้ของฉินหลงทำให้ทั้งสี่คนรู้สึกหนักใจมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สำหรับคำเชิญสุดท้ายของฉินหลง, พวกเขาตอบโต้ทันที
"ถ้าเเกต้องการรับฉันไปเป็นลูกน้อง เเกยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!" เฉินปาโจวส่งเสียงคำราม, จากนั้นร่างกายของเขาก็พองขึ้นสูงถึงสามเมตร ชิ้นส่วนของกล้ามเนื้อที่เหมือนกับเหล็กสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนทำให้อากาศโดยรอบแสดงอาการสั่นไหว
"ตูมมมม!"
ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา ออร่าเปลวเพลิงที่หนักอึ้งและกดดันอย่างไม่มีใครเทียบได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้โลกภายในรัศมีหลายไมล์สั่นสะเทือน
ฟูม!
จากนั้น, เฉินปาโจวก็กลายเป็นดาวตกสีน้ำเงิน พุ่งทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืนตรงเข้าใส่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ทันที
เมื่อฉินหลงเห็นเฉินปาโจวโจมตีเข้ามา, ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาและสั่งให้สัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ใต้เท้าของเขาฆ่าเฉินปาโจวทันที
"กร๊าซซซ!!"
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์กรีดร้อง, จากนั้นแขนสีซีดยาวหลายสิบเมตรก็พุ่งกระแทกเข้าหาเฉินปาโจวอย่างดุเดือด, ความเร็วของแขนแต่ละข้างทะลวงกำแพงเสียงจนทำให้เกิดวงคลื่นเสียงสีขาว
เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์ขนาดใหญ่แล้ว, เฉินปาโจวซึ่งสูงเพียงสามเมตรถือว่าไม่มีนัยสำคัญเลย….. เเต่อย่างไรก็ตาม, ในตอนนี้รัศมีของเฉินปาโจวไม่ได้ด้อยไปกว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่นี้เลย
"ตูม!!!"
เกิดเสียงสั่นสะเทือนจากการปะทะของทั้งสองคร, จากนั้นเฉินปาโจวและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ก็ถอยออกมาหนึ่งก้าวพร้อมกันเเละแผ่นดินในรัศมี 500 เมตรที่จะปะทะระเบิดออกจนกลายเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่
หลังจากนั้นร่างของโหวซีไห่ก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์พร้อมๆกับแสงของวงเวทย์สีน้ำเงินที่ผลิบานอยู่รอบๆร่างของเขา, จากนั้นวินาทีต่อมาหอกน้ำแข็งขนาดใหญ่หลายร้อยเล่มก็ปรากฏขึ้นมา!
กร๊าซซซ—!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัว หอกน้ำแข็งขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าปกคลุมสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์, ด้วยการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มันไม่มีที่ว่างสำหรับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่จะสามารถหลบได้, ดังนั้นในพริบตาเดียวหอกน้ำแข็งยักษ์หลายร้อยเล่มก็ทิ่มแทงใส่มัน
ผิวหนังบนร่างกายของมันที่แข็งราวกับเพชรซึ่งแม้แต่ปืนกลก็ไม่สามารถเจาะทะลุได้ กลายเป็นรูเลือดก็ถูกเจาะโดยทันที และมันก็เผลอถอยหนีพร้อมเสียงคำรามแห่งความเจ็บปวด!
หลังจากโหวซีไห่เริ่มโจมตีเเล้ว, นายพลเสวี่ยก็ได้เปิดการโจมตีสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์ ต่อทันที……ร่างกายของเขาดูเหมือนจะรวมเป็นหนึ่งเข้ากับดาบสีแดงเข้มจนกลายเป็นสายฟ้าสีแดง ฟันผ่านพื้นผิวของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ครั้งแล้วครั้งเล่า, ทุกครั้งที่การฟาดฟันเกิดขึ้น, คราบเลือดลึกจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังเเละทำให้เกิดฝนเลือดจำนวนมากกระจายออกจากร่างของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์
สุดท้ายการโจมตีของฟูหยานนั้นพิเศษที่สุด เธอทำเพียงเเค่จ้องมองสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์จากระยะไกลและทุกๆครั้งที่ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแสงสีขาว, สิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์ก็จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับว่ามันถูกโจมตีโดยพลังที่มองไม่เห็น
…….
อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์นั้นทรงพลังมากจริงๆ แม้จะอยู่ภายใต้การโจมตีร่วมกันของคนที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสี่คน…. เเต่มันยังสามารถต่อสู้กลับได้อย่างต่อเนื่อง, มือมนุษย์สีซีดยาวหลายสิบเมตร ผมสีดำราวกับน้ำตก ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวยาว และร่างกายที่มีความสามารถในการรักษาตัวเองที่น่ากลัวล้วนเป็นอาวุธที่ทรงพลังของมัน
การต่อสู้ครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังและการทำลายล้างที่น่าตกใจ, ไม่ว่าจะเป็นมหาอำนาจอีกสี่คนหรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ การโจมตีแต่ละครั้งของพวกเขาก็สามารถทำลายระบบนิเวศรอบๆได้เลย
พวกเขาต่อสู้กันไปเป็นระยะทางหลายไมล์, จึงทำให้มอนสเตอร์จำนวนมากที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆได้มีส่วนร่วมในผลพวงของการต่อสู้ของผู้ยิ่งใหญ่และกลายเป็นซากศพทีละตัว…….ชูโจวและนักรบคนอื่นๆ ก็ได้ทำการล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า
“นี่คือการต่อสู้ของมหาอำนาจที่มีพลังเหนือระดับพิเศษงั้นหรือ?.......มันเป็นภัยธรรมชาติสำหรับทุกสิ่งจริงๆ”
ชูโจวและนักรบคนอื่นๆ ตกตะลึงอย่างอธิบายไม่ถูก, ในการต่อสู้ระดับนี้….คุณต้องเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น คุณถึงจะสัมผัสถึงความน่ากลัวได้อย่างแท้จริง
…………………..