ตอนที่ 786 : คนๆ นี้ไม่ใช่เจียงซิว!
ตอนที่ 786 : คนๆ นี้ไม่ใช่เจียงซิว!
เจียงซิวรู้สึกสับสนทำไมฉันถึงต้องเป็นคนเจ็บอยู่เสมอ?
ฉันอุตส่าห์จัดให้เจียงเฉินนั่งแทนที่ฉันไปแล้วนะ!
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วโจรก็ตัดสินใจที่จะมาทุบตีคนขับรถแทน?
ไอ้สารเลว!
กลุ่มโจรทุบตีเจียงซิวเสร็จก็จากไป
เจียงเฉินเดินขึ้นไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล "นายน้อยซิว คุณสบายดีไหม? ให้ผมโทรหา 120 ให้คุณดีไหม?"
เจียงซิว "..."
ร้องไห้!
เขากอดตัวเองอย่างเศร้าใจเป็นเวลาสามนาที!
ทำไมฉันถึงต้องมาทนทุกข์ทรมานแทนเจียงเฉิน?
หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้วเจียงเฉินก็มองไปที่ตำแหน่งของตระกูลเจียงที่ถูกส่งมาและก่อนจะเข้าไปในรถ
ในที่สุดฉันก็กลับมาแล้วตระกูลเจียง
บ้านตระกูลเจียงตั้งอยู่ในพื้นที่วิลล่าริมทะเลสาบ
มันเนียนไปกับพื้นที่รอบๆมาก
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นว่ามีบ้านแอบซ่อนอยู่ในบริเวณนี้
แต่หลังจากเข้าสู่พื้นที่วิลล่า เจียงเฉินก็ต้องตกตะลึง
ที่นี่มันสุดยอดมาก!
นี่คือทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำที่น่าอัศจรรย์และมีขนาดที่กว้างมาก!
ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้
ที่พื้นผิวของน้ำมีหมอกหนาทึบและไม่มีใครสามารถมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้
เจียงเฉินใช้โทรศัพท์มือถือของเจียงซิวเพื่อโทรหาตระกูลเจียง
บ้านตระกูลเจียงเปิดประตู
เจียงเฉินขับรถเข้าไป
หลังจากจอดรถเสร็จเจียงเฉินก็เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของตระกูลเจียง
ชายชราคนหนึ่งกำลังรำไทเก็กอยู่ที่สนามหญ้าโดยหันหลังให้เจียงเฉิน
ทุกการเคลื่อนไหวมีเอกลักษณ์ของมันเอง!
มองจากระยะไกลก็รู้ได้ทันทีว่าชายชราคนนี้มีความเชี่ยวชาญจนไม่มีใครเทียบได้
ดวงตาของเจียงเฉินเป็นประกาย
ชายชราคนนี้อายุ 50 ต้นๆ สายตาของเขาเฉียบคมราวกับนกเหยี่ยวและเขาดูเหมือนปรมาจารย์ด้านการฝึกฝนทั้งภายในและภายนอก
หลังจากรำมวยไทเก็กเสร็จแล้ว ชายชราก็ค่อยๆวางท่าและหายใจออก
เขาพูดอย่างใจเย็นโดยไม่หันศีรษะมามอง "เจียงซิวกลับมาแล้วหรอ"
ตัวตนของเจียงเฉินในเวลานี้คือเจียงซิว
ในเวลานี้ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ห้องนั่งเล่น เพื่อค้นหาเบาะแสทุกอย่าง พยายามค้นหาว่ามีร่องรอยของเขาในตระกูลเจียงหรือไม่
เมื่อมองไปแวบแรก บ้านตระกูลเจียงไม่ได้มีการจัดแสดงที่ยอดเยี่ยมและมันก็ไม่เหมือนกับบ้านของเขา แต่ดวงตาของเจียงเฉินนั้นก็เหมือนกับเหยี่ยว เขาได้ค้นพบสิ่งของบางอย่างที่ค่อนข้างพิเศษจำนวนมากพวกมันต่างมีประวัติศาสตร์และควรค่าแก่การเก็บไว้อย่างยิ่ง
ชั่วขณะหนึ่ง เจียงเฉินไม่สามารถควบคุมหัวใจที่เต้นแรงของเขาได้
ชายชราคนนี้เป็นพ่อของเขางั้นหรอ?
ที่มาของสายเลือดของฉันมาจากตระกูลนี้อย่างนั้นหรอ?
เจียงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงของเจียงซิว "ผมกลับมาแล้ว"
เจียงเฉินได้ถามเจียงซิวเกี่ยวกับตัวตนของชายชราคนนี้แล้ว หลังจากนั้นเจียงซิวก็ส่งแผนที่บ้านตระกูลเจียงให้เขาพร้อมกับสั่งให้เขาพยายามชิงตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่อไปมาให้ได้
เจียงซิวบอกเจียงเฉินว่าปัจจุบันเขาเป็นผู้ท้าชิงอันดับต้นๆสำหรับว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่อไป แต่เขานั้นไม่ใช่คนเดียวอย่างแน่นอน
ตระกูลที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ย่อมต้องมีลูกหลานมากมาย ดังนั้นการได้รับตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปมันจะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?
ทุกครั้งที่มีการเลือกว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปจะมีการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน มีแม้กระทั่งพายุนองเลือด
เจียงซิวคนนี้เป็นลูกชายของลูกชายคนที่สองของผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือชายชราที่อยู่ข้างหน้าคือบิดาผู้ให้กำเนิดของเจียงซิว เจียงไห่หยา!
เจียงเฉินจ้องไปที่เจียงไห่หยา
เจียงไห่หยาก็มองดูเจียงเฉินเช่นกัน
ในความเป็นจริงเจียงเฉินก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะสามารถหลอกลวงเจียงไห่หยาได้ เนื่องจากเจียงซิวเป็นลูกชายโดยกำเนิดของเจียงไห่หยา ดังนั้นจะมีพ่อที่ไหนที่จะจำลูกชายของตัวเองไม่ได้?
แต่เจียงซิวก็บอกกับเขาว่าไม่ต้องกังวล
เนื่องจากความเชื่อประจำตระกูลของตระกูลเจียงที่ว่า "เสือมีลูกสามตัวต้องมีลูกหนึ่งตัวที่ถูกทิ้ง" ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกจึงไม่ลึกซึ้ง
เพื่อปลูกฝังธรรมชาติของเสือและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองและลูกหลาน ตระกูลเจียงจึงไม่เคยมีความรักที่อ่อนโยนระหว่างพ่อแม่และลูกเหมือนครอบครัวทั่วไป
เจียงซิวบอกว่าตั้งแต่เขาเรียนชั้นประถม เขาก็ถูกส่งไปโรงเรียนประจำและเขาแทบไม่เคยเห็นพ่อแม่ของเขาเลยตลอดทั้งปี
หลังจากที่เขาโตเขาก็ไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เขาไปที่นั่น 6 ปี และเขาไม่ได้เจอเจียงไห่หยาเลยแม้แต่ครั้งเดียวในช่วงเวลานั้น
หลังเขาเรียนจบ เจียงไห่หยาก็ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับเจียงซิวมากนัก เจียงไห่หยามักจะบินไปทั่วโลก ยุ่งกับการดูแลธุรกิจของตระกูลและจะพบเขาที่งานสังสรรค์ในตระกูลเป็นครั้งคราวเท่านั้น และทุกครั้งเขาก็จะตำหนิและแทบจะไม่สนใจอะไรเขาเลย
เจียงซิวบอกว่าด้วยเหตุผลพวกนี้เจียงเฉินจึงอาจจะหลอกเจียงไห่หยาได้จริงๆ
ก่อนที่เจียงเฉินจะมา เขายังฝึกฝนทุกท่วงท่าของเจียงซิวเป็นพิเศษ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สมจริงมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถหลอกลวงเจียงไห่หยาได้
เจียงไห่หยาพูดอย่างเฉยเมย "นายกลับมาทำอะไร"
เจียงเฉินพูดสั้นๆ "ผมอยากเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป! ผมต้องการเข้ารับการทดสอบ!"
ราวกับว่าเจียงไห่หยาไม่รู้จักเจียงเฉิน เขาเย้ยหยันและพูดว่า "การทดสอบ? อย่างนายน่ะหรอ? นายรู้ไหม การทดสอบเพื่อที่จะเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลนั้นเข้มงวดมากแค่ไหน จนถึงตอนนี้ก็มีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถผ่านได้ แล้วนายคิดว่าตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปจะตกอยู่ในมือนายงั้นหรอ"
เจียงเฉินได้ยินจากเจียงซิวว่าตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปของตระกูลเจียงนั้นเป็นตำแหน่งที่เป็นที่ปรารถนาของทุกฝ่าย และผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ใฝ่ฝันถึงตำแหน่งนี้
แต่เนื่องจากตระกูลเจียงเชื่อมั่นในคำสอนของบรรพบุรุษที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาจะเลือกทายาทได้อย่างง่ายดายได้ยังไงกัน?
การทดสอบหาว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่อไปมีความยากระดับเป็นตาย
ในตระกูลขนาดใหญ่เช่นนี้ ตำแหน่งของว่าที่ผู้นำตระกูลอาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของทั้งตระกูลในอนาคต
หากเลือกทายาทไม่ถูกต้อง ในไม่ช้าตระกูลเจียงก็จะเสื่อมถอยเหมือนตระกูลใหญ่อื่น ๆ
เจียงไห่หยาจ้องไปที่เจียงเฉิน "นายต้องการจะเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปงั้นหรอ อย่างแรก นายต้องผ่านการทดสอบของฉันก่อน! ฉันสามารถส่งทายาทไปท้าชิงได้แค่คนเดียวเท่านั้น! ถ้าฉันไม่ส่งนายไป นายก็ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบ!"
เจียงเฉินยิ้ม "เอาล่ะ งั้นก็ลองทดสอบผมดูว่าผมจะผ่านการทดสอบนี้มั้ย!"
เจียงไห่หยาพูดด้วยเสียงทุ้ม "ฉันต้องการให้นายไปที่บริษัทอินเทอร์เน็ตเล็กๆและนายไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยตัวตนของนาย นายจะต้องเริ่มงานจากการเป็รพนักงานระดับล่างสุดและภายใน 3 เดือน นายจะกลายเป็นซีอีโอของบริษัทนั้นให้ได้ ถ้านายทำได้ ฉันจะตกลงให้นายเป็นผู้ท้าชิง!"
เจียงเฉินยิ้ม "ง่ายจัง?"
"ฮึ่ม! ไปได้แล้ว" เจียงไห่หยาตะคอกอย่างเย็นชาและไม่ใส่ใจ
เจียงเฉินหันหน้าและจากไปทันที
เจียงไห่หยาที่อยู่ข้างหลัง มองไปที่ด้านหลังของเจียงเฉินและเยาะเย้ยอย่างแผ่วเบา ก็แค่วัยรุ่นที่ยังขาดประสบการณ์!
ตามที่เจียงเฉินคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ เจียงไห่หยานั้นไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเจียงซิวจริงๆ
แต่ตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะเป็นคนเดิมหรือไม่~~
ในขณะที่เจียงเฉินกำลังเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องออกมา
“เจียงซิว?”
เจียงเฉินหันกลับมา
เขาเห็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งกำลังจ้องมองลงมาที่เขา
เจียงเฉินจำได้ทันที "ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเจียงซิวภรรยาของเจียงไห่หยา เจียงซิวเคยเอารูปถ่ายให้ฉันดู"
หยุนชาง!
หยุนชางเธอน่าจะอายุ 40 ปีแล้ว แต่ใบหน้าของเธอนั้นกลับไม่สามารถบอกอายุของเธอได้เลย เธอดูเหมือนสาวน้อยอายุ 20 ต้นๆอยู่เลยด้วยซ้ำ
สตรีผู้มั่งคั่ง ใจดีและยังดูอายุยังน้อย
หยุนชางเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล "ซิวเอ๋อ กลับมาแล้วเหรอ? ทำไมไม่มาหาแม่ล่ะ? หือ?"
เธอจ้องไปที่ใบหน้าของเจียงเฉินแต่ดวงตาของเธอนั้นกลับกำลังสั่นไหว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นหินหยกบนคอของเจียงเฉิน ร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น!
“หินก้อนนั้น? ลูกไปเอาหินก้อนนั้นมาจากไหน?”
หยุนชางเกือบจะเป็นลมหมดสติ
เจียงเฉินยังสังเกตเห็นความสนใจของหยุนชางต่อหินของเขาอย่างชัดเจนและเขาก็กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะเห็นความผิดปกติ เพราะท้ายที่สุดแล้วแม่ก็ไม่ใช่พ่อ ผู้หญิงนั้นจะมีความละเอียดรอบคอบมากกว่าผู้ชายและรับรู้ถึงความผิดปกติของลูกตัวเองได้มากกว่าผู้ชาย
เจียงเฉินไม่ต้องการสร้างปัญหาเพิ่มเติม "แม่ เพื่อนของผมให้สิ่งนี้กับผมมา เขาบอกว่ามันเป็นของเล็กๆน้อยๆที่พบได้ตามตลาด ผมยังมีเรื่องเร่งด่วนอยู่ ผมต้องไปแล้ว"
เขาขับรถและจากไปทันที
เหลือเพียงหยุนชางที่ลานหน้าบ้าน เธอจ้องมองไปที่ด้านหลังของโรลส์-รอยซ์ที่กำลังห่างออกไป ทันใดนั้น น้ำตาที่ใสราวคริสตัลก็หยดเอ่อล้นที่หางตาของหยุนชาง
หยุนชางกำหมัดแน่น
"คนๆนี้ไม่ใช่เจียงซิว! แม้ว่าเขาจะหน้าตาเกือบเหมือนกับเจียงซิวแต่เขาหลอกฉันที่เป็นแม่ไม่ได้หรอก แต่จะมีคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกันแบบนี้ได้ยังไงกัน? เป็นไปได้ไหมที่มันจะเป็นหยกที่ฉันมอบให้กับเด็กที่น่าสงสารในตอนนั้นเป็นของส่วนตัวและเป็นไปได้ไหมว่าคนๆนี้จะเป็น~~"
ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
นี่คือลูกชายของเธอที่ต้องถูกขับไล่ตามกฎของตระกูลเมื่อกว่า 20 ปีก่อน?
ฉันไม่มีโอกาสได้ดูหยกก้อนนั้นใกล้ๆ ในวันนั้นที่ฉันต้องแยกทางกับลูกชายคนเล็ก ฉันรีบเอาหยกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของฉันใส่ไว้กับลูกของฉันมันคงจะไม่บังเอิญคล้ายกันหรอกถูกมั้ย?
หรือเขาอาจจะเป็นลูกชายคนเล็กของฉันที่พลัดพรากจากกันไปมานานกว่า 20 ปี?