ตอนที่ 14 พวกเจ้าสองคนคิดว่าจะหนีไปได้จริงๆงั้นหรือ ?
"พวกเจ้าสองคนพูดอะไรน่ะ? ยังไงพวกเจ้าก็ไม่สามารถเอาชนะพวกข้าได้ หรือพวกเจ้าทั้งสองคิดว่าจะหนีไปได้จริงๆงั้นหรือ?"
ชายหนุ่มหันแหวนเก็บของบนนิ้วของเขาเบาๆและพูดติดตลกเล็กน้อย
ในบรรดากลุ่มคนตรงนี้ทั้งหมดนั้นระดับการฝึกตนของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าทุกคน
แม้ว่าสองพี่น้องตรงหน้าเขาจะดูอ่อนแอกว่าเขาเล็กน้อย แต่พวกเขาก็สามารถจัดการกับคนเหล่านี้ได้
หรือก็คือแม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะไปรวมกลุ่มกับชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็ยังเอาชนะได้
"ท่านพี่พวกเราควรทําอย่างไรดี?"
เมื่อซื่อหมินที่เห็นแบบนั้นสีหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปเมื่อเธอถามหวงหลิงอย่างตื่นตระหนกว่าจะทําอย่างไรต่อไป
"พวกเราต้องหนีไปจากที่นี่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!"
เมื่อได้รู้แบบนี้หวงหลิงก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน จากนั้นเธอก็ใช้ความรู้สึกทางวิญญาณของเธอเพื่อส่งข้อความถึงซื่อหมิน
เมื่อซื่อหมินได้ยินแบบนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอย่างสงสัย
ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ห่างกับพวกเธอมากนั้น แล้วพวกเธอจะสามารถหลบหนีไปได้จริงๆหรือ?
หากพวกเธอต้องเผชิญหน้ากับนักเดินทางที่โหดร้ายด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้พวกเธออาจจะยังสามารถหลบหนีไปได้ภายใต้สัญญาว่าพวกเธอจะต้องมอบเกล็ดน้ำแข็งทมิฬให้กับพวกเขา
ไม่เพียงแค่นั้น แต่หากพวกเธอใช้ไพ่ตายที่อาจารย์ของพวกเธอทิ้งไว้พวกเธออาจสามารถจัดการกับคนพวกนี้ทั้งหมดได้
แต่นอกจากพวกกลุ่มคนที่โหดร้ายแล้วยังมีคนที่ทรงพลังอยู่อีกถึงสามคน
แม้ว่ากลุ่มนักเดินทางนั้นจะไม่รู้จักตัวตนของทั้งสามคนนี้ แต่ซื่อหมินและหวงหลิงรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี
คนเหล่านี้ล้วนมาจากนิกายซวนหยิน
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าสวมเสื้อคลุมสีเขียวดําเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสคนที่เก้าของนิกายซวนหยินและเขาเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวที่ทรงพลังด้วยเช่นกัน
ชื่อของเขาคือหยวนวู่จี!
เมื่อประเมิณจากพลังที่ปล่อยออกมาจากมือของเขาก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นที่ห้าของรูปแบบแก่นแท้จริง แต่ซื่อหมิงและหวงหลิงรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ได้ทะลุไปถึงขั้นที่เจ็ดของรูปแบบแก่นแท้จริงแล้ว
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะหยวนวู่จีเชี่ยวชาญในวิธีการปกปิดพลังของเขา และเขาได้ปกปิดส่วนหนึ่งของพลังของเขา ดังนั้นถ้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่มีพลังมากพวกเขาจะไม่สามารถเห็นระดับที่แท้จริงของเขาได้
ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกตนของทีมนักเดินทางจึงคิดว่าหยวนวู่จีนั้นอยู่แค่เพียงขั้นที่ห้าของรูปแบบแก่นแท้จริงเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กังวลในเรื่องพลังของพวกเขามาก
สิ่งสําคัญที่สุดคือนิกายซวนหยินอยู่ในอันดับสองในราชวงศ์เฉียนที่ยิ่งใหญ่ ในฐานะลูกศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสแล้ว จะไม่มีไพ่ตายที่เก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉินได้อย่างไร?
"อะไร? นี่เจ้ายังตัดสินใจไม่เสร็จอีกงั้นหรือ?"
ในขณะนี้แววตาของหยวนวู่จีจ้องมองไปที่หวงหลิงพร้อมกับดวงตาของเขาที่ค่อยๆเย็นชาลง
แต่เมื่อสายตาของเขามาหยุดอยู่ที่คริสตัลในมือของหวงหลิงเขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
เกล็ดน้ำแข็งทมิฬนั้นเป็นสมบัติที่หาได้ยากมากที่สามารถเพิ่มความสามารถโดยธรรมชาติของผู้ฝึกตนได้อย่างมาก
เมื่อซื่อหมิงและหวงหลิงได้ยินแบบนี้พวกเธออดไม่ได้ที่จะสบตากัน หลังจากที่จับมือกันแน่นขึ้น
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะใจร้อนอยู่แล้ว มีโอกาสมากที่พวกเธอจะหนีไปได้ถ้ามีโอกาส
"ตอนนี้แหละไปเลย!"
ในขณะนี้หวงหลิงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เท้าของเธอก็กระทืบลงที่พื้นทันที พลังทางจิตวิญญาณอันทรงพลังที่ปล่อยออกจากหลุมลึกในพื้นดินกลายเป็นคลื่นที่ทำให้พื้นดินบริเวณนั้นกลายเป็นคลื่นทันที
ในขณะเดียวกันซื่อหมิงได้แสดงวิ่งตายหวงหลิงไปอย่างติดๆทันที
"เฮ้อ นี่พวกเจ้าคิดว่าจะหนีไปได้จริงๆงั้นเหรอ?"
เมื่อได้เห็นแบบนี้หัวหน้าทีมของนักเดินทางก็เปิดเผยรอยยิ้มที่โหดร้ายทันที ดาบในมือของเขาเปล่งแสงอย่างคมชัดก่อนที่ร่างกายของเขาจะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
ในขณะเดียวกันผู้ฝึกตนคนอื่นๆของทีมนักเดินทางก็พวกเธอไปเพื่อจะชิงสมบัตินั้นมา
"ทําไมพวกเจ้าถึงต้องหนีกันด้วยนะ?"
เมื่อเห็นแบบนี้หยวนวู่จีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและหายตัวไป
น้องชายสองคนของเขาตามหลังไปอย่างใกล้ชิด
ชิ้ง! บึ้มม! บึ้มม! ชิ้งง!
ในไม่ช้าเสียงการต่อสู้ที่รุนแรงก็ดังมาจากป่าที่เต็มไปด้วยหินนั้น
หัวหน้าทีมนักเดินทางนั้นมีดาบที่แหลมคมและยาวอยู่ในมือ ดาบนั้นเต็มไปด้วยพลังดาบที่ทรงพลัง และเขาได้ใช้มันเพื่อตัดต้นไม้ที่ขวางทางในขณะที่ไล่ตามพวกเธอไป
แต่ทันใดนั้นก็มีพลังบางอย่างที่พุ่งมาใส่หัวหน้าของกลุ่มนักเดินทางคนนั้น
พลังอันน่ากลัวได้ทำให้ชายที่มีแผลเป็นลอยออกไปไกลกว่า 30 ฟุตโดยที่ร่างกายของชายคนนั้นกระแทกเข้ากับต้นไม้จนล้มไปหลายต้น
หลังจากที่ชายที่มีแผลเป็นกระแทกกับพื้น รอยของกําปั้นขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขาทําให้ซี่โครงทั้งหมดของเขาหักในทันที
"แก..."
ชายคนนั้นมองออกไปโดยที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความหวาดกลัว
นั่นเป็นเพียงไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากของหยวนวู่จีเขาได้ตามมาทันและได้ปล่อยหมัดออกไปเบาๆโดยที่หมัดนั้นเกือบจะฆ่าหัวหน้ากลุ่มนักเดินทางไปแล้ว
มันเป็นหมัดที่ทําให้ชายที่ใบหน้ามีแผลเป็นเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของเขาอย่างแท้จริง
ผู้ชายคนนี้ได้ไปถึงจุดสูงสุดของระดับรูปแบบแก่นแท้จริงขั้นที่เจ็ดและอยู่ห่างจากขั้นที่แปดเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ผู้ฝึกตนระดับรูปแบบแก่นแท้จริงขั้นที่ขั้นที่ห้าอย่างเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของชายคนนี้ได้อย่างไร?
"อ๊ากก!
ทันใดนั้นพลังรุนแรงรุนแรงก็พุ่งผ่านเส้นลมปราณของชายที่มีรอยแผลเป็น เขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดสีดําออกมาก่อนที่ร่างกายของเขาจะทรุดตัวลงข้างต้นไม้ที่หัก โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่
"หัวหน้า!"
"หัวหน้าตายแล้วงั้นเหรอ?"
"หนีไปจากที่นี่กันเถอะ!"
ผู้ฝึกตนคนอื่นๆของทีมนักเดินทางได้เห็นฉากนี้และอดไม่ได้ที่จะคิดเอาตัวรอดในทันที
แต่ความคิดแรกของพวกเขาไม่ใช่เพื่อช่วยชายที่มีแผลเป็น แต่เป็นการตรวจสอบว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่และหลังจากนั้นพวกเขาก็หนีกระเจิงไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว
นอกจากชายที่มีรอยแผลเป็นแล้วผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขายังอยู่ในขั้นที่สี่ของรูปแบบแก่นแท้จริงเท่านั้น แม้แต่ผู้นําของพวกเขาเองซึ่งไปถึงขั้นที่ห้าก็ไม่สามารถสู้กับหยวนวู่จีได้ และพวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่ออะไร?
"ฆ่าพวกมันให้หมด! ข้าไม่อยากให้ใครหนีรอดไปได้!"
หยวนวู่จีเอ่ยปากสั่งน้องชายทั้งสองคนของเขาก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะหายตัวไปอีกครั้ง
เมื่อได้ยินแบบนั้นแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็เปล่งประกายออกมาทันที หลังจากนั้นรอยยิ้มที่โหดร้ายก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของพวกเขาขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหานักเดินทางที่พยายยามหลบหนี
"ข้า... ข้าขอร้องได้โปรดปล่อยข้าไป..."
"มันคงไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ..."
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงร้องโหยหวนของความเจ็บปวดก็ดังไปทั่วในป่าที่ปกคลุมไปด้วยหินนี้
แม้ว่าสาวกทั้งสองของนิกายซวนหยินจะมาถึงขั้นที่ห้าของรูปแบบแก่นแท้จริงเท่านั้น แต่ในฐานะผู้ฝึกตน การฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพของนิกายซวนหยินนั้นไม่ใช่สิ่งที่นิกายอื่นๆจะสามารถเทียบได้
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวผู้ฝึกตนทั้งหมดของทีมนักเดินทางก็ถูกฆ่าตายจนหมด
...
ในขณะเดียวกันหยวนวู่จีได้พบกับ ซื่อหมินและหวงหลินเองก็กําลังวิ่งหนีอยู่
เมื่อมองไปที่หยวนวู่จีซึ่งกําลังเดินเข้าหาพวกเธออย่างสบายๆนั้น สีหน้าของพวกเธอก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ