ตอนที่ 1122 สาวน้อยเปลี่ยนแปลงสิบแปดอย่าง
เพราะความล้มเหลวพ่ายแพ้ของว่านหมอและจินฉีหลานฟงและคนอื่นจึงสละสิทธิ์ต่อสู้อย่างรวดเร็ว
ตลกร้ายแล้ว
ใครเล่าอยากจะแข่งขันชิงชนะเลิศกับไตตันน้อย?
นั่นไม่ใช่การแสดงความกล้าแต่เป็นการหาที่ตายและทำร้ายตนเอง หลานฟงแอบดีใจในความโชคดีของตนในเวลานี้ ว่านหมอเหมือนกับขวางไว้ให้เขา มิฉะนั้นคนที่จะต้องอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์หุบเขามนุษย์ก็ต้องเป็นตัวเขาเอง ไม่ใช่ว่านหมอผู้เสียหน้าและหงุดหงิด
การแข่งขันที่ถูกทิ้งไว้ตรงนี้ยังไม่จบ การลงโทษฝ่ายนั้นยังไม่ออกมา ไม่ใช่ว่าการต่อสู้แบบสองต่อหนึ่งไม่ยุติธรรมแต่เนื่องจากทั้งจินฉีและว่านหมอ ใช้พลังเทพที่ไม่รู้จักในการโกง ผิดกฎต้องห้ามแปลงร่างเป็นหุ่นอสูรที่น่ากลัว ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทำเกินไป ก็คือว่านหมอคาดไม่ถึงว่าเขาใช้พลังเทพหยุดกฎสวรรค์ และส่งกองทัพนักรบเผ่ากระดูกจำนวนหกหมื่นเขามาละเมิดกฎดั้งเดิมและเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งรุ่นก่อน ถ้าไตตันน้อยไม่สามารถต้านเจตจำนงสวรรค์บางทีเขาคงตายไปนานแล้ว
ดังนั้นไตตันน้อยจึงได้รับชัยชนะ จินฉีและว่านหมอยอมรับความพ่ายแพ้ พฤติกรรมการโกงของเขาจะต้องถูกลงโทษด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นจะไม่เป็นธรรมต่อนักเรียนอื่น และอนุชนรุ่นหลัง
ว่านหมอและจินฉีถูกตัดสิทธิ์ทันที
หลังจากที่พวกเขาถูกตัดสิทธิ์ สถานการณ์การประเมินปีนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนไม่ได้คิดเกี่ยวกับผู้ชนะเลิศเพราะจะต้องตกเป็นของไตตันน้อย ไม่มีใครกล้าต่อสู้กับเขา ยกเว้นผู้ชนะอันดับรองชนะเลิศมีการโต้เถียงเล็กน้อยถึงความมีสีสันของหุ่นแพลตตินัมของหลานฟงมีพลังมากกว่าหรือว่าการโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่าของชิงหมอ? ทุกคนรู้เหตุผลที่ชิงหมอยอมรับความพ่ายแพ้และออกจากสนามต่อสู้ หากว่านหมอจอมโกงถูกตัดสิทธิ์ชิงหมอจะยอมกลับเข้าแข่งขันอีกไหม?แนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะจะมากขึ้น
อย่างไรก็ตามชิงหมอและหลานฟงไม่ยอมเข้าสู้ในรอบรองชนะเลิศและต่างคนต่างยอมสละสิทธิ์
ผลตอบรับเช่นนี้ทำให้นักเรียนที่กระตือรือร้นต้องการดูการต่อสู้ผิดหวังเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เขาไม่ดุดันเด็ดขาดเหมือนเมื่อก่อน ทำไมถึงไม่สู้กันเล่า?
เพียงแต่ชิงหมอกับหลานฟงรู้ตัว่าไม่ว่าพวกเขาจะสู้ได้ดีแค่ไหนสู้ศึกต่อไปทุกคนคงไม่ได้ผลการต่อสู้ที่น่าพอใจ เพราะมียักษ์แก้วผลึกของไตตันน้อย หุ่นรบบินแมงมุมระเบิดและวงเวทอักขระรูนชีวิต เทียบกันแล้วพวกเขามิอาจสู้ได้
แทนที่จะปล่อยให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาต่อหน้าต่อตาคงจะดีกว่าที่พวกเขายอมเก็บเนื้อเก็บตัวรักษาหน้าตาไว้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานฟง เขากังวลมาก ถ้าชิงหมอยืนยันต่อสู้และเขาถูกบังคับให้ใช้พลังเทพที่ได้มาจากสัญญาแลกเปลี่ยน คาดว่าเขาคงจะเป็นเหมือนว่านหมอและจินฉีถูกทุกคนปฏิเสธ
ความลับนี้ไม่อาจเอามาเปิดเผยได้
“ประกาศให้ทราบหลังจากกรรมการผู้ประเมินและนักเรียนได้ปรึกษากันแล้วในที่สุดก็ได้ผลออกมา นักเรียนหลานฟงชนะได้ตำแหน่งที่สองด้วยคะแนนที่น้อยมาก แต่นักเรียนชิงหมอไม่ได้โต้แย้งคัดค้านยอมรับตำแหน่งที่สาม ในโอกาสเดียวกันนี้ข้าขอประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่าคณาจารย์สถาบันผู้พเนจรแดนฟ้าหลังจากประเมินนักเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเขาจะไปเมืองใบทองและเมืองหลวงจักรวรรดิด้วยกันเพื่ออธิบายให้ผู้อาวุโสของจินฉีและว่านหมอสองคนทราบ และจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจกับทุกคน” ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ากล่าวว่าเรื่องนี้ยังไม่จบหากมีการใช้การโกง ไม่ว่าพลังเทพที่ไม่รู้จักที่อยู่เบื้องหลังนั้นจะเป็นอะไร ก็จะต้องมีบทลงโทษ
“....” จินฉีและว่านหมอที่ค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปกติได้รับเชิญจากกรรมการกลางไปกักกันตัว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องอธิบายถึงแหล่งพลังงานที่ไม่รู้จักและเหตุผลของการโกงก่อนที่พวกเขาจะจากไป
ทันทีที่พวกเขาเดินจากไป นักเรียนที่เหลือส่งเสียงเฮทันที
แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้รับรางวัลเอง แต่พวกเขาสามารถเป็นสักขีพยานการประลองที่ไม่มีใครเทียบได้เหล่านี้นับว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตตันน้อยที่ตัวคนเดียวสู้กับจินฉีและว่านหมอในที่สุดก็แสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมแบบพลิกตลบจักรวาล เป็นการต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนยกเว้นไตตันน้อย ใครจะสามารถเอาสู้ชนะหนึ่งต่อสองได้ นอกจากไตตันน้อยใครจะสร้างหุ่นรบบินได้ นอกจากไตตันน้อยแล้วใครจะสามารถกำจัดนักรบกระดูกทั้งหกหมื่นคนจนหายไปไม่เหลือ?
ศึกครั้งนี้จะถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์
นับแต่เริ่มประวัติศาสตร์หุบเขามนุษย์นี่เป็นการต่อสู้ที่เด็ดขาดที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ทราบว่าเคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์มาก่อนหรือไม่...แต่ทุกคนคิดว่าอย่างน้อยก็คงเป็นพันปีที่ไตตันน้อยเอาชนะว่านหมอและจินฉีในศึกครั้งนี้ อาจจัดอยู่ในสามสุดยอดอันดับแรกในประวัติศาสตร์
สู้กันหนึ่งต่อหมื่น แค่คิดก็ทำให้คนกระอักเลือดได้แล้ว
เย่ว์หยางไม่ได้พอใจดีใจอย่างที่ทุกคนคิด
ไม่มีความตื่นเต้นอะไรต้องฉลอง
เขารู้สึกเกียจคร้านเล็กน้อย
เขานอนบนเตียงนิ่งๆ ด้วยความรู้สึกเบื่อเหมือนคุณชายเกียจคร้านไม่มีอะไรจะทำ
คุณชายหมิงจูแปลกใจเล็กน้อยมีอะไรผิดปกติกับเจ้าเด็กคนนี้? เขาเหนื่อยจริงๆ หรือ? ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคิดสู้ศัตรูหนึ่งต่อหมื่นแต่พอมองดูเขายังผ่อนคลาย เขาคิดว่าเย่ว์หยางชนะได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดมันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า? เมื่อคิดได้ดังนี้คุณชายหมิงจูเอาของขบเคี้ยวเบาๆ ให้เขา และนวดเขาไปด้วยเหมือนเป็นการให้รางวัลเขา แน่นอนว่าคุณชายหมิงจูทำไม่บ่อยนัก น้ำเสียงที่พูดก็ค่อนข้างอ่อนโยนนุ่มนวล “เหนื่อยไหม? หรือว่าเจ้ารู้สึกไม่สบายใจ?”
“ได้คู่หูพูดนุ่มนวลเอาใจอย่างนี้ข้าไม่กล้าพูดว่าเหนื่อยแน่ ข้าไม่ได้ระบายอารมณ์มาสองสามวันนี้ ข้ากลัวอยู่เล็กน้อย” เย่ว์หยางบอกว่าคุณชายหมิงจูใช้คำพูดที่ไม่ธรรมดา
“เจ้าตื่นเต้นงั้นหรือ?” คุณชายหมิงจูเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ก็คว้าค้อนทองออกมาทันที “ก็ได้ งั้นข้าจะให้เจ้าตื่นเต้น”
ได้รับการดูแลอย่างยากลำบากเขาค่อยมีสติและจิตสำนึกกลับคืนมา
เจ้าเด็กนี่เกิดมาเพื่อโดนทุบจริงๆ
ถ้าไม่โดนทุบสักวัน ผิวหนังจะคันชาใช่ไหม?
สมองของเขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร คิดแต่เรื่องสตรีทั้งวัน นี่เขาคิดเรื่องอื่นไม่ได้หรือไง?
เย่ว์หยางตกใจกระโดดขึ้นจากเตียงและหนีออกจากประตู เขากล้าพูดว่าถ้าเขาวิ่งช้าลงเล็กน้อยคงถูกคุณชายหมิงจูเลาะฟันแน่ น่ากลัวยิ่งกว่าว่านหมอและนักรบกระดูกหกหมื่นตัวเป็นร้อยเท่า
“อย่าให้ข้าเห็นเจ้าอีก เจ้าบ้า งี่เง่า” คุณชายหมิงจูมองเห็นมีคนอยู่ข้างนอกเขาใส่ใจกับภาพลักษณ์ตนเองจึงไม่วิ่งไล่ต่อ
“ฮะฮะฮะ ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเร่ขายหนังสือพิมพ์ โอ๊ะไม่ใช่ข้าคือจอมเจ้าชู้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสาวๆ..”
เย่ว์หยางทำหน้าล้อเลียนหมิงจูจากนั้นเผ่นหนีและหาที่ที่ไม่มีใครสังเกตเห็นจากนั้นให้เสี่ยวเหวินหลีพากลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ พบองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนแรกเขากอดนางและจูบนางก่อน
รอจนแม่เสือสาวตั้งตัวได้ เขารีบบอกข่าวดี “ข้าชนะว่านหมอ”
“ถ้าเจ้าชนะ เจ้าก็จะชนะ ดูสารรูปที่น่าภูมิใจของเจ้าสิอย่างกะสุนัขคลุกฝุ่น” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค้อนเขา นางไม่ต้องต้องการสนใจเขาแต่ก็อดประหลาดใจไม่ได้ “เล่าให้ฟังหน่อยเจ้าสู้อย่างไร?”
“กระบวนการต่อสู้ต้องบอกว่าวิเศษจริงๆ..” เย่ว์หยางกระแอม “แค่ก แค่ก จู่ๆ ก็กระหายน้ำ”
“จะดื่มชาไหม?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเข้าใจว่านี่หมายความว่าอย่างไร
“ถ้ามีสาวงามอยู่ด้วย มีชาสักจอก ถึงไม่มีเหล้าก็เมาได้” เย่ว์หยางยังไม่พูดอะไรแต่หน้าของเขาบอกยี่ห้อ ‘ไม่เมาเหล้า แต่เรายังเมารัก’
“เฮ้, กระเป๋าหนังสือเล่มนี้ร่วง น่าเสียดายที่ข้าไม่ใช่แม่สาวหิมะของเจ้ามุกนี้ใช้กับข้าไม่ได้!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนล้อ “ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าวางกาชาบนหัวเจ้าอย่างนั้นก็รีบบอก อย่าได้พูดไร้สาระ” อย่างไรก็ตามมองผิวเผินเหมือนกับนางเบื่อหน่าย แต่นางไม่ได้โกรธนางหยิบกาชารินใส่ถ้วยของเย่ว์หยาง
“แม่เสือสาว เจ้าช่างน่ารักจริงๆ แม้ว่าจะหยิ่งไปบ้าง” เย่ว์หยางบอกว่านางน่าประทับใจ
“ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็เอาคำพูดคืนไป” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองเขาด้วยนัยน์ตาดุ
“ความจริงแล้วบางครั้งหยิ่งบ้างก็น่ารักนะ...” เย่ว์หยางรู้สึกว่าไม่มีปัญหามาก และสตรีมีคุณลักษณะที่หลากหลาย หากไม่มีหยิ่งบ้างเชื่อว่าความสุขคงด้อยลงไปบ้าง
สำหรับบุรุษผู้อารมณ์ดีหน้าหนาราวกับกำแพงเมืองใครจะทำอะไรเขาได้?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจึงต้องทำเป็นเฉยบ้าง
มิฉะนั้นจะมีแต่เรื่องพูดเหลวไหล
เมื่อได้ยินเย่ว์หนางพูดเกี่ยวกับการต่อสู้กับนักรบกระดูกหลายหมื่นของว่านหมอทั้งหมด จิตใจขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางได้ยินว่าเย่ว์หยางถูกบริวารว่านหมอถึงหกหมื่นตัวล้อม จากนั้นนางได้ยินว่าเย่ว์หยางสร้างวงเวทพลังชีวิตและแมงมุมระเบิดที่มีพลังมากจนพวกมันกำจัดศัตรูและชนะการต่อสู้ได้นางถอนหายใจอย่างโล่งอก นางไม่เคยสงสัยเลยว่าเย่ว์หยางจะล้มเหลว แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเรื่องง่ายในตอนต้น นางคิดว่าเขาจะต้องใช้พลังงานมากมายมหาศาลเพื่อเอาชนะ แต่นางไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะทำลายนักรบกระดูกด้วยพลังที่ฉลาดและพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ นางแอบดีใจเขาสมควรได้รับชัยชนะจริงๆ คุณชายสามตระกูลเย่ว์สมควรแล้วเปลี่ยนเป็นคนอื่นคาดว่าคงไม่ใช่เรื่องง่าย
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอารมณ์ดีและชมเชยเขาอยู่สองครั้ง
จนกระทั่งจบนางเห็นว่าเจ้าเด็กนี่มองเข้าไปด้านในและมองดูอยู่นานเหมือนต้องการจะเข้าไปพักผ่อนนางหันหน้าหนีทันทีและผลักเย่ว์หยางออกนอกประตูและปิดประตูใส่หน้าเขา
“แม่เสือสาว! อย่าตกมาอยู่ในเงื้อมมือข้าก็แล้วกัน มิฉะนั้นจะใช้กฎครอบครัวหวดก้น 180 ที” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นก็แค่พูดไปอย่างนั้นถ้าขืนทำเช่นนั้น เขาคงทนไม่ได้ เขาจะรอคอยโอกาสอีกครั้ง
“พี่สะใภ้ทรงพลังมากนะ” เสียงไพเราะดังขึ้นหลังเย่ว์หยาง
ต่อให้เขาไม่หันไปดูเขาก็รู้ว่าแม่สาวน้อยนี่คือใคร
มารเคราะห์ฟ้า
เพียงแต่แม่สาวน้อยมารเคราะห์ฟ้ากล้าแอบย่องมาอยู่ข้างหลังเย่ว์หยางและทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่จะเป็นปัญหา และนางจะเรียกเขาว่าพี่เขาด้วยน้ำเสียงไพเราะไม่หยุด
ในอดีตที่ผ่านมาเนื่องจากมารเคราะห์ฟ้าขังตัวฝึกฝนนางไม่ได้ออกมาสูดอากาศนานแล้ว
ไม่มีโอกาสออกไปข้างนอกกับเย่ว์หยาง
ตอนนี้มีโอกาสนางรีบออกมาข้างนอกทันที
ใครที่ใกล้ชิดนางที่สุด?
สำหรับมารเคราะห์ฟ้าในตอนนี้ก็คือพี่เขยนางเพราะพี่เขยไม่เพียงแต่มีของวิเศษให้นางเท่านั้นแต่ยังสอนการฝึกฝนจนบรรลุผ่านสภาวะคอขวดเลื่อนระดับพลังใหม่
“ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย...” เย่ว์หยางพบว่าหลังจากเด็กสาวผู้นี้ขังตัวฝึกฝนดูเหมือนแตกต่างไปบ้างเล็กน้อย แต่นางไม่เห็นความแตกต่างเลย นับว่าแปลกจริงๆ
“จริงหรือ? พี่เขยคิดว่าข้าแตกต่างไปจากเดิมหรือ?สวยขึ้นหรือเปล่า?” มารเคราะห์ฟ้าคล้องโซ่เทพสายฟ้าเข้ามาใกล้เขาอย่างไม่ลังเลใบหน้านางห่างพี่เขยเพียงสองนิ้ว คอนางยาวเหมือนหงส์ ตากลมโตน่ารักราวกับต้องการให้พี่เขยดูให้ชัดเจน
“ดูแล้วไม่ใช่สาวผมทอง” เย่ว์หยางเขกศีรษะมารเคราะห์ฟ้าเบาๆ
“ชอบเขกหัวผู้อื่นอยู่เรื่อย ถ้าข้ากลายเป็นคนโง่เจ้าจะว่ายังไงพี่เขยทำน่าเกลียดที่สุด!” มารเคราะห์ฟ้ากุมศีรษะนางและฟ้องนางเซียนหงส์ฟ้าที่เพิ่งมาถึงอย่างน่าสงสาร “พี่เขยตัวร้ายบังอาจเกินไปแล้วท่านต้องให้ความเป็นธรรมข้า”
“เจ้าจะให้ลงโทษเขาหรือเปล่า?”
“ต้องทำ”
“ดี..คืนนี้ข้าจะใช้เคล็ดพิเศษทำให้เขาหายใจไม่ออก..”
“พี่เทียนฟาท่านจะลงโทษหรือให้รางวัลเขา ไม่ ไม่ แค่นั้นเบาเกินไป”
“ไปเดี๋ยวนี้เลยไม่อย่างนั้นข้าจะแก้ผ้าเจ้าและหวดก้น ไม่รู้เลยว่าแม่มดน้อยอย่างเจ้ากลัวว่าโลกวุ่นวายไม่พอ แกล้งทำหน้าซื่อ ระวังตัวไว้”
สาวน้อยพอถูกดุก็แล่บลิ้นอย่างน่ารัก
นางทำหน้าล้อเลียนพี่เขย
กลิ่นหอมของนางยังลอยอวลเสียงหัวเราะของนางดังราวกับระฆังเงิน