ตอนที่ 1119 หนึ่งต่อหมื่น
สำหรับการท้าทายของเย่ว์หยางว่านหมอหัวเราะลั่น ดูเหมือนว่าเขามีจิตใจที่แข็งแกร่งไม่ได้ตกใจกับยักษ์แก้วผลึกที่อยู่ข้างหน้าของเขา
ทุกคนตกตะลึง
เมื่อเห็นยักษ์แก้วผลึกทรงพลังขนาดนั้นทำไมจะไม่ประทับใจเล่า?
ว่านหมอยังมีไม้เด็ดที่ยังไม่เปิดเผยไม่ใช่หรือและมีพลังที่เหลือเชื่อยังไม่แสดงออกมา?
หรือว่าเขารู้จุดอ่อนของยักษ์แก้วผลึกและมีวิธีบังคับควบคุมศัตรูแล้ว?
ขณะที่ทุกคนสงสัยมีแรงสั่นสะเทือนเบาๆที่พื้น
ดูเหมือนว่ามีศพถูกฝังลึกอยู่ใต้ดิน
กำลังผุดขึ้นมาจากข้างล่าง
พวกมันกลับขึ้นมาบนพื้นปฐพี
ในพื้นที่ซึ่งตายแล้วเลือดดำที่มีพลังกัดกร่อนมีควันขึ้นหนาราวกับว่ามีชีวิตจับตัวเป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่องและไหลลงไปรวมในหลุมเมื่อเห็นลักษณะที่แปลกประหลาดนี้เย่ว์หยางขมวดคิ้วและยักษ์แก้ผลึกของเขาจู่โจมทันทีมันยกเท้าใหญ่เป็นครั้งที่สองและขยี้ที่หลุมจุดศูนย์รวมของเลือดดำบนพื้น
เลือดดำที่แข็งมากรวมกันอยู่ในบ่อถูกเหยียบย่ำกระเด็นขึ้นมาในทันใด
สำหรับการท้าทายนั้น..ว่านหมอไม่ได้โกรธ เขายักไหล่และหัวเราะ “เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าสามารถฆ่าจินฉีได้ บางทีเจ้ายังคงไม่รู้ หุ่นปีศาจของเขามีเลือดดำที่ไม่มีวันตาย! รอให้เจ้าเอาชนะจินฉีได้จากนั้นค่อยมาท้าข้า!”
ความเห็นของเขาหมายความว่าเย่ว์หยางยังไม่มีคุณสมบัติพอจะท้าทายเขา
เขาเกรงว่าตอนนี้เย่ว์หยางมียักษ์แก้วผลึกที่ไร้เทียมทาน
พอว่านหมอเอ่ยปาก
ผู้ชมตะลึงทันที
นี่พูดเกินไปหรือเปล่า...ไตตันน้อยมียักษ์แก้วผลึกที่แข็งแกร่งมากมายพวกนักเรียนคาดว่าแม้แต่จีอู๋ลี่ที่มีหุ่นแค้นของเจ้าชายและเป็นผู้ใกล้เคียงเทพมากที่สุดก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ไตตันน้อยอีกต่อไป ต่อให้มีหุ่นแค้นของเจ้าชายสองตัวซึ่งเป็นระดับแพลตตินัม แม้แต่คนตาบอดก็ยังมองออกว่ายักษ์แก้วผลึกแข็งแกร่งกว่าหุ่นแค้นขององค์ชายมาก! ร่างที่สูงร้อยเมตรไม่สนใจการกัดกร่อนและทำลาย การทำลายส่วนอื่นๆ ของร่างผลึก ทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการควบคุมเช่นเดียวกับมือและแขน ยักษ์แก้วผลึกยังสามารถลดระดับลงมาในเวลาไม่กี่นาที แต่ว่านหมอกล้าบอกว่าเขาไม่มีมีคุณสมบัติจะท้าทายตัวเขา นี่มันบ้าเกินไป บ้าคลั่งที่สุด!
ปัง!
เลือดดำที่กระเซ็นอยู่บนพื้นและหลุมขนาดใหญ่โผล่ออกมาทันทีเป็นรูปหุ่นปีศาจที่มีเลือดดำนับไม่ถ้วนไหลเวียนอยู่ภายใน
ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะพบว่าหุ่นปีศาจที่สูงสิบเมตรบัดนี้กลายเป็นหุ่นยักษ์สูงร้อยเมตร
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือที่น่าผากที่น่าเกลียดของหุ่นรบปีศาจ
มีลวดลายอักขระรูนประหลาด
เป็นประกายระยิบระยับ
เมื่อยักษ์แก้วผลึกเปล่งแสงวงเวทรูนมันแยกออกมาจากผู้ควบคุมหลักคือเย่ว์หยางเปลี่ยนไปเป็นหุ่นอสูรบุกเข้าโจมตีหุ่นปีศาจที่สูงร้อยเมตร
หุ่นปีศาจถูกยักษ์แก้วผลึกกระแทกใส่หมัดใส่แต่ไม่ได้รับความเสียหาย เลือดดำกลับมารวมกันได้อย่างรวดเร็วทันที
มันล้มและถอยอย่างต่อเนื่องและค่อยๆ ออกห่างไปจากสนามรบเรื่อยๆ
ยักษ์แก้วผลึกไล่ล่าเอาชนะมันให้ได้อย่างบ้าคลั่ง
เย่ว์หยางมีจักษุญาณทิพย์สามารถเห็นรูปแบบอักขระรูนที่หน้าผากหุ่นปีศาจว่าหมายถึงอะไรมันมีความหมายว่า ‘ล่อลวง’อย่าว่าแต่ยักษ์แก้วผลึกที่ไม่มีปัญญาเลย แม้ว่าจะเป็นอสูรที่มีทักษะต่ำก็ไม่สามารถหนีพ้นพลังแห่งการหลอกล่อได้ แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของยักษ์แก้วผลึก แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในการทำลายหุ่นของว่านหมอทำให้หุ่นของว่านหมอติดกับวงเวทรูนล่อลวงไปด้วยพร้อมกับยักษ์แก้วผลึก เย่ว์หยางกำลังอ่อนลงอีกครั้ง
ใจของเขารู้สึกอึดอัด!
“เจ้ามียักษ์แก้วผลึกตัวที่สองอีกไหม? ถ้าไม่มีก็เสียใจด้วย ข้าต้องชนะ!” ว่านหมอถามเย่ว์หยางอย่างหยิ่งยโส
“มี แต่ไม่ใช่หุ่นยักษ์, ไม่ใช่หมาป่าเงินข้ามีแต่พยัคฆ์ทอง” สีหน้าของเย่ว์หยางเรียบเฉยไม่รีบร้อน แต่เขาได้การเชียร์จากพวกนักเรียน
เย่ว์หยางลูบแหวนเก็บสมบัติบนนิ้ว หุ่นพยัคฆ์ทองที่ดุร้ายกระโดดออกมาทันที
ศักยภาพของมันเหมือนเสือภูเขาที่ดุร้าย
ยากป้องกันได้
แม้ว่าจะไม่ทรงพลังเท่ากับยักษ์แก้วผลึกระดับแพลตตินัมแต่เทียบกับยักษ์แก้วผลึกที่ไม่สามารถควบคุมได้ในการต่อสู้ครั้งเดียวก็สูญเสียการควบคุมและถูกล่อหลอกหุ่นพยัคฆ์ทองเปิดห้องขับขี่โดยอัตโนมัติและเปลี่ยนรูปเป็นพยัคฆ์คลั่งอย่างรวดเร็ว เย่ว์หยางใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วเทียบกับหุ่นยักษ์โอ๊กที่ดีแต่ใช้แรงซึ่งว่านหมอใช้งานผ่านคนแคระ (โนม)ดูเหมือนโง่ไปเลย
กราววววว
นักเรียนที่เชียร์เย่ว์หยางอดปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่ได้
ส่วนคนที่เชียร์ว่านหมอสีหน้าซีดตกตะลึง...เมื่อครู่นี้ยักษ์แก้วผลึกก็ไปแล้วพวกเขาคิดว่าคงจะชนะไตตันน้อยได้อย่างง่ายดาย ใครจะรู้ไตตันน้อยยังมีหุ่นพยัคฆ์ร้ายอีกตัวหนึ่ง เป็นศัตรูที่น่ากลัวจริงๆ!
หน้าของว่านหมอสลดลงเล็กน้อยเพียงชั่วขณะเขาก็แค่นเสียง “พยัคฆ์ร้ายระดับทอง? ฝีมือแค่นั้นไม่เท่าไหร่,ยักษ์แก้วผลึกระดับแพลตตินัมข้าจะได้เก็บเอาไว้เป็นรางวัล ส่วนหุ่นทองจะทำอะไรได้! ไตตันน้อย! บางทีเจ้าอาจเก่งในด้านพลังโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่า ฝีมือการขับขี่หุ่นรบของเจ้าไม่มีใครเทียบได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความไร้เทียมทานอย่างแท้จริงฝีมืออย่างนี้จะทำอะไรได้? เมื่อเทียบกับเทพ เจ้าเป็นแค่แมลงน้อยผู้น่าสงสารแม้แค่พลังเทพหนึ่งในหมื่นก็เพียงพอต่อการบดขยี้เจ้าจนเละได้!”
“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ปล่อยหมากเด็ดเจ้าลงมาได้แล้ว” เย่ว์หยางกระโดดเข้าไปในห้องขับขี่ของพยัคฆ์ทองเตรียมพร้อมต่อสู้
เขารู้ว่าว่านหมอมีพลังของเทพปีศาจ
เทียบกับจินฉีที่มีพลังเพียงหนึ่งในแสนจินฉีเป็นแค่ขยะ
อย่างไรก็ตามด้วยวิธีนี้เย่ว์หยางไม่สามารถฆ่าจินฉีได้อย่างง่ายดาย ยักษ์แก้วผลึกสามารถสร้างขึ้นจากอากาศเพื่อปราบปรามอย่างครอบคลุมดังนั้นจินฉีที่กลายเป็นหุ่นรบปีศาจในรูปเลือดดำภายใต้พลังของเทพปีศาจเขาจะล่าถอยไปโดยไม่ตาย
แต่เมื่อเทียบกับว่านหมอเย่ว์หยางไม่อาจใช้วิธีเดียวกันนี้
เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของว่านหมอจงใจให้ว่านหมอแอบช่วยจินฉีทั้งยังจงใจให้ว่านหมอใช้พลังเทพปีศาจไว้บนหน้าผากของเลือดดำ เขายอมเสียการควบคุมยักษ์แก้วผลึกปล่อยให้ยักษ์แก้วผลึกตกไปในหลุมพรางของว่านหมอปล่อยให้เขาและจินฉีไร้เหตุผลคิดว่าการล่อลวงนั้นมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มการใช้พลังเทพปีศาจ
ความจริงเย่ว์หยางแค่ต้องการสำรวจการใช้พลังของเทพปีศาจและความสิ้นเปลืองพลังของพวกเขา
ตราบเท่าที่ค้นหาความจริงของพลังเทพปีศาจ
อย่างนั้นในอนาคตการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเทพปีศาจที่ฟื้นชีวิตเขาจะมีความมั่นใจมากขึ้น!
“จะให้เจ้าได้เห็นว่าอะไรคือพลังที่ไร้เทียมทานมิอาจต่อต้านได้ที่สุดในโลกในสนามรบที่พังทลาย” ว่านหมอหัวเราะและเขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นนักสู้สุดยอดฝีมือเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ด้วยพลังของตนเอง แต่เขายังมีความมั่นใจเพราะพลังที่เทพเจ้ามอบให้ เขามีเหตุผลเชื่อว่าเขาจะอยู่ยงคงกระพันได้ตลอดในหุบเขามนุษย์ไม่มีใครสามารถเหนือหรือเอาชนะเขาได้!
ว่านหมอเหยียดมือดำผอมแห้งออก
แสงสีดำสองกลุ่มควบแน่นอยู่บนฝ่ามือของเขา...ในหุบเขามนุษย์ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังส่วนบุคคลอย่างแน่นอน ภายใต้เงื่อนไขว่าพลังของเทพปีศาจทำลายกฎห้ามชั่วคราวปล่อยให้ว่านหมอฟื้นฟูทักษะแฝงเร้นและสนามพลังของเขาได้
ในเวลาแค่หนึ่งวินาทีพื้นที่ฝ่ามือบิดเบี้ยวมีกลุ่มแสงสีดำนับไม่ถ้วนมาบรรจบก่อตัวเป็นดวงอาทิตย์ดำที่น่ากลัวสองดวง
ดวงอาทิตย์ดำถูกปล่อยออกไป
ตกลงบนพื้น
การใช้พลังของเทพปีศาจทำลายกฎสวรรค์ชั่วคราวของว่านหมอไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เขารีบถอนพลังเทพปีศาจออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้กฎสวรรค์ระเบิดขับไล่ เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่กรามค้างจากผลสะท้อนของกฎสวรรค์เขาพยายามสงบอารมณ์ระงับอาการหายใจไม่ออกจะพลังสะท้อน ในเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งดวงอาทิตย์สีดำทั้งสองตกลงบนพื้นเงียบๆกินพื้นที่ครึ่งสนามรบ มันไม่ได้ระเบิด แต่กระจายขยายต่อเนื่องขึ้นไปบนท้องฟ้าและครอบคลุม
เมื่อแสงสีดำค่อยๆจางหายไป นักเรียนที่มองดูการต่อสู้ค่อยๆ มองเห็นภาพ
ทุกคนพบเห็นภาพสยองขวัญ
ไม่รู้ว่ามีกองทัพเผ่าพันธุ์มนุษย์กระดูกยืนอยู่หลังว่านหมอตั้งแต่เมื่อใด
จำนวนของพวกมันนับไม่ถ้วนประมาณกันว่านักรบเผ่ากระดูกมีอย่างน้อยห้าหมื่น แต่ละร่างดูน่ากลัว
ในบรรดาเผ่าพันธุ์กระดูกแต่ละตัวมีพลังเทียบเท่าหุ่นรบระดับทอง กระดูกเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์กระดูกซึ่งกฎของหุบเขามนุษย์ยอมรับในฐานะหุ่นรบ พวกมันปรากฏขึ้นในสนามรบไม่มีการลงโทษเพราะแหกกฎ กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือตอนนี้ศัตรูของเย่ว์หยางเป็นนักรบเผ่าพันธุ์กระดูกมากกว่าห้าหมื่น ศัตรูมีมากกว่าหุ่นพยัคฆ์ทองมาก
“ข้าบอกไปแล้วไตตันน้อย เจ้ามีฝีมือไม่เท่าไหร่ไม่ใช่หรือ? โจมตี ก็ใช้แค่ท่าโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดกระบวนท่า เอาเลย ใช้มันโจมตีกองทัพนี้ได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจข้า ข้ากล้าพูดว่าตราบใดที่เจ้าสามารถกำจัดคนรุ่นเก่าทั้งหกหมื่นนี้ได้ ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้! โอว ข้าเกือบลืมบอกเจ้าไป ในหมู่นักรบทั้งหกหมื่นที่โผล่มาจากหลุมศพนี้มีขุนพลกระดูกขาวถึงหกสิบตัว หากพวกมันถูกวัดมาตรฐานความแข็งแกร่งของหุบเขามนุษย์อาจเหนือกว่าหุ่นรบแพลตตินัมได้ ถึงกระนั้นพวกมันก็มีปัญญาไม่ด้อยไปกว่ามนุษย์ที่จะชนะพวกมัน!” ว่านหมอโบกมือไม่ให้โอกาสเย่ว์หยางได้พูด และเขาไม่ได้ให้เวลาแก่ผู้ที่เขาดูถูกเหยียดหยามเขาสั่งให้นักรบเผ่ากระดูกบดขยี้เย่ว์หยางเพื่อชิงความได้เปรียบ
“....” เย่ว์หยางไม่มีเวลาเอ่ยปากพูดพยัคฆ์ทองก็ถูกคลื่นเผ่ามนุษย์กระดูกกรูเข้าหามืดฟ้ามัวดิน
นักเรียนที่จับกลุ่มกันหวาดกลัวแทบตาย
เป็นไปไม่ได้
แม้ว่านักรบเผ่ากระดูกไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มีแต่โครงกระดูกบางส่วนแต่ไม่มีเหตุผลใดที่มันจะมาปรากฏในหุบเขามนุษย์
สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดก็คือว่านหมอใช้พลังอะไรทำลายกฎสวรรค์และนำเผ่าพันธุ์กระดูกเหล่านี้เข้ามาในสนามรบ? นี่หมายความว่าว่านหมอมีพลังมากพอฝ่าฝืนกฎสวรรค์หรือ? แม้แค่เพียงวินาทีเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะให้เขานำนักรบโครงกระดูกหลายหมื่นตัวเข้ามาในสนามรบหรือหุบเขามนุษย์ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าที่แต่เดิมมีสีหน้าสงบ กลับหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย เขาไม่คาดเลยว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในแนวนี้
อาจารย์หลายคนรอบตัวเขาอับอายแทบตาย
ว่านหมอใช้วิธีลับที่น่าทึ่งราชันย์คนใหม่กำลังจะเกิด... เขามีนักรบกระดูกห้าหมื่นถึงหกหมื่นเทียบกับหุ่นรบทองใครในหุบเขามนุษย์จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้? เป็นที่คาดกันว่ากองกำลังทั้งหมดในหุบเขามนุษย์มารวมตัวกันก็ยังไม่เพียงพอจะเอาชนะว่านหมอนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงเขามีขุนพลกระดูกขาวถึงหกสิบตัวซึ่งมีพลังเทียบเท่าหุ่นรบแพลตตินัม!
ผู้ชมนิ่งสนิทเหมือนตาย
แม้แต่ฉีมู่ที่พูดมากก็ยังพูดไม่ออก
หนึ่งต่อสิบแม้ว่าจะเป็นหนึ่งต่อร้อยก็ยังพอเป็นไปได้ แต่หนึ่งต่อพัน หนึ่งต่อหมื่น แล้วจะเอาชนะกันได้อย่างไร?
หนึ่งต่อหมื่นเป็นจำนวนที่สิ้นหวังจริงๆ
หมดหวัง
เมื่อเห็นว่านหมอใช้นักรบเผ่ากระดูกหกหมื่นแม้แต่เริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินได้แต่ส่ายหน้าพวกเขารู้สึกว่าเย่ว์หยางไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้...ต่อให้มียักษ์แก้วผลึกและหุ่นพยัคฆ์ทอง จะสู้กับเผ่ากระดูกหกหมื่นได้อย่างไร? มดหลายๆ ตัวสามารถกัดกินจนไม่เหลือได้ไม่ต้องพูดถึงนักรบเผ่ากระดูกเหล่านี้!
“ข้าเชื่อว่าเขาจะกลับมาได้พร้อมกับชัยชนะ!” ตอนนี้คนที่เชื่อมั่นเย่ว์หยางเต็มร้อยมีอยู่คนเดียวคือคุณชายหมิงจู
“หนึ่งต่อหมื่นแม้ว่าจะยาก แต่ข้ายังคงเชื่อเจ้าเด็กนี่” นอกจากเขาแล้วเขาเชื่อว่าเย่ว์หยางจะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย คนนั้นคืออาจารย์ใหญ่ เขารู้ว่าเย่ว์หยางยังไม่ได้แสดงไพ่เด็ด ถ้าแสดงไม้เด็ดออกมา แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แต่อย่างน้อยก็สามารถถอนตัวออกมาได้ ในฐานะครูบาอาจารย์ อาจารย์ใหญ่ไม่หวั่นไหวเขาเชียร์นักเรียนของตนเอง นี่คือนักเรียนที่เขาภูมิใจ!
“ถ้าเจ้าสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ความลับของหุบเขามนุษย์ที่แท้จริงจะเปิดเผยแก่เจ้า...”
สามสาวชุดขาวปรากฏตัวที่ภูเขาหินระยะไกล
พวกนางมองมาทางนี้และยิ้มพร้อมกัน
ใบหน้าของพวกนางมีความสุข
ดูเหมือนพวกนางมีความสุขมากที่ได้เห็นการต่อสู้เช่นนั้น....