ตอนที่แล้วตอนที่ 1116 คนโอหังที่สุดในโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1118 โง่เกินเยียวยา!

ตอนที่ 1117 ผิดธรรมดา ความคล่องแคล่วที่สิ้นหวัง


การต่อสู้ที่บ้าบิ่นที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะเริ่มขึ้น

ไม่เคยมีการแข่งขันสู้หนึ่งต่อสองไม่เคยมีการประลองที่บ้าคลั่งแค่หมาป่าเงินหนึ่งตัวสู้ประลองกับหุ่นรบระดับทองหลายตัวและยังเป็นหุ่นรบเลือดเนื้อระดับทองที่สามารถรับและรุกและรักษาตัวเองได้...การต่อสู้อย่างนี้หลานฟงและจงหัวที่มองดูอยู่ด้านข้างถึงกับขมวดคิ้ว พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเหนือความอ่อนแอ นอกจากนี้พวกเขายังรู้ว่าแม้แต่จีอู๋ลี่ผู้ใกล้เคียงระดับเทพที่สุดก็ยังเอาชนะฟ้าไม่ได้

จินฉีขับขี่หุ่นรบแม่เหล็กราชันย์เลือดและตั้งแต่เริ่มต้นเขาตัดสินใจทุ่มสุดกำลัง

เขาไม่ใช่ว่านหมอ

แม้ว่าเขาต้องการประพฤติตัวหยิ่งยโส  แต่เขาไม่กล้าแสดงความยโสเกินเลยในเรื่องนี้

ฝ่ายตรงข้ามคือเย่ว์หยางผู้มีสติปัญญาร้ายกาจจินฉีเข้าใจชัดเจน หน้าของเขาดูถูกเหยียดหยาม แต่ในใจของเขามีแรงกดดัน

ว่านหมอที่เหมือนกับเคยประกบกับชิงหมอปล่อยหุ่นเลือดเนื้อโนมระดับเงินสิบตัวและหุ่นรบระดับเงินสิบตัว หลังจากทั้งสองตัวกันแล้วก็ปล่อยหุ่นยักษ์โอ๊กระดับทอง

เข้ากันได้พอดี

และแสดงพลังของการบดขยี้!

นักเรียนบางคนผู้ปรากฏตัวที่สนามรบอดส่งเสียงโห่ร้องไม่ได้

สองต่อหนึ่งนี่มันมากเกินไปแล้ว  ตอนนี้ไม่ง่ายอย่างสองนัดที่ผ่านมา สองต่อหนึ่งมันง่ายไป  ต้องบอกว่ายี่สิบต่อหนึ่ง ถึงจะสมเหตุสมผล

“สู้ได้!”

หลังจากคำสั่งของกรรมการชุดดำให้เริ่มการต่อสู้จินฉีลงมือก่อนอย่างรวดเร็ว ขณะที่เย่ว์หยางกำลังจะจับมือกับคู่ต่อสู้ตามกติกาเขาปล่อยหมัดบดขยี้หมาป่าเงินด้านหลังเย่ว์หยาง

ผู้คนโห่ร้องไม่พอใจ

น่ารังเกียจไร้ยางอาย ขี้โกง น่าเกลียด..เสียงก่นด่านับไม่ถ้วนจากปากพวกนักเรียนดูถูกดูหมิ่นนั้นว่าน่าอับอาย  พวกขุนนางเป็นแบบนี้หรือ?  ไม่ได้ดีไปกว่าทหารรับจ้างหยาบช้าโจมตีในขณะที่คู่ต่อสู้กำลังคำนับหรือ? สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือการลอบโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้สายตาของกรรมการผู้ตัดสินช่างน่ารังเกียจ ไร้ยางอายในระดับที่น่ากลัว

ตามรูปแบบกติกาการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นสหายหรือศัตรูจะเกลียดชังหรือฆ่ากันก็ตาม

ก่อนเริ่มการแข่งขันต้องคำนับให้เกียรติคู่ต่อสู้ก่อน

นอกจากเป็นการให้เกียรติคู่ต่อสู้แล้วยังเป็นการแสดงถึงบุคลิกนิสัยของตนเอง!

นอกจากนี้กรรมการผู้ตัดสินยังไม่ได้ถอยออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนักเรียนโดยทั่วไปไม่สามารถเริ่มการโจมตีเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อกรรมการผู้ตัดสินโดยไม่ตั้งใจ  แต่จินฉีทำทั้งสองอย่างและทำอย่างง่ายดายราวกับว่าเป็นสัญชาตญาณที่จะต้องทำอย่างนี้ ยี่สิบต่อหนึ่งหุ่นระดับทองกับระดับเงินก็ได้เปรียบพอแล้วนี่ยังฉวยโอกาสจากการที่คู่ต่อสู้ทักทายและเปิดการโจมตี?

แม้แต่คนที่อารมณ์ดีก็ยังไม่อาจทนต่อสวะแบบนี้ได้!

ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในสนามแข่งขันก่อนที่การต่อสู้จะจบลงฉีมู่คงเข้าไปข้างในและเปลี่ยนจินฉีให้เป็นหัวหมูแบบไม่ต้องส่องกระจกก็ดูรู้

“มันมากเกินไปแล้ว!”  มิกหมาป่าแห่งหอสูงชูกำปั้นด่า

“จริงๆ แล้วจินฉีให้ความสำคัญกับชัยชนะมากเกินไปพฤติกรรมแบบนี้แย่มากและต่ำช้า ต่อให้ชนะชื่อเสียงก็มัวหมอง  เขาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง!” สีหน้าของคุณชายหยางฉวนจริงจัง และเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อวิเคราะห์เหตุผล  หลานฟงที่อยู่ไม่ไกลจากเขาพูดเยาะเย้ย  “การทำสงครามไร้ยางอาย?  เขาพูดถึงชัยชนะกับความพ่ายแพ้เท่านั้นหากจินฉีไม่ทำเช่นนี้จะนั่งรอให้ไตตันบุกโจมตีต่อเนื่องหรือ?  แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนประณามเขา  แต่ถ้าจินฉีชนะในท้ายที่สุดและชนะในการแข่งขันผู้คนจะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา ดังนั้นข้าคิดว่าจินฉีทำได้ฉลาด!”

หลานฟงไม่ชอบจินฉีจริงๆแต่ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย

จงหัวเป็นศัตรูในชีวิตของเขา

แต่ไตตันน้อยเป็นสหายของจงหัวและเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการคว้าชัยชนะของตัวเขาเองและว่านหมอ

ดังนั้นไม่ว่าจินฉีจะลอบโจมตีอย่างไรหลานฟงไม่รู้สึกว่าเขาทำผิด ตรงกันข้าม การกระทำเช่นนั้นทำให้หลานฟงมีความสุข

จงหัวทำสีหน้าดูถูก “เจ้าคิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะไตตันน้อยได้ใช่ไหม? น่าขันมาก จินฉีก็แค่ตัวตลกที่กระโดดไปมาจะทำอะไรได้?  ถ้าไม่มีว่านหมออยู่ในสนามต่อสู้ข้ารับรองได้ว่าจินฉีเป็นแค่ไอ้งั่งยืนหยัดได้ไม่เกินสิบห้านาที!”

สนามต่อสู้ยอดเขาตะวันตก

เย่ว์หยางไม่ได้มองดูหมาป่าเงินที่พังเสียหาย ราวกับว่าจินฉีควบคุมราชันย์เลือดให้ทำลายหุ่นของเล่น ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้หมาป่าเงินต่อสู้ในท่ามกลางสาธารณชน เย่ว์หยางกระโดดขึ้นในกลางอากาศปรากฏหมาป่าเงินในท้องฟ้าและเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นนักรบเงิน

“บึ้ม”

ว่านหมอรอคอยอย่างเงียบสงบ

แค่รอช่วงขณะนี้เท่านั้นตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ไม่มีเวลาจะเสียอีกต่อไปยักษ์โอ๊กทะยานลงมาเหมือนมัจจุราชเงาของมันคลุมเต็มท้องฟ้าและครอบงำนักรบเงินพร้อมที่จะสู้กับเย่ว์หยาง

ในขณะนั้นหุ่นรบเงินและยักษ์โอ๊กใช้ทักษ์ที่ยืดหยุ่นคาดไม่ถึงไล่ล่ากัน

พลังโจมตีของมันราวกับห่าฝนหุ่นรบเงินร่วงลงหลังกระแทกพื้น จากนั้นถูกจับขาขณะที่ร่วงลงมาถึงถื้น

ขณะที่กระเด้งพ้นจากพื้นหุ่นยักษ์โอ๊กจับขาหุ่นเงินแล้วฟาดกับพื้นทันที

ต่อเนื่องสิบแปดครั้ง

หลังจากนั้นใช้เท้าขวาเป็นแกนหลักและหมุนอย่างเร็วเก้ารอบ

จากนั้นปล่อยมือให้หุ่นเงินที่พังยับเป็นเศษเหล็กร่วงกับพื้น

แค่นี้ยังไม่พอ..ขณะที่โดนขว้างขึ้นไปในอากาศหุ่นยักษ์โอ๊กอ้าปากพ่นลำแสงที่พลังไม่เป็นรองหุ่นอสูรไอพ่นของจงหัวก่อนนั้น

ลำแสงพลังงานถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ‘บึ้ม’ หุ่นเงินในท้องฟ้าระเบิดดังสนั่น

ยกเว้นเศษชิ้นส่วนบางอย่าง

ไม่มีอะไรเหลือ

จินฉีขับขี่ราชันย์เลือดมาถึงจุดที่ระเบิดเป็นเวลานานเขาพบว่านอกจากเศษเหล็กแล้วไม่มีเศษเนื้อมนุษย์เหลือให้เห็นไตตันน้อยระเบิดจนไม่เหลือเลือดเนื้อให้เห็นหรือ?แม้ว่าพลังลำแสงที่ยิงออกไปนั้นยอดเยี่ยมแต่ไม่มีเหตุผลที่ไม่เหลือสิ่งใดตกค้างให้เห็น

ว่านหมอแตกต่างจากจินฉี สติปัญญาอย่างจินฉีคงจะคิดว่าเป็นไปได้ที่จะฆ่าเย่ว์หยางได้

หลังจากนั้นเขาควบคุมหุ่นยักษ์ให้ฉายแสงค้นหา

ทั้งหน้าและหลัง

หมุน360 องศาเพื่อค้นหาร่องรอยคู่ต่อสู้

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะมองหาเท่าใดวนหาเพียงไหนก็ไม่พบร่องรอยเย่ว์หยาง...มีแต่นักเรียนและอาจารย์ข้างนอกสนามต่อสู้ถึงจะเข้าใจได้

การโจมตีต่อเนื่องที่ว่านหมอเพิ่งแสดงออกไปเมื่อครู่นี้สามารถทำให้พวกเขาใจสั่นกายสะท้าน

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางลอยฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวว่านหมอและเฝ้าดูการโจมตีของหุ่นยักษ์อย่างสบายๆเมื่อศัตรูโจมตีแล้วโชคดีหลบได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แม้ว่าจะเป็นการโจมตีของว่านหมอ บางทีหลายคนอาจมีความมั่นใจว่าจะหลบหลีกได้สำเร็จ แต่กลับบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวหุ่นยักษ์ที่กำลังโจมตีต่อเนื่องโดยไม่ถูกค้นพบเลย นั่นเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างแท้จริง!

“เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่หรือ?” เย่ว์หยางพูดเบาๆว่านหมอสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“อะไรนะ?” ว่านหมอเงยหน้า จากนั้นเขาพบว่าที่เขาโจมตีก่อนนั้นเป็นแค่หุ่นเปล่าๆคู่ต่อสู้ไม่อยู่ข้างในแต่ยังคงลอยอยู่ด้านหลังศีรษะของเขาไม่ได้ฉวยโอกาสเริ่มลงมือ

นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

นี่ไม่ใช่การดูถูกธรรมดาแต่เป็นการดูถูกอย่างรุนแรง!

หุ่นหมาป่าเงินตัวที่สามปรากฏและแปลงร่างผสานตัวกับเย่ว์หยางทันที

ในช่วงเวลาที่หุ่นยักษ์ต้องการล่าถอยมือของหุ่นเงินกดลงที่หน้าของหุ่นยักษ์ทอง และโจมตีซ้ำแบบชิงหมอแต่ไม่สามารถทำอะไรหุ่นยักษ์ได้ หุ่นยักษ์ได้แต่หมุนไปรอบๆ  โดยไม่สามารถตอบโต้ได้  ภายใต้สายตาจ้องมองของทุกคนในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น ทรายฟุ้งขึ้นสูงถึงสิบเมตร

“โอว, นี่มันทรงพลังมากเหลือเกิน!”  ฉีมู่ตะลึงอึดอัดอยู่นานในที่สุดเขากระโดดโลดเต้นโห่ร้องราวกับคนบ้า “ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามันเลย”

“ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?” หมาป่าแห่งหอสูงมิกขยี้ตาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อคุณชายหยางฉวนที่คิดว่าเขาใจเย็นแล้วก็ยังตะลึง

หุ่นรบเงินคว่ำหุ่นรบระดับทองได้นี่เป็นความจริงหรือ

จริงหรือเปล่า

หุ่นยักษ์เลือดเนื้อระดับทองภายใต้การควบคุมของว่านหมอตอบสนองอย่างรวดเร็วภายในเสี้ยววินาทีเขาก็โต้กลับอย่างรวดเร็ว แขนยักษ์ของมันพยายามบิดกลับอย่างรวดเร็วและฝ่ามือยักษ์มีขนหนาเหมือนลิงอุรังอุตัง เหมือนกับเป็นการไล่ตบยุงเมื่อเทียบขนาดหุ่นยักษ์เลือดเนื้อกับหุ่นรบเงินดูเหมือนยุงตัวน้อยจริงๆ

น่าเสียดายที่ยุงตัวน้อยนี้ทำลายฝ่ายตรงข้ามได้อีกครั้ง

ระหว่างความคิดและการเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง  หุ่นเงินเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลอย่างลึกลับมาอยู่ตรงกลางฝ่ามือของหุ่นยักษ์ที่พยายามตอบโต้ศัตรู  นิ้วหัวแม่มือของหุ่นยักษ์ถูกจับ

บึ้มบึ้ม ปัง....

ร่างหุ่นเลือดเนื้อยักษ์ถูกหุ่นเงินดึงออกมาจากหลุมยุบบนพื้นแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ

อย่างไรก็ตามความเร็วในการตอบสนองของว่านหมอไม่มีนักเรียนธรรมดาคนไหนเทียบได้แม้แต่นักเรียนชั้นหัวกะทิก็ยังห่างไกลขณะที่หุ่นยักษ์กำลังจะร่วงลงพื้นมันม้วนตัวตีลังกาสามรอบก่อนใช้เท้ายันลงพื้นรับแรงกระแทกขณะเดียวกันแรงกระแทกพื้นที่เท้าทำให้ทรายและฝุ่นละอองฟุ้งสูงขึ้นร้อยเมตรในท่ามกลางพายุทราย หุ่นยักษ์โจมตีกลับด้วยความเร็วกว่าสายฟ้าและกระแทกใส่หุ่นรบเงินซึ่งยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ปัง

หุ่นรบเงินภายใต้การควบคุมของเย่ว์หยางมีความยืดหยุ่นมากตอนแรกเขาหลบหลีกหมัดของหุ่นเลือดเนื้อยักษ์ จากนั้นหลบการโจมตีคู่ของหุ่นรบแม่เหล็กของจินฉี

เท้าข้างหนึ่งเตะใส่ราชันย์เลือดที่ตั้งใจเคลื่อนไหวซ้ำเติมกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรจากนั้นหลบปืนไอพ่นที่ยิงออกมาจากปากของหุ่นยักษ์เป็นครั้งที่สอง

แรงสั่นสะเทือนของพื้นโลกแรงระเบิดแผ่กระจาย พายุฝุ่นกวาดไปทั่วบริเวณยอดเขาตะวันตก

ฝุ่นผงฟุ้งพุ่งขึ้นด้านบนเหมือนเสา

พายุทรายกวาดไปทั่วเหมือนพบกับจุดสิ้นสุดของโลก

เมื่อเห็นภาพนี้ทุกคนตะลึง

ทุกคนรู้ว่าถ้าหุ่นรบเงินของเย่ว์หยางหากปล่อยให้หุ่นยักษ์ระดับทองของว่านหมอหรือของจินฉีโจมตีใส่แม้ว่าจะเป็นเพียงหมัดเดียว ก็คงทนไม่ได้คงพบกับหายนะกลับบ้านเก่าอย่างไรก็ตามภายใต้การควบคุมของอัจฉริยะไร้เทียนทาน แม้ว่าว่านหมอและจินฉีจะพยายามอย่างดีที่สุดก็ไม่มีทางต่อยได้ถูก กลับเป็นหุ่นรบเงินของเย่ว์หยางเล่นงานหุ่นทั้งสองให้ได้รับความอับอาย

เป็นที่ทราบกันดีว่าไตตันน้อยเชี่ยวชาญการโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่าและมีฝีมือที่ไม่ธรรมดา

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคยคิดว่าเด็กคนนี้จะแสดงความไม่ธรรมดาได้ถึงจุดนี้

นี่ไม่ใช่แค่ผิดธรรมดาแต่ไม่รู้จะสู้ด้วยยังไง!

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น

จงหัวกับหลานฟงก็สะดุ้งกลัวไม่กล้ากลืนน้ำลาย...นี่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์แล้ว ใช้หุ่นรบเงินสู้กับหุ่นรบระดับทองหนึ่งต่อสองมหัศจรรย์ ไตตันน้อยเล่นกลหนูปราบแมวได้อย่างไร?

จงหัวคิดว่าถ้าเขาเป็นว่านหมอคงเอาหัวโขกเต้าหู้ตายแน่

เรื่องที่น่าอับอายในชีวิต

เขาควบคุมหุ่นเลือดเนื้อยักษ์ระดับทองแต่ปล่อยให้หุ่นระดับเงินของไตตันน้อยเล่นงานเอาชนะได้นี่เป็นเรื่องน่าขายหน้าของชาวตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน?

ว่านหมออยู่ในเวทีต่อสู้เขาไม่รู้ว่าต้องเสียหน้าเสียชื่อขนาดไหน แต่เขาต้องฆ่าเจ้าเด็กไตตันให้ได้  มิฉะนั้นคงยากจะล้างความอัปยศไปได้ชั่วชีวิต! น่าเสียดายไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ถ้ายักษ์ของเขาเป็นเหมือนแมมม็อธที่วิ่งได้ไม่หยุดอย่างนั้นหุ่นหมาป่าเงินของเย่ว์หยางก็เป็นเหมือนนกที่บินได้อย่างอิสระและยืดหยุ่น

ไม่ว่าช้างจะมีพลังยิ่งใหญ่เพียงไหนแต่ก็ทำอะไรนกมีปีกไม่ได้

เมื่อเทียบกันในด้านการควบคุมพลังแม้แต่คนตาบอดก็มองออก

ว่านหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ฝีมือเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับไตตันน้อยเจ้าเด็กอัจฉิรยะที่ผิดมนุษย์...  ถ้าต้องการหาข้อมูลอ้างอิงเปรียบเทียบความต่างกันระหว่างจินฉีว่านหมอและไตตันน้อย  อย่างนั้นจินฉีที่ขับขี่หุ่นแม่เหล็กช้าเหมือนเต่าคลานดีกว่านักเรียนทั่วไปไม่มาก

จินฉีเปรียบเหมือนว่านหมอเหมือนช้างสารทรงพลังและรวดเร็ว แต่เทียบไม่ได้เมื่อพบกับไตตันน้อยที่เป็นเหมือนอินทรี

ไม่ว่าจะตัวใหญ่แข็งแรงเพียงไหนก็ไม่สามารถบินได้อย่างอินทรี

การต่อสู้น่าสลดใจถึงเพียงนี้...หุ่นที่มีระดับพลังแข็งแกร่งกว่าสองตัวไล่ทำร้ายหุ่นที่พลังอ่อนแอกว่านี่เป็นเรื่องน่าสังเวช น่าละอายจนผู้คนอยากร้องไห้

“ไม่, เป็นไปไม่ได้,  ข้าจะไม่ล้มเหลว!”  จินฉีที่ถูกโจมตีต่อเนื่อง ถูกเหยียบย่ำเขาตวาดร้องด้วยความโมโห  “ไตตันน้อย  เจ้าไม่ต้องย่ามใจ เจ้าคิดหรือว่าข้ามีดีเพียงแค่นี้  เจ้าคิดผิดแล้ว  เจ้าพลาดอย่างมหันต์ เจ้าบังคับข้าข้ากล้าพูดได้เลยว่าตราบใดที่ข้าพอใจ ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้เป็นพันครั้ง ตายเสียเถอะ”

หลังจากสูญเสียความคิดและอารมณ์โกรธครอบงำจินฉีตัดสินใจใช้พลังนั้น

ไม่ว่าจะเป็นพลังต้องห้ามแบบไหนขอให้ชนะได้เป็นพอ

เขาไม่สนใจ

ตราบเท่าที่ไตตันน้อยที่น่ารังเกียจล้มนอนต่อหน้าเขาและเขายอมกลายเป็นทรราชย์ผู้บ้าคลั่งเขาไม่คำนึงถึงราคาที่ต้องจ่ายออกไป!

……

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด