CD บทที่ 324 เงื่อนงำยากที่จะได้มา
‘ฮึ่ม! ไอ้หมาตามกลิ่นอึ แกทำให้ฉันดูโง่อีกแล้ว!’ จ้าวหยู่คิด
เมื่อจ้าวหยู่เห็นห้องน้ำสาธารณะ เขาก็รู้สึกหดหู่ใจและตบก้นของต้าเหิงอย่างไม่พอใจ แล้วดุมันว่า
“เฮ้ ฉันบอกให้แกตามหาคน! คนแบบฉัน! แกเข้าใจมั้ย!?”
“โฮ่ง โฮ่ง”
ต้าเหิงกระโดดขึ้นครึ่งเมตรด้วยความเจ็บปวด แต่มันยังคงเห่าที่ห้องน้ำสาธารณะ
แม้ว่าจ้าวหยู่จะรู้จักต้าเหิงเป็นอย่างดี แต่นักสืบคนอื่นก็เข้าใจท่าทีของต้าเหิงผิด พวกเขาสันนิษฐานว่าอาชญากรซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำสาธารณะ ดังนั้นพวกเขาจึงทำการปิดล้อม ในขณะที่ต้าเหิงเอาแต่เห่าเสียงดัง
“เออ…” จ้าวหยู่ไม่รู้จะสามารถหาเหตุผลอะไรมาหยุดพวกเขาได้
ในที่สุด นักสืบก็บุกเข้าไปในห้องน้ำชายและหญิง น่าเสียดายที่ขณะนั้นมีหญิงชราอยู่ในห้องน้ำหญิง เมื่อเห็นตำรวจพร้อมอาวุธกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาและเล็งปืนมาที่เธอ หญิงชราตกใจจนเกือบตกลงไปในโถชักโครก
จ้าวหยู่รู้สึกหน้าเสียและพาต้าเหิงกลับไปที่รถตำรวจ นักสืบคนอื่นก็สับสนและงุนนงงเช่นกัน
เมื่อพวกเขากลับไปที่ร้านหนังสือ เหมี่ยวอิงและคนอื่น ๆ ได้ตรวจค้นร้านหนังสือทั้งหมดเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พบร่องรอยของซุนยี่ฮานเลย แม้ว่าชั้นสองจะดูกว้าง แต่ก็ประมาณ 80 ตารางเมตรเท่านั้น เป็นการยากที่จะซ่อนคนในสถานที่ดังกล่าวได้
"หัวหน้าทีมครับ!" หลันโบเข้ามารายงาน “มีบ้านเรือนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงร้านหนังสือ แต่มีชาวบ้านจำนวนไม่มากอาศํยอยู่ในบริเวณนั้น เราจะลองดูตรวจสอบพวกเขาและบ้านเรือนในละเวกนั้นอยู่ครับ!”
“เราได้ทำการค้นหาในห้องนอนของฉิวซินหยางแล้วครับ” เสี่ยวหลิวกล่าว “เราพบเพียงเงินสดเล็กน้อย และไม่มีอะไรที่เป็นของใช้ส่วนตัว อย่างเช่น บัตรธนาคาร กระเป๋าเงิน หรือโทรศัพท์มือถือเลย ผมเดาว่าเขาน่าจะเอาพวกมันไปด้วยในขณะหลบหนีครับ!”
“ส่วนคอมพิวเตอร์ ฉันได้ลองตรวจสอบแล้ว” หม่าเว่ยรายงาน “มันไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เหลืออยู่ในคอมพิวเตอร์เลย มีเพียงข้อมูลของร้านหนังสือเท่านั้น”
“หัวหน้าทีมครับ” เสี่ยวหลิวกล่าว “ผมคิดว่าฉิวซินหยางคงไม่ได้อยู่ที่นี่บ่อยนัก เราไม่พบอัลบั้มรูปหรือภาพถ่ายใด ๆ ในห้องของเขาเลย ถ้าฉิวซินกหยางใส่ใจพ่อแม่ของเขาจริง ๆ มันก็ไม่สมเหตุสมผลที่ไม่มีรูปถ่ายพวกเขาอยู่ในห้อง”
“อืม… พวกคุณลองตรวจสอบดูอีกครั้ง” เหมี่ยวอิงกล่าว “ฉันจะขอให้หลี่เบ่ยหนีตรวจสอบว่าฉิวซินหยางเป็นเจ้าของทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่!?” เหมี่ยวอิงเห็นจ้าวหยู่ เธอเข้าไปถามว่า “จ้าวหยู่ สุนัขของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
จ้าวหยู่ส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจ
“เอาล่ะ ฉันจะนำสุนัขตำรวจมืออาชีพจากสถานีมา” ขณะที่เธอพูด เหมี่ยวอิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปที่สถานี เธอได้รายงานให้ทีมสนับสนุนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉิวซินหยาง รวมถึงญาติและเพื่อนของเขาเพื่อตามหาเขา
"หัวหน้าทีมครับ!" หลังจากที่เหมี่ยวอิงวางสาย นักสืบอีกคนก็เข้ามารายงานเธอว่า “หวังเชินเหยาและทีมของเขามาถึงแล้ว แต่… พวกเขาส่งกองกำลังตำรวจทั้งหมดไปยังบริเวณใกล้เคียงของถนนซินหยวน ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เริ่มค้นหาผู้ต้องสงสัยแบบบ้านต่อบ้านแล้ว”
“ไอ้พวกหัวขวด!” จ้าวหยู่สบถ “ถ้าพวกเขาไม่สร้างปัญหา เราคงจับคนร้ายได้แล้ว ขนาดก่อเรื่องถึงขนาดนี้ พวกเขายังกล้ามาที่นี่อีกครั้งเพื่อขโมยเครดิตอีกเหรอ พวกแม่งมันหน้าด้านจริง ๆ!”
“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ถ้าพวกเขาต้องการค้นบ้านทุกหลังก็ปล่อยให้พวกเขาทำไป!” เหมี่ยวอิงสั่งนักสืบ “แต่พวกคุณต้องคอยจับตาดูพวกเขาให้ดี และรายงานฉันทันทีหากมีอะไรเกิดขึ้น!”
"รับทราบครับ / ค่ะ!" นักสืบวิ่งหนีไปตามงานที่ได้รับมอบหมาย
“ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ!” จ้าวหยู่ส่ายหัวและบ่นว่า “หวังเชินเหยาหาฉิวซินหยางเจอได้อย่างไร? และทำไมพวกเขาถึงนำหน้าเราไปหนึ่งก้าว?”
“ทีมเฉพาะกิจมีข้อมูลของครอบครัวของเหยื่อแต่ละคน” เหมี่ยวอิงอธิบาย “และเมื่อพวกเขาพบว่าคดีธุรกรรมอำพรางและเหตุการณ์ในอุโมงค์ฉินชานมีความเกี่ยวข้องกัน แน่นอนว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อหาเบาะแสเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาคงไม่คาดคิดว่าฉิวซินหยางจะเป็นคนร้าย มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่ตกหลุมพรางของเขา”
"ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือกัน“จ้าวหยู่ถาม”แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?”
“ซุนยี่ฮานถูกลักพาตัวไป 4 วันแล้ว มันคงอันตรายมากหากขาดอาหารหรือน้ำเป็นเวลา 4 วัน!” เหมี่ยวอิงรู้สึกกังวล “ตอนนี้ ลำดับความสำคัญของเราคือการจับฉิวซินหยางเพื่อตามหาซุนยี่ฮาน เราไม่สามารถปล่อยให้เหยื่อรายที่เจ็ดในคดีธุรกรรมอำพรางมาตายต่อหน้าเราได้เป็นอันขาด!”
จ้าวหยู่พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ในขณะเดียวกัน ฟันเฟืองในสมองก็ทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามคิดหาทางจับคนร้าย
‘ถ้าเขาหนีไปจากที่นี่เขาจะไปที่ไหน? แล้วพวกเราจะจับเขาได้อย่างไร?’
‘แล้วเรื่องหน้ากากกันแก๊สที่แขวนอยู่บนต้นไม้ มันดูแปลกเกินไป ถ้าหากฉิวซินหยางปล่อยควันยาสลบ เขาก็ต้องวิ่งหนีไปพร้อมกับหน้ากากกันแก๊ส ดังนั้นหน้ากากไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาก็คงสลบไปเหมือนกับนักสืบคนอื่น ๆ แล้ว’
‘แล้วอีกอย่าง การที่หน้ากากกันแก๊สถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ เห็นได้ชัดว่าฉิวซินหยางกระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสอง และต้องตื่นตระหนกอยู่พอสมควร เขาควรจะรีบเร่งในขณะที่เขาพยายามหลบหนี ถ้าเขาวิ่งหนีไปในสภาพแบบนี้ เขาคงจะอยู่ห่างจากที่นี่ไปไกลแล้ว’
‘แต่แล้วซุนยี่ฮานล่ะ? เขาซ่อนเธอไว้ที่ไหน? แล้วเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? เขาจะไปหาเธอหรือเปล่า?’
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังคิด โทรศัพท์ของเหมี่ยวอิงก็ดังขึ้น มันเป็นสายจากนักสืบทีม B พวกเขาบอกเหมี่ยวอิงว่าธุรกรรมการเงินของฉิวซินหยางได้เคลื่อนไหวเมื่อ 2 นาทีก่อน บัตรธนาคารของเขาถูกใช้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไชน่าคอนสตักชั่นที่ถนนเฟิงเหอ เขาได้ถอนเงินไปทั้งหมด 7,300 หยวน
ข้อมูลดังกล่าวทำให้เหมี่ยวอิงตื่นตัว ทันใดนั้น เธอเข้าแอพฯ และค้นหาแผนที่อย่างรวดเร็ว
"ทุกคนดูนี่!" เหมี่ยวอิงชี้ไปที่แผนที่และประกาศว่า “ถนนเฟิงเหอตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของถนนซินหยวน มีสถานีรถไฟฉินชานตะวันตกอยู่ เขาคงรู้ว่าเราอาจจะอายัดบัตรของเขาในไม่ช้า ดังนั้นเขาจึงถอนเงินทั้งหมดล่วงหน้าทันที”
“แล้วที่นั่นก็มีสถานีรถไฟสายตะวันตกด้วย เขาน่าจะหลบหนีไปด้วยรถไฟ!” หม่าเว่ยอุทาน “หัวหน้าทีม เร็วเข้า เราต้องหยุดเขาก่อนที่เขาจะหนีไป!”
"ตกลง!" เหมี่ยวอิงสั่งทันที สมาชิกของทีม B ทั้งหมดขึ้นรถและออกไปด้วยกันเพื่อจับกุมฉิวซินหยาง!”
‘เดี๋ยวนะ มีบางอย่างผิดปกติ!’
ในขณะนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของจ้าวหยู่
‘คดีธุรกรรมอำพราง คนร้ายมีระเบียบแบบแผน เขาทำทุกอย่างอย่างละเอียดรอบคอบ และใจเย็นมาก’ จ้าวหยู่คิด “เห็นได้ชัดว่าฆาตกรเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก ในเมื่อเขารู้ว่าเขาจะเปิดเผยตัวเองเมื่อเขาถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ทำไมเขาถึงยังทำเช่นนั้น?’
เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
“จ้าวหยู่ คุณจะไปกับพวกเราไหม?” เหมี่ยวอิงถามเมื่อเธอเข้าไปในรถแล้ว
“อืม…” ตอนแรกจ้าวหยู่ตั้งใจจะพูดในสิ่งที่เขาคิด แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจ เพราะความคิดของเขาไม่มีอะไรมารองรับ “ฉันควรอยู่ที่นี่เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกคุณไปกันก่อนเถอะ!”
"ตกลง! แล้วก็ระวังตัวด้วย!" เหมี่ยวอิงปิดประตู ทันใดนั้น มีรถสองสามคันมุ่งหน้าไปทางตะวันตก
‘แปลก มันแปลกเกินไป!’
จ้าวหยู่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เหมี่ยวอิงและทีม B ที่เหลือออกไป ถ้าฉิวซินหยางเป็นฆาตกรของคดีธุรกรรมอำพราง เขาจะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลทุกครั้งที่เปิดใช้บริการกล่องนิรภัย เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขาดเงินเลย แล้วทำไมเขาถึงเปิดเผยตัวเองในช่วงเวลาที่ตึงเครียดด้วยเงินเพียง 7,000 หยวนด้วย?
หรือบางที… เขาได้วางแผนบางอย่างเอาไว้หรือไม่?
ทันใดนั้น จ้าวหยู่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เมื่อพิจารณาจากเจ็ดปีที่ผ่านมาของคดีธุรกรรมอำพราง เขาเชื่อว่าฆาตกรเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับความแค้นของเขามาก เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายของเขา!
นั่นหมายความว่า… ฉิวซินหยางจงใจเปิดเผยตัวเองเพื่อเป้าหมายบางอย่างใช่หรือไม่?
จ้าวหยู่ยืนอยู่บนถนนและจ้องมองไปทั้งสองด้านของถนน ทันใดนั้น เขาก็เห็น 'เมืองผี' ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของถนนซินหยวน
‘โอ้ พระเจ้า!’ เขาอุทานในหัวของเขา
ทันใดนั้น ความเป็นไปได้ก็เข้ามาในความคิดของจ้าวหยู่
‘ไม่อยากจะเชื่อเลย เบาะแสทั้งหมด มันอยู่ตรงหน้าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!?’