ตอนที่แล้ว947 - ภาคใต้ข้ากลับมาแล้ว 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป949 - แบกโลงศพเข้าสู่แดนรกร้าง

948 - ในเขตเปลวไฟชั้นที่เก้า 


948 - ในเขตเปลวไฟชั้นที่เก้า

ในครั้งนี้เย่ฟ่านเดินทางมาที่เขตเปลวไฟธาตุทั้งห้า อุณหภูมิของที่นี่ยังคงร้อนแรงและทำให้บรรยากาศเริ่มบิดเบี้ยว

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เย่ฟ่านใช้เปลวไฟที่น่ากลัวนี้เผาผู้อาวุโสของตระกูลจี้เซียวเหยาทั้งเป็นและหลบหนีไปยังภาคเหนือ

เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าและตรงเข้าสู่เขตเปลวไฟชั้นที่แปด สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด เพราะมันจะทำให้ร่างกายของพวกเขากลายเป็นเถ้าถ่านทันที

ในโลกปัจจุบัน มีมีเพียงนักพรตอีกาคนเดียวเท่านั้นที่เคยมาที่นี่เนื่องจากเขามีร่างของอีกาทองและเกิดจากไประดับเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความกลัวตอบเปลวไฟ

ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาเย่ฟ่านเป็นบุคคลที่สองที่เข้าสู่ชั้นที่แปดของเขตเปลวไฟโดยอาศัยร่างที่ไม่มีใครเทียบได้ของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ

หมอกทั้งเจ็ดชั้นยังคงปกคลุมที่นี่อย่างหนาแน่น และอุณหภูมิของมันก็ร้อนแรงอย่างน่าอัศจรรย์

ร่างกายของเย่ฟ่านเหนือกว่าเครื่องเซียนระดับสูงสุดด้วยซ้ำ แต่ร่างกายของเขากำลังจะฉีกเป็นชิ้นๆ และแทบไม่สามารถปิดกั้นความร้อนแรงนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เขายังคงเดินไปข้างหน้าและมาถึงขอบของเขตเปลวเพลิงชั้นที่เก้า อุณหภูมิที่แผดเผาข้างหน้านั้นน่ากลัวและมันจะทำให้ผู้คนหวาดหวั่นอย่างแท้จริง

ไฟชั้นที่เก้าไม่มีใครสามารถเข้าไปได้เป็นเวลาหลายพันปี ในอดีตแม้แต่นักพรตอีกาก็ยังอาศัยอยู่ในชั้นที่แปดเท่านั้น

เปลวไฟเก้าสีดูเหมือนจะอยู่เหนือขอบเขตของโลกมนุษย์ ราวกับว่ามันกำลังลุกไหม้อยู่ในอีกโลกที่กว้างใหญ่ ชวนฝันและน่าสะพรึงกลัว และหมอกเก้าสีก็ร่ายรำทำลายทุกสิ่ง

นี่คือเป้าหมายของเย่ฟ่านเพื่อรวบรวมเปลวไฟชั้นสุดท้ายเพื่อใช้มันล้อมกลั่นอาวุธของตัวเองรวมทั้งใช้เผาผลาญผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลหวังที่คิดจะให้ความช่วยเหลือต่อหวังเถิง

“ข้าจะเข้าไปในชั้นที่เก้าได้ไหม?”

เย่ฟ่านหยิบเมล็ดโพธิ์ออกมา ถ้าไม่มีมัน เขาไม่กล้าเสี่ยงอย่างแน่นอน

“เมื่ออกุศลกรรมทั้งหลายในโลกมารวมกันพวกมันจะกลายเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เผาผลาญได้แม้กระทั่งเทพ พระโพธิสัตว์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวัตถุสิ่งนี้สามารถต้านไฟที่ร้อนแรงที่สุดได้”

เย่ฟ่านหยิบเมล็ดโพธิ์และเดินเข้าสู่ขอบเขตเปลวไฟชั้นที่เก้าโดยไม่ลังเล

เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เก้าสีเต้นระรัว ราวกับว่าเทพอสูรกำลังคร่ำครวญไปทั่วท้องฟ้า และเสียงลึกลับโบราณต่างๆ ก็ดังก้องอยู่ในหูของเขา ราวกับว่าเขาได้เข้าสู่สนามรบของเทพโบราณ

อุณหภูมิของที่นี่เลวร้ายอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีเมล็ดโพธิ์อยู่ในมือแต่ผิวหนังของเย่ฟ่านก็ยังเริ่มแยกออกจากกันทีละน้อย

เย่ฟ่านหม้อปรานปฐพีต้นกำเนิดออกมาเก็บรวบรวมเปลวไฟอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ขยับและเขาพบน้ำเต้าสีดำในหม้อได้ปลดปล่อยความผันผวนออกมาเล็กน้อย

ในอดีตเย่ฟ่านแทบไม่สนใจสมบัตินี้เลย มันเป็นสมบัติที่เขาแย่งมาจากบุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง หลังจากศึกษามันเป็นเวลานาน เขาก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้ และทำได้เพียงทิ้งมันไว้ที่นี่

อย่างไรก็ตามน้ำเต้าสีดำโบราณที่ผุพังนี้กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเปลวเพลิงเก้าสี และตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างช้าๆ

“ถึงมันจะฟื้นตัวข้าก็ยังไม่รู้วิธีใช้มันอยู่ดี ถ้าเช่นนั้นก็ใช้มันกักเก็บเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของไฟชั้นที่เก้าซะเลย”

หัวใจของเย่ฟ่านขยับ และเขาตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

น้ำเต้าของเขาพุ่งออกไปข้างหน้า จากนั้นมันก็จมลงไปในเพลิงเก้าสีที่ร้อนแรง ในเวลาไม่นานเมื่อปากน้ำเต้าเปิดออกมันก็เริ่มดูดกลืนเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวราวกับวัวดื่มน้ำ

“มันไม่กลัวเปลวไฟ!”

เย่ฟ่านผงะและตระหนักว่าเขาละเลยสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ไปจริงๆ

น้ำเต้าสีดำไม่มีร่องรอยของพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่ภายใต้การควบคุมของเขา มันเหมือนกับหลุมลึกที่ไม่มีก้น โดยในตอนนี้มันเริ่มดูดกลืนเปลวไฟมากมายภายในชั้นที่เก้าของเขตเปลวไฟราวกับจะไม่มีวันเต็ม

“เปลวไฟมากมายอย่างยิ่ง มากพอที่จะเผาผลาญปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายหลายคนให้ตายในครั้งเดียว”

เย่ฟ่านมีแรงกระตุ้นที่บ้าคลั่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าน้ำเต้าสีดำของเขาจะมีความสามารถในการดูดกลืนเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดของเขาซะอีก

น้ำเต้าสีดำดูเหมือนจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการสร้างโลก และตอนนี้มันกำลังต้องการกลืนกลืนเปลวไฟโดยไม่รู้จักอิ่ม

เย่ฟ่านได้กระตุ้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวัง และพบว่าภายในของน้ำเต้ากว้างใหญ่เหมือนกับจักรวาลที่ไม่มีจุดสิ้นสุด!

“บางทีน้ำเต้านี้อาจจะกักเก็บสวรรค์พิภพได้จริงๆ”

เย่ฟ่านลูบคลำด้วยความหวงแหน

ในที่สุดเขาก็ไม่กล้าที่จะสูดเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปเพราะเมื่อเขาเขย่าเล็กน้อยก็เหมือนโลกทั้งใบจะระเบิดออก ในตอนนี้มีเปลวเพลิงเก้าสีมากเกินไป มากเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้

“นี่จะต้องเป็นสมบัติระดับเซียนโบราณเป็นอย่างต่ำแน่นอน?”

ทันใดนั้น ที่ปลายสุดของเขตแดนอัคคี ก็มีเสียงแปลกๆ คล้ายคนถอนหายใจเบาๆ และดูเหมือนสิ่งมีชีวิตกำลังคลานไปข้างหน้า

“เกิดอะไรขึ้น?” หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน

ในตอนท้ายของเขตเปลวไฟมันกลายเป็นดินแดนแห่งความตายโดยสมบูรณ์ไม่ใช่หรือ

“ต้นไม้ต้นเล็กๆ ?!”

เขาเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ในส่วนลึกของเขตเปลวไฟชั้นที่เก้ามีต้นไม้เล็กๆ กำลังยกขาของตัวเองขึ้นพร้อมกับเดินไปข้างหน้า

“ไม่ มันเป็นเปลวไฟชนิดหนึ่ง!”

สีหน้าของเขาแข็งไปชั่วขณะ สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือเปลวไฟที่รวมตัวกันจนมีลักษณะคล้ายต้นไม้ซึ่งสูงประมาณครึ่งวา

“ตำนานเป็นความจริง!” เย่ฟ่านตกตะลึง

มีตำนานมากมายเกี่ยวกับเขตเปลวไฟ และบันทึกเหล่านั้นล้วนไร้เหตุผลทั้งสิ้น

ตัวอย่างเช่น มีหนังสือโบราณเล่มหนึ่งที่บันทึกว่าในส่วนลึกที่สุดของเขตเปลวไฟมีเซียนโบราณถูกฆ่าตายที่นี่ บ้างก็ว่าเคยมีเจดีย์ซึ่งเป็นสมบัติระดับเซียนตกลงมาในเขตเปลวไฟ

บ้างก็ว่าในเขตเปลวไฟทั้งเก้าชั้นมีเปลวไฟสิบชนิดอยู่ภายใน และเปลวไฟชนิดที่สิบไม่มีรากฐาน ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นมันได้

“เปลวไฟที่สิบ มันมีอยู่จริง!”

เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความตกใจอย่างแท้จริง

ต้นไม้เล็กๆ ไม่สูงนัก แต่แข็งแรงมาก มันมีลักษณะคล้ายกับอย่าเซียนมังกรที่หนีไปตอนนั้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเปลวไฟที่สามารถเผาผลาญแม้กระทั่งเซียนโบราณให้ตายได้!

“เปลวไฟประเภทที่สิบเผาผลาญผู้อมตะ”

หนังศีรษะของเย่ฟ่านรู้สึกมึนงงเล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงตำนานเหล่านั้น แม้ว่ากลุ่มของเปลวไฟนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ถ้ามันพุ่งเข้ามา เขาอาจกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที

ในขณะนี้ เขาเห็นภาพที่เหลือเชื่อ ต้นไม้ต้นเล็กๆ กำลังลุกไหม้ และปลดปล่อยอักขระโบราณออกมาทีละตัว!

เย่ฟ่านจ้องมองอักขระโบราณเป็นเวลานาน จนกระทั่งต้นไม้เล็กๆ จมลงไปในในพื้นดินที่มืดมิดสติของเขาจึงฟื้นกลับมาอีกครั้ง

จากนั้นเย่ฟ่านก็รีบเก็บรวบรวมข้าวของและวิ่งออกจากที่นี่ด้วยความกลัว

“เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวัน ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณทำอะไรอยู่”

ภายนอก ทุกคนคาดเดาว่าเย่ฟ่านจะต้องมาที่ตระกูลจี้อย่างแน่นอน

กระจกโบราณแห่งความว่างเปล่า อาวุธของจักรพรรดิที่สามารถบดขยี้สวรรค์ได้ทุกยุคทุกสมัยยังคงประดิษฐานอยู่ในตระกูลจี้ ต่อให้เย่ฟ่านมาจริงๆเขาก็ยากจะหลีกเลี่ยงความตายได้!

“เด็กน้อยคนนี้รนหาที่ตายด้วยตัวเอง เมื่อคนรุ่นหลังเอยถึงเขาจะจดจำได้เพียงว่าเขาเป็นหนึ่งในหินรองเท้าให้กับเถิงเอ๋อ”

หวังเฉิงคุนมองออกไปนอกหน้าต่างโดยเอามือไพล่หลัง

“น่าเสียดายที่เขาเกิดมาในยุคเดียวกันกับเถิงเอ๋อ ในตอนที่เถิงเอ๋อกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่ทราบว่าจะมีอัจฉริยะที่ร่วงหล่นมากแค่ไหน” ลุงของหวังเถิงพยักหน้า

ห่างออกไปหลายหมื่นลี้เย่ฟ่านขมวดคิ้วและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ กระจกว่างเปล่ากลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาเว้นแต่เขาจะยืมอาวุธของจักรพรรดิมาใช้

ตอนนี้เขาได้รวบรวมเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์มาไว้กับตัวเองอย่างมากมายมหาศาล แล้วต่อให้ยอดฝีมือของตระกูลจี้และตระกูลหวังรวมตัวกันก็ไม่มีทางต้านทานเขาได้

“ข้าทำได้เพียงแบกของสินนั้นไว้บนหลังของตัวเอง!”

เย่ฟ่านตัดสินใจและเดินไปที่ดินแดนโบราณและต้องห้าม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด