948 - ในเขตเปลวไฟชั้นที่เก้า
948 - ในเขตเปลวไฟชั้นที่เก้า
ในครั้งนี้เย่ฟ่านเดินทางมาที่เขตเปลวไฟธาตุทั้งห้า อุณหภูมิของที่นี่ยังคงร้อนแรงและทำให้บรรยากาศเริ่มบิดเบี้ยว
ย้อนกลับไปในตอนนั้น เย่ฟ่านใช้เปลวไฟที่น่ากลัวนี้เผาผู้อาวุโสของตระกูลจี้เซียวเหยาทั้งเป็นและหลบหนีไปยังภาคเหนือ
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าและตรงเข้าสู่เขตเปลวไฟชั้นที่แปด สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้แต่ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด เพราะมันจะทำให้ร่างกายของพวกเขากลายเป็นเถ้าถ่านทันที
ในโลกปัจจุบัน มีมีเพียงนักพรตอีกาคนเดียวเท่านั้นที่เคยมาที่นี่เนื่องจากเขามีร่างของอีกาทองและเกิดจากไประดับเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความกลัวตอบเปลวไฟ
ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาเย่ฟ่านเป็นบุคคลที่สองที่เข้าสู่ชั้นที่แปดของเขตเปลวไฟโดยอาศัยร่างที่ไม่มีใครเทียบได้ของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ
หมอกทั้งเจ็ดชั้นยังคงปกคลุมที่นี่อย่างหนาแน่น และอุณหภูมิของมันก็ร้อนแรงอย่างน่าอัศจรรย์
ร่างกายของเย่ฟ่านเหนือกว่าเครื่องเซียนระดับสูงสุดด้วยซ้ำ แต่ร่างกายของเขากำลังจะฉีกเป็นชิ้นๆ และแทบไม่สามารถปิดกั้นความร้อนแรงนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เขายังคงเดินไปข้างหน้าและมาถึงขอบของเขตเปลวเพลิงชั้นที่เก้า อุณหภูมิที่แผดเผาข้างหน้านั้นน่ากลัวและมันจะทำให้ผู้คนหวาดหวั่นอย่างแท้จริง
ไฟชั้นที่เก้าไม่มีใครสามารถเข้าไปได้เป็นเวลาหลายพันปี ในอดีตแม้แต่นักพรตอีกาก็ยังอาศัยอยู่ในชั้นที่แปดเท่านั้น
เปลวไฟเก้าสีดูเหมือนจะอยู่เหนือขอบเขตของโลกมนุษย์ ราวกับว่ามันกำลังลุกไหม้อยู่ในอีกโลกที่กว้างใหญ่ ชวนฝันและน่าสะพรึงกลัว และหมอกเก้าสีก็ร่ายรำทำลายทุกสิ่ง
นี่คือเป้าหมายของเย่ฟ่านเพื่อรวบรวมเปลวไฟชั้นสุดท้ายเพื่อใช้มันล้อมกลั่นอาวุธของตัวเองรวมทั้งใช้เผาผลาญผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลหวังที่คิดจะให้ความช่วยเหลือต่อหวังเถิง
“ข้าจะเข้าไปในชั้นที่เก้าได้ไหม?”
เย่ฟ่านหยิบเมล็ดโพธิ์ออกมา ถ้าไม่มีมัน เขาไม่กล้าเสี่ยงอย่างแน่นอน
“เมื่ออกุศลกรรมทั้งหลายในโลกมารวมกันพวกมันจะกลายเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เผาผลาญได้แม้กระทั่งเทพ พระโพธิสัตว์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวัตถุสิ่งนี้สามารถต้านไฟที่ร้อนแรงที่สุดได้”
เย่ฟ่านหยิบเมล็ดโพธิ์และเดินเข้าสู่ขอบเขตเปลวไฟชั้นที่เก้าโดยไม่ลังเล
เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เก้าสีเต้นระรัว ราวกับว่าเทพอสูรกำลังคร่ำครวญไปทั่วท้องฟ้า และเสียงลึกลับโบราณต่างๆ ก็ดังก้องอยู่ในหูของเขา ราวกับว่าเขาได้เข้าสู่สนามรบของเทพโบราณ
อุณหภูมิของที่นี่เลวร้ายอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีเมล็ดโพธิ์อยู่ในมือแต่ผิวหนังของเย่ฟ่านก็ยังเริ่มแยกออกจากกันทีละน้อย
เย่ฟ่านหม้อปรานปฐพีต้นกำเนิดออกมาเก็บรวบรวมเปลวไฟอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ขยับและเขาพบน้ำเต้าสีดำในหม้อได้ปลดปล่อยความผันผวนออกมาเล็กน้อย
ในอดีตเย่ฟ่านแทบไม่สนใจสมบัตินี้เลย มันเป็นสมบัติที่เขาแย่งมาจากบุตรศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง หลังจากศึกษามันเป็นเวลานาน เขาก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้ และทำได้เพียงทิ้งมันไว้ที่นี่
อย่างไรก็ตามน้ำเต้าสีดำโบราณที่ผุพังนี้กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเปลวเพลิงเก้าสี และตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างช้าๆ
“ถึงมันจะฟื้นตัวข้าก็ยังไม่รู้วิธีใช้มันอยู่ดี ถ้าเช่นนั้นก็ใช้มันกักเก็บเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของไฟชั้นที่เก้าซะเลย”
หัวใจของเย่ฟ่านขยับ และเขาตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
น้ำเต้าของเขาพุ่งออกไปข้างหน้า จากนั้นมันก็จมลงไปในเพลิงเก้าสีที่ร้อนแรง ในเวลาไม่นานเมื่อปากน้ำเต้าเปิดออกมันก็เริ่มดูดกลืนเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวราวกับวัวดื่มน้ำ
“มันไม่กลัวเปลวไฟ!”
เย่ฟ่านผงะและตระหนักว่าเขาละเลยสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ไปจริงๆ
น้ำเต้าสีดำไม่มีร่องรอยของพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่ภายใต้การควบคุมของเขา มันเหมือนกับหลุมลึกที่ไม่มีก้น โดยในตอนนี้มันเริ่มดูดกลืนเปลวไฟมากมายภายในชั้นที่เก้าของเขตเปลวไฟราวกับจะไม่มีวันเต็ม
“เปลวไฟมากมายอย่างยิ่ง มากพอที่จะเผาผลาญปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายหลายคนให้ตายในครั้งเดียว”
เย่ฟ่านมีแรงกระตุ้นที่บ้าคลั่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าน้ำเต้าสีดำของเขาจะมีความสามารถในการดูดกลืนเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดของเขาซะอีก
น้ำเต้าสีดำดูเหมือนจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการสร้างโลก และตอนนี้มันกำลังต้องการกลืนกลืนเปลวไฟโดยไม่รู้จักอิ่ม
เย่ฟ่านได้กระตุ้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวัง และพบว่าภายในของน้ำเต้ากว้างใหญ่เหมือนกับจักรวาลที่ไม่มีจุดสิ้นสุด!
“บางทีน้ำเต้านี้อาจจะกักเก็บสวรรค์พิภพได้จริงๆ”
เย่ฟ่านลูบคลำด้วยความหวงแหน
ในที่สุดเขาก็ไม่กล้าที่จะสูดเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปเพราะเมื่อเขาเขย่าเล็กน้อยก็เหมือนโลกทั้งใบจะระเบิดออก ในตอนนี้มีเปลวเพลิงเก้าสีมากเกินไป มากเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้
“นี่จะต้องเป็นสมบัติระดับเซียนโบราณเป็นอย่างต่ำแน่นอน?”
ทันใดนั้น ที่ปลายสุดของเขตแดนอัคคี ก็มีเสียงแปลกๆ คล้ายคนถอนหายใจเบาๆ และดูเหมือนสิ่งมีชีวิตกำลังคลานไปข้างหน้า
“เกิดอะไรขึ้น?” หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน
ในตอนท้ายของเขตเปลวไฟมันกลายเป็นดินแดนแห่งความตายโดยสมบูรณ์ไม่ใช่หรือ
“ต้นไม้ต้นเล็กๆ ?!”
เขาเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ในส่วนลึกของเขตเปลวไฟชั้นที่เก้ามีต้นไม้เล็กๆ กำลังยกขาของตัวเองขึ้นพร้อมกับเดินไปข้างหน้า
“ไม่ มันเป็นเปลวไฟชนิดหนึ่ง!”
สีหน้าของเขาแข็งไปชั่วขณะ สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือเปลวไฟที่รวมตัวกันจนมีลักษณะคล้ายต้นไม้ซึ่งสูงประมาณครึ่งวา
“ตำนานเป็นความจริง!” เย่ฟ่านตกตะลึง
มีตำนานมากมายเกี่ยวกับเขตเปลวไฟ และบันทึกเหล่านั้นล้วนไร้เหตุผลทั้งสิ้น
ตัวอย่างเช่น มีหนังสือโบราณเล่มหนึ่งที่บันทึกว่าในส่วนลึกที่สุดของเขตเปลวไฟมีเซียนโบราณถูกฆ่าตายที่นี่ บ้างก็ว่าเคยมีเจดีย์ซึ่งเป็นสมบัติระดับเซียนตกลงมาในเขตเปลวไฟ
บ้างก็ว่าในเขตเปลวไฟทั้งเก้าชั้นมีเปลวไฟสิบชนิดอยู่ภายใน และเปลวไฟชนิดที่สิบไม่มีรากฐาน ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นมันได้
“เปลวไฟที่สิบ มันมีอยู่จริง!”
เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความตกใจอย่างแท้จริง
ต้นไม้เล็กๆ ไม่สูงนัก แต่แข็งแรงมาก มันมีลักษณะคล้ายกับอย่าเซียนมังกรที่หนีไปตอนนั้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเปลวไฟที่สามารถเผาผลาญแม้กระทั่งเซียนโบราณให้ตายได้!
“เปลวไฟประเภทที่สิบเผาผลาญผู้อมตะ”
หนังศีรษะของเย่ฟ่านรู้สึกมึนงงเล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงตำนานเหล่านั้น แม้ว่ากลุ่มของเปลวไฟนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ถ้ามันพุ่งเข้ามา เขาอาจกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
ในขณะนี้ เขาเห็นภาพที่เหลือเชื่อ ต้นไม้ต้นเล็กๆ กำลังลุกไหม้ และปลดปล่อยอักขระโบราณออกมาทีละตัว!
เย่ฟ่านจ้องมองอักขระโบราณเป็นเวลานาน จนกระทั่งต้นไม้เล็กๆ จมลงไปในในพื้นดินที่มืดมิดสติของเขาจึงฟื้นกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นเย่ฟ่านก็รีบเก็บรวบรวมข้าวของและวิ่งออกจากที่นี่ด้วยความกลัว
“เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวัน ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณทำอะไรอยู่”
ภายนอก ทุกคนคาดเดาว่าเย่ฟ่านจะต้องมาที่ตระกูลจี้อย่างแน่นอน
กระจกโบราณแห่งความว่างเปล่า อาวุธของจักรพรรดิที่สามารถบดขยี้สวรรค์ได้ทุกยุคทุกสมัยยังคงประดิษฐานอยู่ในตระกูลจี้ ต่อให้เย่ฟ่านมาจริงๆเขาก็ยากจะหลีกเลี่ยงความตายได้!
“เด็กน้อยคนนี้รนหาที่ตายด้วยตัวเอง เมื่อคนรุ่นหลังเอยถึงเขาจะจดจำได้เพียงว่าเขาเป็นหนึ่งในหินรองเท้าให้กับเถิงเอ๋อ”
หวังเฉิงคุนมองออกไปนอกหน้าต่างโดยเอามือไพล่หลัง
“น่าเสียดายที่เขาเกิดมาในยุคเดียวกันกับเถิงเอ๋อ ในตอนที่เถิงเอ๋อกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่ทราบว่าจะมีอัจฉริยะที่ร่วงหล่นมากแค่ไหน” ลุงของหวังเถิงพยักหน้า
ห่างออกไปหลายหมื่นลี้เย่ฟ่านขมวดคิ้วและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ กระจกว่างเปล่ากลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาเว้นแต่เขาจะยืมอาวุธของจักรพรรดิมาใช้
ตอนนี้เขาได้รวบรวมเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์มาไว้กับตัวเองอย่างมากมายมหาศาล แล้วต่อให้ยอดฝีมือของตระกูลจี้และตระกูลหวังรวมตัวกันก็ไม่มีทางต้านทานเขาได้
“ข้าทำได้เพียงแบกของสินนั้นไว้บนหลังของตัวเอง!”
เย่ฟ่านตัดสินใจและเดินไปที่ดินแดนโบราณและต้องห้าม