ตอนที่แล้วบทที่ 56 : ฐานการทดลอง​ลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 58 : สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดใหญ่

บทที่ 57 : เส้นทางวิวัฒนาการทั้งสามสาย


บทที่ 57 : เส้นทางวิวัฒนาการทั้งสามสาย

ฐานการทดลอง​ขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในภูเขาปรากฏต่อสายตาของชูโจวและคนอื่นๆ

ฐานการวิจัยที่อยู่ตรงหน้านี้, บนผนังของฐานมีแผ่นโลหะสีขาวจำนวนมากที่ส่องแสงสีน้ำเงิน และมีเครื่องมือขั้นสูงมากมายอยู่ในนั้น

เเละในขณะนี้ ฐานการทดลอง​นี้กำลังอยู่ในความตื่นตระหนกและนักวิจัยหลายคนในชุดขาวก็วิ่งกันอย่างยุ่งเหยิง

"ฆ่าให้หมด" เฉินปาโจวออกคำสั่งโจมตีอย่างโหดเหี้ยม

"ฆ่า!" นักรบหลายร้อยคนรีบเข้าไปในฐานการทดลอง​ตามทางแยก

"ระวังตัวกันด้วยนะ" ลูโจวพูดคุยกับ หลิงซาน, หลี่ชิงฉี, ซีเหมิง และ เซียวเตี๋ยที่อยู่ข้างๆเขาจากนั้นรีบพุ่งเข้าพร้อมๆกับทุกคน

"วู้ววว..."

ในเวลานี้ เสียงไซเรนยังคงโหยหวนในฐานการทดลอง​ภายในเนินเขา เเละในตอนนั้นเองร่างในชุดทหารจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากส่วนลึกของฐานการทดลอง​พร้อมปืน และสาดกระสุนตรงไปที่ชูโจวและคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งเข้าใส่ร่างของชูโจวและคนอื่นๆ พวกมันทั้งหมดกลับถูกหยุดอยู่กลางอากาศ แล้วบังคับให้ย้อนกลับไปด้วยความเร็วที่มากกว่า​เดิม ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องแและร่างในชุดทหารจำนวนมากที่รีบวิ่งออกจากฐานการทดลอง​ก็ถูกกระสุนของตัวเองยิงตายในทันที

“ฮึ่ม……กล้าใช้ปืนต่อหน้านักรบพลังจิต, หาเรื่องตาย” เสียงเยาะเย้ยของฟูหยานดังมาจากบนท้องฟ้า

นักรบของโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักสามแห่งและนักรบหลายร้อยคนจากกองทัพที่กำลังเผชิญกับพายุกระสุนในขณะนี้ต่างรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย……แม้ว่าพวกเขาจะปลุกพลังของยีนได้แล้ว แต่มันก็ยังยากที่จะต้านทานการยิงที่รุนแรงเเละมีจำนวนมากในเวลาเดียวกัน, เเต่เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์​นี้พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจทันที

พวกเขาตระหนัก​เเล้วว่ามีนักรบพลังจิตที่ทรงพลังมากอยู่เคียงข้างพวกเขา เเละด้วยนักรบพลังจิตผู้ทรงพลังคนนี้ พวกเขาไม่จำเป็น​ต้องกลัวกระสุนอีกต่อไป

ในช่วงเวลาสั้นๆ ขวัญกำลังใจของนักรบของโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามและนักรบของกองทัพได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

"นักรบพลังจิตนั้นทรงพลังมาก" ชูโจวแอบอุทาน

……

สำหสำหรับ​นักรบเเล้ว ผู้ที่ปลดล็อกยีนขั้นที่หนึ่งคือนักรบระดับผู้ปลุก​พลัง, หลังจากหกลายเป็นนักรบผู้ปลุก​เเล้วพลังชีวิตของเเต่ละบุคคล​จะเพิ่มขึ้นอย่างมากและสามารถเริ่มใช้สนามพลังได้ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สมรรถภาพทางกายของพวกเขา (พละกำลัง ความว่องไว การตอบสนองทางความคิด สัญชาตญาณการต่อสู้ การรับรู้ถึงอันตราย) และแง่มุมอื่นๆได้พัฒนา​จนทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับระดับผู้ฝึกหัด

จากนั้นเมื่อสนามพลังของนักรบผู้ปลุก​พลัง​พัฒนา​ไปถึงอีกระดับหนึ่ง พวกเขาก็จะมีโอกาสในการปลดล็อคยีนขั้นที่สองเเละหากปลดล็อกยีนขั้นที่​สองสำเร็จ กฌจะกลายเป็นนักรบระดับ​พิเศษ​ทันที

เมื่อเทียบกับนักรบระดับปลุกพลังเเล้วนักรบระดับพิเศษนั้น​จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพเพิ่มขึ้น​อย่าง​มาก, พลังดั้งเดิมของนักรบระดับพิเศษ​นั้น, ไม่ใช่เเค่สามารถปลดปล่อยออกมาภายนอกร่างกายได้เท่านั้น แต่ยังสามารถแข็งแกร่งขึ้นในทิศทางที่แน่นอนอีกด้วย, นั่นคือหลังจากที่นักรบได้รับการเลื่อนระดับเป็นนักรบระดับพิเศษแล้ว……. นักรบเเต่ละคนจะได้รับเส้นทางวิวัฒนาการสามเส้นทางซึ่ง​ได้เเก่ ระบบยอดนักรบ, ระบบพลังธาตุ และระบบพลังจิต

ระบบยอดนักรบ, คือเส้นทางวิวัฒนาการที่ช่วยให้นักรบวิวัฒนาการความสามารถ​ด้านร่างกายเป็นส่วนใหญ่

ระบบพลังธาตุ, คือเส้นทางวิวัฒนาการ​เพื่อควบคุมพลังงานธรรมชาติต่างๆ เช่น ลม, ฝน, สายฟ้า และไฟ

ระบบพลังจิต, คือเส้นทางวิวัฒนาการ​ที่มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างพลังทางจิตวิญญาณและการเเปรเปลี่ยนทางจิตวิญญาณ

ในหมู่นักรบระดับ​พิเศษ​ของมนุษย​ชาติ, มีจำนวนของ"สุดยอดนักรบ"มากที่สุด, รองลงมาคือนักรบพลังธาตุที่มีประมาณครึ่งหนึ่งของสุดยอดนักรบ

เเต่ในทางกลับกัน นักรบพลังจิตนั้นมีจำนวนน้อยมาก พวกเขามีจำนวน​น้อยกว่าหนึ่งในหมื่นของสุดยอดนักรบ….. แต่เส้นทางวิวัฒนาการทั้งสามนั้นไม่ได้เหนือกว่าหรือด้อยกว่ากัน เเละเเน่นอนมันไม่ได้หมายความว่ายิ่งจำนวนคนในเส้นทางการวิวัฒนาการนั้นน้อยลงเท่าใดก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น

อันที่จริงแล้ว คนที่ทรงพลังที่สุดสามคนในโลกอย่าง ดราก้อน, ธอร์, และอาปาซา นั้นต่างก็เป็นสุดยอดนักรบ, นักรบพลังธาตุ และนักรบพลังจิตตามลำดับ

แต่ในบรรดาสามคนนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่นักรบพลังจิตอาปาซา, แต่เป็นดราก้อนสุดยอดนักรบต่างหาก

เเต่ความเเข็งเเกร่งอย่างเดียวไม่ได้เป็นข้อกำหนดในการเเพ้ชนะ, อย่างตอนนี้ นักรบพลัง​จิตมีประโยชน์​อย่างมากในสถานการณ์​ที่ต้องหยุดกระสุนทั้งหมดและสะท้อนมันกลับไป

…..

"ดูเหมือนว่าฉันจะต้องประสบความสำเร็จในการฝึกทักษะ​การทำสมาธิรูปแบบเจดีย์ให้ได้โดยเร็วที่สุด!"

หลังจากได้เห็นพลังของนักรบ​พลังจิตด้วยตาของตัวเองแล้ว, ชูโจวก็ตัดสินใจที่จะตั้งใจทักษะ​การฝึกสมาธิรูปแบบ​เจดีย์ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด

…..

"ฆ่าพวกผู้​บุกรุก​"

ชูโจวและคนอื่นๆที่กำลังพุ่งเข้าไปในฐานการทดลอง, ในที่สุด​ก็ได้พบกับกลุ่มนักรบของอีกฝ่ายพุ่งสวนออกมา

เเละเกือบจะพริบตาเดียว ชูโจวได้ใช้ดาบฟันมังกรสังหารนักรบฝ่ายศัตรูไปสามคนในทันที​

หลิงซาน, ซีเหมิง และ หลี่ชิงฉีก็ไม่แสดงความเมตตาเช่นกัน พวกเขาทำการตัดหัวนักรบในชุดขาวทีละคน

แต่ทางด้านเซียวเตี๋ยที่ตามหลังชูโจวมา, เมื่อเธอนักรบชุดขาวคนหนึ่งพุ่งมาหาเธอ…. เธอก็เกิดอาการหน้าซีดและตัวสั่น, ตกใจมากจนหลับตาปี๋

“อย่าเข้ามานะ…อย่าเข้ามา…”

เธอจับนักรบชุดขาวด้วยมือทั้งสองข้าง, จากนั้นมีดสั้นนับสิบเล่มก็พุ่งออกจากร่างของเธอ แทงทะลุร่างของนักรบชุดขาวราวกับสายฟ้า

พวกชูโจวทั้งสี่ต่างตกตะลึง​เมื่อเห็นความน่ากลัวของเซียวเตี๋ย

“พอเเล้ว…มันตายเเล้ว” ชูโจวเดินเข้าไปเรียกสติของเซียวเตี๋ยที่ยังโจมตีศพของนักรบชุดขาวอยู่

“ชูโจว ฉันกลัวมากเลย” เซียวเตี๋ยกรีดร้องและรีบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังชูโจว, จากนั้นค่อยๆโผล่หัวออกมาเล็กน้อยและมองไปที่ศพของนักรบชุดขาวที่ถูกฆ่าโดยฝีมือของ​เธอ

“กลัวหรอ…..ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอน่ากลัวมากกว่าอีกฝ่ายอีก” ซีเหมิงเดินไปดูร่างของนักรบชุดขาวที่ถูกแทงจนเหมือนเม่นแล้วพูดด้วยท่าทางแปลกๆว่า “เพื่อนคนนี้…น่าสงสารไม่น้อยเลย”

"เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ…. การฆ่าศัตรูเป็นเรื่องสำคัญ​อย่างที่สอง...เรื่องสำคัญ​ที่สุดคือการคอยสังเกต​ว่าที่นี่มีของดีอะไรอีกไหม, เพราะฐานการทดลอง​ขนาดใหญ่เช่นนี้ต้องมีทรัพยากรที่มีค่าอย่างเเน่นอน​"

หลังจากที่ชูโจวกล่าวจบ ดวงตาของเขาก็เริ่มสแกนไปรอบๆเพื่อดูว่าเขาจะสามารถหาแหล่งทรัพยากร​ได้หรือไม่

อีกด้าน, เมื่อได้ยินคำเตือนของหลินเป่ย ดวงตาของพวกหลิงซานก็เป็นประกาย​ทันที…..พวกเขาล้วนมีเหตุผลที่จะแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นย่อมไม่มีใครยอมพลาดโอกาสที่จะได้รับทรัพยากรการฝึกฝนเเบบฟรีๆ

"หืม? อันที่อยู่ในกล่องโลหะนั่นคือสารอาหารเสริมพันธุกรรมขั้นสูงงั้นหรอ?" ทันใดนั้นชูโจวก็สังเกตุเห็นกล่องโลหะที่เปิดอยู่เเละในกล่องโลหะนั้นมีสารอาหารเสริมพันธุกรรมคุณภาพสูงอย่างน้อยห้าสิบขวด….. สารอาหารเสริมพันธุกรรม​คุณภาพสูงมีมูลค่าขวดละ 10 ล้าน, ดังนั้นทรัพยากร​ในกล่องโลหะผสมนั้นมีมูลค่าทั้งหมด 500 ล้านเหรียญ

หัวใจของชูโจวเต้นไม่เป็นจังหวะ จาดนั้นเขาใช้ทักษะ​การเคลื่อนไหวก้าวย่างลวงตาโดยไม่ลังเล และพุ่งเข้าไปหากล่องโลหะด้วยความเร็วสูงสุด

อย่างไรก็ตาม, ไม่ใช่แค่ชูโจวคนเดียวที่รีบพุ่งไปที่กล่องโลหะ…..แต่มันยังมีอีกสองร่างที่พุ่งมาพร้อมๆกันกับเขา

เเละหนึ่งในนั้นคือจินจิงหวู!

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด