บทที่ 23 อัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้หนึ่งในล้าน!
บทที่ 23 อัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้หนึ่งในล้าน!
กลางคืน ณ บ้านของเฉินเหวิน....
สีหน้าของอาโปมืดมน และมันนอนเหม่อลอยอยู่บนโซฟากับเฉินเหวินและดู "The Beastmaster Who Knows Martial Arts"
นี่เป็นแอนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากประสบการณ์ของ เฉินฟาน บีสมาสเตอร์ในตำนาน มันบอกเล่าเรื่องราวของบีสมาสเตอร์
ที่รักศิลปะการต่อสู้โบราณ และสอนสัตว์อสูรของเขาให้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ในท้ายที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะศัตรูได้ทุกรูปแบบ และป้องกันหายนะของสัตว์อสูรลึกลับจากการโจมตีหมู่บ้านได้สำเร็จ และกลายเป็นรุ่นของบีสมาสเตอร์เรื่องราวของราชาสัตว์อสูร
เมื่อก่อน อาโปเห็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมและอาหารอร่อยๆ มันจะร้องเรียกสองสามครั้ง และแสดงสีหน้าที่โหยหาอีก
แต่ตอนนี้อาโปมีดวงตาที่เศร้าสร้อย เป็นเหมือนมะเขือยาวที่ถูกน้ำแข็งทุบจนร่วงโรย
แม้ว่าตาทั้งสองข้างจะมองไปที่ทีวี แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าดวงตามันไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ทีวี
ใจมันยังติดอยู่ที่ศึกเมื่อยามบ่าย....
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินเหวินก็หยิบรีโมตคอนโทรลบนโต๊ะและปิดทีวีลง
ดวงตาของอาโปยังคงจ้องมองที่หน้าจอทีวี ราวกับว่าภาพเคลื่อนไหวยังคงแสดงบนหน้าจอมืด
"พอได้แล้ว!"
เฉินเหวินไม่เพียงแค่พูด แต่ยังถ่ายทอดความคิดของเขากับอาโปผ่านจิตวิญญาณในพื้นที่มิติสัตว์อสูร....
เสียงนั้นเข้าถึงส่วนลึกของหัวใจของอาโป และปลุกมันให้ตื่นจากโลกของตัวเองทันที
อาโปกลับสู่ความเป็นจริง เงยหน้าขึ้นมอง เฉินเหวินอย่างอ่อนแรง แสดงสีหน้าว่า "ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้เหมือนกัน!"
ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ในวันนี้ อาโปไม่เพียงท้อใจในตัวเองเท่านั้น แต่ยังรู้สึกผิดต่อเฉินเหวินด้วย
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มันหมดหวังและเป็นทุกข์คือการสูญเสียน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ทั้งสองกระป๋อง
สิ่งที่นึกกลับไปกลับมาในใจตอนนี้ไม่ใช่ฉากทั้งหมดของการพ่ายแพ้ในการต่อสู้ แต่เป็นฉากที่เซิ่งเอ๋อกินน้ำผึ้งร้อยดอกไม้สองกระป๋องมากกว่า
กินคนเดียวสบายเลยนะ!!
เมื่อรู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนของอาโป เฉินเหวินตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เขาฝืนทำหน้าเฉยเมย และถามว่า "นี่นายยังคงหมกมุ่นอยู่กับความล้มเหลวของวันนี้งั้นเหรอ?"
อาโปก้มหน้าลงและนิ่งเงียบ....
"ถ้านายล้มเหลว แล้วทำหน้าซังกะตายแบบนี้จะไปมีประโยชน์อะไร และจะได้น้ำผึ้งร้อยดอกไม้คืนมามั้ย?"
ประโยคแรกไม่มีการเคลื่อนไหวจากอาโป แต่ทันทีที่ประโยคที่สองถูกพูด มันก็รู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยถูกทิ่มแทงอีกครั้ง มันเงยหน้าขึ้นมองเฉินเหวิน ด้วยดวงตาที่ขุ่นมัว
(﹏)
"อะไรนะ? เป็นความผิดของฉันเหรอ?"
“ผิดที่ฉันไม่สามารถหาอาหารที่ดีกว่านี้ หรือ ผิดฉันที่ไม่สามารถฝึกฝนนายให้ดีได้!”
อาโป รีบส่ายหัว
"嘤嘤~"
มันไม่ใช่สัตว์อสูรที่ไม่มีความรู้สึก หากแต่มันสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่ เฉินเหวิน ปฏิบัติต่อมันในเดือนที่ผ่านมา
คนส่วนใหญ่ชอบมันเพราะรูปร่างหน้าตาน่ารักและท้องกลม มีเพียงเฉินเหวินเท่านั้นที่ต้องการให้มันมีทักษะในการต่อสู้ไปพร้อมกับเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้น
เฉินเหวินพยักหน้าเบา ๆ อาโปค่อนข้างขี้เกียจ และไม่ชอบการออกกำลัง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
“ในเมื่อมันไม่ใช่ปัญหาของฉัน แล้วปัญหาของใครล่ะ?”
เมื่อฟังคำถามของเฉินเหวิน อาโปก็ก้มหัวต่ำลงอีกครั้ง
“เพราะทักษะต่ำ หรือไร้ซึ่งพรสวรรค์กันแน่?”
"มันต้องมีทางแก้สิ!"
แต่ทุกปัญหาที่เกิดก็เพราะ......
"นายขี้เกียจ!"
“การวอร์มอัพทุกครั้งก็ไม่ได้เรื่อง!”
"ทุกการฝึกเกือบจะเหมือนกันไม่เอาไหน!"
"แล้ววิชาอื่นๆ ถ้าไม่เล่นนายก็หลับ!"
"..."
อาโปก้มหัวให้ต่ำลง.....
"แต่นายรู้หรือไม่ว่า?"
“รู้มั้ยที่เห็นว่าเซิ่งเอ๋อเล่นกับนายทุกวันที่โรงเรียน แต่เขาต้องฝึกอย่างหนักอย่างน้อยสองชั่วโมงหลังจากกลับบ้าน!”
"แต่นายกินแล้วก็นอนดูซีรีย์?"
"ฉันจะปล่อยให้นายวิ่งไปรอบ ๆบ้าน ในเวลากลางคืน และกลิ้งไปทั่วพื้น!"
เมื่ออาโปได้ยินคำพูดนี้ ทำให้มันรู้สึกว่าหากมันจะสามารถขุดลงไปในดินได้ มันจะรีบซ่อนตัวอยู่ในนั้นทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ มุมปากของเฉินเหวินก็โค้งขึ้นเล็กน้อย...
แน่นอนว่ามีสัตว์อสูรที่กลับบ้านเพื่อฝึกฝนเพิ่มเติม แต่มีเพียงสามหรือห้าตัวในชั้นเรียนมัธยมปลายปีสองของทั้งหมด
สัตว์อสูรทุกตัวยังเป็นลูก และหากการฝึกฝนมากเกินไปอาจส่งผลต่อพัฒนาการของพวกมัน
นอกจากนี้การฝึกฝนจะเพิ่มขึ้นอย่างหนักนั้น หากเป็นสัตว์อสูรเลี้ยงและคนธรรมดาก็ยากที่จะทนทานได้
สำหรับการฝึกฝนสองชั่วโมงของเซิ่งเอ๋อในทุกคืน...ก็นับว่าหนักสำหรับเด็กน้อย
เหอเซิ่งเคยบอกเขาว่าเขาซื้ออุปกรณ์สำหรับการฝึกไว้บ้านด้วย
แม้เซิ่งเอ๋อเองก็ ไม่ได้ดีกว่าอาโป มากนัก ไม่ว่าจะฝึกต่อที่บ้านก็ตาม แต่มันยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์บ้าง ซึ่งต่างกับอาโปที่กินแล้วก็นอน!
หากกล่าวถึงอาโป มันเป็นเพียงลูกหมีอ้วนที่กำลังกินและนอนตามวัยไร้เดียงสาของมัน หากจะกล่าวว่ามันเกียจคร้านคงจะไม่ถูกนัก... หากแต่การฝึกฝนของสัตว์อสูรนั้นจะต้องเป็นไปตามเวลาที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจตะมีผลต่อการพัฒนาทักษะก็เป็นได้.....
กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เว้นแต่ใช้อาหารล่อมันจะเริ่มฝึก!
เนื่องจากไม่มีทักษะของเผ่าพันธุ์ และไม่มีความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ระบบกล่าวไว้ และสิ่งเดียวที่อาโปทำได้ก็คือทำตาบ้องแบ๊วเท่านั้น
โชคดีที่ระบบมอบแพ็คเกจของขวัญให้ เฉินเหวินสำหรับผู้เริ่มต้น
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เฉินเหวินมองตาของอาโปและถามอย่างจริงจัง: "นายจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน!?"
อาโปได้ยินคำพูดนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ!
“หากนายยังขี้เกียจฝึกแบบนี้ระวังจะถูกสัตว์อสูรตัวอื่นสังหารเอาก็ได้นะ เมื่อถึงเวลานั้นฉันเองก็ช่วยไม่ได้!?”
หากกล่าวถึงโครงเรื่อง"The Beast Master Who Knows Martial Arts" หลังจากชนะการต่อสู้แล้วเท่านั้นจึงจะมีอาหารอร่อยๆ ได้ มันยากสำหรับผู้แพ้ที่จะได้กิน"
เมื่อนึกถึงเจ้าของสัตว์อสูรผู้หิวโหย และสัตว์อสูรในอนิเมชั่น อาโปก็ถึงกับตกใจและส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
เฉินเหวินพูดต่ออย่างช่วยไม่ได้: "ถ้านายไม่ต้องการฝึกฝนการต่อสู้ ฉันจะไม่บังคับนายอีกต่อไปแล้ว และฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อนม น้ำผึ้งร้อยดอกไม้ ไม้ไผ่หยกฯ และของอร่อยๆให้นายอีกต่อไปแล้ว .."
"嘿咕~咱咕~"
อาโปรีบกอดต้นขาของเฉินเหวินไว้แน่น และแนบหัวเข้ากับแขนของเฉินเหวิน.......
เฉินเหวินสะบัดแขนเดินผ่านอาโปอย่างเฉยเมย "ช่วยไม่ได้..บ้านฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไร!..."
หลังจากพูดจบ เฉินเหวินก็ถอนหายใจอย่างแรง......
"เฮ้อเหนื่อยใจ!"
เมื่อนึกถึงฉากที่อาโปถูกตบด้วยฝ่ามือของเซิ่งเอ๋อ และคิดถึง น้ำผึ้งร้อนดอกไม้ อีกทั้งไม้ไผ่หยกฯ ที่ดูเริ่มจะห่างไกลเต็มที จากนั้นสีหน้าอาโป เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ราวกับว่ามีการตัดสินใจครั้งสำคัญ มันกอดต้นขาของเฉินเหวินไว้อย่างแน่น และมองไปที่เฉินเหวินอย่างด้วยดวงตาที่แน่วแน่
"นายตัดสินใจแล้วว่างั้น?"
อาโปพยักหน้าอย่างหนัก....
"ต่อไปจะไม่ขี้เกีียจ?"
อาโปครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้าอีกครั้ง!
"อ่ะๆ---!!"
อาโป: ถ้าไม่ขี้เกียจแล้วจะได้กินของอร่อยใช่มั้ยอ่ะ!?
เมื่อเห็นความลังเลบนใบหน้าของอาโป เฉินเหวินถึงกับเลือดขึ้นหน้าจนอยากจะใช้เข็มขัดฟาดเลยทีเดียว....
คุยกันตั้งนานแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่อง?
เฉินเหวินพูดอย่างชั่วร้าย: "คราวหน้าถ้านายขี้เกียจอีก ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ!"
ก่อนหน้านี้ เขาเอาอกเอาใจมันมากเกินไป ไม่ได้เคี่ยวเข็ญในการฝึกซ้อม จึงทำให้เป็นเช่นนี้...
แม้ตอนนี้ในเมื่ออาโปรับปากแล้วว่าจะไม่ขี้เกียจซ้อม และต่อไปเขาก็จะไม่ใจอ่อนอีก....
เมื่ออาโปเห็นเฉินเหวินกับหน้าตาที่เปลี่ยนไป มันจึงรีบพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากสัญญาว่าจะไม่ขี้เกียจ อาโปก็ลูบท้องอีกครั้ง....
"嘿咱咒~"
หลังจากเสียงกระซิบแผ่วเบา เฉินเหวินก็เข้าใจว่าอาโปหมายถึงอะไร.....
"ฉันจะถามนายอีกครั้ง ถ้าหากนายฝึกฝนอย่างหนักแล้วนายจะสามารถเอาชนะเซิ่งเอ๋อได้หรือไม่!?"
อาโปพยักหน้าและมองไปที่ เฉินเหวิน อย่างกระตือรือร้น
สมรรถภาพทางกายของเซิ่งเอ๋อกับอาโปนั้นคล้ายคลึงกัน แต่มันมีความสามารถในการตบด้วยฝ่ามืิออันทรงพลังซึ่งมันทำให้เฉินเหวินอดกังวลไม่ได้...
เฉินเหวินยิ้มเบา ๆ : "อาโปนายรู้มั้ยว่า พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของฉัน คือการมองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในของพวกมัน และช่วยปลุกทักษะให้กับพวกมัน และก็นาย รู้ไว้ซะ! ... "
หลังจากหยุดชั่วคราว เฉินเหวินก็พูดช้าๆ: "และฉันก็จะเป็นอัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้นนายอย่ามาเป็นตัวถ่วง!"