ตอนที่ 950 คุณบอกว่าเขาเป็นคนส่งของเหรอ?
ผู้หญิงคนนั้น ไม่คิดเลยว่า หนุ่มหล่อคนนี้ ที่ตัวเองแอบชอบกับเข้ามาแทรก ทั้งยังมาพูดจาแบบนี้ ..กับเธอ?
และสิ่งที่ หลินฟาน พูดมันก็น่าขบขัน.. ทั้งมันก็ยังเป็นคำพูดที่ประชดประชัน.. เขาบอกว่า สุนัขตัวนี้ของเธอ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ..ของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นก็ได้โกรธขึ้นมาทันที มาในตอนนี้ใครมันจะไปสนใจว่าใครเขาหล่อ ตอนนี้เอง ภาพลักษณ์ของ หลินฟาน ที่มีอยู่ในใจของเธอมันก็ได้ร่วงหล่นลงไป และหลินฟาน ก็ได้กลายมาเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเธอ : “คุณพูดอะไรนะ? ไหนคุณลองพูดมันออกมาอีกครั้ง? หรือคุณกลัว อย่าได้กลัวไป ไม่งั้นฉันจะถือว่าคุณมัน ขี้ขลาด!”
หลินฟาน ได้ยิ้ม และกล่าวว่า : “ผมบอกว่า สุนัขตัวนี้เป็นพ่อแท้ๆ ของคุณเหรอ? และผมล่ะ ผมดูเหมือนพ่อแท้ๆ ของคุณหรือเปล่า? แน่นอนว่าไม่ใช่ แล้ว.. สุนัขตัวนี้ล่ะ ผมเองก็เกรงว่ามันก็ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของคุณเช่นกัน แต่มันก็ไม่ต้องถึงขนาดได้เกียรติขนาดนี้ ..ก็ได้มั้ง”
หลินฟาน ได้เห็นว่า หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ ถูกผู้หญิงคนนี้บ่นทั้งดุด่าจนเธอเกือบจะร้องไห้ ดังนั้นเขาได้จึงต้องออกมาช่วยพูด เพื่อความชอบธรรม ทั้งนี้ก็เพื่อขอบคุณหญิงสาวพนักงานเสิร์ฟที่ได้ช่วยเขาพูด ในก่อนหน้านี้ด้วย..
แน่นอน.. หลินฟาน เองก็รังเกียจพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้มาก และมันก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่สามารถมองสุนัขเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งได้ แล้วการที่เธอชอบทําอะไรที่บ้านของเธอ ..เรื่องนี้นั้น ก็ช่างมันเถอะ แต่อย่ามาพูดถึงการนั่งโต๊ะกินข้าวร่วมกับสุนัข การนอนกับสุนัข หรืออื่นๆ ทั้งนี้มันก็เป็นเรื่องของเธอเอง แต่ที่นี่ มันคือสถานที่สาธารณะ จานชามช้อนก็เป็นของสาธารณะ เธอทําแบบนี้ มันก็เท่ากับว่าเธอไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นแล้ว..
ฮ่าๆ!
หลินฟาน พูดได้สวยงามมากจนคนรอบข้าง ถึงกับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา..
แม้ว่า หลินฟาน จะเป็นคนส่งของที่มีสถานะต่ำ แต่ความกล้าหาญของ หลินฟาน ก็ได้ทําให้ความรู้สึกที่ดีของทุกคนที่มีต่อ หลินฟาน.. ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ ได้มอง หลินฟาน ด้วยความซาบซึ้งใจ เธอรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว และไร้ความช่วยเหลือ เพื่อนร่วมงานของเธอต่างก็พากันมองจากที่ไกลๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเธอ ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่อยากลุยน้ำโคลน(1) ลูกค้าคนอื่นๆ ก็มีทัศนคติที่ไม่มาก และไม่คิดจะสนใจ ทั้งพวกเขาก็ดูไม่ต้องการไปต่อต้าน ..ผู้หญิงคนนี้
และมีเพียง หลินฟาน เท่านั้น ..ที่ออกมาช่วยเหลือเธอ
ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นโกรธมาก และเธอก็ได้กระโดดขึ้น ชี้นิ้วไปที่ปลายจมูกของ หลินฟาน และดุด่าไปว่า : “คุณมันเป็นใคร? นี่มันเป็นเรื่องของฉัน มันมาเกี่ยวอะไรกับคุณ มัวแต่มายุ่งเรื่องของคนอื่นทำไม! คุณนี่มันน่ารำคาญจริงๆ และคุณก็ได้ทําให้หญิงชราคนนี้รู้สึกไม่พอใจมาก และในตอนนี้คุณก็ควรที่จะขอโทษฉันทันที!”
หลินฟาน กล่าวว่า : “คนที่ควรขอโทษ มันก็คือคุณมากกว่ามั้ง? คุณควรตระหนักถึงความผิดพลาดของคุณ ขอโทษหญิงสาวพนักงานคนนี้ แล้วก็ขอโทษลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะการกระทําของคุณ มันน่าขยะแขยงมาก ทั้งมันยังส่งผลกระทบต่ออารมณ์ในการรับประทานอาหารของทุกคน โดยเฉพาะผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คุณ ทั้งมันยังทำให้ผมรู้สึกอึดอัด และคุณก็ต้องชดใช้ค่าความเสียหายพวกนี้!”
หลินฟาน ได้พูดตอบกลับไปด้วยประโยครุนแรง ..ผู้หญิงคนนั้นเองก็ได้โกรธจนจมูกเบี้ยวแล้ว
“ฉันเป็นแบบนี้ แล้วมันทำไม? สุนัขของฉันปกติก็ใช้จานกินข้าว แล้วเกิดอะไรขึ้น? คุณจะมาทําอะไรฉันได้ คุณกล้าที่จะทุบตีฉันหรือ? คุณกล้าไหมล่ะ! ไหนมาสิ ให้ฉันได้ดูสิ่งที่คุณจะทํา หญิงชราคนนี้ได้มาเจอคนอวดเก่ง ไหนมาสิฉันกำลังอยากดูคุณอยู่เลย ..ว่าจะทำอะไรกับฉันได้บ้าง! คุณรีบๆ พูดมาสิ!” ผู้หญิงคนนั้นได้กระโดดขึ้นด้วยความโกรธ และได้พูดตะโกนออกไป
หลินฟาน กล่าวว่า : “สําหรับคนไร้คุณภาพอย่างคุณ ผมเองก็อยากที่จะทุบตีคุณมากจริงๆ”
ผู้หญิงคนนั้นก็ดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่แล้วเธอก็ได้ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “มาเลย มาตีฉันสิ ไหนคุณเข้ามาตีฉันเลย และเมื่อนั้นฉันก็จะทำให้คุณติดคุก แล้วเชื่อไหมล่ะว่าฉันพบเจอคนแบบคุณมาเยอะ! คนแบบคุณนะ มันไม่กล้าทุบตีใครหรอก นั่นก็เพราะคนแบบคุณมันขี้ขลาด และไร้ประโยชน์ยังไง!”
หลินฟาน ยิ้ม และพูดว่า “ผมอยากจะทุบตีคุณจริงๆ แต่ตีคุณแล้ว.. ผมก็กลัวว่ามือของผมจะเปื้อน พฤติกรรมแบบนี้ของคุณ อย่าไปพูดถึงคนเลย.. แม้แต่สุนัขมันก็มองไม่เห็น ดังนั้นผมจึงไม่มีความจําเป็นที่จะต้องทุบตีคุณ ตัวคุณเองก็จะได้รับบทเรียนที่คุณสมควรจะได้รับ ด้วยตัวคุณเอง!”
ผู้หญิงคนนั้นก็ได้หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น : “มันไร้สาระ ถ้าคุณขี้ขลาด คุณก็แค่พูดว่าขี้ขลาด ตัวคุณเอง มันไม่กล้าที่จะทุบตีฉันหรอก!”
หลินฟาน ยิ้ม และพูดว่า : “สุภาพบุรษตกลงกันด้วยวาจา ไม่ใช่ด้วยกำลัง ถ้าคุณกล้าตีผมก่อน ผมก็แค่ป้องกันตัวเองได้ แต่.. คําถามคือ คุณกล้าเข้ามาตีผมไหม!”
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้โง่ ถึงเธอจะโกรธมาก แต่ถ้าหากเธอรีบเข้าไปทุบตี หลินฟาน ก่อน นั่นมันก็เท่ากับว่า เธอขาดทุน..
“ไอ้ขี้ขลาด แกมันไม่กล้ามาตีฉันเอง แถมกลับยังมาพูดด้วยว่าฉันมันไม่กล้าทุบตีแก!” ผู้หญิงคนนั้นได้มอง หลินฟาน อย่างดูถูก
หลินฟาน ไม่อยากที่จะสนใจเธอแล้ว สําหรับแม่สามี (婆娘) ที่สาดน้ำออกมาแบบนี้ พูดด้วยเหตุผลใดๆ ออกไปก็คงไม่เข้าใจ หรือไม่งั้นก็แค่ลงมือจริงๆ แล้วไล่เธอออกไป การหันมาใช้เหตุผลกับคนแบบนี้มันก็สิ้นเปลืองน้ำลายไปโดยเปล่าประโยชน์
หลินฟาน จึงหันไปพูดกับหญิงสาวพนักงานเสิร์ฟว่า “พี่สาว พวกเราอย่าไปพูดคุยเรื่องไร้สาระกับเธอจะดีกว่า เรื่องนี้ก็แค่ทําตามกฎเถอะ.. ร้านอาหารของพวกคุณก็มีกฎจริงๆ ที่ว่าห้ามนำสุนัขขึ้นมากินข้าวที่โต๊ะ ใช่ไหม?”
หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ ได้พยักหน้า และพูดว่า : “อืมม ใช่”
หลินฟาน พูดว่า : “จานช้อนส้อมที่สุนัขใช้แล้ว ผมหวังว่าทางคุณจะโยนมันทิ้งในภายหลัง ของพวกนี้ไม่สามารถล้างแล้วเอาไปให้ลูกค้าคนอื่นๆ ใช้ต่อได้ คุณคิดว่ามันสมเหตุสมผลไหม?”
หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ ได้พยักหน้า : “ใช่.. จานที่สุนัขตัวนี้ใช้แล้ว เราจะไม่นำมันมาใช้อีก สำหรับลูกค้าแล้ว เรื่องนี้ก็สำคัญมาก เดี๋ยวเราจะโยนมันทิ้งไป”
หลินฟาน กล่าวว่า : “จานใบนี้ ก็เป็นทรัพย์สินของทางร้านอาหารของพวกคุณ โยนมันทิ้งไปก็เท่ากับเป็นการทําลายทรัพย์สินของพวกคุณ.. อันนี้คุณสามารถเรียกร้องค่าชดเชยกับผู้หญิงคนนี้ได้”
หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ พูดว่า “อืมม.. เธอควรต้องชดเชยค่าความเสียหายของทางร้านอาหารของเรา”
หลินฟาน พูดว่า : “ตามกฎแล้ว คุณเองได้เข้าไปเตือน ผู้หญิงคนนี้แล้วว่า ห้ามนำสุนัขขึ้นมากินข้าวที่โต๊ะ แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ แล้วแบบนี้ควรทําอย่างไร? ร้านอาหารของพวกคุณ มีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะให้บริการแก่เธอคนนี้ไหม? พี่สาวไม่ต้องกังวล คุณสบายใจได้ และไม่ต้องกลัวเธอด้วย และอย่าได้ไปมองว่าผู้หญิงคนนี้ดุร้าย เธอผิด คุณเองก็สามารถต่อสู้ด้วยเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ได้”
วิธีแก้ปัญหาของ หลินฟาน นั้นชัดเจนมาก ให้ผู้หญิงตัวเหม็นคนนี้ชดเชยความสูญเสียมา หากถ้าเธอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ก็แค่ขับไล่เธอออกไป..
หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ เมื่อได้รับกําลังใจจาก หลินฟาน แล้ว เธอก็ได้ดูแข็งกร้าวขึ้นมาทันที
“คุณผู้หญิงคะ ตามกฎของร้านอาหารเรา สุนัขไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมากินที่โต๊ะอาหารได้ ทางเราขอความร่วมมือคุณ! ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือ ก็ได้โปรดออกไปจากที่นี่ด้วยค่ะ เราไม่ต้อนรับคุณ แน่นอน ก่อนที่คุณจะจากไป คุณต้องชดเชยความเสียหายของทางเรามาด้วย” หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟ ได้เงยหน้าขึ้น เธอไม่กลัวผู้หญิงคนนี้อีกต่อไปแล้ว และได้ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้
“พี่สาวหง? คุณคือพี่สาวหง ใช่ไหม?”
ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา และก็ได้เห็น หยางฮ่าว เดินเข้ามา และได้พูดคุยกับผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นได้มองไปที่ หยางฮ่าว และก็จำเขาได้ทันที : “เป็น เสี่ยวหยาง สินะ!”
หยางฮ่าว ยิ้ม และพูดว่า “เมื่อกี้ผมอยู่ตรงนั้น ผมจําพี่ไม่ได้ แต่ก็ได้คิดว่าน่าจะเป็นพี่จริงๆ”
ผู้หญิงคนนั้น ได้พูดว่า : “ไม่ใช่ฉันได้ยังไง เสี่ยวหยาง ไหนๆ ก็มาแล้ว งั้นเธอก็มาแสดงความเห็นให้หน่อย ..ว่า ทำไมสุนัขของฉันถึงขึ้นไปกินข้าวที่โต๊ะไม่ได้ ชี้ชัดให้ไอ้ตัวขี้ขลาดนี้ให้มันได้รู้!” ผู้หญิงคนนั้น ได้ชี้ไปที่ หลินฟาน
“นี่…” หยางฮ่าว ได้ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขาได้เดินเข้าไปจับไหล่ หลินฟาน แล้วพูดว่า “พี่น้องเรา คนๆ นี้เป็นเจ้านายของลูกค้าคนหนึ่งของฉัน ไว้หน้าฉันหน่อยเถอะ เรื่องนี้นายเองก็ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว วางใจได้.. หลังจากนี้ฉันจะตอบแทนให้”
ผู้หญิงคนนั้น ได้ร้อง เอ๊ะ ขึ้นมา แล้วได้ชี้ไปที่ หยางฮ่าว แล้วก็ได้ชี้ไปที่ หลินฟาน ก่อนจะพูดไปว่า : “นี่พวกคุณรู้จักกัน? เสี่ยวหยาง ไอ้ตัวขี้ขลาดนี้ ..คงไม่ใช่ว่าอยู่บริษัทเดียวกับคุณหรอก ใช่ไหม?”
หยางฮ่าว ได้หัวเราะอย่างรวดเร็ว และพูดว่า “พี่สาวหง อย่าเข้าใจผมผิดเช่นนั้นสิ เขาไม่ได้อยู่บริษัทเดียวกับผม เขาเป็นเพียงอดีตเพื่อนร่วมงานของผม และเขาก็เป็นคนส่งของ งานของเขานะ.. เขามักจะเป็นกังวลเรื่องของคนอื่นได้ง่าย พี่สาวหง คนๆ นี้ไม่น่าจดจำ แล้วเห็นแก่หน้าผมเถอะ อย่าไปเถียงอะไรกับเขาเลย..”
อะไรนะ?
ผู้หญิงคนนั้น ได้หัวเราะเยาะออกมาในทันที : “คุณบอกว่าเขาเป็นคนส่งของเหรอ?”
หยางฮ่าว ได้ไอออกไปสองครั้ง เหมือนกับว่าเขาได้อายแทน หลินฟาน เล็กน้อย แล้วพูดว่า “อืมม.. ใช่ครับ”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแหลมๆ และก็ได้หัวเราะออกมา : “ฉันยังอุส่าคิดไปว่าเขาเป็นเทพเจ้าองค์ใด แต่ที่ไหนได้.. นี่แม้แต่เรื่องของฉันก็ยังกล้าเข้ามายุ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนส่งของที่น่าตาย มาตอนนี้ชายยากจนคนหนึ่งกลับกล้ามายุ่งเรื่องของแม่เฒ่า กลัวว่ามันคงได้ไปกินดีหมีหัวใจเสือมา ถึงได้มีความกล้าได้ขนาดนี้!”
เมื่อกี้เธอได้พูดโจมตี หลินฟาน ว่าเป็นคนขี้ขลาด มาตอนนี้เมื่อรู้ว่า หลินฟาน เป็นแค่คนส่งของ เธอก็ได้ดูก้าวร้าวมากขึ้น ทั้งเธอยังได้พูดกดขี่ออกไปในทุกๆ คำ
หลินฟาน เหงื่อตก หยางฮ่าว คนนี้ ดูเหมือนว่าจะพยายามเกลี้ยกล่อมเขาไม่ให้สู้ แต่จริงๆ แล้ว เขากลับต้องการทําให้เขาสะดุด สินะ..
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ตัวตนของผมมันสําคัญไหม? แล้วตัวตนของคุณมันก็สําคัญไหม? ตอนนี้เรามาพูดด้วยเหตุผลเถอะ!”
ผู้หญิงคนนั้น ก็ได้ตะโกนขึ้นว่า : “ใช่เหตุผลเหรอ? คุณมันเป็นคนจนที่ตายไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรมาใช้เหตุผลกับฉัน? และฉันก็จะไม่ไปไหน มาดูสิว่าคุณจะทํายังไงกับฉัน!”
(1)[ลุยน้ำโคลน (蹚浑水)] - อุปมาอุปไมย ติดตามผู้อื่นทำชั่ว… น้ำขุ่นมัว ร่วมสมาคมกับคนอธรรม..