ตอนที่แล้วตอนที่ 47 ไรรีย์ วัลแคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 ทางเลือกและดาบที่เลือก(อ่านฟรีพิเศษ)

ตอนที่ 48 จารึกอักขระวิญญาณลงอาวุธครั้งแรก


ตอนที่ 48 จารึกอักขระวิญญาณลงอาวุธครั้งแรก

จิมและไรรีย์มองดูการกระทำของเด็กหนุ่มอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีใครกล่าวสิ่งใดรบกวน

ลีโอหยุดอยู่เบื้องหน้าของโต๊ะที่วางไว้ด้วยดาบยาวสองคมสีเงินเงางามและหนัก นี่เป็นดาบที่เน้นการฟันเป็นหลัก ข้าง ๆ ยังมีชุดอุปกรณ์จารึกที่ไรรีย์เตรียมไว้ให้ด้วย เพราะคิดว่าลีโอนั้นคงไม่สามารถกลับไปเอาได้

แน่นอนว่าถ้าต้องการลีโอสามารถดึงออกมาจากโลกมิติดวงตาผนึกเทพได้ เพียงแต่ว่าคงยากจะอธิบายได้

ส่วนของที่ใช้ในอีกขั้นตอนนั้นคือวัตถุแทนอักขระ น้ำยาวิญญาณและโลหิต

ลีโอเริ่มจากหยิบดาบขึ้นมาตรวจสอบ เขาศึกษาและทำความคุ้นเคยเช่นเดียวกับกระดาษยันต์ ในตอนที่เขียนอักขระลงบนกระดาษยันต์จะต้องรู้หน้าหลังและจุดกึ่งกลาง

ส่วนหนึ่งก็เพื่อความสวยงาม การจารึกอักขระวิญญาณลงที่ตัวดาบก็เช่นกัน

‘ในเมื่อเป็นการทดสอบก็คงทำแบบลวก ๆ ไม่ได้ อีกอย่างนี่คืออาวุธอาคมแรกที่ข้าจารึกมันควรจะพิเศษสักหน่อย’

แม้จะเป็นครั้งแรก แต่มาตรฐานการเป็นผู้จารึกของลีโอก็สูงส่ง เขาไม่อาจจะทำแบบขอไปทีได้

ดาบในมือถูกวางลงตรงหน้า ก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มลงที่หมึกผสมโลหิต

‘อักขระวิญญาณที่ไรรีย์ต้องการคือ อักขระวิญญาณไฟ แต่ว่าการจารึกในอาวุธอาคมนั้นเป็นวัตถุที่แกร่งกว่ากระดาษยันต์ จึงรองรับอักขระวิญญาณพลังอำนาจได้ดีกว่ากระดาษยันต์ธรรมดาที่ข้าใช้’

ลีโอจรดปลายพู่กันลงไปในที่ใจกลางของใบดาบ จากนั้นก็จารึกอักขระวิญญาณไฟลงไปเป็นตัวแลก ทุกขั้นตอนในครั้งนี้เหมือนเช่นการเขียนยันต์

“ตัวแรกอยู่ที่ใจกลางทางด้านขวา” ไรรีย์พึมพำกับจิมเบา ๆ และเฝ้าสังเกตตลอดเวลา

“นั้นคือจุดปกติที่ผู้จารึกนิยมกัน” จิมกล่าวตอบไป

ไรรีย์และจิมไม่ได้ประหลาดใจใด ๆ

“ดูเหมือนเขาจะกลับใบดาบอีกฝั่งขึ้นมาแล้ว”

“สองฝั่งฝังอักขระวิญญาณ สิ่งนี่ไม่ธรรมดา”

ทั้งสองตั้งใจมองดูวิธีการของลีโอด้วยท่าทางที่จริงจังกว่าเก่า

ลีโอในตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ เพราะในห้องนี้อุณหภูมิก็ร้อนอยู่แล้วและยิ่งลีโอรีดเค้นพลังจิตก็ยิ่งทำให้เหงื่อออกมากขึ้นไปอีก

อักขระวิญญาณทั้งสองเป็นเหมือนภาพสะท้อนกันในกระจกที่แทบจะอยู่ตำแหน่งเดียวกัน นี่ไม่ใช่ตรงเพียงลายเส้น แต่ยังถึงโครงสร้างยังเป็นการสะท้อนกันไม่มีผิด ที่ลีโอทำได้ขนาดนี้เพราะเขามองเห็นทุกขึ้นตอนผ่านจิตสัมผัสที่มองผ่านดวงตาผนึกเทพ

มันไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย

‘นี่คือขีดจำกัดแล้ว’

ลีโอไม่ฝืนสร้างตัวที่สองต่อ แต่ใช้พลังจิตรักษาสมดุลด้านในอักขระวิญญาณไว้ ถ้าใช้งานมันในตอนนี้ก็จะเป็นเหมือนการใช้ยันต์ ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวแล้วอักขระวิญญาณก็จะสลายไป

แต่ว่าการกระทำในขั้นตอนต่อไปจะทำให้อักขระวิญญาณถาวร ไม่ใช่การใช้เพียงครั้งเดียวและหายไป

ลีโอหยิบแผ่นอาคมที่สลักลวดลายลึกลงไป 3 มิลลิเมตรกว้างและยาว 12 นิ้วมาวางตรงหน้าจากนั้นก็ใช้อักขระวิญญาณออกมา นี่เป็นหนึ่งในชุดอุปกรณ์ของผู้จารึก

ลีโอหันไปจัดเตรียมวัตถุวิญญาณที่เรียกว่า วัตถุแทนอักขระ

วัตถุแทนอักขระวิญญาณไม่สามารถใช้มั่วซั่วได้ แต่มันมีเงื่อนไขในการใช้อยู่

โดยมันเกี่ยวข้องกับการใช้พลังของหมอผี หมอผีแท้จริงแล้วอาศัยพลังจิตในการเข้าไปควบคุมเพื่อใช้อนุภาควิญญาณ ถ้าขาดอนุภาควิญญาณ ต่อให้มีพลังจิตก็ไม่สามารถทำให้เกิดพลังขึ้นมาได้

แต่ถ้ามีแต่อนุภาควิญญาณแต่ไม่มีพลังจิตมนุษย์ก็ไม่สามารถสัมผัสหรือใช้อนุภาควิญญาณได้สองสิ่งนี้เป็นสิ่งไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ในระดับต่ำ

ดังนั้นวิธีการใช้พลังของหมอผีจึงแสดงออกมาผ่านวิธีต่าง ๆ วิธีแรกนั้นคืออาวุธอาคมที่มีส่วนผสมของโลหะสื่อวิญญาณเพื่อทำร้ายภูติผีปีศาจ

วิธีที่สองคือน้ำมนต์และยาต่าง ๆ สิ่งนี้จะมีส่วนผสมที่ได้มาจากทั้งภูตผีปีศาจ

ส่วนวิธีสุดท้ายนั้นก็คือผ่านอักขระวิญญาณเช่นยันต์และศาสตราอาคมที่จารึกอักขระวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวของอาวุธอาคม ยังต้องใช้วัตถุดิบที่มาจากภูติผีปีศาจด้วย

จะเห็นว่าทั้งสามสิ่งนี้ล้วนเกี่ยวกับภูตผีปีศาจทั้งสิ้น

และวัตถุตัวแทนในการเข้ามาใช้กับอักขระวิญญาณจะต้องเป็นประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียง เพื่อเป็นเหมือนกับตัวแปลงพลังให้กับอักขระวิญญาณ

เช่นถ้าจารึกอักขระวิญญาณไฟ แต่ใช้วัตถุตัวแทนน้ำอย่างนั้นสิ่งที่มันแปลงออกมาก็จะขัดแย้งกันกับอักขระวิญญาณไฟ เมื่อเป็นแบบนั้นก็จะทำให้อักขระถูกทำลายทันที บางครั้งอาจจะรุนแรงจนถึงขึ้นอาวุธอาคมพังไปด้วย

อักขระวิญญาณที่ลีโอจารึกลงในดาบอาคมนี้คืออักขระวิญญาณไฟ ก็ต้องใช้วัตถุตัวแทนไฟและไรรีย์ได้เตรียมไว้ให้แล้ว

นิ้วมือของภูติเพลิงที่หาได้จากสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยไฟและลาวาในดาวอังคารมีแหล่งผลิตอยู่แห่งหนึ่งนั้นคือ ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยะที่ชื่อว่า “โอลิมปัส” แต่ต่อมาได้มีการค้นพบที่สูงกว่าในภายหลัง แต่ว่าตอนนี้มันก็ยังเป็นภูเขาไฟใหญ่และสูงสุดในดาวอังคารอยู่ดี

และตอนนี้มันได้ถูกสหพันธรัฐเปลี่ยนทั้งภูเขาไฟโอลิมปัสไปเป็นแหล่งพลังงานจากใต้พิภพหล่อเลี้ยงระบบปรับสมดุลชั้นบรรยากาศของดาวอังคารแล้ว จนเป็นระบบที่ใช้พลังงานได้อย่างสะอาดหมดจดจริง ๆ

แน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากภูเขาไฟและที่ภูเขาไฟโอลิมปัสยังให้กำเนิดภูติที่เกี่ยวกับธาตุไฟจำนวนมากมายทั้งระดับต่ำจนไปถึงระดับสูง

หมอผีนิยมไปล่าภูติที่นั่นและสหพันธรัฐก็ยินดีมาก เนื่องจากอย่างที่เคยกล่าวว่าภูตินั้นแม้จะมีตัวที่เป็นมิตรแต่นั่นก็น้อยมาก ๆ เพราะส่วนใหญ่ก็เกรี้ยวกราดและอันตราย

สงครามของภูติและมนุษย์ก็ดุเดือดไม่แพ้สงครามของมนุษย์และผีปีศาจ

นิ้วมือของภูติเพลิงก็นับเป็นหนึ่งในที่นิยมที่หมอผีมักใช้เป็นวัตถุตัวแทนในอักขระวิญญาณไฟ

ในกล่องที่วางไว้ตรงหน้าของลีโอนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 นิ้ว เขาหยิบสองในสามออกมาวางที่แผ่นกระดานอาคม จากนั้นก็หยิบของชิ้นต่อไป

มันคือน้ำยาวิญญาณและเลือด

น้ำยาวิญญาณจัดเป็นสิ่งของราคาแพงไม่แพ้กัน เนื่องจากมันกลั่นมาจากผงวิญญาณ ผงวิญญาณนั้นเนื่องจากมันคุณภาพด้อยกว่าผลึกวิญญาณ หมอผีจึงทำการกลั่นพวกมันเป็นน้ำยาวิญญาณและถูกใช้หลากหลายในเส้นทางของหมอผี

ลีโอหยิบขวดเล็ก ๆ ขึ้นมาเปิดและหยดลงไปในแผ่นกระดานอาคมตามจุดส่งพลังทั้ง 8 มุมของแผ่นกระดานอาคม

สำหรับอักขระวิญญาณระดับ 0 ใช้เพียง 8 หยดก็เพียงพอแล้ว

สิ่งสุดท้ายที่หยิบขึ้นมานั้นคือเลือด

เลือดในขวดนี้ไม่ธรรมดามันต่างจากเลือดที่ผสมอยู่ในหมึกที่ใช้เขียนยันต์ โดยหลัก ๆ จะมีสามประเภทและเลือดแต่ละแบบทรงพลังต่างกันไป อันได้แก่ เลือดของหมอผี เลือดของปีศาจ เลือดของเด็กมนุษย์บริสุทธิ์

อย่างหลังสุดอย่างเลือดของเด็กมนุษย์บริสุทธิ์ไม่มีหมอผีกล้าใช้ เพราะผิดต่อกฎของกองควบคุม ยกเว้นแต่หมอผีนอกรีตที่ไม่สนใจกฎอยู่แล้ว

จึงเหลือเพียงสองสิ่งได้แก่เลือดของหมอผีและเลือดของปีศาจ

เลือดของปีศาจนั้นหายากมากและดูจะสิ้นเปลืองเกินไป เพราะอย่างที่บอกปีศาจที่กลายร่างแล้วมีพลังอยู่ที่ประเภท 1 ก็ต้องใช้ระดับหมอผีแท้จริงในการฆ่าและต้องใช้กับอักขระวิญญาณระดับ 1 ถึงจะคุ้มค่า

แน่นอนว่านั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้จารึกและเจ้าของอาวุธอาคมต้องการแบบไหนอีกที

ส่วนสิ่งสุดท้ายนั้นคือเลือดของหมอผี

ร่างกายของหมอผีนั้นมีรูนจิตที่จะดูดซับเอาอนุวิญญาณภายนอกมาพัฒนา พลังจิตวิญญาณและร่างกาย เหมือนเครื่องฟอกเลือด ยิ่งร่างกายของหมอผีมีรูนเยอะ ความเร็วก็ยิ่งมาก พลังจิตวิญญาณและเลือดในร่างกายก็ยิ่งบริสุทธิ์และทรงพลังมากตามไปด้วย

ดังนั้นคุณภาพของเลือดหมอผีก็ขึ้นอยู่กับระดับพลังของหมอผี

ในหมู่หมอผีฝึกหัดก็มีคนนิยมขายเลือดของตนเอง โดยเฉพาะเหล่าหมอผีฝึกหัดระดับ 1 ที่ยากจนข้นแค้นนัก แต่ว่าในระดับสูงขึ้นไปไม่ค่อยนิยม โดยเฉพาะหมอผีแท้จริงที่หวงแหนเลือดของตนเสียยิ่งกว่าอะไร

ถ้าต้องการจริง ๆ จะใช้เลือดของตนเอง

เนื่องจากว่าในศาสตราของหมอผีสามารถใช้เลือดโจมตีหรือแม้แต่การสาปส่งได้ อีกทั้งยุคอวกาศนี้เทคโนโลยีไปไกลมาก จนสามารถใช้เพียงเลือดก็โคลนนิ่งคนออกมาได้แล้ว

นั้นยิ่งเลวร้ายใหญ่ เพราะคงไม่มีใครต้องการให้ตนเองถูกโคลนออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต

เลือดที่ไรรีย์เตรียมไว้ให้นั้นแน่นอนว่าไม่ใช่เลือดที่มาจากหมอผีฝึกหัดระดับ 1 แต่ทรงพลังกว่าอาจจะเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 3

ลีโอเปิดขวดเลือดและเททั้งหมดลงไปในแผ่นกระดานอาคม ถ้าเป็นหมอผีแท้จริงในขั้นตอนนี้จะทำการผสานพลังจิตวิญญาณของตนเองลงไปเพื่อปกปิดโครงสร้างแห่งอักขระวิญญาณ

แต่ลีโอยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะถึงพลังจิตของเขาจะเปลี่ยนจากหมอกกลายเป็นหยดน้ำ แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังมากพอจะปกปิดโครงสร้างของอักขระวิญญาณทั้งตัวได้

และมันก็ยังไม่จำเป็นเนื่องจากว่าในระดับหมอผีฝึกหัดไม่มีหมอผีผู้จารึกคนไหนทรงพลังพอจะมองเข้าไปในโครงสร้างแห่งอักขระวิญญาณได้ตรง ๆ เช่นลีโอ

ส่วนหมอผีแท้จริงอำนาจพลังจิตของพวกเขานั้นทรงพลังมากจนพลังจิตวิญญาณที่ลีโอใช้ปกปิดมันบางเบายิ่งกว่าปีกจักจั่นเสียอีก

หมอผีแท้จริงใช้พลังจิตสะกิดเบา ๆ ก็คงฉีกพลังจิตวิญญาณที่เขาใช้ปกคลุมเพียงครั้งเดียวก็พังทลายแล้ว

เลือดที่พึ่งเทลงไปจนหมดขวดค่อย ๆ ไหลไปตามเส้นลวดลายบนแผ่นกระดานอาคม โดยกระบวนการนี้ลีโอยังใช้พลังจิตในการควบคุมมันอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้

เลือดไหลไปรวมกับน้ำยาวิญญาณทั้ง 8 หยด 8 จุดที่ใส่ไว้ก่อนหน้านั้น ทำให้น้ำยาวิญญาณเหล่านี้หลอมรวมเข้ามาในเลือดเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับแผ่นกระดานอาคม

เมื่อถึงขั้นตอนนี้ก็เริ่มมีการปลดปล่อยพลังงาน รอบกายเกิดคลื่นที่สั่นอนุภาควิญญาณเบา ๆ จนสายลมเริ่มพัดภายในห้องหมุนวนรอบแผ่นกระดานอาคม

เลือดถูกเติมเต็มทุกลวดลาย วัตถุแทนอักขระก็มีปฏิกิริยาค่อย ๆ สลายอย่างช้า ๆ แต่ยังเร็วด้วยตาเห็นได้ รวมเข้าไปในหยุดเลือด พอถึงขึ้นตอนนี้ดาบอาคมก็ค่อย ๆ ลอบขึ้นมาอาบโลหิตที่แผ่นกระดานอาคม

อักขระวิญญาณไฟทั้งสองด้านของดาบดูดซับเอาเลือดที่ผสมทุกสิ่งเข้าไปในอักขระวิญญาณ

ตัวของอักขระวิญญาณที่ทำงานก็กัดกร่อนผิวของดาบตามรอยการเขียนของลายเส้นที่ลีโอวาดไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงติดไว้กับผิวทั้งสองด้านของใบดาบ

แสงสีแดงอมส้มจากตัวอักขระวิญญาณสาดสะท้อนไปตกกระทบที่ใบหน้าของลีโอและห้องด้านใน

จิมและไรรีย์ต่างจ้องมองไปที่ดาบด้วยแววตาตื่นตะลึงกับฉากที่เห็นตรงหน้า

และหลังจากเปิดปรากฏการณ์อยู่ราว ๆ 3 นาทีในที่สุดเลือดทั้งหมดก็หายไปจากแผ่นกระดานอาคมทุกอย่างก็หยุดลงในทันที

ลีโอรีบยื่นมือไปรับดาบทันที แต่พริบตาที่มือสัมผัสกับดาบความร้อนก็ส่งผ่านมือของลีโอจนส่งเสียงไหม้ดัง ซี่....ที่ฝ่ามือราวกับว่าลีโอได้กำเอาเหล็กเผาไฟร้อน ๆ ไว้ในมือ

“ร้อน!” ด้วยความตกใจลีโอจึงเผลอโดนดาบออกจากมือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด