ตอนที่ 1113 การต่อสู้ระหว่างชิงหมอกับว่านหมอ
“ผลประกบคู่แข่งขันรอบต่อไปออกมาแล้ว” ข่าวล่ามาเร็วประกาศโดยมิกหมาป่าแห่งหอสูง“ชิงหมอพบกับว่านหมอ!”
“สองปีศาจต่อสู้กันครั้งนี้คงมีอะไรดีๆ ให้ดู ฮ่าฮ่าฮ่า!”
น่าสนใจ
“หนึ่งในการต่อสู้ที่มีการคาดหวังมากที่สุด!”
“เป็นว่านหมอที่มีหุ่นรบทองที่ทรงพลังหรือว่าชิงหมอผู้มีการต่อสู้108 รูปแบบ?”
พวกนักเรียนพูดคุยกันมากมาย และเมื่อถึงเวลาฉีมู่ที่จมูกบวมใบหน้าฟกช้ำทำให้นักเรียนที่เห็นตกใจกลัวเขาเบียดเสียดหาตำแหน่งดีๆเพื่อดูการประลองระหว่างชิงหมอและว่านหมอที่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการเย่ว์หยางปลีกตัวไปแล้วเพราะนักเรียนที่ถูกชักชวนให้เล่นสนุกกับพวกเขาต่างเลิกเล่นไปแล้ว ก็แค่หยอกล้อหยางผิงผู้มีหุ่นรบมังกรหลังหนามถูกไตตันเอาชนะไปได้ เขาก็รู้ว่าคนผู้นี้ประดิษฐ์ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์เป็นนักเรียนที่ไม่ธรรมดา ไม่มีใครที่ต้องการสู้กับเขา เว้นแต่พวกโง่กับงี่เง่า!
ฮ็อกตบไหล่ฉีมู่อย่างตื่นเต้นและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “โชคดีแล้วที่เจ้าอยู่ที่นั่น ไม่อย่างนั้นตำแหน่งนี้ยากจะได้รับจริงๆ”
ฉีมู่โมโห “เจ้าหมายความว่ายังไง? ตอนนี้ใบหน้าข้าบวมเล็กน้อย แต่กลับกลายเป็นความหล่อที่ปฏิเสธไม่ได้ นอกจากนี้ใครบ้างที่หล่อกว่าข้าในพวกที่หน้าบวม? เจ้าไม่ลองโดนคนตบหน้าบ้าง มันทำให้หน้าเสียรูปไปบ้าง เจ้าไม่อายหรือตะโกนว่าผีหลอกมาทางข้าเจ้าช่างไม่รู้อะไรเลย สหาย, ข้าบอกได้เลย เจ้าต้องชี้แจงต่อสาธารณชนให้ชัดไม่งั้นไม่จบเรื่องแน่!”
ฮ็อกรีบขอโทษทันที “ใช่ ใช่ ข้าผิดเอง, ข้าไม่ควรตะโกนคำว่าผีใส่เจ้าก็เจ้ามาเคาะประตูห้องข้าแต่เช้า ข้ายังมิทันเตรียมตัวเตรียมใจเลยปฏิกิริยาธรรมชาติ เจ้าก็รู้ว่าผีน่ากลัวขนาดไหน มันทำให้คนตื่นตกใจได้!”
ฉีมู่ยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “อะไรนะ? ข้าไม่ใช่ผีและข้าบอกความจริงเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
ฮ็อกรีบโบกมือและตอบทันที “ไม่ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น เจ้าต้องดูดีกว่าผีแน่นอน!”
จมูกฉีมู่พะเยิบพะยาบ “เจ้า ไม่ต้องพูดยังจะดีกว่า”
เมื่อได้ยินทั้งสองคนเถียงกันไม่หยุดคุณชายหมิงจูหันมาจ้องมองพวกเขา
สองคู่หูผู้น่าสงสารสั่นด้วยความกลัวว่าค้อนทองอาจฟาดกบาลพวกเขาในวินาทีใดก็ได้ ยกเว้นแมลงสาบอย่างเย่ว์หยางแล้วไม่มีใครต้านรับค้อนทองได้ ฉีมู่ไม่เหมือนเย่ว์หยางเขาจะหล่อสู้สองคนนี้ได้อย่างไร และคุณชายหมิงจูไม่เคยเปลี่ยนไปตบหน้า ใครจะรับมือได้ดีกว่าเขาเล่า?
มิฉะนั้นให้มองฉีมู่เป็นตัวอย่างเหมือนหัวหมูที่ถูกทุบ
ก่อนหน้านี้หลานฟงที่ทรงพลังเอาชนะฮ็อกด้วยหุ่นระดับแพลตตินัมได้
เขาได้รับการประเมินจากนักเรียนเป็นการชั่วคราวว่าเป็นคนแรกในการต่อสู้ และเขาเป็นตัวเต็งว่าจะได้รางวัลชนะเลิศหุ่นแพลตตินัม ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงใดเขาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน แม้ว่าจีอู๋ลี่ที่ชนะผ่านล่าสุดจะหายไปแต่ก็ไม่สามารถไว้วางใจหุ่นแค้นของเจ้าชายระดับแพลตตินัมได้?
หลานฟงถูกประเมินว่าเป็นเต็งหนึ่ง ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล
เต็งสองคือว่านหมอ
ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นสหายของหลานฟงและจีอู๋ลี่และไม่ว่าเขาจะมีไพ่เด็ดมากมายขนาดไหนแต่ก็เป็นเพียงหุ่นเลือดเนื้อที่เปิดเผยมาแล้วว่าน่าทึ่ง
นักเรียนบางคนยังกล้าพูดว่าว่านหมอยังเป็นเจ้าของหุ่นเลือดเนื้อระดับแพลตตินัมซึ่งยังดีว่าของหลานฟง
หุ่นเลือดเนื้อเป็นเพียงหุ่นอสูรและเป็นหุ่นคู่หูที่สามารถรักษาซ่อมแซมตนเองได้ผ่านแผนภูมิอักขระรูนและวิธีอื่นๆ ปรับตัวให้มีผิว ผมและเลือดเนื้อ เมื่อเทียบกับหุ่นรบธรรมดาหุ่นเลือดเนื้อที่สร้างโดยว่านหมอนี้ ใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาคล้ายสัตว์ป่าและผีร้าย
มีอาจารย์น้อยมากที่คิดเช่นนั้น หากหุ่นประเภทนี้ไม่ได้ถูกจำกัดไว้สำหรับการผลิตจำนวนมาก ทั้งวิธีการผลิตจำเป็นต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตถลกหนังและสร้างเป็นรูปร่าง นั่นเป็นวิธีการที่โหดร้ายเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อความคิดสร้างสรรค์และการคว้ารางวัลชนะเลิศ
“ชิงหมอ ว่านหมอ ใครแข็งแกร่ง ใครอ่อนแอ? ใครจะได้เข้ารอบต่อไป?” คุณชายหยางฉวนตามมาดูการต่อสู้เงียบๆ
“การต่อสู้อย่างเป็นทางการ เริ่มได้!” อาจารย์ผู้เป็นกรรมการสั่ง
ครั้งนี้สู้กันที่ยอดเขาทิศตะวันตก
ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากัน
ด้านหลังชิงหมอมีหมาป่าเงินสามตัวหนึ่งในนั้นหันหัวช้าๆ ร่างมันค่อยแยกออก กรงเล็บหดไปอยู่ที่ไหล่ทั้งสอง ขาเหยียดและหางหมาป่ากลายเป็นเข็มขัดร่างด้านนอกกลายเป็นเกราะ และร่างเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็นร่างของนักดาบ นี่คือร่างหุ่นรบที่ชิงหมอกำลังจะควบคุมหมาป่าที่อยู่ทางซ้ายและขวากลายเป็นหุ่นอสูรสำหรับสู้รบ
ว่านหมอยิ้มเยาะและถ่มน้ำลาย “หุ่นเปลี่ยนรูป? ไม่เท่าไหร่!”
เขาหมุนนาฬิกาข้อมือดำที่ข้อมือที่ผอมแห้งอย่างรวดเร็ว
หุ่นเลือดเนื้อกระโดดออกมาทีละตัว
มีรวมกันสิบตัว
ทั้งหมดเป็นหุ่นระดับเงิน
ความสูงของหุ่นเลือดเนื้อระดับเงินนี้แปลกไปบ้าง พวกมันทั้งหมดเป็นพวกโนมไม่มีตัวใดสูงเกินห้าเมตร ศีรษะของพวกมันโตและดูผิดปกติเล็กน้อย
ไม่รอดูปฏิกิริยาของคนดูนอกสนามต่อสู้ของยอดเขาตะวันออกหุ่นยักษ์ถูกปล่อยออกมาทีละตัวๆ จากเครื่องมือคล้ายนาฬิกาข้อมือ หุ่นรบแต่ละตัวมีความสูงอย่างน้อยห้าเมตรมีหน้าตาเหมือนปีศาจ มีเขี้ยว กรงเล็บและประกายไฟ ร่างของหุ่นรบเหล่านี้ถูกคลุมหุ้มด้วยเหล็กมีหนามดูดีกว่ามังกรหลังหนามของหยางผิง และน่ากลัวกว่าเล็กน้อย!
ไม่มากไปไม่น้อยไป
หุ่นยักษ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวเหล่านี้มีอยู่ด้วยกันสิบตัว
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังเป็นเหมือนหุ่นเลือดเนื้อก่อนหน้านี้และมีระดับเงิน
หุ่นรบยักษ์ที่ดุร้ายน่าเกลียดเปิดท้องที่เป็นห้องควบคุมหุ่นเลือดเนื้อที่เหมือนพวกโนม เข้ามารวมกับหุ่นรบในห้องควบคุมเหมือนกับเป็นคนจริงๆ และกระจายวงล้อมโอบรอบชิงหมอและหมาป่าเงินทั้งสอง
“มีทั้งหมดแค่นี้หรือ?” ชิงหมอแค่นเสียงและโดดไปในหมาป่าเงินแปลงร่าง
“ปลาหมอจะตายเพราะปาก รอให้ข้าระเบิดเจ้าก่อน และจะดูว่าเจ้าจะมีอะไร!”
ว่านหมอโบกมืออีกครั้ง
ปล่อยหุ่นรบระดับทอง
หุ่นรบทองนี้ไม่ใช่หุ่นรบทองที่เคยแสดงก่อนหน้านั้นแต่เป็นหุ่นรบทองที่เหมือนกับหุ่นเลือดเนื้ออีกตัวหนึ่งมันแตกต่างจากโลหะบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ที่มีลักษณะคล้ายอัศวินทองของจีอู๋ลี่ หุ่นนี้ดูเหมือนอสูรศึกมากกว่าหุ่นรบ มันมีผิวและขนด้านนอกเหมือนยักษ์โอ๊กทั่วไปเพียงแต่ดวงตาของมันถูกแทนที่ด้วยพลังงานอย่างสมบูรณ์เปล่งประกายแสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วมันเป็นหุ่นรบที่ต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อน
ผิวของหุ่นรบยักษ์ทุกตารางนิ้วถูกเขียนด้วยอักขระรูน
พลังอักขระรูนนับไม่ถ้วนเหมือนกับวงเวทอักขระรูนที่ซ้อนทับกันและเปล่งประกาย
เย่ว์หยางสามารถมองเห็นได้
ในการใช้อักขระรูนถึงแม้ว่าว่านหมออาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งแต่ไม่เกินไปกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้ อย่างน้อยในรูปแบบสิบกว่าแผนภูมิอักขระรูน ว่านหมอใช้ได้เพียงสามแบบเท่านั้น ส่วนที่เหลือว่างเปล่าหลังจากแปลงเป็นพลังงานแล้ว เล่นได้ทีละหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้การใช้พลังอักขระรูนถ้าเปลี่ยนเป็นเย่ว์หยาง ของอย่างนี้เขาจะทำได้ง่ายกว่าสิบเท่าประหยัดพลังมากกว่าสิบเท่า และสามารถเพิ่มพลังให้มันมากกว่าสิบเท่าจากพื้นฐานเดียวกันนี้... ว่านหมอมีพลังการสู้รบที่ทรงพลังมาก แต่ในแง่ของอักขระรูน เย่ว์หยางเขาอยู่แค่ระดับเจ้าอ้วนไห่และเย่คง
บางทีเมื่อใช้อักขระรูนไม่จำเป็นว่าเจ้าอ้วนไห่จะต้องน่ากลัวขนาดนี้
“ไม่ ไม่เลว!” แม้ว่าคุณชายหมิงจูจะไม่สามารถมองความลี้ลับของผังภูมิอักขระรูนที่ว่านหมอใช้ออก แต่เขามั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนในโลกจะผิดปกติอย่างเย่ว์หยางมีคนไม่กี่คนที่รู้จักอักขระรูนสวรรค์ทั้งหมด อย่างน้อยที่สุดในบรรดาผู้เข้าชมจำนวนมาก ไม่มีใครนอกจากบัณฑิตตาเงินที่มีความสามารถด้านนี้ทัดเทียมกับว่านหมอ!
“ชิงหมออาจลำบาก” บัณฑิตตาเงินย่อมมองยักษ์โอ๊คของว่านหมอออกหุ่นรบเลือดเนื้อตั้งรับและพร้อมจะรุกได้ทุกเมื่อ และไม่มีจุดอ่อนยากจะจัดการจริงๆ
“ความจริงยักษ์โอ๊กร์มีจุดอ่อน ถ้าชิงหมอหาพบก็ยังมีหวัง” เย่ว์หยางไม่เห็นด้วย
“เจ้ายืนพูดเฉยๆ ไม่ปวดไม่เมื่อย ถ้าลองเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่า!” คุณชายหมิงจูหัวเราะ
“เป็นข้าก็ชนะแน่นอน แน่นอนว่าข้าไม่สามารถใช้ระดับเงินไปสู้ได้ ระดับเงินไม่สามารถยืนบนท้องฟ้าได้!” เย่ว์หยางยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะพลังรุกและรับของยักษ์โอ๊กด้วยหมาป่าเงิน นี่คือหุ่นเลือดเนื้อระดับทองต่างจากหุ่นรบระดับทองธรรมดามันคือพลังอักขระรูนที่สามารถโจมตีและรักษาตัวเองได้ หมาป่าเงินเอาชนะมังกรหลังหนามของหยางผิงได้แต่ไม่สามารถกำจัดยักษ์โอ๊กนี้ได้
มีอยู่สามเหตุผล ประการแรกทั้งสองเป็นหุ่นรบระดับทอง เจ้าหลังหนามยังห่างชั้นจากยักษ์โอ๊กอยู่มาก
ประการที่สองความแตกต่างของผู้ควบคุม หยางผิงจะเทียบกับว่านหมอได้อย่างไร?
ถ้าหยางผิงต้องสู้กับว่านหมอมีหวังได้ตายทันที
ความสามารถในการควบคุมการตัดสินใจโดยตรงและความแข็งแกร่งสุดท้าย!
นอกจากนี้ยังมีจุดที่สามที่ทำให้เย่ว์หยางรู้สึกว่าสามารถฆ่ายังโอ๊กได้ นั่นไม่ใช่พลังของยักษ์โอ๊กและการควบคุมที่ทรงพลังของว่านหมอแต่เป็นความกังวลเกี่ยวกับอวตารของเทพปีศาจ แม้ว่าอวตารของเทพปีศาจนั้นจะมีพลังเพียงหนึ่งในหมื่นของความแข็งแกร่งของเทพปีศาจแต่ไม่มีหุ่นรบระดับเงินตัวใดที่สามารถพลิกฟ้าได้!
ไม่ต้องพูดถึงหุ่นรบระดับเงินเลยต่อให้เป็นระดับทอง ระดับแพลตตินัม แม้เผชิญกับอวตารของเทพปีศาจก็คงต้องประสบกับความล้มเหลว
ปัง ปัง ปัง...
ในสนามรบการต่อสู้ครั้งใหญ่เริ่มขึ้นแล้ว
ชิงหมอรู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยากจะสู้ได้ แต่เพื่อให้ว่านหมอเผยให้เห็นความสามารถและจุดอ่อนที่มากขึ้นเขากระโดดโจมตีโดยไม่ลังเล
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะสิ่งที่เขาอยากทำคือทุกพลังต่อสู้กับศัตรูที่น่ากลัวภายใต้การชมดูของผู้เข้าชม คำสั่งผสมที่งดงามทำให้การโจมตี 108 ท่ากลับมาปรากฏอีกครั้ง
ต่างจากการโจมตีต่อเนื่องของเย่ว์หยางก็คือการโจมตีต่อเนื่องของชิงหมอรวดเร็วมาก
เหมือนกับฟันหินจนเกิดประกายไฟ
ในชั่วประกายไฟกระพริบแปลบปลาบ
เขาโจมตีตอบโต้ไปร้อยท่าแล้ว
เมื่อเย่ว์หยางกระพริบตาด้วยความเบื่อเล็กน้อยชิงหมอโจมตีร้อยท่าจวนจะหมดรอบแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นภาพประกายแพรวพราวและเห็นยักษ์โอ๊กล้มกระแทกกับพื้น
หุ่นรบเงินของชิงหมอเคลื่อนไหวรวดเร็วไม่ซับซ้อนมันรั้งดาบกับคืนมาและสอดเข้าไปในแขน
นักเรียนผู้เชียร์ชิงหมอส่งเสียเฮพร้อมกัน
แม้ว่าผลสุดท้ายจะยังไม่ออกมา แต่พวกเขารู้สึกว่าร้อยแปดท่าที่ใช้ออกสามารถตัดสินให้ชนะได้ ในทางกลับกัน ฝ่ายที่เชียร์ว่านหมอยังมองโลกในแง่ดี เกี่ยวกับสถานการณ์ พวกเขาทึ่งกับการใจเย็นของว่านหมอเขาจัดรูปหุ่นรบทองได้ดีอย่างนี้จะแพ้ได้อย่างไร?
“อย่าดีใจเร็วเกินไป!”
ยักษ์โอ๊กที่ถูกกระแทกลงไปนอนกับพื้นทรายกระโดดออกมาจากทรายจากนั้นพลิกร่างใหญ่โตลงยืนกับพื้นอย่างแผ่วเบาไม่มีแม้แต่แรงสั่นสะเทือน ร่างใหญ่สูงสิบเมตร แต่เบาราวกับขนนกยักษ์โอ๊กถูกโจมตีใส่ 108 ท่ารวด ไม่มีร่องรอยบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นที่หัวหรือร่าง นอกจากคราบโคลนจำนวนเล็กน้อยบนเส้นผมเห็นแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่ามันถูกหุ่นรบระดับเงินโจมตีต่อเนื่องไปถึง 108 ท่า
เสียงของว่านหมอดังออกมาจากท้องยักษ์โอ๊ก เขาตะโกนด้วยความหยิ่งยโส “มาเลย ข้าจะให้เจ้าโจมตีอีกสองท่า พลังแค่นี้ดีกว่าแม่นมเลี้ยงเด็กไม่มาก ทำอะไรไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมสู้แบบนี้มันน่าเบื่อจริงๆ!”
“เฮ....”
เมื่อเห็นภาพนี้นักเรียนที่เชียร์ว่านหมอ ต่างโห่ร้องยินดีอย่างบ้าคลั่ง
ยอดเยี่ยมดีจริงๆสมกับเป็นเต็งสอง ทรงพลังมากจริงๆ
ในทางตรงกันข้ามนักเรียนที่เชียร์ชิงหมอรู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกพวกเขาไม่รู้ว่ายักษ์โอ๊กมีพลังมากเกินไปหรือเปล่า? โดนโจมตีต่อเนื่อง 108 ท่าแต่ไม่ได้รับเสียหายเลยหรือ? พวกเขารู้ว่าการใช้ 108 ท่าโจมตีต่อเนื่องยังทำให้หุ่นหลังหนามของหยามผิงพังได้! นี่ก็เหมือนกันเป็นหุ่นรบระดับทอง ยักษ์โอ๊ก ทำอะไรไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมหรือ
คุณชายหมิงจูขมวดคิ้วมองดู
จากนั้นหันไปมองเย่ว์หยาง