ตอนที่ 1109 กับดักสตรี ข้าชอบที่สุด
แม้ว่าจะมีนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้สองคนร่วมมือสนับสนุนแต่เย่ว์หยางไม่ได้ลงมือทันที
ลงมือพลการหรือ?
ทำให้ข้าวสารเป็นข้าวสุก(ขืนใจ)
เขาเองไม่ได้ต่อต้านมากเกินไป ถ้าตามหลักจิตวิทยาแบบเห็นแก่ตัวตราบใดที่เขาชอบสาว เขาไม่ต้องการปล่อยให้หนีหลุดรอดมือไปได้ เขาคิดว่าถูกต้องที่จะคิดแบบนี้ เมื่อจะนำไปใช้ก็ต้องมีทักษะบ้างด้วยความอดทนเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องป่าเถื่อน แต่ขึ้นอยู่กับคนและเวลาเหมือนอย่างที่นางเซียนหงส์ฟ้าเพิ่งพูด ให้ใช้กำลังกับอิงหลัวทันทีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะคิดยังไง? ปรากฏว่าความประทับใจที่สร้างขึ้นอาจจะพังทลายเพราะความกังวลนี้
แม้ว่านางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้มองผิวเผินอาจเห็นว่าพวกนางยิ้มแต่จริงๆ แล้วพวกนางอาจจะหึงอยู่ในใจก็ได้ ใครจะเห็นหัวใจสตรีได้ชัดเจน
เย่ว์หยางมีจักษุญาณทิพย์แต่ใช้กับในกรณีนี้ไม่ได้
“ข้าจะคุยกับอิงหลัวก่อน...” ในฐานะเด็กหนุ่มจากมิติอื่นเย่ว์หยางคุ้นเคยกับการดูรายการแสดงต่างๆ ของสตรีในทีวีและภาพยนตร์มานานแล้วเขารู้ว่าการแสดงเดี๋ยวนี้มีความสำคัญมาก และต้องแสดงให้ดีจะมีคะแนนสนับสนุนมากมายอยู่ในใจ ตรงกันข้ามถ้าแสดงไม่ดีคาดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงเลาะซี่โครงเขาออกมาผัดเปรี้ยวหวานกินได้แน่
“หลอกทุกคนไปเลย เจ้าได้โอกาสดีแล้วนี่,อยากหัวเราะเย้ยฟ้าใช่ไหม?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอดค่อนขอดมิได้
“คืนนี้ข้าจะไม่ไปไหน ข้าจะอยู่กับแม่เสือสาวดีกว่า” เย่ว์หยางพูดเอาใจนาง
“เหลวไหล, คนโกหก” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหมือนจะว่าค่อนขอดแต่เด็กมองเห็นก็รู้ว่านางใจอ่อน หากนางไม่ก้มหน้าหลบสายตาทุกคนเพื่อรักษาหน้าในฐานะองค์หญิงคาดว่านางคงเป็นแมวน้อยที่แสนเชื่อง
เย่ว์หยางโอบกอดนาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค้อนเขาเบาๆโดยไม่ลังเลทำนองว่าใครให้เจ้ากอด? เจ้าเป็นใคร? ข้าไม่รู้จักเจ้าสักหน่อย
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นรู้สึกได้ถึงความยับยั้งชั่งใจขององค์หญิง แต่เขาไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นและโอบกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหันหน้าหนีอีก แต่เย่ว์หยางยืนกรานจะกอดให้ได้เป็นครั้งที่สาม องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องหนีไปซ่อนตัวอยู่หลังอู๋เหินและล้มไปกับพื้นพร้อมกันองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพยายามดิ้นรนอยู่สองสามคราและทุบตีเขาอยู่หลายครั้งแต่น้ำหนักหมัดเบาราวกับปุยนุ่น ในที่สุดนางได้ปล่อยให้เขาจูบนางอายหน้าแดงและขอให้อู๋เหินช่วย “คนลามกนี่บ้าไปแล้ว เจ้ามาช่วยข้าด้วย โอ๊ะ...เจ้าบังอาจกัดข้าหรือ? ตัวน่ารังเกียจ ไปอยู่ห่างๆ ข้าเลยไป”
องค์หญิงผู้ถือดีรู้สึกอายเมื่อพูดถึงเรื่องการ ‘กัด’แบบนี้ ความจริงนางไม่ปฏิเสธ
เพียงแต่มีคนอื่นอยู่ข้างๆ องค์หญิงผู้หน้าบางรู้สึกอายกับการสนิทสนมกับเขามากเกินไป
ถ้าไม่มีใครอยู่ด้วย
เย่ว์หยาง‘กัด’ นางอย่างนี้ คาดว่านางคงจะ ‘กัด’ เขาคืน
แต่เมื่อตกอยู่ในสายตาของหลายคนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนละอายที่จะกัดกับเขา ต้องแกล้งทำเป็นโกรธแล้วผลักไสเขาออกไป
เพราะได้ความช่วยเหลือกระตือรือร้นจากโล่วฮัวและสาวน้อยอี้หนานองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเหยื่อผู้เข้าปากเย่ว์หยางได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แม้ว่าโดยผิวเผินนางจะโกรธแต่นางก็ยังอารมณ์ดี อารมณ์หึงโกรธหายไปหมด เหลือแต่ความหวานชื่นเป็นไปไม่ได้ที่นางจะพูดอะไรต่อหน้าธารกำนัลอีก
“เชี่ยนเชี่ยน เจ้ามากับข้า ข้ามีบางอย่างจะคุยด้วยโล่วฮัวกับอี้หนานก็มาด้วย!” อู๋เหินพาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกไป
“เป็นภรรยาหลวงที่แสนดีจริงๆ!” นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้มเหมือนดอกไม้
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” เย่ว์หยางทำแกล้งโง่
“นางเห็นว่าทั้งราชินีเว่ยฟงและจักรพรรดินีเทียนฟากำลังอยู่ในอาการหลงใหลจึงพาพวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปล่อยให้สามีมีช่วงเวลาที่สุขสมหรือว่าเจ้าขอร้องนาง?” นางเซียนหงส์ฟ้าพูดถึงความเป็นจริงในช่วงเวลาที่ต้องพยายามอย่างหนักบางทีก็ต้องลดความขัดแย้งเรื่องเวลา ให้ราชันย์ปีศาจใต้ ไห่หลาน, ไป่ลู่ปรนนิบัติเย่ว์หยางพร้อมกันหากไม่ใช่เอาชนะกันพวกนางไม่คิดเรื่องนี้มากตอนนี้พวกนางอายหน้าแดงและมองดูเย่ว์หยาง
“พวกเจ้าต้องการทำอะไร? พวกเจ้าจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสู้หรือ?” เย่ว์หยางเหมือนหนุ่มหล่อที่พบกับกลุ่มสาวเจ้าชู้
“ทีละคนก็ได้!” ราชันย์ปีศาจใต้ทำให้เขารู้สึกทึ่ง นางค่อยๆเอนตัวในอ้อมกอดของเขา
“ก็ได้ ทีละคนข้าไม่กลัว” เย่ว์หยางปากเหงื่อที่หน้าผาก
“เราสู้กับเจ้าทีละคน...” ไห่หลานมองดูของข้างนอก เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิงไม่ได้อยู่ที่นั่นอู๋เหินและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาพวกนางปิดประตู และออกไปไกลทันที
“ข้าขอค้าน นี่ไม่ใช่ตัวต่อตัวแล้ว นี่เป็นการรุมกินโต๊ะ” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นยกมือคัดค้านขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้าได้แต่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาอยู่ลึกๆ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกหลังจากทำศึกมานับครั้งไม่ถ้วนทั้งไห่หลานและไป่ลู่มีทักษะเพิ่มขึ้นอีกมากพวกนางไม่สนใจอารมณ์เด็กหนุ่มจากโลกอื่น ต่างบดขยี้แสดงทักษะของพวกนางโดยตรง
“นายท่าน! ข้าจะช่วยท่านเอง!” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้น่ารักที่สุดอยู่ในชุดหนังยืนอยู่ข้างกายเจ้านายนาง
“ปราบเจ้าเด็กนี่ให้ได้อย่าปล่อยให้เขาย่ามใจเกินไป!” นี่คืออดีตเทพธิดาที่เป็นหนึ่งเดียวกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์นางถนัดนักเรื่องแสดงอารมณ์รักร้ายๆ เมื่อนางออกมาเย่ว์หยางเริ่มรู้สึกกลัว
หลังจากศึกรักที่ดุเดือดผ่านไปทั้งคืนเด็กหนุ่มผู้ไร้เทียมทานได้รับชัยชนะสุดท้ายในที่สุด
ในฐานะผู้ชนะจิตใจของเย่ว์หยางรู้สึกสดชื่นไม่เบา
แต่เพราะนอนน้อยเมื่อเขากินอาหารเช้ากับคุณชายหมิงจู เขาเผลอหาวสองครั้ง
คุณชายหมิงจูสงสัยมาก ตั้งแต่เห็นเขาหาวเขาเริ่มทนไม่ไหว เมื่อเห็นว่าอาจารย์ใหญ่และครูบาอาจารย์อื่นไม่ได้อยู่ใกล้ๆเขาถลึงตาตบโต๊ะลุกขึ้นจับคอเสื้อเย่ว์หยางเขย่าและถาม “บอกมา เมื่อคืนนี้เจ้าไปหลอกใครที่ไหน?” เสียงดุนี้ดังราวกับฟ้าร้อง คุณชายฉีมู่ที่กำลังดื่มกินอยู่ใกล้ๆถึงกับสะดุ้ง
เย่ว์หยางยังคงสงบอยู่มากใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้ม
ยิ่งเขาหัวเราะก็ยิ่งทำให้คุณชายหมิงจูโกรธ
โดยไม่ให้เย่ว์หยางระวังตัวคุณชายหมิงจูยื่นจมูกเข้ามาใกล้เย่ว์หยางและสูดดมเขาโกรธต่อเด็กหนุ่มจากโลกอื่นทันที “มีกลิ่นสตรีอย่างน้อยสองคน เมื่อคืนนี้เจ้ากล้าออกไปขโมยกินของคาวหรือ?”
คุณชายฉีมู่ฟันสั่นกระทบกันกลัวแทบปัสสาวะราด
ตรงกันข้ามกับเย่ว์หยางที่ไม่ได้ปฏิเสธและยอมรับหน้าตาเฉย “จมูกเจ้าไวจริงๆ เมื่อคืนนี้ข้ารบกับสาวๆ มากกว่าสองคนจริงๆ”
คุณชายหมิงจูเมื่อเห็นเขายอมรับเตรียมใช้ค้อนทองหวดส่งเขาไปยังสวรรค์ตะวันตก
ใครจะรู้ว่าเขากลับพูดต่ออีกครั้ง “ข้ารู้ว่าข้าผิดที่แอบไปกินของคาวคนเดียวเมื่อคืนนี้ ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าก็มีความต้องการอย่างนี้ข้าสัญญาว่าจะพาเจ้าเข้าร่วมศึกร่วมเตียงนี้ความสัมพันธ์เจ้ากับข้าจะได้แนบแน่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กเรื่องดีแบบนี้เจ้าเคยทำมาก่อนหรือเปล่า? ความจริงเมื่อคืนนี้ข้าลังเลอยู่นาน ข้ารับมือสาวสองสามคนตามลำพัง แทบไม่มีเวลาว่าง ได้เจ้ามาช่วยแบ่งเบาก็คงจะดีที่สุด”
คุณชายหมิงจูเงื้อค้อนทองค้างไว้ทำท่าจะหวดค้อนสองสามครั้ง แต่ในที่สุดก็ไม่หวด
เย่ว์หยางฉวยโอกาสตีเหล็กขณะยังร้อนเขาโอบไหล่คุณชายหมิงจู “คืนนี้สายเกินไปแล้ว เราค่อยลองคืนอื่นกันเป็นไง ข้าสัญญาว่าเจ้าจะได้เท่สมใจ เราคู่หูกัน มีอะไรก็ร่วมแบ่งปันกันได้”
คู่หู่?
เท่?
คุณชายหมิงจูอยากใช้ค้อนทองหวดศีรษะเจ้าเด็กนี่ให้กระจายเหมือนแตงโมเน่านักแต่ไม่รู้ว่าเป็นยังเขากลับไม่โกรธ แต่ยิ้มให้แทนรอยยิ้มของเขาเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ “หน้าโง่ ข้าจะต้องอิจฉาความสุขของเจ้าไปทำไมแค่กังวลสภาพร่างกายของเจ้า เจ้าก็รู้ว่าวันนี้เจ้ามีแข่งขัน เจ้าจะแข่งขันได้ยังไงในสภาพที่ถูกสาวๆ สูบเรี่ยวแรงจนหมดตัว!”
เย่ว์หยางรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก “เจ้าช่างใจดีนัก เป็นห่วงข้าเสียขนาดนี้ไม่, ข้าต้องปรนนิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดีในยามค่ำคืน จะหาสาวๆให้โอบกอดทั้งซ้ายและขวา!”
คุณชายฉีมู่เมื่อได้ยินว่ามีคนเชิญมีสาวๆ คนหรือสองคนคอยปรนนิบัติ เขารีบโผล่ออกมาจากใต้โต๊ะ “พี่ชาย, ข้าจะไป.....”
คำพูดยังไม่ทันจบมีคนเสริมต่อให้
“ไปตายซะ!” ฉีมู่ถูกคุณชายหมิงจูยันกระเด็น
“คืนนี้เราจะไปกันเลยไหม?” เย่ว์หยางทำเป็นขอคำแนะนำคุณชายหมิงจู
“พักผ่อนให้สบายใจในหอพักเวลาค่ำคืนเถอะข้าจะดูแลเจ้ายามค่ำคืน ไม่อยากให้เจ้าพลาด!” คุณชายหมิงจูหลังจากนับในใจไปมาเขารู้สึกว่าน้ำเสียงเขาควรอ่อนโยนกว่านี้ ดังนั้นเขาระงับโทสะและยิ้ม “นี่ก็เพื่อประโยชน์กับร่างกายของเจ้า บางทีศัตรูอาจใช้แผนหญิงงามในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ การแข่งขันชิงชนะเลิศ เจ้าไม่ควรจะทำแช่นนี้ไม่ใช่หรือ?”
“แผนนางงาม! ข้าชอบแผนนี้ที่สุด” เย่ว์หยางเปิดเผยความในใจโดยไม่ตั้งใจ
“ลองพูดอีกครั้งซิ” คุณชายหมิงจูพร้อมจะฆ่าคน
“ข้าบอกว่าแผนนางงาม ข้าไม่ยอมถูกหลอกง่ายๆ สุภาพบุรุษที่ดีอย่างข้ามักจะรังเกียจแผนนางงามแบบนี้!” เย่ว์หยางเอามือตบอกตัวเองบอกว่าชายต้นแบบของเขาคือหลิวเสี่ยวฮุ่ย
“เจ้าเป็นคนแบบนี้จริงหรือ? ข้าจะเชื่อเจ้าก็ได้ คุณชายหมิงจูปากบอกว่าเชื่อ แต่ก็ทำท่าเหยียดหยามไปด้วย ”เชื่อว่าเจ้าเป็นผี”
คุณชายหมิงจูตัดสินใจอยู่ใจ
เขาจ้องมองเจ้าเด็กนี่อย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนอย่าคิดหาโอกาสหลุดรอดสายตาเขาได้เด็ดขาด
โดยเฉพาะตอนกลางคืนเขาจะไม่ยอมให้แม้แต่แมลงสาบตัวเมียเข้ามาใกล้ประตูห้องเด็ดขาดมิฉะนั้นต้องฆ่า... เนื่องจากรังสีอำมหิตของหมิงจูหนักหนาเกินไปใบหน้าของฉีมู่ปรากฏรอยรองเท้าของหมิงจู เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ทั้งสองคนในระยะ 500 เมตรและวิ่งไปอยู่ฝั่งตรงข้ามสมทบกับฮ็อกและพวก เย่ว์หยางกับหมิงจูผู้คุ้มกันไปที่ยอดเขาเหนือซึ่งมีพื้นเป็นน้ำแข็ง คู่ต่อสู้ของเขาก็คือหยางผิงที่รออย่างใจจดใจจ่ออยากฆ่าเย่ว์หยางให้ได้สักร้อยครั้ง
“เจ้าสวะ,ข้าสัญญาได้เลยว่าเจ้าจะตายอย่างน่าอนาถ!” หยางผิงจะฆ่าเด็กหนุ่มไตตันผู้ประดิษฐ์ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์ให้ตายอย่างน่าอนาถได้อย่างไร
“หือ..อย่างนั้นหรือ? ตรงกันข้าม ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องตายอย่างคาดไม่ถึง...” เย่ว์หยางอดหาวอีกครั้งไม่ได้ แต่ไม่ใช่เพราะง่วง แต่เป็นเพราะคู่ต่อสู้โง่บริสุทธิ์ อ่อนแอเกินกว่าจะเยียวยาได้