ตอนที่ 1107 เครื่องมืออมตะ มรดก และการเลื่อนชั้น
นางเซียนหงส์ฟ้าเห็นว่าเย่ว์หยางตัดสินใจเปิดกล่องหยกขาวนางรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
นางอดไม่ได้ที่จะเหยียดแขน
โอบกอดเย่ว์หยางไว้แน่น
ปกติทุกคนจะเห็นว่าจักรพรรดินีเทียนฟาจะสูงส่งเหนือใครทั้งหมดยากนักที่จะเห็นนางทำตัวเหมือนสาวน้อย โล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยากหัวเราะบ้างแต่พวกนางกลัวว่าจะทำลายบรรยากาศจึงต้องทนไว้ เย่ว์หยางรีบปลอบโยนสาวเทียนฟาและจับหลังมือนางไว้แน่น ไม่ว่านางจะเรียกว่าจักรพรรดินีเทียนฟาหรือนางเซียนหงส์ฟ้า นางก็คือสตรีที่ต้องการได้รับการดูแลคนหนึ่ง...นางเข้มแข็งต่อหน้าทุกคน ไม่ได้หมายความว่านางไม่ใช่สตรีตัวน้อย เย่ว์หยางรู้ว่าถ้าอยู่กันสองต่อสองสาวน้อยเทียนฟ้าไม่ทราบว่าอ่อนโยนขนาดไหน เพียงแต่นางไม่เปิดเผยด้านนี้ง่ายๆ
นางเซียนหงส์ฟ้าค่อยคลายมือหลังจากเย่ว์หยางปลอบโยนนาง
หัวใจนางอบอุ่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
นางลืมคลายมือที่โอบเอวเย่ว์หยางเดิมทีนางต้องการจูบที่แสนหวาน แต่จู่ๆ นางก็รู้ว่าทุกคนกำลังมองดูจึงเปลี่ยนความตั้งใจเพียงแค่จูบริมฝีปากเขาเบาๆแก้เก้อทำทีเป็นอ้อมไปด้านหลังเย่ว์หยาง
แต่ยังกอดเอวเขาไว้แน่น และแนบหน้าอยู่ที่หลังของเขา
นี่เป็นวิธีซ่อนความเขินอายของนาง
พริบตานางรู้สึกว่าความรักท่วมท้นความเชื่อมั่นเปี่ยมล้นยากจะควบคุมตนเอง
เย่ว์หยางคลายวงแขนของนางออกครึ่งหนึ่งและจดจ่อให้ความสนใจกับกล่องหยกขาวในมือ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว เย่ว์หวี่ อี้หนานและราชันย์ปีศาจใต้กระตือรือร้นจะดูผล พวกนางล้อมวงเข้ามา รอให้เย่ว์หยางใช้พลังกฎสวรรค์น้อยที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเพื่อเปิดกล่องหยกน้อยเขาค่อยๆถ่ายเทพลังปราณแท้บริสุทธิ์เพื่อกระตุ้นและนำทางพลังที่อยู่ในกล่องหยกขาว ทันทีที่กล่องหยกขาวเปิดขึ้น เขาแทบรอไม่ได้และถ่ายเทพลังปราณแท้ มีพลังเทพพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุใต้ดิน
ทันทีที่พลังเทพกระจายออกมา ก็เปลี่ยนไปเป็นแสงรัศมีเจิดจ้า
กระพริบประกายสง่างดงาม
แสงเทพเจิดจ้าไม่มีใดเทียบอาบไปทั่วโลกคัมภีร์ทั้งหมด
ทุกคนอาบอยู่ในรัศมีเทพ และจิตใจกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนราวกับว่ากลับไปในช่วงแรกกำเนิด ไม่มีความนึกคิดแต่รู้ว่าร่างกายได้รับการชำระจากรัศมีเทพนี้อย่างไม่รู้จบ
การอาบชำระแสงที่ยอดเยี่ยมและสงบสุขนี้ไม่เพียงแต่ในระดับจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีอยู่ในร่างกายและโลกคัมภีร์ทั้งหมด รวมทั้งเสวี่ยอู๋เสียที่ยังหลับไหลและอสูรพิทักษ์ทั้งหมดในโลกคัมภีร์ล้วนได้รับสิ่งเดียวกันนี้ทั้งหมดอาบแสงรัศมีชำระร่าง ในบรรดาพวกเขาคนที่อาบแสงมากที่สุดก็คือเย่ว์หยางคนเปิดกล่องหยกขาวและนางเซียนหงส์ฟ้าซึ่งเป็นเจ้าของกล่องหยกขาว
เย่ว์หยางมีพลังปราณราชันย์ระดับห้าซึ่งเป็นระดับเดียวกับนางเซียนหงส์ฟ้าได้รับยกระดับอยู่ภายในแสงรัศมีเทพ
ต้องบอกว่าเย่ว์หยางมีความก้าวหน้า
ทุกคนไม่แปลกใจเพราะเย่ว์หยางแสดงสัญญาณของความก้าวหน้าในช่วงที่สู้กับเทพปีศาจ แต่เวลานั้นเขาห่วงใยคุณชายหมิงจูซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไปจึงไม่สามารถเลื่อนระดับในสภาพเช่นนั้น ดังนั้นจึงส่งผลต่อสถานการณ์รวม
แต่เมื่ออยู่ในโลกคัมภีร์นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ได้ออกไปข้างนอกแต่อย่างใด กลับเลื่อนระดับได้อย่างง่ายดายและยังทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนประหลาดใจ
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดก็คือหลังจากนางเซียนหงส์ฟ้าเลื่อนระดับพลังไปถึงปราณราชันย์ระดับหกเย่ว์หยางกลับเปล่งแสงรัศมีศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง รัศมีเจิดจ้ากว่าเดิมถึงสิบเท่าพลังเทพรวมอยู่ในร่างนางเซียนหงส์ฟ้า ขณะที่นางเพิ่มระดับพลังเต็มที่ พลังของนางระเบิดออกอีกครั้ง
สายฟ้านับไม่ถ้วนกระจายออกจากศีรษะนางเซียนหงส์ฟ้า
พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
และแผ่กระจาย
ในเวลานี้นางเซียนหงส์ฟ้าเหมือนกับกำลังสวมมงกุฎสายฟ้าเท่าที่เห็นสามารถสร้างความยำเกรงได้ทั่วจักรวาล
เสียงฟ้าร้องของพลังกฎฟ้ายังไม่หายไปแต่กลับฉายรูปเทพธิดากฎฟ้าสูงพันเมตร ดูดซับพลังเทพมากกว่า 80% จากที่ไม่มีอะไรเลยกระจายสู่พื้น กระบวนการกำเนิดมีความงดงามและไม่มีที่สิ้นสุดมิอาจใช้คำพูดในโลกมาบรรยายได้ ในฐานะผู้ดูได้เห็นภาพที่งดงามและน่าทึ่งเหล่านี้ทุกได้แต่ถอนหายใจหวั่นไหว
ขณะเดียวกันทุกคนตั้งความหวังไว้ในใจ
พวกนางไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
พวกนางจะทำอย่างนี้ได้ด้วยตนเอง
เทพธิดาเทียนฟาประกอบไปด้วยสายฟ้าและแสงเทพฉายลงมาที่หน้าผากของนางเซียนหงส์ฟ้า ขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้าเปลี่ยนสถานะเลื่อนไปที่พลังปราณราชันย์ระดับเจ็ด
ด้วยการเลื่อนพลังสองระดับติดต่อกันพลังศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พลังสลัวที่เหลือไม่ถึง20% และในปากของนางเซียนหงส์ฟ้ามีรัศมีสีม่วงพวยพุ่ง
สายฟ้าม่วงแหวกว่ายเหมือนมังกรที่มีชีวิต
และเข้าไปในหัวใจของเย่ว์หยางผลักดันพลังหัวใจมังกรแท้ให้สมบูรณ์
“ฮ่าห์...!”
เย่ว์หยางรู้สึกแต่เพียงว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หน้าอกเขาเขาไม่สามารถคายออกและคอของเขาเปิดออกและแม้แต่มังกรทองที่มีประกายไฟฟ้าสีม่วงเล็ดลอดออกมาจนเขารู้สึกเหลือเชื่อ มังกรทองศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเล็กมากมีขนาดเท่าแขนเด็ก แต่เหมือนมีชีวิต ไม่เหมือนกับพลังเทพแสงเทพ
มันเลี่ยงร่างเย่ว์หยางและชอนไชเข้าด้านหน้านางเซียนหงส์ฟ้าและจากนั้นพุ่งออกมากจากด้านหลัง
จากนั้นมังกรแท้ก็เข้าไปในร่างของราชันย์ปีศาจใต้ผู้เป็นแรงผลักดันสร้างหัวใจมังกรแท้ให้เย่ว์หยางแล้วบินออกมาจากหัวใจของนางจากนั้นเข้าไปทางหน้าผากขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและทะลุผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นก็เป็นเย่ว์หวี่และกลับมาที่หัวใจมังกรแท้ของเย่ว์หยาง
ทุกคนกลับเข้าไปในโลกวิญญาณในใจของเย่ว์หยาง ทั้งหมดรู้สึกได้ถึงพลังลึกลับและอ่อนโยนร่วมกัน
เย่ว์หยางเลื่อนพลังเป็นปราณราชันย์ระดับหกชั้นสูง ขณะบรรลุความก้าวหน้า ทันใดนั้นมรดกความรู้ในใจที่ยังเข้าไม่ถึงก็เปิดกระจายออกราวกับเป็นฝนบุปผาหลากสีสันตก ความลึกลับที่ได้รับสืบทอดทั้งหมดยังไม่สามารถคลี่คลายด้วยตัวเอง ได้แต่ฝ่าฟันและพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าและหยุดนิ่ง ในทางตรงกันข้ามหลังจากเทพมังกรทองผ่านหัวใจนางความรู้พลังก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งในเวลาไม่กี่สิบวินาทีก็ยกระดับพลังไปถึงที่ปราณราชันย์ระดับแปดอย่างคาดไม่ถึง พลังเทพในร่างนาง และประกายเทพนารีกฎฟ้าถือกำเนิดส่งเสียงร้องอยู่บนศีรษะนางพร้อมกับการเลื่อนระดับเปลี่ยนแปลงอย่างมิมีใครเทียบได้
ไม่เพียงแต่นางเซียนหงส์ฟ้าเท่านั้น พวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ได้อาบแสงศักดิ์สิทธิ์ในระดับน้อยกว่า 20% มังกรทองศักดิ์สิทธิ์ยังช่วยเชื่อมใจทำให้เลื่อนระดับได้อีกหนึ่งระดับ
คนอื่นที่แทบไม่มีพลังรบอย่างเป่าเอ๋อยังได้รับประโยชน์เลื่อนพลังได้อีกหลายระดับ
แน่นอนว่านางยังคงอยู่ในระดับปราณก่อกำเนิด
ตอนนี้เป็นเพียงระดับปราณฟ้า
เพิ่มขึ้นหลายระดับก็จริง แต่ยังห่างจากขอบเขตระดับปราณราชันย์
แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากกล่องหยกขาวค่อยๆ จางหายไปนอกจากนี้เกือบ 80%ฉายเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้า 10%เป็นสาวๆ 10%เป็นอสูรพิทักษ์
อาจกล่าวได้ว่าทั่วทั้งโลกคัมภีร์ใครที่ได้อาบแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ล้วนได้รับประโยชน์ทั้งนั้น
รอจนกระทั่งแสงเทพหายไป
เย่ว์หยางมองดูในกล่องและพบว่ามีสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในกล่อง
เป็นจี้หยกมีลวดลายหงส์สีขาวหนา มีแสงเทพสีรุ้งจางๆ
ถ้าเจอใครบางคนที่ไม่รู้จักสินค้าเกรงว่าหยกนี้จะถูกมองเหมือนเป็นหยกธรรมดาแต่ในจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางนี่คือของวิเศษที่หาได้ยาก ชีวิตของเย่ว์หยางมีสมบัติมากมาย อย่างไรก็ตามนี่เป็นของหายาก คาดว่าหยกหงส์นี้เทียบได้กับสร้อยคอจี้หยกดำที่พี่สาวแม่สี่ทิ้งไว้ให้เขายกเว้นแต่ชุดอมตะของเผ่าบูรพาอมตะที่สาวกิเลนปิงหยินสวมใส่สามารถเปลี่ยนเป็นเกราะกิเลนได้
แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่รู้ชื่อของวิเศษชนิดนี้ แต่เขามองไม่เห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในหยกหงส์นี้แต่เขาสามารถบอกได้ทันทีว่า นี่คือสมบัติวิเศษชั้นอมตะ
ต่างจากสมบัติเทพการมีอยู่ของของวิเศษระดับอมตะดูเหมือนจะเป็นมรดกตกทอด แนวทางรู้แจ้งมากกว่า
ไม่ใช่อาวุธสมบัติที่เอาไว้ใช้ต่อสู้!
“หยกหงส์ดูเหมือนจะมีความหมายลึกซึ้ง เจ้ามองเห็นได้หรือเปล่า?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูหยกในมือของเย่ว์หยาง
“ก็อาจจะ..” ราชันย์ปีศาจใต้กล้าคาดเดา
“จะเป็นลายแทงสำหรับเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพหรือไม่? บันทึกของบรรพบุรุษยุคก่อนทำให้เรารู้แจ้งพลังจี้หยกหรือไม่? นางเซียนหงส์ฟ้ายังคงรู้สึกไม่สบายกายเล็กน้อยและปรับตัวยังไม่ได้ นางยกระดับพลังสามขั้นรวดเดียวเป็นปราณราชันย์ระดับแปด แต่ความตื่นเต้นและดีใจทำให้หัวใจนางกระตือรือร้นตื่นเต้น แม้ว่านางจะยังไม่รู้สึกสบายนักนางไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายแต่อย่างใด
“ถ้าเป็นเรื่องจริงก็นับว่าเป็นเรื่องยอดเยี่ยม!” เย่ว์หวี่ที่สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาก็ยังส่งเสริมด้วยความตื่นเต้น
“มอบหยกขาวให้นางเถอะ!” อู๋เหินจับมือเย่ว์หยางขณะที่กุมมือนางเซียนหงส์ฟ้าด้วย ในฐานะสตรีคนแรกของเย่ว์หยางนางได้รับการยอมรับ และนางก็ยอมรับนางเซียนหงส์ฟ้า เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่นางเซียนหงส์ฟ้าจะแต่งงานกับเย่ว์หยางที่หอทงเทียนได้ ที่สำคัญ เสวี่ยอู๋เสียและโล่วฮัวล้วนเป็นรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานของนางหากการแต่งงานเป็นไปตามประเพณีธรรมเนียมของตระกูลแม่สี่และคนในตระกูลเย่ว์ไม่รู้ว่าจะเรียกนับญาติกับนางอย่างไรแม้ว่านางเซียนหงส์ฟ้าจะไม่สนใจชื่อเสียงนาง แต่ถ้าทุกคนสามารถทำพิธีเล็กน้อยให้นาง จนกระทั่งถึงวันนี้เย่ว์หยางก็สวมหยกหงส์ให้นางด้วยตนเองซึ่งเป็นของตกทอดมาจากบรรพบุรุษโบราณนั่นคือการยอมรับที่ยิ่งใหญ่
กล่องหยกขาวเป็นสินสอดของนาง
ทั้งยังเป็นของตกทอดจากตระกูลของนาง
ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น
การนำจี้หยกออกมานี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของบรรพบุรุษยุคโบราณด้วย
ตอนนี้ถ้าเย่ว์หยางเป็นคนสวมให้นางด้วยตัวเองและนางจะไม่มีอารมณ์ซาบซึ้งได้อย่างไร?และสาวๆ ที่อยู่ล้อมรอบต่างปรบมืออวยพรนางเซียนหงส์ฟ้านางปล่อยวางสถานะจักรพรรดินีเทียนฟา หลั่งน้ำตาปลาบปลื้มจนพูดไม่ออก
เย่ว์หยางสวมสร้อยจี้หยกหงส์ให้นางเซียนหงส์ฟ้าด้วยตัวเอง
คอนางขาวเหมือนหยกเรียวยาวเหมือนหงส์กลมกลืนกับสร้อยคอหยกขาวเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าหลั่งน้ำตาเย่ว์หยางอดกอดนางเบาๆไว้ในอ้อมแขนมิได้ มีเสียงเชียร์และแสดงความยินดังรอบ เขาอดจูบริมฝีปากนางไม่ได้ “ยอดเยี่ยมจริงๆ ต่อไปในอนาคตข้าต้องการบรรยากาศซาบซึ้งอย่างนี้บ้าง ไม่,ข้าต้องการให้ลึกซึ้งเข้าถึงอารมณ์มากกว่านี้!” เป่าเอ๋อชูกำปั้นน้อยอย่างน่ารักฝันถึงความสุขในอนาคตใบหน้านางเต็มไปด้วยความรู้สึกโหยหา แต่ทันใดนั้นนางกลับไปสนใจทางด้านอื่น “เอ๋? ทำไมคนตัวใหญ่ไม่ใส่เสื้อผ้า? ว้าย..แล้วเสื้อผ้าข้าล่ะ?”
“....”หลังจากนางตะโกน สาวๆ อื่นก็ตื่นจากความฝันที่อบอุ่นและความสุข พวกนางพบว่าตนเองเปลือยกายกันหมด เสื้อผ้าเดิมสลายไปกับพลังเทพแสดงเทพ แต่สมบัติระดับเงินและระดับทองกลับเพิ่มพลังขึ้นหลายเท่าอย่างน่าตกใจเสื้อผ้าพวกนางจึงสลายไป
“ปิงเอ๋ออย่ามอง!”เย่ว์หวี่รู้สึกตัว นางรู้สึกอายอยู่ในใจ แต่นางไม่สนใจตัวเองนางใช้ชุดคลุมตัวเย่ว์ปิงก่อน
คัมภีร์อัญเชิญนางปรากฏนางฟ้าอุทัยก็ปรากฏนางผสานเข้าชุดดาบนางฟ้าทันที
คลุมทั้งร่าง
นางกระพือปีกพาเย่ว์ปิงกลับเข้าห้องไปทันที
สาวๆ พอรู้สึกตัวก็รีบสวมชุดจันทราทันที และพวกนางแยกย้ายกันไปด้วยความเขินอาย
แต่เป่าเอ๋อถูกเซี่ยอีลากออกไป แม้ว่านางจะก้มหน้าใช้มือน้อยปิดหน้า แต่นางยังมองผ่านรอยแยกนิ้วมืออย่างช่วยไม่ได้ในใจนางรู้สึกมืดมนเสียใจ “ใหญ่มากใหญ่จริงๆ น่ากลัว...”