ตอนที่แล้วบทที่ 55 : ความแข็งแกร่งของฉันเป็นผลมาจาก "การทำงานหนัก"
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 57 : เส้นทางวิวัฒนาการทั้งสามสาย

บทที่ 56 : ฐานการทดลอง​ลับ


บทที่ 56 : ฐานการทดลอง​ลับ

“นักรบทุกคน ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 06.00 น. ฐานส่งเสบียงนักรบ​ของเราจะเข้าสู่สภาวะกฎอัยการศึก สัญญาณการสื่อสารจะถูกตัด และห้ามนักรบคนใดเข้าหรือออกที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาต ใครก็ตามที่พยายาม​เข้าหรือออกฐานเสบียงนักรบ​จะถูกฆ่าทันที​”

ณ ตอนนี้เวลาเที่ยงคืน, ฐานเสบียงนักรบก็ทำการประกาศสถานะกฎอัยการศึ, จากนั้น​กองทัพที่ประจำการอยู่ที่ฐานเสบียงนักรบก็ดำเนินการปิดล้อมฐานเสบียงทันที

นักรบจากสามโรงยิมศิลปะการต่อสู้รวมถึงนักรบหลายคนในเครื่องแบบทหารได้มารวมตัวกันใต้ประภาคาร

“ดูเหมือนว่าทั้งโรงยิมศิลปะการต่อสู้และกองทัพจะเริ่มทำภารกิจลับอีกครั้ง เเต่ฉันไม่รู้ว่าคราวนี้จะเป็นภารกิจลับประเภทไหน?”

นักรบหลายคนนอกเหนือจากนักรบของโรงยิมศิลป​การต่อสู้​หลักสามแห่งและกองทัพที่เห็นประกาศ​กฎอัยการศึกกะทันหันที่ฐานเสบียงนักรบ พวกเขาก็เดาว่าโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักสามแห่งและกองทัพกำลังจะเริ่มปฏิบัติภารกิจลับ

เรื่องแบบนี้หายากแต่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว,ทุกครั้งที่โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักสามแห่งและกองทัพร่วมมือกันทำภารกิจลับพิเศษ พวกเขามักจะประกาศ​ให้ฐานเสบียงอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและปิดล้อมฐานก่อนเริ่มภารกิจ​

เเละทุกคนก็เข้าใจถึงความตั้งใจของโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามและกองทัพ ซึ่งก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวการเริ่มภารกิจ​ลับรั่วไหลออกไป และป้องกันไม่ให้นักรบจากที่อื่นนอกจากสามโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักและกองทัพแอบติดตามไป

"เฉินปาโจว นี่คืออัจฉริยะที่คุณค้นพบในช่วงเวลานี้หรือ?" ใต้ประภาคารปรากฏ​หญิงร่างอวบอิ่มสวยในวัยสามสิบปีเดินมาพร้อม​กับหญิงสาวอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดเเละทั้งคู่​กำลังเดินเข้ามาหาเฉินปาโจวและคนอื่นๆ

เบื้องหลังสาวสวยร่างท้วม มีชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วน, ใบหน้าเหลี่ยม, ใบหูใหญ่ เเละมีรอยยิ้มอ่อนโยนมาด้วยกันกับเธอ

เมื่อเฉินปาโจวเห็นสาวสวยร่างท้วมและชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามา เขาก็ยิ้มและพูดกับชูโจวว่า "ชูโจว, ให้ฉันแนะนำคุณหน่อย….นี่คือฟูหยาน, ผู้อำนวยการโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณ, ส่วนอีกท่านคือ โหวซีไห่, ผู้อำนวยการโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งธรรมชาติ" เฉินปาโจวผายมือไปที่สาวสวยร่างท้วมและชายวัยกลางคนตามลำดับ

“ผู้อำนวยการฟู, ผู้อำนวยการโหว… สวัสดีครับผมชูโจว” ชูโจวทักทายสาวสวยร่างอวบและชายวัยกลางคนอย่างสุภาพ

ฟูหยานและโหวซีไห่ที่เห็นเฉินปาโจวแนะนำพวกเขาให้รู้จักกับชูโจว, ด้วยวิธีนี้ดวงตาของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง​เล็ก​น้อย, เฉินปาโจวให้ความสำคัญ​กับชูโจวอย่างมาก……มิฉะนั้นเขาคงจะไม่แนะนำบุคคลระดับผู้อำนวยการให้ชูโจวรู้จักเป็นการส่วนตัวเเละนี่เท่ากับเป็นการ​ช่วยชูโจวสร้างคอนเนคชั่น​

"ชูโจว…เฉินปาโจวให้ความสำคัญ​กับคุณมาก, ดังนั้น​ฉันตั้งตารอการแสดงของคุณในคืนนี้" ฟูหยานจ้องมองที่ชูโจวอย่างลึกซึ้งและพูดกับเด็กสาวที่อยู่ข้างๆเธอว่า

"เซียวเตี๋ย นี่คืออัจฉริยะที่เหล่าเฉินให้ความสำคัญมาก, คุณสามารถทำความรู้จัก​กับเขาได้"

"คุณ... สวัสดี, ฉัน... ฉันชื่อเซียวเตี๋ย" เด็กสาวข้างฟูหยานทักทายชูโจวอย่างเขินอาย, เด็กสาวคนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับผู้คนมากนัก ในขณะที่ทักทายชูโจวเธอดูประหม่า​เเละเขินอายมาก

เมื่อได้เห็นฉากนี้ฟูหยานก็อดไม่ได้ที่จะแสดงร่องรอยของความสิ้นหวังบนใบหน้าของเธอ, ลูกศิษย์ของเธอมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมแต่กลับขี้อายมากเกินไป

"สวัสดี ฉันชูโจว, ยินดีที่ได้รู้จักนะ" ชูโจวมองหญิงสาวที่ทักทายเขาอย่างเขินอาย และอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยน ผู้หญิงคนนี้ที่สามารถติดตามฟูหยานผู้อำนวยการโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเธอเป็นตัวละครที่ไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอ​น

เมื่อหญิงสาวเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนของชูโจว ความตึงเครียดในใจของเธอก็ผ่อนคลายลงมากจากนั้นเธอก็กระซิบกับชูโจวว่า "ฉัน...ฉันยังไม่เคยฆ่าใครเลย หลังจากภารกิจเริ่มขึ้น ฉัน...ขอตามคุณไปได้ไหม ฉันกลัวภารกิจนี่นิดหน่อย!" ชูโจวผงะไปครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่าหญิงสาวจะร้องขอเช่นนี้

"ได้อย่างแน่นอน" ชูโจวพยักหน้าเล็กน้อย

"เยี่ยมเลย" จู่ๆ ใบหน้าของหญิงสาวก็ปรากฏรอยยิ้มที่สดใสราวกับดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์บานสะพรั่ง จนทำให้ผู้คนรอบๆรู้สึกสบาย​และปลอดโปร่ง

เมื่อเห็นฉากนี้ฟูหยานก็ยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่, เธอพาเด็กหญิงมาเข้าร่วมในภารกิจลับนี้ก็เพื่อฝึกฝน เเต่เซียวเตี๋ยกลับพบ "ผู้หนุนหลัง" ของเธอได้อย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนว่าในอนาคตเราจะต้องจัดการภารกิจ​เพิ่มเติมให้เธอเพื่อฝึกฝน...ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่เธอถึงจะโต?” ฟูหยานแอบวางเเผนและตัดสินใจที่จะจัดประสบการณ์เพิ่มเติมให้กับเด็กสาวในอนาคต

……..

"ผู้เฒ่าเฉิน ฟูหยาน ใกล้ถึงเวลาแล้ว" โหวซีไห่พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

"นายพลเสวี่ยอยู่ที่นี่หรือไม่" เฉินปาโจวถาม

“ผู้อำนวยการ​ทั้งสาม ฉันรอมานานแล้ว!” ในขณะที่​เฉินปาโจวยังพูดไม่จบ ก็ปรากฏ​ทหารวัยกลางคนผู้สง่างามในเครื่องแบบทหารก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้ามาพร้อมกับรังสีอาฆาตที่รุนแรงพุ่งออกมารอบๆร่างกายของเขา

ทันทีที่นายพลเสวี่ยคนนี้ปรากฏตัว ชูโจวและคนอื่นๆ ต่างรู้สึก​เหมือนจมอยู่ในกองเลือด ทั้งจมูกและปากของพวกเขาล้วนได้กลิ่นเลือดอยู่ตลอดเวลา….กลิ่นอายบนร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่นักรบธรรมดาจะทนได้

แต่ทางฝั่งนักรบทหารเหล่านั้น เมื่อพวกเขาเห็นนายพลของพวกเขา, พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงความตื่นเต้นและบูชาในสายตาของพวกเขา

"ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว เราก็มาเริ่มภารกิจกันเลย" ผู้อำนวยการทั้ง​สามคนและนายพลเสวี่ยต่างก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยลอยอยู่เหนือกองกำลังนักรบของโรงยิมศิลปะการต่อสู้​ทั้งสามและนักรบหลายร้อยคนจากกองทัพ

"ออกเดินทางได้"

ผู้อำนวยการทั้งสามและนายพลเสวี่ยหลังจากออกคำสั่งแล้ว ก็บินตรงออกนอกฐานเสบียงนักรบทันที

ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้นำทั้งสี่คนไม่ได้อธิบายว่าภารกิจลับคืออะไรและไม่ได้บอกเลยว่าจะไปปฏิบัติภารกิจที่ไหน พวกเขาเพียง​เเค่​ส่งสัญญาณให้นักรบของโรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามแห่งและนักรบทหารติดตามพวกเขาไป

….

“พวกเขาบินได้!..... นี่เป็นความสามารถที่มีเฉพาะผู้ที่ไปถึงขั้นนักรบระดับควบคุมเท่านั้น” ชูโจวและคนอื่น ๆ พุ่งไปข้างหน้าติดตามร่างทั้งสี่พร้อมกับมองด้วยแววตาที่อิจฉา​

เหนือระดับการปลุกพลังคือระดับพิเศษ และเหนือระดับพิเศษคือระดับควบคุม! …. เเละหลังจากถึงระดับการควบคุมเเล้ว, นักรบจะสามารถกำจัดปัญหาจากแรงโน้มถ่วงและบินได้อย่างอิสระ

"ชูโจว ฉันเห็นจินจิงหวู, ดูสิ…เขาอยู่ตรงนั้น" จู่ๆหลี่ชิงฉีก็ชี้ไปที่อีกด้านหนึ่ง

เมื่อชูโจวมองไปในทิศทางที่หลี่ชิงฉีชี้ เขาก็พบจินจิงหวูทันทีเเละบังเอิญที่จินจิงหวูก็มองมาที่ชูโจวด้วย……สายตาของทั้งสองประสานกัน!

ความจริงตอนนี้จินจิงหวูอยู่ในอารมณ์กระสับกระส่ายมาก, เขาพึ่งเห็นว่าชูโจวยืนอยู่กับผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฉินปาโจวและดูเหมือนว่าเฉินปาโจวจะให้ความสำคัญกับเขามากพอสมควร, สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้งขึ้นมาก

“ให้ตายเถอะ ชูโจวไปรู้จักกับผู้ยิ่งใหญ่​ใหญ่อย่างเฉินปาโจวได้ยังไง” จินจิงหวูรู้สึก​เเย่มาก

ดูลักษณะ​เเล้ว ชูโจวได้รับการชื่นชมจากเฉินปาโจวอย่างมาก… เเล้วถ้าเขาฆ่าชูโจว, เขาจะถูกเฉินปาโจวไล่ล่า​หรือไม่?

…… เเต่อย่างไรก็ตาม เขาก็จำเป็น​จะต้องฆ่าชูโจวอยู่ดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

"มาดูกันว่าครั้งนี้เราจะใช้ประโยชน์จากความโกลาหลของภารกิจ​ลับและลอบสังหาร​เขาได้หรือไม่" จินจิงหวูคิดเช่นนั้นในใจ, ถอนสายตาออกและร่างของเขาก็เคลื่อนที่ไปอีกทางทันที

………

สิบนาทีต่อมา…..กองทัพนักรบหลายร้อยคนที่ติดตามผู้นำทั้งสี่คนได้เดินทางข้ามป่าลึกมาหลายร้อยไมล์อย่างรวดเร็ว

เเละด้วยออร่าอันทรงพลังของผู้นำทั้งสี่ทำให้มอนส​เตอร์​ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้เส้นทางของกองทัพนี้เลยทำให้ใช้เวลาเเค่สิบนาที พวกเขาก็มาถึงเนินเขาริมทะเลสาบ

"หยุด!"

เมื่อมีคำสั่งหยุด…..นักรบหลายร้อยคนก็หยุดเเละรอฟังคำสั่งต่อไป

……

ในตอนนี้ทุกคนอยู่ที่หน้าบริเวณ​ที่มีทะเลสาบเป็นประกาย, เนินเขาเงียบสงบ และดูไม่มีอะไรพิเศษเลยเกี่ยวกับภารกิจ​นี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้นำทั้งสี่คนได้พากองทัพมายังสถานที่นี้ ดังนั้นที่นี่จะต้องมีอะไรบางอย่างอยู่เเน่นอน

"รออยู่นี่" บนท้องฟ้านายพลเสวี่ยกล่าวและหยิบดาบสีแดงเข้มออกมา จากนั้นร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเเละเหวี่ยงดาบในมือของเขาไปข้างหน้า

"ตูมมมมมมม"

เงาของพลังดาบสีแดงเข้มราวกับสายฟ้าฟาดไปทางเนินเขา ระลอกคลื่นพลังกระจายออกไปตามทิศทางของเงาดาบ และน้ำในทะเลสาบในบริเวณนี้ก็แตกออก เผยให้เห็นตะกอนที่ก้นทะเลสาบ

“เป้ง!”

เงาของพลังดาบสายฟ้าฟาดลงบนเนินเขาเเละทันใดนั้นเนินเขาทั้งลูกก็ถูกผ่ากลาง, เมื่อมองผ่านรอยแยกขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นด้านในของเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานการทดลอง​ที่เพรียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย

…………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด