บทที่ 22 ความผิดพลาดของโป!
บทที่ 22 ความผิดพลาดของโป!
มีเพียง 28 คนดูในสนามประลองครั้งนี้ ซึ่งเฉินเหวินและเหอเซิ่งไม่ได้ป่าวประกาศแต่อย่างใด
"พวกนายจะไปที่สนามประลองหรือไม่?"
“ไปซิ ครูจางหลงตามมาด้วยคงน่าสนุก!”
"ไป! ไป! ไป! ดูการต่อสู้!"
"หมีแย่งน้ำผึ้งกันมันจะน่าดูตรงไหน? ฉันจะฝึกเจ้าตุ่นเพลิงของฉันต่อไปดีกว่า"
"..."
นักเรียนบางคนในชั้นปีที่สองของชั้นเรียนบีสมาสเตอร์ส่วนหนึ่งเลือกที่จะดูการต่อสู้ แต่ในขณะที่คนอื่น ๆ อยู่และฝึกสัตว์อสูรของพวกเขาต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน นักเรียนกลุ่มหนึ่งจากชั้นเรียนบีสมาสเตอร์ ก็ล้อมรอบสนามประลองหมายเลข 2
"อาโป vs เซิ่งเอ๋อ พวกเธอคิดว่าใครจะชนะ?"
"แค่นี้ก็ดูออก ต้องเป็นเซิ่งเอ๋อ!"
“ใช่! อาโปอาจจะกินเยอะ แต่มันพัฒนามาจากสัตว์พื้นเมืองไม่ใช่เหรอ แม้มันจะน่ารัก และความสามารถในการต่อสู้ของมันก็น่าจะน่าเป็นห่วง!”
"คุณสมบัติโดยรวมของพวกมันคล้ายกัน แต่เซิ่งเอ๋อดูเหมือนจะเชี่ยวชาญ 'การตบ' แต่ทว่า....อาโปก็ไม่สามารถทำอะไรได้!"
"..."
ฟังการวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผลของหนุ่มๆ แล้ว สาวๆ ที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่พอใจ
"ทำเป็นรู้ดีน่าตีปากแตก! นกตาไฟของตัวเองยังควบคุมไม่ได้เลย บินไปตั้งแต่เมื่อวานจนป่านนี้ยังเรียกไม่กลับเลย!"
“หมายความว่ายังไง การต่อสู้ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ!”
“ฉันไม่สน อาโปน่ารักที่สุด อาโปทรงพลังที่สุด!”
"ความน่ารักคือความยุติธรรม!"
"..."
เมื่อฟังความคิดเห็นสาวๆ ด้านข้าง หนุ่มๆ ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยและส่ายหัว
พวกเขาชอบอาโปเช่นกัน แต่การต่อสู้ต้องมีเหตุผล ช่องว่างระหว่างสัตว์อสูรที่ไม่มีทักษะกับสัตว์อสูรที่มีทักษะนั้นมากเกินไป
หลังจากกระตุ้นทักษะแห่งการต่อสู้ของอาโป ฉินเหวินก็ลุกขึ้นและพูดกับครูจางหลงว่า "ผมพร้อมแล้วครับครู!"
เหอเซิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พยักหน้าและพูดว่า "ผมก็พร้อมครับ!"
"เอาล่ะมาเริ่มกันเลย"
เมื่อเห็นว่าทั้งสองพร้อมแล้ว ครูจางหลงก็แสดงท่าทางไปทางพวกเขา จากนั้นก็เป่านกหวีด..
.
การต่อสู้ระหว่างบีสมาสเตอร์มักเริ่มต้นด้วยการเรียกสัตว์อสูรจากพื้นที่มิติ ท้ายที่สุดแล้ว วิธีการและเวลาในการเรียกสัตว์อสูรก็เกี่ยวข้องกับความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการต่อสู้เช่นกัน
บีสมาสเตอร์ที่ทรงพลังจะเรียกสัตว์อสูรในทันที และด้วยสัตว์อสูรที่เร็วปานสายฟ้า มันสามารถฆ่าศัตรูได้ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะเรียกสัตว์อสูรออกมาเสียด้วยซ้ำ!
แน่นอน ถ้าในกฏกติกาของเกมนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่บีสมาสเตอร์จะเข้าโจมตีศัตรูด้วยตัวเอง หากแต่จะต้องบังคับสัตว์อสูรของตนให้เข้าหำ้หั่นศัตตรู
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันที่ต่ำกว่าระดับบีสมาสเตอร์มืออาชีพเช่นนี้ การต่อสู้จะจำกัดเฉพาะสัตว์อสูรที่เป็นสัตว์เลี้ยงเท่านั้น
เฉินเหวิน และเหอเซิ่ง กำลังฝึกการต่อสู้ครั้งแรก ครูจางหลงกลัวว่าการเรียกสัตว์อสูรออกจากพื้นที่มิตินั้นจะไม่ราบรื่น ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้พวกมันเข้าสู่ พื้นที่มิติเพื่อเริ่มต้นใหม่
"ปี๊บ—!!"
เมื่อได้ยินเสียงนกหวีดของครูจางหลง เฉินเหวินและเหอเซิ่งก็ออกคำสั่งพร้อมกัน
“ไปเลย อาโป!”
“สู้เข้า เซิ่งเอ๋อ!”
แม้ว่าเจ้าของสัตว์อสูรที่ตัวเองทำพันธสัญญากันจะสามารถสื่อสารโดยใช้พลังจิต แต่ทั้งเฉินเหวินและเหอเซิ่งก็ตะโกนออกมาดัง ๆ
ขณะที่พวกเขาตะโกน ทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก....
ทันใดนั้น!
เมื่อฟังคำสั่งของทั้งคู่ ทั้งอาโปและ เซิ่งเอ๋อก็เริ่มวิ่งเข้าหากัน!
อาโปได้เรียนรู้ที่จะเดินแล้ว แต่เซิ่งเอ๋อยังคงคุ้นเคยกับการใช้ทั้งอุ้งมือและอุ้งเท้ามากกว่า...
ทันใดนั้น ครูจางหลงเหมือนจะเรียกให้พวกมันเข้าไปตรงกลาง...
บูม---!!
ทันใดนั้น! มีวัตถุสองอย่างสีดำและสีน้ำตาลมีลำแสงเจิดจ้าไปทั่วบริเวณเข้าปะทะกันอย่างจังเสียงดังสนั่น และบินกลับหัวในเวลาเดียวกัน กลิ้งกองอยู่กับพื้นอย่างไม่เป็นท่า!
นักเรียนที่ชมเกมจากข้างสนามต่างผงะไปชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า— ตลกว่ะ นี่มันการต่อสู้อะไรวะฉันไม่เคยเห็น ...”
“เสียเวลา!”
“ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาฝึก แต่มันเป็นการต่อสู้ พวกมันฟังไม่เข้าใจแน่นอน....โง่ๆ!”
“ไม่เป็นไรนะอาโป นายต้องทำได้!”
"..."
เฉินเหวินและเหอเซิ่งก็พูดไม่ออกเช่นกัน แต่พวกเขาก็ยังส่งกำลังใจให้สัตว์อสูรทั้งสองอย่างรวดเร็ว
“อาโปยืนขึ้น เร็วเข้า!”
“เซิ่งเอ๋อ นายต้องทำได้!”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากนายตัวเอง อาโปและเซิ่งเอ๋อก็ส่ายหัวก่อนจะฟื้นคืนสติ
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็มองหน้ากันพร้อมกัน!
ทั้งสองจ้องหน้ากัน ส่งสายตาให้กันอย่างงงงวย และต่างสำรวจร่างกายกันอย่างช้าๆ อาโปจับหู จับตา บีบจมูกเซิ่งเอ๋อ
โดยที่เซิ่งเอ๋อก็ไม่ยอมแพ้ใช้อุ้งมือบีบหน้าอาโปเข้าอย่างจัง ต่างฝ่ายต่างใช้อุ้งมืออันทรงพลังประกบกันอย่างกับเด็กเล่นตบแปะ!?
"นะ....นี่คือ___!!?"
"มันคือการต่อสู้แบบไหนกัน___!!?"
"แล้วนี่พวกเรามาดูะไรกัน___!!?"
เฉินเหวินเงยหน้าขึ้นและสบตากับเหอเซิ่ง และทั้งสองก็ได้แต่ส่ายหัวเอามือลูบหน้าตัวเอง!
“เซิ่งเอ๋อ ตบ!”
เอาเล้ยย____!!
ตามคำสั่งของเหอเซิ่ง จากนั้นเซิ่งเอ๋อก็เตะขาหลังของมัน ดีดตัวขึ้นพร้อมลำแสงสีขาว พุ่งเข้าหาอาโปราวกับลูกธนูที่แหลมคม!!
ในขณะเดียวกัน อุ้งเท้าหน้าก็ถูกปกคลุมด้วยลำแสงสีเหลืองจางๆ
สำหรับทักษะของสัตว์อสูรประเภทหมีนั้นการ "ตบ" ที่ดูเหมือนง่ายๆ แต่ทว่า....จะต้องใช้พละกำลังทั้งหมดของร่างกาย และต้องใส่พละกำลังเข้าไปในอุ้งเท้าจึงจะทรงพลังเทียบเท่าสัตว์อสูรชนิดอื่นๆได้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ครูจางหลงส่ายหน้าบ่นกับตัวเองเบา ๆ : "ไม่ธรรมดา! ถ้าเข้าใจทักษะอย่างถ่องแท้พวกมันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างแน่นอน! "
ในอีกด้านหนึ่ง เฉินเหวินทำได้เพียงกำหมัดแน่นและให้กำลังใจ: "เอาเลยอาโปนายต้องทำได้!"
เมื่ออาโปได้ยินการให้กำลังใจของเฉินเหวิน มันจึงกัดฟันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
อุ้งเท้าของอาโป นั้นเล็กกว่าของเซิ่งเอ๋อในขณะที่อุ้งเท้าของเซิ่งเอ๋อนั้นมีขนาดใหญ่และแข็งแรงกว่า
เมื่อทุกคนเดาผลการต่อสู้!
ในเมื่ออุ้งเท้าของอาโป ไม่สามารถหยุดยั้งอุ้งเท้าของเซิ่งเอ๋อที่ทรงพลังกว่าได้!
แต่ทว่า.... ทันใดนั้น!
ก่อนที่อาโปจะทันได้ตอบโต้ อุ้งเท้าหมีของเซิ่งเอ๋อ ก็ได้กระแทกเข้าหน้าอกของอาโปเจ้าอย่างเต็มแรง!
บูม!
ในทันที ร่างของอาโปก็ถูกดีดโด่ง ออกไปเหมือนลูกบอล!
หลังจากลอยอยู่กลางอากาศตามแรงปะทะของเซิ่งเอ๋อ อาโปก็กลิ้งไปหลายเมตรก่อนจะตกลงบนพื้น
“จบเกม ....โธ่เอ๊ย___!!”
นักเรียนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ข้างนอกสับสนเล็กน้อย และขยี้ตาอย่างแรง แต่ทว่า...อาโปที่ล้มลงกับพื้นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพลิกกลับ แต่มันก็ยังไม่สามารถยืนขึ้นได้อีก!
พวกผู้หญิงหลายคนที่ชื่นชอบอาโป กล่าวหา ว่าเซิ่งเอ๋อป่าเถื่อน ทำเกิดกว่าเหตุ
"เหอเซิ่งทำไมนายปล่อยให้ หมีของนายโจมตีอาโปรุนแรงขนาดนี้!"
“ใช่ นายก็รู้ว่าอาโปยังเด็กยังไม่มีทักษะ!”
"..."
เหอเซิ่งได้แต่ยืนอ้าปากเมื่อเขาได้ยินคำพูด แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
ครูจางหลงรีบวิ่งไปหาอาโป ตรวจสอบดูครั้งหนึ่งแล้วพูดว่า: "อาโปได้รับบาดเจ็บ แม้ว่ามันจะยังพอต่อสู้ได้ แต่ครูไม่แนะนำให้สู้ต่อ..."
ในขณะที่พูด เขามองไปที่เฉินเหวิน.....
เฉินเหวินพยักหน้าและพูดว่า "ผมเข้าใจแล้วครับครูผมยอมรับความพ่ายแพ้ครับ!"
อาโปได้ยินคำพูดนั้นและหันศีรษะทันทีและมองไปที่ เฉินเหวินทั้งน้ำตา
(﹏)
เฉินเหวินเหลือบมองอาโป ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง จากนั้นเดินผ่านมันไปพร้อมกับน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ แล้วยื่นให้เหอเซิ่งที่เดินมาหา....
เมื่อเห็นเช่นนี้ อาโปซึ่งนอนอยู่บนพื้นก็หัวใจสลายจนหายใจไม่ออก..
..
เหอเซิ่งนำน้ำผึ้งร้ิยดอกไม้ และเดินเข้าหาเฉินเหวิน: "นายอย่าใจร้ายนักเลย?! นายดูสิ อาโปกำลังร้องไห้ และตัวฉันเองก็ถูกพวกผู้หญิงด่าว่าจนไม่มีชิ้นดี"
เฉินเหวินพูดเบา ๆ : "ไม่มีทาง อาโปขี้เกียจเกินไปแล้ว วันๆเอาแต่กินแล้วก็นอน มันมันรู้เสียบ้างว่ามันจะโดนดีถ้าหากฝึกฝนช้ากว่าคนอื่น และฉันก็จะไม่ให้อาหารมันด้วย "
"เฮ้อ-"
เหอเซิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า: "โชคร้ายจริง ๆที่อาโปเจอคนเลวอย่างนาย น่าสงสารจริง ๆ"
“ใช่สิฉันมันเลว! มันสร้างแต่เรื่องอับอายให้ฉัน ตั้งแต่มีมันมาชีวิตฉันก็เจอแต่ความวุ่นวาย!”
เฉินเหวินจับจ้องที่เหอเซิ่งแล้วเรียกอาโปกลับสู่พื้นที่มิติ....
จากนั้น เฉินเหวินถามครูจางหลงที่อยู่ข้างๆ ว่า "อาการอาโปเป็นอย่างไรบ้างครับครู? มันต้องไปโรงพยาบาลสัตว์มั้ยครับ?"
ครูจางหลงส่ายหัวและพูดว่า: "แทบจะไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเลย และอาการบาดเจ็บภายในก็ไม่ร้ายแรงอะไรนะ แต่ขอแค่อย่าเพิ่งให้มันออกแรงหนัก ๆในระหว่างฝึกซ้อมเพียงเท่านั้น"
เดิมที การตบอันทรงพลังของเซิ่งเอ๋ออาจจะไปโดนส่วนขาของอาโปซึ่งอาจจะทำให้กระดูกหักก็เป็นได้
แต่โชคยังดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ แค่เพียงอวัยวะภายนอกซึ่งมันมีผิวหนังที่หยาบและหนาจึงไม่เสียหายมากนัก
"ดีแล้ว โล่งอกไปที!"
เฉินเหวินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แม้ว่าเขาจะต้องการจะปลุกทักษะของเผ่าพันธุ์อาโปให้สำเร็จ แต่ทว่าเขาก็กังวลมากเช่นกันเมื่อเห็นมัน ได้รับบาดเจ็บ
เมื่ออาโปกำลังพักฟื้นในพื้นที่มิติของสัตว์อสูร เฉินเหวินก็กระซิบกับตัวเอง
“อาโป ถ้าไม่มีระบบ ฉันอาจไม่ให้นายเข้าร่วมการต่อสู้อีกก็ได้ นายจะได้ทำในสิ่งที่นายชอบคือการกินแล้วก็นอน___!!”
“แต่พระเจ้าให้โอกาสและพรสวรรค์นี้แก่ฉัน และให้โอกาสนี้แก่นายด้วย ฉันจะไม่ยอมเสียมันไปเด็ดขาด_!!”
“ฉันหวังว่านายจะไม่เกลียดฉันนะอาโป___!!”
(﹏)