บทที่ 21 ความสัมพันธ์ที่แตกหัก!
บทที่ 21 ความสัมพันธ์ที่แตกหัก!
หลังเลิกเรียน เฉินเหวินเรียกเหอเซิ่ง!
"นี่เหอเซิ่ง! นายปลุกทักษะการต่อสู้ให้กับเซิ่งเอ๋อหรือยัง?"
เหอเซิ่งได้ยินคำพูดนั้นและถามด้วยความงุนงง: "ปลุกแล้ว! เมื่อวานฉันไม่ได้บอกนายเหรอ?"
“นายแน่ใจนะ!...งั้นดีเลย”
เฉินเหวินพยักหน้าแล้วพูดว่า: "พรุ่งนี้ให้เซิ่งเอ๋อและอาโปลองต่อสู้กันดูมั้ยล่ะ?"
"ก็ได้...แต่จะดีเหรอ!?"
เหอเซิ่งเห็นด้วยอย่างสบายๆ แล้วถามว่า"แล้วฉันจะบอกให้เซิ่งเอ๋อออมมือแล้วกัน มันคงไม่อยากทำร้ายอาโปแน่นอน"
เฉินเหวินรีบส่ายหัว "ไม่! นายปล่อยให้เซิ่งเอ๋อปล่อยพลังให้เต็มที่ได้เลย จัดการล้มอาโปให้ราบคาบจะดีที่สุด!..."
"ห๊ะนายหมายความว่าไงนะ?!"
เหอเซิ่งดึงหูของเขาอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน
“อาโปทำให้นายไม่พอใจเหรอ?แต่มันยังเด็กนะ....”
พลังโจมตีและพลังป้องกันของหมีสีน้ำตาลอย่างเซิ่งเอ๋อนั้น นั้นเทียบไม่ได้เลยกับอาโปแพนด้ายักษ์กินเหล็กที่ไม่ได้เรียนรู้ทักษะใดๆ เลย
เฉินเหวินมองไปที่เหอเซิ่งโดยไม่พูดอะไร และจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า "แล้วนายจะมายุ่งทำไม อาโปมันเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน!"
เหอเซิ่ง ตะคอก: "ช่ายยย..อาโปเป็นสัตว์เลี้ยงของนาย แต่ฉันเคยบอกว่าจะนับอาโปเป็นน้องของฉันอีกคน... "
“อะไรนะ..น้องงั้นเหรอ?”ตะคอก
“ใช่! เซ่ิงเอ๋อเป็นน้องชายคนที่สองของฉัน ส่วนอาโปเป็นน้องชายคนที่สามของฉัน ในฐานะพี่ชายคนโต ฉันไม่อยากทำร้ายมัน!”
เฉินเหวินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี และพูดว่า "นายจะบ้าเหรอ? ที่เราเรียนบีสมาสเตอร์กันเพื่ออะไร?
แล้วที่เราทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรเพื่ออะไรนายลืมไปแล้วเหรอ?"ตะคอก!
หลังจากเสียงที่คมชัด มือใหญ่ของเหอเซิ่งก็คว้าไปที่ไหล่ของเฉินเหวินทันควัน....
ทันใดนั้น!
เฉินเหวินพลิกมือของหอเซิ่งอย่างทันที!
เขาเกี่ยวไหล่และมัดด้านหลังเหอเซิ่ง ทั้งสองออกแรงพร้อมกัน
"โอ้ย~~"
"พอก่อน-"
“นะนี่เฉินเหวิน นายกล้าทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ต่อไปนายยังจะกล้าพูดกับฉันแบบนี้อีกมั้ย?”
“ไม่มีทาง ฉันจะไม่มีทางยอมนาย!”
“พลั๊ก-!!” "โอ๊ย!"
“จะปากดีอีกมั้ย?”
"..."
ทั้งสองสู้กันสักพัก.....หลังจากมีรอยแดงปรากฏบนไหล่ทั้งสองข้าง
เหอเซิ่งถูไหล่ของเขา ถึงกับอ้าปากค้าง...
"เฉินเหวิน ทำไมนายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงนายจะได้พลังเพิ่มจากการทำพันธสัญญากับอาโป แต่นายก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งกว่าฉัน...."
เฉินเหวินไม่ตอบเขา สิ่งต่างๆ เช่น พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรไม่สามารถเปิดเผยกันได้ง่ายๆ
แม้ว่าเขาและเหอเซิ่งจะเป็นเพื่อนกันแต่เรื่องแบบนี้ช่วยไม่ได้......
เฉินเหวินถามอีกครั้ง: "นายเป็นอะไร มากหรือเปล่า?"
เหอเซิ่งพยักหน้าและพูดว่า: "ไม่เป็นไร..แต่ฉันไม่เข้าใจ นายช่วยบอกเหตุผลให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย !"
"จะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ ก็วัน ๆอาโปเอาแต่กินแล้วนอนขี้เซา ยิ่งจากการที่ได้อาหารจากพวกสาว ๆในห้องด้วยแล้วมันก็ยิ่งขี้เกียจ นอนอืดทั้งวัน ฉันต้องกระตุ้นทักษะแห่งการต่อสู้ของมัน”
"อืม-!! เข้าใจละ"
เมื่อนึกถึงกลอุบายของเฉินเหวิน เหอเซิ่งก็พูดไม่ออกเช่นกัน จากนั้นเขาก็สงสัยว่า "การต่อสู้จะกระตุ้นทักษะได้อย่างไรกัน?"
"ไม่แน่นอน!"
เฉินเหวินพูดเบาๆ: "งั้นก็แล้วแต่นายจะคิด..."
หลังจากที่เหอเซิ่งฟังจบ เขาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า "ชั่วมาก!... แต่ก็ไม่เลวนะ!"
เช้าวันต่อมา ของการฝึกซ้อม....
เฉินเหวินและเหอเซิ่งต่างพาสัตว์อสูรของตนไปพบครูซูซินเพื่อสมัครเข้าร่วมการฝึกฝนการต่อสู้
ครูซูซินเหลือบมองหมีอ้วนสองตัว ส่ายหัวแล้วพูดว่า "นี่พวกเธอ~"
เธอไม่คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีสำหรับการฝึกฝนการต่อสู้ เจ้าสัตว์อสูรน้อยทั้งสองนี้ยังอยู่ในขั้นฝึกพื้นฐานและฝึกทักษะ ห่างไกลจากขั้นฝึกการต่อสู้นัก
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด นักเรียนในช่วงนี้มีความกระตือรือร้นและโหยหาการต่อสู้มากขึ้น ซึ่งไม่สามารถยับยั้งได้นั่นเอง!
เธอจึงโบกมือให้ผู้ช่วยสอนที่กำลังปะปนกับนักเรียนที่อยู่ไม่ไกลนัก
"ครูจางหลงช่วยพาทั้งสองคนไปที่ลานประลองหมายเลข 2 และช่วยเป็นกรรมการในการต่อสู้ของพวกเขาด้วยนะ"
จางหลงเป็นครูฝึกสอนที่เข้าโรงเรียนมัธยม ชิงเหอหมายเลข 1 ในปีนี้ ตอนนี้เขาทำงานเป็นครูผู้ช่วยสอนของ ครูซูซิน
ช่วยแนะนำนักเรียนในการฝึกทักษะต่าง ๆ
หลังจากที่จางหลงพยักหน้า เธอเตือนอีกครั้ง: "ระวัง อย่าให้สัตว์อสูรทั้งสองตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไปนะ!"
จางหลง พยักหน้าและพูดว่า: "ครับครูไม่ต้องกังวล!"
ปัจจุบันนี้ ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรในชั้นมัธยมปลายปีสองยังคงต่ำมาก และมือใหม่สำหรับสองคนนี้คงไม่ยากเกินกว่าเขาจะรับมือได้อย่างแน่นอน
หลังจากพูดจบ จางหลงก็พาเฉินเหวินและคนอื่น ๆ ไปที่สนามประลองหมายเลข 2
สนามประลองนั้นเป็นสถานที่ที่โรงเรียนกำหนดสำหรับการต่อสู้....
นับเป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้น บีสต์มาสเตอร์และเหล่าสัตว์อสูรที่ได้รับรับอนุญาตเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ใช้สนามได้....
ซึ่งแน่นอนว่าทุกการต่อสู้ย่อมมีความเสี่ยงของความสูญเสีย ดังนั้นจึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด...
แม้ว่าสัตว์อสูรของนักเรียนมัธยมปลายโดยพื้นฐานแล้วจะยังเป็นลูกอยู่ แต่ทักษะบางอย่างของพวกมันติดตัวตามเผ่าพันธุ์มาด้วย ซึ่งหากผู้ที่เลี้ยงพวกมันยังไม่สามารถควบคุมได้จะเกิดหายนะกับคู่ต่อสู้ หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นนายเองก็ว่าได้ ดังนั้นพวกมันจึงรวมอยู่ในการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ และด้วยเหตุนี้เองจึงไม่สามารถให้ประลองการต่อสู้กันเองได้!
สนามประลองหมายเลข 2 มีขนาดใกล้เคียงกับสนามเทนนิส ด้านนอกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่มีตะแกรงเหล็กดัดสำหรับป้องกันการโจมตี
ตะแกรงเหล็กดัดเหล่านี้มีความแข็งแกร่งทนทานต่อการโจมตีทางเทคนิค เช่น ลูกไฟ และใบมีดลม หลังจากถูกอัดฉีดพลังงานเข้าไปด้วย
แน่นอนว่าด้วยระดับความแข็งแกร่งของอาโป และ เซิ่งเอ๋อนั้นยังอ่อนหัด แทบจะไม่ต้องเปิดใช้พลังงานความแข็งแกร่งของตะแกรงเหล็กดัดเลย
จางหลงแนะนำกฎกติกาเพียงสั้น ๆ จากนั้นเดินไปที่ใจกลางสนามและพูดเสียงดังว่า: "พวกเธอแต่ละคนยืนอยู่ในกรอบสีเหลืองด้านข้าง และสัตว์อสูรของเธอให้ต่อสู้กันในพื้นที่ตรงกลางเท่านั้น"
"พวกเธอสามารถเริ่มการต่อสู้ได้ตลอดเวลาเมื่อพร้อม และครูจะเป็นกรรมการตัดสินให้ "
ไม่มีกฎตายตัวในการต่อสู้ที่แท้จริง ระหว่างบีสมาสเตอร์ที่สามารถควบคุมสัตว์อสูรได้โดยตรง เพียงเพื่อเอาชนะศัตรูเท่านั้น และโดยทั่วไปแล้วคุณจะต้องควบคุมมันให้จงได้ไม่ปล่อยให้มันโจมตีเสียเอง....
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ระหว่างเฉินเหวินและสัตว์อสูรฝึกหัดของเขา คงเป็นเพียงการต่อสู้ที่กระตุ้นสัญชาตญาณของอาโปเท่านั้น?
ทั้งเฉินเหวินและเหอเซิ่ง พยักหน้าและอุ้มเจ้าหมีน้อยสองตัวไว้ในอ้อมแขน
เฉินเหวินพูดกับอาโป: "นี่อาโป เรามาเล่นเกมกันต่อดีกว่านะเดี๋ยวจะให้กินบัวลอยไข่หวาน นายลองแข่งกับเซิ่งเอ๋อ....และถ้านายชนะจะมีชาบูด้วย!"
"อ๊ะ—บัวลอย-----ชาบู"
"ชนะ------กินชาบูอาหย่อยยยย-!!"
"อารายคือชาบูอ่ะ แต่มันกินได้ใช่มั้ยอ่ะ?-!!"
อาโปได้ยินคำพูดนั้นก็เปิดตาเล็ก ๆ ของมันเพื่อมองไปที่เซิ่งเอ๋อ ที่อยู่ตรงข้ามและคำรามเสียงดัง
ฮึ่มมมมม-!!"
อีกฝ่ายหนึ่งตบมือบนพื้นโดยไม่เต็มใจที่จะถูกเอาชนะ และกลับมาพร้อมเสียง
"แฮ่—!!" ทันที
แม้ว่าดูเหมือนสัตว์อสูรทั้งสองกำลังแสดงท่าทางข่มขู่กัน .. แต่ทว่าที่เฉินเหวินและเหอเซิ่งได้ยินนั้นกลับกลายเป็น พวกมันกำลังทักทายกัน!?
"พี่เซิ่งเอ๋อเฉินเหวินจะให้เค้าเอาชนะพี่ให้ได้อ่ะ...เค้าอยากกินบัวลอยไข่หวานอ่ะ"อาโปกล่าวกับเซิ่งเอ๋อ
อาโปกล่าวต่อ"อะไรคือการต่อสู้อ่ะ แล้วมันต้องเจ็บมั้ยอ่ะ!?"
อาโปและเซิ่งเอ๋อนั้นเล่นด้วยกันทุกวันในช่วงเวลานี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนพวกมันเป็นเหมือนพี่น้องกัน!
ละ..แล้ว....การต่อสู้.....การปลุกทักษะจากเผ่าพันธุ์ของอาโปและเซิ่งเอ๋อคือ!?
เฉินเหวินและเหอเซิ่งได้แต่ยืนมองหน้ากัน และในขณะเดียวกันเขาก็หยิบขวดน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ออกมาจากด้านหลัง
น้ำผึ้งร้อยดอกไม้ ก่อนหน้านี้ถูกหมีสองตัวกินไปหมดแล้วในการทำพันธสัญญาครั้งก่อน และทั้งสองกระป๋องนี้เขาก็เพิ่งสั่งซื้อมาใหม่
เฉินเหวินคุกเข่าลง เปิดขวดน้ำผึ้งร้อยดอกไม้เพื่อให้อาโปได้กลิ่น....
อาโป : ? ? ?
“อาโป เหอเซิ่งและฉันต่างก็ซื้อน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ของโปรดนายและเซิ่งเอ๋อ และฉันก็ตัดสินใจยอมทุ่มเงินเอามันมาเป็นเดิมพันด้วย”
“ความหมายของการเดิมพันคือหมีที่ชนะจะได้น้ำผึ้งร้อยยดอกไม้ถึงสองกระป๋อง ในขณะที่ผู้แพ้จะไม่ได้อะไรเลย!”
อาโป: (っ°Д°)っ
จริง ๆ แล้วมีแค่น้ำผึ้งสองกระป๋อง!
แล้วบัวลอย....ชาบูคืออารายเค้างงไปหมดแย้ว!
แต่ทันใดนั้น!
ในพริบตาเดียว แววตาที่ดูไร้เดียงสา น่ารักของอาโปก็หายไปอย่างรวดเร็ว และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเล็กๆ ของมัน
ในส่วนของเซิ่งเอ๋อสำหรับน้ำผึ้งร้อยดอกไม้สองกระป๋องนั้น มันก็รู้สึกว่าสามารถละทิ้งความเป็นพี่น้องกับอาโปได้ชั่วคราว ทันใดนั้นแววตาที่ดุร้ายของเซิ่งเอ๋อก็ปรากฏขึ้น!เช่นกัน
สำหรับน้ำผึ้งร้อยดอกไม้มันคืออาหารอันโอชะที่หมีทุกสายพันธุ์ปรารถนา ด้วยเหตุผลนี้จึงไม่น่าแปลกที่หมีทุกตัวจะต้องห้ำหั่นกันเองเพื่อแย่งสิ่งล้ำค่ามาครอบครอง......
"อ๊ะ—"
"อ้า~"
หมีสองตัวยืนขึ้นพร้อมกันต่างส่งเสียงคำรามใส่กันอย่างน่า.......(เอ็นดู)
ในขณะนี้ความเป็นพี่น้องของหมีทั้งสองได้พังทลายลง!