ตอนที่ 12 การแข่งขันกับรางวัลพิเศษ
ทันทีที่ระบบพูดจบนกที่เต็มไปด้วยพลังแห่งเพลิงที่ส่องประกายเป็นสีแดงก็ปรากฏขึ้นในพื้นที่จัดเก็บในระบบของ ยื่อซวน
นี่คือนกประกายเพลิงที่ระบบได้มอบให้กับเขาซึ่งนกตัวนี้อยู่ในระดับ 5
นกประกายเพลิงนั้นคล้ายกับนกเพลิงตัวที่เขามอบให้กับลู่หยานรันในแง่ของรูปลักษณ์ แต่สีแดงเพลิงของนกตัวนี้นั้นทรงพลังและหนาแน่นมากกว่า ความแข็งแกร่งของสัตว์ระดับ 5 นั้นเทียบเท่ากับมนุษย์ผู้ฝึกตนในระยะแก่นหลักว่างเปล่า
"ไม่เลวเลย!" เมื่อเห็นสิ่งนี้ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
"รีบไปกันเถอะ ระหว่างทางเจ้าค่อยทำความคุ้นเคยกับนกที่ข้ามอบให้เจ้าก็ได้!"
หลังจากที่ยื่อซวนตรวจสอบรางวัลของเขา เขาก็พูดกับลู่หยานรัน
"ค่ะ!" ลู่หยานรันพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้วค่อยๆควบคุมนกเพลิงของเธอให้บินขึ้น
หวี๊ดดดด!
นกเพลิงตัวนั้นหันหน้าเข้าหาท้องฟ้าและปล่อยเสียงร้องยาวๆออกมา ปีกขนาดใหญ่ของค่อยมันสั่นกระพือและค่อยๆนั่งยอง ๆ ต่อหน้ายื่อซวนและลู่หยานรันเมื่อทั้งสองมาข้างหลังมันมันก่อนที่มันจะกระพือปีกและบินขึ้นสูง
ในขณะที่นกเพลิงกําลังจะออกจากตระกูลชิงหยุนไป ทันใดนั้นลำแสงก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็มีร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้ายื่อซวนและลู่หยานรัน
"ท่านปรมาจารย์ยื่อ ท่านจะออกไปนอกตระกูลชิงหยุนงั้นหรือ?"
ลำแสงนั้นค่อยๆสลายไปเผยให้เห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีรูปร่างโค้งงอ
ผู้หญิงคนนี้คือผู้อาวุโสหลินชิง
"ข้าต้องการพาลู่หยานรันออกไปนอกพื้นที่ของตระกูลเพื่อฝึกฝน!" ยื่อซวนกล่าว
"อย่างงั้นหรือ...เดี๋ยวๆอะไรนะ? เมื่อได้ยินแบบนี้หลินชิงก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในขณะที่เธอกําลังจะพูดอะไรบางอย่างการแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไปและเขาก็จ้องมองไปที่ลู่หยานรัน
"ขั้นที่เก้าของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉีงั้นหรือ?"
เมื่อความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างผู้ฝึกตนนั้นกว้างเกินไปผู้ฝึกตนที่มีระดับการฝึกฝนสูงจะสามารถมองเห็นระดับของผู้ฝึกตนที่อ่อนแอกว่าได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าหากผู้ฝึกตนที่อ่อนแอเหล่านี้มีวิธีการพิเศษในการปิดบังระดับของพวกเขา พวกเขาสามารถป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้รู้ถึงระดับของตนเองได้เช่นกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าลู่หยานรันยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้
นอกจากนี้ระดับของหลินชิงนั้นได้มาถึงขั้นกลางของแก่นหลักว่างเปล่าแล้วดังนั้นเธอจึงสามารถมองเห็นระดับของลู่หยานรันได้อย่างง่ายดาย
"นี่...เจ้าไปทําอะไรกับตัวเจ้ามากันแน่?" หลินชิงมองไปที่ลู่หยานรันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยและตกใจ
หากเธอจําไม่ผิดเมื่อสามวันก่อนเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้ยังอยู่ในระดับรูปแบบการปรับแต่งขั้นที่สี่ที่อ่อนแออยู่เลย และเธอก้าวข้ามสู่ระดับที่สูงขนาดนี้ด้วยเวลาสามวันได้อย่างไรกัน?
สิ่งสําคัญที่สุดคือออร่าของผู้หญิงคนนี้มั่นคงมาก ซึ่งทำให้เธอนั้นไม่ได้ดูอ่อนแอเลย
"ท่านยื่อ บอกข้ามาว่ามันเกิดอะไรขึ้น?..."
หลินชิงหันไปมองยื่อซวน
มีอะไรที่ทำให้ผู้ฝึกตนที่อ่อนแอคนนี้สามารถก้าวเข้าสู่ระดับที่สูงกว่าเดิมเยอะมากได้ในเวลาเพียงแค่สามวัน?
อาจมีเพียงสองสาเหตุเท่านั้น
หนึ่งยื่อซวนนั้นได้สอนเธอทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วหรือบางทีหญิงสาวคนนี้อาจปลุกพลังของร่างกายที่หายากในการฝึกฝนของเธอได้
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นพลังของร่างกายที่หายาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ก้าวข้ามขั้นของระดับได้เร็วแบบนี้ อย่างน้อยเพื่อความรู้ของหลินชิงในตอนนี้ ยังไม่มีพลังของร่างกายไหนที่สามารถทําแบบนั้นได้
สิ่งสําคัญที่สุดคือแม้ว่าพลังของร่างกายผู้หญิงคนนี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เห็นด้วยระดับของเธอที่สามารถเห็นพลังของลู่หยานรันได้
มันจึงความเป็นไปได้เพียงแค่อย่างเดียว
"เจ้าหลิน เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?"
ยื่อซวนดูเหมือนจะไม่สังเกตุเห็นสีหน้าที่สงสัยของหลินชิง เขาจึงพูดกับเธออย่างปกติ
เมื่อเห็นแบบนี้หลินชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองยื่อซวนด้วยสีหน้าที่สงสัยเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่ายื่อซวนไม่อยากเปิดเผยเรื่องของการถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณดังนั้นเขาจึงแกล้งทําเป็นไม่เข้าใจการจ้องมองที่มีความหมายบางอย่างของเธอ
ช่างเถอะ! ถ้าเขาไม่ต้องการพูดอะไรข้าก็จะไม่ถามแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงก็ยังคงตกใจอยู่ดีภายในใจของเธอ
"คือว่า ลูกศิษย์สองคนของข้าได้ออกจากตระกูลไปเพื่อฝึกฝนเป็นเวลาสองเดือน ชื่อของพวกเขาคือฮ่วงหลิงและซื่อมิน ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ถ้าท่านยื่อได้พบพวกเขาข้างนอกได้โปรดพาพวกเขากลับมาที่ตระกูลเพื่อข้าด้วยเถอะ!
"เร็วๆนี้ตระกูลชิงหยุนของพวกเราจะจัดการแข่งขัน หลังจากการแข่งขันภายในตระกูลจะมีการแข่งขันกันระหว่างสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง หัวหน้าตระกูลนั้นกล่าวว่ารางวัลจากการแข่งขันนั้นพิเศษมาก ดังนั้นข้าจึงอยากขอให้ลูกศิษย์สองคนของข้ากลับมาเข้าร่วม!"
หลินชิงอธิบาย
"รางวัลพิเศษงั้นหรือ?" เมื่อได้ยินแบบนี้ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น
"ใช่แล้ว!" หลินชิงพยักหน้าและพูดอีกครั้ง
"ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลชิงหยุนหรือการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระหว่างสามตระกูลใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถเพิ่มค่าความเข้าใจของผู้ฝึกตนได้!"
"อะไรนะ?" เมื่อได้ยินแบบนี้แววตาของยื่อซวนก็เป็นประกายขึ้นทันทีก่อนที่เขาจะมองไปที่ลู่หยานรัน
"ถ้าเป็นแบบนั้น ลู่หยานรันเจ้าเองก็ไปลงแข่งขันด้วย!"
"ได้ค่ะท่านปรมาจารย์"
ตอนนี้ลู่หยานรันมีความไว้วางใจอย่างแท้จริงกับยื่อซวน เธอจะไม่ตั้งคําถามกับการตัดสินใจใดๆของยื่อซวนอีกต่อไป
หากปรมาจารย์ของเธอขอให้เธอเข้าร่วมเธอจะต้องใช้ความพยายาม 120% ในการชนะและได้รับชัยชนะนั้นมาให้ได้
เมื่อได้ยินแบบนี้หลินชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ลู่หยานรัน แต่เธอไม่ได้พูดอะไร
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่หายากมากสําหรับลู่หยานรันที่จะก้าวผ่านไปยังขั้นที่เก้าของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉีในวัยปัจจุบันของเธอ แต่ก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเธอกับลูกศิษย์ที่มากความสามารถของตระกูลชิงหยุน
โดยเฉพาะลูกศิษย์ส่วนตัวของหัวหน้าตระกูลและเหล่าผู้อาวุโสได้พาเข้ามา พวกเขาทั้งหมดนั้นได้เข้าถึงระดับรูปแบบแก่นแท้จริงแล้ว
บางทีเมื่อพูดถึงลูกศิษย์ภายในตระกูลนั้นความแข็งแกร่งในปัจจุบันของลู่หยานรันเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แต่ถ้าเธอต้องแข่งขันกับลูกศิษย์ส่วนตัวเธอก็อาจจะพ่ายแพ้ได้
"ครั้งนี้ข้าจะไม่ออกไปข้างนอกนานเกินไป ถ้าข้าได้พบกับฮ่วงหลินกับซื่อมิน ข้าจะพาพวกเขากลับมาอย่างแน่นอน!" ยื่อซวนกล่าว
"ขอบพระคุณมากท่านปรมาจารย์ยื่อ!" หลินชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ถ้าอย่างนั้นพวกข้าขอตัวก่อน!" ยื่อซวนพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นนกเพลิงก็กระพือปีกและบินหนีไป
สายตาของหลินชิงนั้นมองไปที่นกเพลิงในอากาศ.. เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงความเป็นไปได้พร้อมกับความสงสัยในใบหน้าของเธอ
"การถ่ายทอดพลังงานทางจิตวิญญาณ... เขาจะต้องเสียพลังงานมากไปกับผู้หญิงที่มีความสามารถปานกลางแบบนี้เพื่ออะไรกัน? เขาเกลียดการรับลูกศิษย์มากกว่าใครเลยไม่ใช่หรือ?"
หลังจากนั้นคําถามทุกอย่างก็เริ่มผุดขึ้นมาในใจของหลินชิง