ตอนที่ 1104 สัญญาเทพปีศาจ
เย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูมาถึงสถานที่ประชุม
การประกาศพิธีประเมินผลเริ่มต้นขึ้น
เนื่องจากการประเมินล้อมทำลายโรงงานผลิตหุ่น มีนักเรียนตายไปมากกว่าร้อยคน และตอนนี้เหลือนักเรียนอีกร้อยคนที่ยังมีส่วนร่วมในการประเมิน ในจำนวนนั้นมีนักเรียนผู้บาดเจ็บอีกหลายคนเป็นบรรยากาศที่สลดหดหู่จริงๆ
หลังจากประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าทำพิธีไว้อาลัย พิธีประเมินคะแนนที่น่าสังเวชนี้ก็ประกาศเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
“หลังจากสมาชิกของโรงเรียนผู้พเนจรฟ้าสามสิบหกคนและสมาชิกผู้ประเมินเฉพาะสามสิบหกคนนั้นมีการประเมินที่สอดคล้องกันในหลายวันมานี้ นักเรียนจินฉี หยางผิง ฮ็อก เทียนเกอ ตาเงิน ซิวอิ่ง เซี่ยที จินหาย... ฯลฯ ในบรรดาผลงานที่ได้รับการคัดเลือก นักเรียนใหม่ไตตันจากเมืองไม้เงินได้รับการคัดเลือกจากผลงาน ‘ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์’ ผลงานชิ้นที่สอง ‘แผนภูมิรูนโบราณ’ ผลงานชิ้นที่สาม ‘หุ่นรบเดิม’ ได้รับการขนานนามว่าเป็นมงกุฎแห่งความคิดสร้างสรรค์ในปีนี้ ควรได้รับตำแหน่งผู้ชนะเลิศและแหวนรางวัลความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ชนะเลิศ! ข้าหวังว่าหลังจากชนะรางวัลเกียรติยศ นักเรียนไตตันจะใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องและตั้งปณิธานสูงสุดไว้ในคราวเดียวกัน ข้าหวังว่านักเรียนใหม่ทุกคนจะเอาเขาเป็นแบบอย่างเพื่อเรียนรู้และก้าวหน้า.. ลำดับต่อไปขอเชิญนักเรียนไตตันขึ้นเวทีรับตำแหน่งรางวัลชนะเลิศ ทุกคนเชิญปรบมือร่วมแสดงความยินดี!” ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรฟ้ามอบม้วนสาส์นสีทองเครื่องหมายชนะเลิศ และแหวนระดับทองรางวัลความคิดสร้างสรรค์ให้เย่ว์หยางด้วยตัวเอง
“ขอบคุณท่านประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าและบรรดาครูบาอาจารย์ที่ยอมรับผลงานของข้า ข้าไตตันจะเพิ่มความพยายามให้มากเป็นสองเท่าภายใต้ความก้าวหน้าทางวิทยาการร่วมกันกับพวกท่านทั้งหลาย” เย่ว์หยางกล่าวปราศรัยได้ความกระชับแต่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เป็นคนเกียจคร้านจริงๆ!” คุณชายหมิงจูที่อยู่ข้างล่างเวทีไม่พอใจอย่างมาก เขาคิดว่าเย่ว์หยางควรจะขอบคุณบางคนที่ให้การสนับสนุนเขา
เดี๋ยวนี้ยากจะได้รับตำแหน่งชนะเลิศ แต่เขากลับไม่พูดอะไรใหม่ๆ เลยจู่ๆ ก็ลงมาจากเวที
แม้แต่คนที่ช่วยเขาก็ไม่พูดถึง ไม่ขอบคุณ
นี่หมายความว่ายังไง?
แน่นอนว่าคุณชายหมิงจูรู้ว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คนเนรคุณคน เขาเกียจคร้านเกินไป แม้แต่จะขึ้นไปรับรางวัลก็ทำอิดออดเกียจคร้านอยู่พักหนึ่ง
ใบหน้าอาจารย์ใหญ่เป็นประกายแดงเปล่งปลั่ง มองผิวเผินดูเหมือนว่าเขายังสงบอยู่ได้ ต่างจากอาจารย์โอมอนที่ตื่นเต้นดีใจ แต่ถ้าเข้าไปมองอาจารย์ใหญ่ใกล้ๆ จะเห็นแววตื่นเต้นในดวงตาของอาจารย์ใหญ่มิอาจปกปิดได้
ฉีมู่ปรบมือดังๆ ไม่เกรงใจสายตาของจินฉีและหยางผิงที่ถลึงตามอง
ตอนนี้เขารู้สึกว่าระดับของจินฉีและหยางผิงนั้นต่ำเกินไป
เขายังรังเกียจที่จะแข่งขันด้วย
แม้กระทั่งคุณชายหยางฉวนอดีตผู้ร่วมก่อตั้งพันธมิตรสี่คุณชาย ฉีมู่ยังรู้สึกว่าเขาไปไกลกว่ามากแล้วในตอนนี้ เมื่อพิจารณาถึงยอดความคิดสร้างสรรค์ เย่ว์หยางผู้คิดค้นปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์และได้รับรางวัล หลายๆ คนไม่แปลกใจ
แต่พวกที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเย่ว์หยางรวมทั้งจินฉีและหยางผิงลอบอิจฉาอยู่ลับๆ
ไม่มีการคัดค้านในส่วนความคิดสร้างสรรค์นี้
หลังจากผลลัพธ์ออกมา มีนักเรียนจำนวนหนึ่ง ตอนแรกสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมรางวัลความคิดสร้างสรรค์ถึงไม่มอบให้จินฉีผู้คิดค้นหุ่นแม่เหล็กที่แข็งแกร่ง? อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินชื่อ ‘ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์’ และข่าวลือที่เกี่ยวข้องจากที่ใกล้เคียง ทุกคนพูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจและเลิกสงสัย ระดับศักดิ์สิทธิ์? ในหุบเขามนุษย์ นี่คือช่องว่างห่างที่ทำให้ผู้คนสิ้นหวัง แม้ว่าหุ่นแม่เหล็กที่แข็งแกร่งจะดีก็ตาม แต่ก็แค่ระดับทองเท่านั้น ยังห่างไกลจากระดับศักดิ์สิทธิ์มากเท่าไหน? ถ้านักเรียนใหม่นี้ทำปากการะดับศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าเบื่อบ้างเล็กน้อย นักเรียนไตตันแทนที่จะเพ่งเล็งอยู่แต่การทำปากการะดับศักดิ์สิทธิ์ แต่ไปทุ่มเทให้กับการสร้างหุ่นระดับศักดิ์สิทธิ์แทน เกรงว่าแม้แต่จีอู๋ลี่ผู้เป็นเจ้าของหุ่นแค้นองค์ชาย ก็เหมือนกลายเป็นคนแคระไปเลย
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงสำหรับความสำเร็จของเย่ว์หยางทั้งในด้านแนวคิดและงานที่สร้างสรรค์ ไม่ได้มีแค่ปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์
ที่สำคัญยิ่งกว่า เป็นเพราะเขาคิดหุ่นรบบินได้
เนื่องจากข้อกำหนดพิเศษและคำขอร้องของอาจารย์ใหญ่ ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าจึงไม่พูดตรงๆ ว่าเป็นหุ่นรบบินในเวลาประกาศรางวัล แต่ใช้คำว่าหุ่นรบดั้งเดิมแทน มิฉะนั้น มิฉะนั้นนักเรียนและครูบาอาจารย์และนักวิชาการตัวแทนชนชั้นสูงที่อยู่ข้างล่างเวทีผู้เข้าร่วมพิธีประเมินผลจะตกใจไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรดี
“เฮอะ.. มีความสามารถแค่ได้รางวัลไม่กี่อย่างหรอก” จินฉีเยาะเย้ยเมื่อเย่ว์หยางก้าวกลับลงมา
“อิจฉาเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนแอ” เย่ว์หยางยิ้มเดินผ่านไปโดยไม่มองอีกฝ่าย
จินฉีที่ดูเหมือนเป็นตัวเก็งสูงสุดว่าจะชนะได้รางวัลกลายเป็นหนอนน่าสมเพช
ถ้าใครมองดูเขา
จะรู้สึกรกนัยน์ตา
ความอับอายเช่นนี้ทำให้จินฉีกัดฟันกรอด และต้องการกระโจนใส่หลายครั้ง และส่งคำท้าดวลไปให้เย่ว์หยางโดยตรง แต่เนื่องจากประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าปรากฏตัวและยังมีครูบาอาจารย์หลายคน เขาจึงต้องอดทนอย่างหนักเพื่อรักษาคุณสมบัติของนักเรียนผู้เข้าร่วมในการประเมิน
หยางผิงและสหายสองสามคนรีบเข้ามายับยั้งจินฉี “อย่าไปสนใจ การประเมินเริ่มขึ้นแล้ว เจ้าเด็กนี่จะหยิ่งผยองไปได้อีกไม่นาน!”
ตามแบบแผนของการประเมินผล
วันแรกประเมินตัดสินผู้ชนะเลิศผลงานความคิดสร้างสรรค์
เพราะการปรากฏของสมบัติธรรมดาระดับศักดิ์สิทธิ์ จินฉีจึงได้เตรียมใจสำหรับการชนะเลิศของเย่ว์หยาง อย่างไรก็ตามในการประเมินครั้งต่อไปพวกเขามีความมั่นใจว่าจะเอาชนะเย่ว์หยางและได้รับรางวัลชนะเลิศในการประเมินครั้งสุดท้าย
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินผู้ชนะรวม
เป็นผู้ชนะเลิศ
พิธีประเมินแบ่งออกเป็นห้ารายการที่สำคัญ
ความคิดสร้างสรรค์ ผลงานสร้างสรรค์ก็เป็นด้านสำคัญอย่างหนึ่ง และสิ่งที่รับแล้วเป็นเกียรติของผู้ชนะก็คือ แหวนสร้างสรรค์ระดับทองซึ่งตกเป็นของเย่ว์หยางในตอนนี้
ต่อไปจะเป็นการแข่งขันชิงชนะเลิศสำหรับการวิจัยและงานประดิษฐ์ เมื่อเทียบกับชนะเลิศความคิดสร้างสรรค์ การชนะเลิศประเภทนี้ยากจะได้รับ ในการประเมินสองประเภทก่อนหน้านั้น มีผู้ชนะทั้งสองด้านคนเดียวกัน บ่อยครั้งที่การนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานมีน้อยเกินไป อีกอย่างหนึ่งหากนักเรียนบางคนทำงานไม่บรรลุเป้าหมาย โรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้า จะไม่มอบรางวัลและไม่ตัดสินผลงานที่ไม่เหมาะสม สำหรับงานวิจัยสมบัติประดิษฐ์จะได้รับรางวัลเป็น ‘ขวานวิเศษ’ ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเท่ากับแหวนความคิดสร้างสรรค์ ทั้งสองนี้ถือว่าเป็นสาขาเกียรตินิยมที่ประเมินผลได้ยากที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว แหวนสร้างสรรค์ส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวกับการสร้างหุ่นรบ โดยทั่วไปจะเป็นเรื่องอาหาร, สถาปัตยกรรม หรืองานอื่น
งานวิจัยและงานประดิษฐ์กลับตรงกันข้าม เกือบทั้งหมดเป็นงานด้านหุ่นรบ
จีอู๋ลี่คือคนที่ฉายประกายโดดเด่นที่สุด
หุ่นแค้นของเจ้าชายระดับแพลตตินัมไม่มีใครเทียบได้ แต่ท้ายที่สุดไม่ได้ชนะรางวัลสร้างสรรค์ ชนะแต่รางวัลวิจัยและงานสิ่งประดิษฐ์
“เจ้าเมืองน้อย หุ่นรบแม่เหล็กที่แข็งแกร่งของท่านจะต้องกวาดรางวัลได้หมด ไม่จำเป็นต้องแข่งกับเจ้าโง่ที่คิดปากกาขนนกระดับศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองไม้เงิน” สหายของจินฟงพยายามประจบอย่างสิ้นท่า มิน่าเล่าที่พวกเขามีความมั่นใจเช่นนี้เพราะเมื่อตอนล้อมทำลายโรงงานผลิตหุ่น พวกนักเรียนประสบความสูญเสียอย่างหนัก บางคนเสียชีวิต บางคนหุ่นพังและไม่สามารถกู้หรือซ่อมกลับมาได้ แม้แต่คนสำคัญอย่างจีอู๋ลี่ก็ต้องกลับเช่นกัน แล้วเขาไม่มีความภูมิใจได้อย่างไร? จะป้องกันผู้ติดตามไม่ให้ฉลองยินดีหรือ?
“สิ่งที่ข้าต้องการก็คือผู้ชนะเลิศรวม!” จินฉีจ้องมองเย่ว์หยางพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
หากต้องการกวาดรางวัลชนะเลิศก็ต้องเป็นเหมือนจีอู๋ลี่ในรอบสุดท้ายก่อนนั้น
ชนะมากกว่าสามสาขารายการ
ถ้าเพียงชนะแค่เพียงสองสาขา ก็ยังไม่พอจะจูงใจกรรมการ
ดังนั้นตำแหน่งผู้ชนะเลิศคะแนนรวมในพิธีประเมินจึงมักจะว่างเปล่า โดยทั่วไปนักเรียนมักจะโอ้อวดว่าเขาเป็นผู้ชนะ สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นหมายถึงการแข่งขันชิงชนะเลิศสาขาย่อยเป็นหนึ่งในห้ารายการประเมินผล ไม่ใช่ว่าจีอู๋ลี่ชนะเลิศ
ในบรรดาห้าแขนงรายการความคิดสร้างสรรค์และค้นคว้าวิจัยสิ่งประดิษฐ์รวมอยู่ในนั้นด้วย
สองรางวัลนี้ได้รับยากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีรายการประเมินย่อย ‘มารยาทและการฝึกฝน’ และ ‘ความรู้และวิชาการ’ ทั้งสองนี้มีการตัดสินที่ง่ายที่สุดและไม่มีการขาดแคลนผู้สมัครในแต่ละครั้ง รายการสุดท้ายก็คือ ‘ชั้นเชิงกลยุทธ์’ เป็นการแข่งขันโดยรวมของนักเรียน พวกเขาจะสามารถสร้างความแตกต่างและตัดสินว่าใครคือผู้ชนะ การแข่งขันชั้นเชิงกลยุทธ์แขนงนี้ ผู้ชนะเลิศจะรับรางวัลแรกทุกครั้ง ในการแข่งแขนงนี้จินฉีมั่นใจว่าจะต้องชนะได้... ถ้ารายการนี้ยังชนะไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝันหวานถึงตำแหน่งชนะเลิศรวม!
จินฉีคิดว่าเย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูไม่สนใจโดยตรง
แม้แต่ฉีมู่ก็รู้ผลแล้ว
นั่นคือรางวัลการค้นคว้าและการประดิษฐ์ คนที่จะได้รับรางวัลต่อไปเขาเชื่อว่าคงไม่พ้นมือเย่ว์หยาง
ที่สำคัญคือ หุ่นรบของคนอื่นไม่สามารถสู้หุ่นรบบินที่สามารถสร้างยุคใหม่และกลยุทธ์สงครามรูปแบบใหม่ได้ นี่แตกต่างจากรางวัลใหญ่ความคิดสร้างสรรค์ นี่คือรางวัลวิจัยค้นคว้าและสิ่งประดิษฐ์ สามารถรับได้ไม่เพียงแต่นักเรียนเท่านั้นที่ได้รับรางวัล คณะผู้ร่วมทำงานก็รับได้ นอกจากนี้ยังมีคณะผู้ร่วมงานมากขึ้นในการพัฒนาหุ่นรบบิน เช่นอาจารย์ใหญ่และอาจารย์โอมอน
หลังจากได้รับรางวัลการฝึกฝนและมารยาท ก็จะเป็นการแข่งขันของนักเรียน
จินฉีกระเหี้ยนกระหือจะสู้กับเย่ว์หยาง ต้องการจะเหยียบย่ำศัตรูที่น่ารังเกียจต่อหน้าชาวโลก
น่าเสียดายที่เป็นไปไม่ได้ ในการจับสลาก จินฉีเอาชนะคู่ต่อสู้ที่รุมล้อมรอบทิศได้ เขามองดูเย่ว์หยางที่ใช้หมาป่าชั้นเงินผ่านเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ดูว่าเจ้าจะหัวเราะได้นานแค่ไหน! จินฉีโล่งใจแล้ว ไตตันน้อยไม่ได้ใช้หุ่นรบระดับศักดิ์สิทธิ์หรือระดับแพลตตินัม หรือแม้แต่ระดับทอง แค่หมาป่าเงิน ด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะโชคดีเอาชนะในรอบรองชนะเลิศได้ แต่ไม่มีทางจะเอาชนะในรอบชิงชนะเลิศ ต่อให้เจ้าโชคดีพอผ่านเวทีจนมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ข้าจะฆ่าหุ่นหมาป่าเงินของเจ้าด้วยหุ่นรบแม่เหล็กระดับทองของข้า!
“ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าเมืองน้อย ท่านชนะ” คนรอบตัวจินฉีพากันสอพลอ
“ต้องชนะอยู่แล้ว!” หยางผิงกำหมัด ถ้าเป็นหุ่นรบระดับเงิน เขาอาจเอาชนะเจ้าบัดซบไตตันได้
“มั่นใจอย่างงี่เง่าจริงๆ...” ฉีมู่ส่ายหน้าถอนหายใจ เขาคาดเดาในแง่ร้าย ถ้าจินฉีหรือหยางผิงพบเย่ว์หยาง บางทีเจ้าเด็กไตตันคงทำให้เจ้าพวกนี้ร้องไห้เป็นเด็กแน่!
“น่าเบื่อจริงๆ!” คุณชายหมิงจูหาว มันเหงาจริงๆ ที่ไม่มีคู่แข่ง
จีอู๋ลี่คือคู่แข่งที่ดี เอาชนะจินฉี หรือหยางผิงไป
ไม่มีความรู้สึกว่าประสบความสำเร็จเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะวิกฤติการณ์เทพปีศาจกำลังจะกลับมาส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณชายหมิงจู อย่างนั้นการเฝ้าดูการต่อสู้ระดับนี้ หมิงจูคงดูจนเคลิบเคลิ้ม
เย่ว์หยางและหมิงจูกำลังจะกลับไปนอน แต่เห็นฉีมู่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับตะโกน “แย่แล้ว, เกิดอุบัติเหตุมีบุรุษคนหนึ่งชื่อฮ็อกกับหลานฟงประลองกันในสนามสู้ยอดเขาตะวันตก สู้กันระดับฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย... ฮ็อกผู้นี้ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนเขามีหุ่นรบทองถึงสองตัว ถ้าจินฉีที่ประกาศความมุ่งมั่นเป็นคนแรกว่าจะชนะการแข่งขันให้ได้ เมื่อเทียบกันแล้วคาดว่าฮ็อกคงขยี้เละ แต่สิ่งที่เหลือเชื่อก็คือหุ่นทองสองตัวของฮ็อกถูกหลานฟงข่มไว้อยู่หมัด! นี่เป็นไปไม่ได้ หลานฟงไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้นแม้แต่น้อย แต่ให้เขาเก็บพลังไว้ในการประเมิน ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีหุ่นรบแพลตตินัมเทียบชั้นกับหุ่นแค้นองค์ชายของจีอู๋ลี่!”
คุณชายหมิงจูตะลึง “หุ่นรบแพลตตินัม? หลานฟงเป็นเจ้าของหุ่นรบแพลตตินัมด้วยหรือ? ไม่นะ หุ่นเพลิงแค้นเป็นหุ่นรบระดับทองไม่ใช่หรือ?”
เย่ว์หยางสนองตอบทันที
นั่นคือสัญญาแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจ
ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่หลานฟงจะมีหุ่นรบแพลตตินัมที่เอาชนะฮ็อกผู้มีหุ่นรบทองสองตัวได้.. ตอนนี้นับเป็นเรื่องปวดหัว หากเป็นการทำสัญญากับเทพปีศาจจริง ในตัวหลานฟงมีความลับกี่อย่าง มีหุ่นแพลตตินัมอยู่เท่าใด? หลานฟงได้รับหุ่นแพลตตินัมหลังจากเขาทำสัญญากับเทพปีศาจ แล้วจีอู๋ลี่ที่เข้ามาในสนามหอคอยเหนือหอคอยและทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจในคืนนั้น