ตอนที่ 1101 วันหนึ่งเจ้าจะเป็นคนแรก
ไม่มีเสียงในท้องฟ้าอีกต่อไป มีแต่ความเงียบสงบ
ราวกับว่ามือเทพนั้นไม่มีอยู่อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีเงาที่น่ากลัวยังครอบคลุมโลกจนมืดมิด มิฉะนั้นเขาคงสงสัยว่าวิกฤติการณ์คงผ่านไปแล้ว
เย่ว์หยางเงยหน้ามอง
เขามองดูอยู่นาน รอคอยอยู่นาน
ดาบนี้ใช้พลังของเขาทั้งหมด พร้อมกับพลังจิตที่หนุนเสริมกลายเป็นปราณกระบี่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งตรงขึ้นบนท้องฟ้า
พลังประหารเทพสำเร็จหรือไม่?
ถ้าเขาประสบผลสำเร็จทำไมไม่เห็นมีความเคลื่อนไหว? ถ้าไม่สำเร็จทำไมมือเทพที่ใหญ่เกินจินตนาการถึงได้หยุดนิ่งอยู่ในกลางอากาศ? สถานการณ์ที่แปลกประหลาดและผิดปกติทำให้คนรู้สึกแปลกใจ แม้แต่คนฉลาดอย่างเย่ว์หยางก็ไม่เข้าใจ
ครืนนน ครืนน ครืนนน...
มือเทพในท้องฟ้าเหนือศีรษะขยับอย่างช้าๆ
เย่ว์หยางผิดหวังอยู่ในใจ เขาไม่สามารถคิดถึงตัวเองได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่สามารถจะต้านอีกฝ่ายได้
สูงส่งสมกับเป็นระดับเทพจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม
เมื่อคิดย้อนกลับไป เขารู้สึกโล่งใจ
ด้วยปณิธานปราณราชันย์ เขาสามารถยืนหยัดต้านทานในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง อย่าว่าแต่ข้างหน้าเขาเป็นเทพที่มีประกายเทพ
“น่าอึดอัดนัก หุ่นอสูรที่ควบคุมจากระยะไกล ทุกอย่างมันน่าเบื่อมาก ถ้าเป็นร่างที่แท้จริงของข้าคงทำลายเจ้าในหนึ่งวินาทีแล้ว ต่อให้เจ้าภูมิใจก็เถอะ แต่ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น” มีพลังความคิดที่ทรงพลังบุกเข้ามาในบ้านคนอื่นเหมือนโจรป่าเถื่อนไร้ยางอาย ฝ่าการป้องกันทางจิตของเย่ว์หยาง มันสะท้อนอยู่ในใจของเย่ว์หยางอย่างรุนแรง นี่คือจิตสำนึกเทพที่เย่ว์หยางได้ต่อสู้อย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เย่ว์หยางก็เข้าใจว่าดาบเทพที่เขาใช้ไปก่อนนั้นใช้ไม่ได้ผล เทพผู้ดาบเทพแทงใส่ไม่ได้รับความเสียหาย
เย่ว์หยางรู้เพิ่มอีกเล็กน้อย
มือยักษ์ที่โจมตีโดยไม่คาดคิดยังไม่ใช่ร่างเทพที่แท้จริง
เป็นหุ่นงี่เง่าที่เทพสร้างขึ้นเพื่อควบคุมระยะไกล จากเทพในหุบเขามนุษย์
มือเทพที่ยอดเยี่ยม
ครืนน ครืนน เสียงดังกึกก้องถอนกลับไปแล้ว เย่ว์หยางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเทพผู้หยิ่งผยองถึงไม่โจมตีอีกครั้งและใช้มือเทพเอาชนะเขาต่อ ถ้าโจมตีมาอีกครั้ง เย่ว์หยางคงไม่สามารถยกไหล่ขึ้นได้แน่นอน
พลังของเย่ว์หยางหมดไปไม่เหลือ เขาได้ทุ่มเทไปกับดาบสังหารเทพ
ถ้ามือเทพโจมตีอีกครั้ง เย่ว์หยางคาดว่าเขาคงตกอยู่ในสภาพคลั่ง
ดึงพลังของยักษ์ชะตาออกมาใช้
หรืออาจได้รับความช่วยเหลือจากสาวกิเลนปิงหยินหรือหงส์เพลิงสองพี่น้อง
ทำไม?
ทำไมเทพไม่โจมตีเขาต่อไป?
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขา ไม่เหมือนกับว่าจะปล่อยตัวเขาไปได้ง่ายๆ แล้วทำไมถึงไม่โจมตีต่อ
ขณะที่เย่ว์หยางไม่สามารถเข้าใจได้ทันที มียอดเขาที่น่ากลัวตกลงมาจากท้องฟ้าน่ากลัวยิ่งกว่าอุกกาบาตตก เสียงดังกึกก้องขณะทำลายแนวชั้นบรรยากาศตรงลงมาที่พื้น เย่ว์หยางคว้าตัวคุณชายหมิงจูและหนีอย่างบ้าคลั่ง สองสาวพี่น้องมังกรแปลงร่างเป็นอาวุธคอยป้องกันฝนดาวตก อุกกาบาตในท้องฟ้าให้กระเด็นไปยังพื้นที่โดยรอบ
อสูรกลืนฟ้าเพิ่งจะกินอาหารพลังงาน มันลากแมงป่องดาวฟ้าออกมาจากพื้น มันเงยหน้าและอ้าปาก
ในท้องฟ้ามีรูปมังกรกระพริบผ่าน
คนอื่นเช่น เริ่นเทียนเกอ ฮ็อก ชิงหมอและบัณฑิตตาเงินและอื่นๆ ถูกดินกลบ ทุกคนถูกแรงสะท้อนกระเด้งจากพื้นกระจายไปในอากาศ ยอดเขาอุกกาบาตเสียดสีกับท้องฟ้าลุกเป็นไฟพุ่งทะลุบรรยากาศด้วยพลังรุนแรงส่งเสียงหวีดหวิวลงสู่พื้น
บึ้ม!
ทั่วทั้งหอคอยเหนือหอคอยถูกแรงระเบิดทำลายอย่างสิ้นเชิง
ฝุ่นสกปรกและควันหนาทึบแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ควันลอยหนาฟุ้งเป็นรูปดอกเห็ด หนายิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดบดบังท้องฟ้าทั้งหมด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงไหน เย่ว์หยางประคองคุณชายหมิงจูที่ยังหมดสติอย่างระมัดระวัง และเดินออกมาจากฐานหินอุกกาบาตขนาดใหญ่ ใบหน้าเลอะฝุ่นโคลน
เพียงเห็นวับแรก ยอดภูเขาสีดำยังคงถูกไฟลุกไหม้ ทันใดนั้นเย่ว์หยางพบทันทีว่านี่ไม่ใช่ภูเขา แต่เป็นนิ้วเดียวที่เขาสู้เดียวและแบกยันต้านทานเอาไว้ราวกับเฮอคิวลิส
พระเจ้า, กลับกลายเป็นแค่นิ้วเดียว!
ปลายนิ้วด้านบนมีรอยถูกตัดผิวราบเรียบ
จนถึงตอนนี้เย่ว์หยางถึงได้ตระหนักว่าด้วยความช่วยเหลือทางจิตของทุกคนดาบประหารเทพที่เขาส่งออกไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา แม้ว่าดาบจะไม่ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ แต่อย่างน้อยก็ตัดนิ้วเทพได้หนึ่งนิ้ว
แม้แต่ร่างหุ่นเทพที่ควบคุมโดยเทพก็ได้รับความเสียหายไปมาก มันมากเกินไป และด้วยพลังกดดันของพลังเทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้
เมื่อเห็นนิ้วขนาดใหญ่นี้ เย่ว์หยางตื่นเต้นในใจ
ท้าทายเทพ
สู้กับเทพ
ที่สำคัญเขาไม่ล้มเหลว แม้ว่าจะไม่ได้มีเป้าหมาย แต่ก็ประสบความสำเร็จตัดนิ้วเทพได้หนึ่งนิ้ว
แม้ว่านิ้วนี้จะไม่ใช่นิ้วของร่างกายที่แท้จริงของเทพ แต่ก็เหมือนนิ้วเทพ แต่ก็เป็นหุ่นที่เทพสร้างขึ้น มองในอีกมุมหนึ่ง นี่คือชัยชนะไม่ใช่หรือ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีหลายคนในโลกที่กล้าท้าทายเทพ มีกี่คนที่สามารถถอยกลับมาได้หลังจากทำศึกกับเทพ ข้าไม่แพ้ ยังไม่แพ้จริงๆ! รวมทั้งเสี่ยวเหวินหลี อาหง อาหมัน.. เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและนางเซียนหงส์ฟ้า... และแม่สี่, ฝ่าบาท จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนที่สนับสนุนมาจากหอทงเทียน พวกนางช่วยกันผลักดันเทพที่ทรงพลังซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก!
ดาบประหารเทพตัดนิ้วเทพได้หนึ่งนิ้ว!
ที่อยู่ข้างหน้าคือชัยชนะ!
นิ้วที่ตั้งเด่นเหมือนภูเขายังคงมีไฟลุกโชน คือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดของเขา!
สองสาวพี่น้องมังกรเดินอ้อมมากอดเย่ว์หยางแน่น แต่เทาเถี้ย แมงป่องดาวฟ้าเกือบพังเสียหาย ส่วนอสูรกลืนฟ้ามีความสุข อย่างไรก็ตามพลังเทพที่โจมตีตอนแรกทำให้เริ่นเทียนเกอและคนอื่นยังนอนหมดสติเหมือนหมูตาย และยังไม่ลุกขึ้น
“สักวันข้าจะโค่นเจ้า ไม่ใช่แค่ตัดนิ้วเท่านั้น แต่จะเป็นศีรษะของเจ้า ข้าจะใช้ดาบประหารเทพฆ่าเจ้า”
เย่ว์หยางประคองคุณชายหมิงจูที่ยังหมดสติด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งชูกำปั้น
ตั้งความปรารถนาครั้งใหญ่
การเข้าถึงระดับเทพคือเป้าหมายของนักรบทุกคน
และเป้าหมายปัจจุบันนี้ของเย่ว์หยางยังคงไปไม่ถึง แต่ยังอยู่เหนือกว่า ไม่เพียงแค่เหนือกว่าเท่านั้น ยังเหนือกว่าห่างไกล...
เมื่อเริ่นเทียนเกอฟื้นขึ้น พวกเขาเห็นหอคอยเหนือหอคอย ถูกทำลายกลายเป็นซากหักพัง! เมื่อเห็นนิ้วเทพที่ถูกตัดออกมา ตรงพื้นข้างหน้าสูงพอๆ กับยอดเขาพวกเขาตกใจกลัว พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเย่ว์หยางผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาแบบไหน และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางตัดนิ้วเทพได้ด้วยดาบประหารเทพ
นี่ นี่เหลือเชื่อจริงๆ
ถ้าพวกเขาไม่เห็นกับตา พวกเขาจะไม่มีทางเชื่อ ต่อให้ฆ่าพวกเขาก็ตาม!
“หนีกันก่อน, ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว ไม่อาจสู้ต่อได้แล้ว!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าตอนนี้เขาเหนื่อยมากยิ่งกว่าตอนต่อสู้กับจอมปีศาจไคเทียนร้อยวันเสียอีก ที่น่าสังเวชที่สุดก็คือหลังจากเหนื่อยล้าหนักแล้ว ไม่เพียงแต่พักไม่ได้ แต่ยังต้องถ่ายเทพลังเพื่อฟื้นฟูร่างกายคุณชายหมิงจูผู้ดื้อรั้นนี้
“เร็วๆ เข้า...” ฮ็อกกลัวราวกับว่าจะมีงูไล่กวดตามหลังเขา
“ประตูเทเลพอร์ตถูกทำลายอย่างเห็นได้ชัด แล้วนี่มันยังคงอยู่ได้อย่างไร?” บัณฑิตตาเงินพบเจอด้วยความสงสัย
“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ไม่ว่ายังไงเราต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!” พระยายมซิวอิ่ง เซี่ยทีและจินหายที่ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดินเห็นบัณฑิตตาเงินยืนอยู่หน้าประตูเทเลพอร์ตเพื่อศึกษา จึงรีบเบียดแซงเข้าไปด้วยความวิตก ไม่เกรงใจ ทั้งผลักทั้งฉุดดึงคนช่างสงสัยออกไป พวกเขากลัวมากเมื่อได้ยินเย่ว์หยางกล่าวว่าเทพไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาแค่จากไปชั่วคราว และจะกลับมาเมื่อใดก็ได้ และพวกเขากลัวมากจนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เขาไม่ต้องการอยู่ในอาคารนี้แม้สักครู่ เขาต้องการออกไปข้างนอก
เมื่อผ่านประตูเทเลพอร์ตไปได้ พวกเขามองเห็นสตรีชุดขาวยืนอยู่ข้างหน้าประตูเทเลพอร์ตแยกเป็นสองทาง
พวกเขาเข้าใจอย่างรวดเร็ว
ปรากฏว่าประตูเทเลพอร์ตได้รับการซ่อมแซม
มิฉะนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี!
หญิงสาวชุดขาวที่ถือคัมภีร์เงินรออย่างสงบ และเห็นเย่ว์หยางประคองคุณชายหมิงจูออกมาชุดสุดท้าย นางพยักหน้าให้เล็กน้อย “ดูเหมือนสถานการณ์จะดีกว่าที่คิด เจ้าทำได้ดีกว่าที่เราคาดคิดเสียอีก”
เย่ว์หยางโมโหทนเก็บอาการไม่ไหว เขาโวยวายลั่น “นี่เป็นการประเมินประสาอะไร แย่มาก ถ้าพวกเจ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน ข้าจะทำลายสถานบันผู้พเนจรฟ้า พวกเจ้ารู้ไหมว่าเราต้องดิ้นรนหนีแทบตาย กว่าจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้ ข้าเกือบจะถูกเทพฆ่าตายแล้ว กวาดล้างหุ่นอะไรกัน ข้างในมีเทพโผล่มาจากไหนไม่รู้ พวกเจ้าเกือบทำให้ข้าตายในการประเมินไปแล้ว”
หญิงสาวชุดขาวทั้งสามยังอารมณ์ดี
เยือกเย็นเหมือนหยก อ่อนโยนเหมือนสายน้ำ
จนกระทั่งเย่ว์หยางสบถด่าระบายอารมณ์ หญิงสาวชุดขาวคนกลางผู้ถือคัมภีร์เงินอธิบาย “ไม่มีใครปลุกเทพนั้น นอกจากเจ้า และจะไม่มีใครถูกเทพโจมตี เพราะไม่มีใครนอกจากเจ้าที่มีโบราณวัตถุ หากเจ้าเชื่อใจเราส่งมอบโบราณวัตถุให้กับเราจัดการเก็บไว้ชั่วคราว จากนั้นเจ้าเข้าร่วมประเมินจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแต่อย่างใด”
เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “พวกเจ้าโทษว่าข้าหรือ? หาว่าข้าหาที่ตายเองหรือ?”