ตอนที่ 1100 ประหารเทพ!
บางทีเจ้ามดตัวน้อยบังอาจต่อต้านตัวมัน
สำนึกเทพชั้นสูงโกรธทันที
พลังเทพที่ฉีกสวรรค์แยกแผ่นดิน
พลังยิ่งใหญ่กว่าสึนามิเป็นหมื่นเท่ากวาดพื้นที่ไปทั่ว บนพื้นดินไม่ว่ากวาดผ่านไปที่ใด ทุกอย่างจะกลายเป็นธุลี ในชั่วพริบตาพลังเทพที่เหมือนสึนามินี้ก็ท่วมทับเย่ว์หยางที่อยู่ภายใต้พลังเทพยิ่งใหญ่
ร่างเล็กๆ ก็เหมือนกับหยดน้ำในทะเล
จะต่อต้านสึนามิได้อย่างไร?
“ขยับไม่ได้” ร่างเย่ว์หยางไม่เคลื่อนไหว และยืนอยู่ในท่ามกลางพลังเทพสึนามิ สองพี่น้องอาหยูอาเหยากลายร่างเป็นนกเป็ดน้ำคู่ด้วยพลังปณิธานของเย่ว์หยางบินอยู่รอบตัวเย่ว์หยาง เทียบกับพลังกฎสวรรค์ของเย่ว์หยาง ยังคงแผ่พลังออกไปด้านนอก นี่ไม่ใช่เผชิญหน้ากับพลังดุร้าย แต่เป็นกระแสน้ำวนของพลังงาน สึนามิที่มีพลังทำลายโลกและสวรรค์ค่อยๆ เปลี่ยนทิศทางการโจมตีและแยกออกจากกันโดยไม่เต็มใจนัก และแยกออกจากร่างของเย่ว์หยาง
สำนึกเทพของพลังเทพนั้นตอบโต้สู้กับเขาหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม กระแสวังวนของพลังเทพจะยิ่งใหญ่มากขึ้น ปณิธานของเย่ว์หยางก็ไม่สั่นคลอน ควบคู่พลังปีกบินระยะห่างของสองพี่น้องมังกรแฝดป้องกันไม่ให้พลังเทพโจมตีเย่ว์หยางได้สำเร็จ
พลังเทพที่เหมือนสึนามิเปลี่ยนรูปร่างฉับพลันและไม่กวาดไปที่พื้นโลกอีกต่อไป
แต่ควบแน่นกลายเป็นร่างยักษ์ทองสูงหนึ่งกิโลเมตร
ยักษ์ทองไม่มีหน้าไม่มีเพศ
เป็นแค่ยักษ์พลังเทพที่มีลักษณะของมนุษย์และสูงเทียมฟ้า มีพลังเทพควบคุมการกระทำของมัน
ยักษ์ใหญ่พลังเทพส่องรัศมีสีทองเจิดจ้า ลำแสงสีทองขนาดสิบคนโอบยิงลงมาจากท้องฟ้าเป้าหมายคือเย่ว์หยางที่ยกมือค้ำยันมือเทพเอาไว้
พลังโจมตีที่รุนแรงนี้ไม่ใช่ว่าสองพี่น้องอาเหยาอาหยูที่ร่วมผนึกพลังจะต้านรับได้
ยิ่งกว่านั้นสองพี่น้องเหยาหยูใช้พลังเทพไปมากมายจากการใช้สองปีกที่กำลังบินอยู่ในขณะนี้
เป็นไปไม่ได้ที่จะรับพลังโจมตีที่รุนแรง
“อึ้ก!”
สองสาวแฝดมังกรกัดฟันพร้อมกันและในที่ก็หยุดยิงพลังช่วยเย่ว์หยาง ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งกระโดดออกมาด้วยความเร็วสูง มันอ้าปากใหญ่ขนาดที่กินอะไรก็ได้ไม่เคยพอ และปากของมันนั้นกลืนกินลำแสงพลังงานที่ยิงลงมายังพื้นโลกอย่างดุดัน.. มันคือดาบอสูรเทาเถี้ย มันอยู่ข้างหน้าสองพี่น้องเหยาหยู ป้องกันอยู่หน้าเย่ว์หยาง ใช้ท้องหลุมดำของมันกลืนกินพลังโจมตีที่รุนแรงนั้น
ตึ้บ!
แม้ว่าเทาเถี้ยจะกลืนลำแสงได้โดยตรง แต่พลังเทพก็ระเบิดจากในท้องเทาเถี้ยโดยตรง
แม้ว่าท้องของมันจะมีหลุมดำ แต่ไม่สามารถดูดกลืนพลังเทพได้อย่างสมบูรณ์
เทาเถี้ยเกือบถูกระเบิดกระจาย
ศูนย์กลางพื้นที่ขนาดใหญ่ในร่างของมัน ถูกแรงระเบิดกวาดไปทุกที่ แรงระเบิดทำให้ทุกอย่างบนพื้นกลายเป็นผุยผง
หลุมยักษ์ลึกไม่เห็นก้นปรากฏอยู่ใต้ตัวเทาเถี้ย ร่างของเทาเถี้ยมีควันหนาทึบเหมือนถูกช่างตีเหล็กนับพันนับล้านทุบตีมาตลอดร้อยปี ร่างทั้งหมดถูกทำลายยับ เกรงว่าแม้แต่เย่ว์หยางเจ้านายก็ยังจำไม่ได้ว่ามันคืออาวุธเทพร่างอสูรที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง
มันต้องการหันไปมองเย่ว์หยางเป็นครั้งสุดท้าย
แต่มันควบคุมร่างตนเองไม่ได้ ร่างของมันร่วงลงไปยังหลุมไร้ที่สิ้นสุดอย่างอ่อนแรง
สองพี่น้องเหยาหยูไม่มีเวลาจะเสียใจ ลำแสงอีกสายหนึ่งยิงลงมาจากฟ้าด้วยความเร็วมากจนนางไม่มีเวลาหายใจ
อสูรกลืนฟ้าต้องการจะช่วยเหมือนกับเทาเถี้ย มันโผล่ออกมาและเตรียมรับพลังลำแสงเทพโจมตีเหมือนอย่างเทาเถี้ย
ทันใดนั้นแมงป่องดาวฟ้าใช้หางของมันตวัดกวาดอสูรกลืนฟ้าออกไป
แม้ว่าอสูรกลืนฟ้าสามารถแปลงร่างเป็นฝักดาบเทพพยัคฆราชได้ แต่มันเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังที่แท้จริงต้านรับได้ พลังของมันไม่อาจเทียบกับเทาเถี้ยได้ แม้แต่แมงป่องดาวฟ้าก็ยังมีระยะห่างของพลังเมื่อเทียบกับมัน อสูรกลืนฟ้าถูกแมงป่องดาวฟ้าเหวี่ยงออกมาได้แต่มองอย่างช่วยไม่ได้ มันไม่เหมาะกับการโจมตีหนักอย่างแมงป่องดาวฟ้าซึ่งถนัดแต่ทางโจมตี มันเผชิญหน้ากับพลังเทพตามลำพัง... เพราะลำแสงเทพรุนแรงแม้แต่เทาเถี้ยยังทำอะไรไม่ได้ แมงป่องดาวฟ้ามีความฉลาดไม่ฝืนปะทะโดยตรง
มันสั่นหางเบาๆ
ดาวนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นบนร่างของมัน
แม้ว่าจะไม่ดีเท่าท้องฟ้าจำลองของเจ้านาย, พลังน้อยกว่าสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรี แต่ก็ให้ผลอย่างเดียวกัน
แมงป่องดาวฟ้าได้แต่ปล่อยดวงดาวดวงเล็กดวงน้อยรอบตัว แต่ไม่สามารถสร้างเป็นทางช้างเผือกอย่างที่เย่ว์หยางจำลองสร้างได้ และไม่ได้แสดงกลุ่มดาวสิบสองราศีได้สมบูรณ์เหมือนจักรพรรดินีราตรี เพราะมันยังไปไม่ถึงระดับนั้น
อย่างไรก็ตามมันสามารถสร้างกลุ่มดาวราศีแมงป่องได้
กลุ่มดาวขายใหญ่มากขึ้น
จนเหมือนจริง
ในร่างประกอบไปด้วยแสงดาวนับพัน ขณะนั้นลำแสงเทพยิงมาถึงและระเบิดบึ้มเปลี่ยนรูปร่างกลุ่มดาว แมงป่องดาวฟ้าพยายามกวัดแกว่งหางเบี่ยงเบนวิถีลำแสงเทพ
ไม่ให้ตรงไปที่ตัวเย่ว์หยาง
ดวงดาวกับลำแสงปะทะกันเกิดพลังระเบิดรุนแรงน่าตกใจ
แมงป่องยักษ์ในท้องฟ้าแตกสลาย เหมือนกับดอกไม้ไฟ แต่จะไม่เปลี่ยนเป็นรูปดาวได้อีกภายใต้ผลกระทบของพลังแห่งเทพ
แรงระเบิดที่ทำให้วิญญาณแตกสลายน่ากลัวยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิด หลังจากทำลายพลังและอากาศ ศิลาโดยรอบ ปลายนิ้วเทพกลายเป็นสีขาวอีก เมฆรูปดอกเห็ดลอยตรงขึ้นไปถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า กลายเป็นภาพที่น่ากลัวยิ่งกว่าขุมนรก แมงป่องดาวฟ้าร่วงลงกับพื้นไม่มีเวลาเรียกร้องเศร้าโศก มันลอยขึ้นไปในกลางอากาศ และถูกปลายนิ้วมือเทพตีกระแทกลงมาจมลงไปในพื้นโผล่ให้เห็นแค่หางแมงป่อง
ลำแสงเทพเตรียมยิงเป็นครั้งที่สาม
เร็วกว่าเดิม
รีบร้อนมากกว่าเดิม
แม้ว่าสองพี่น้องเหยา-หยูยังไม่ทันยืนหยัดมั่น แต่พวกนางได้แต่มองดูลำแสงเทพอย่างทำอะไรไม่ได้
อสูรกลืนฟ้าพุ่งออกมาบ้าง และในที่สุดก็ถึงคราวมันต้องพบกับศัตรู แต่มันไปได้ครึ่งทางมันได้ยินเสียงมังกรคำราม เงาดำบางเบาพุ่งผ่านอสูรกลืนฟ้าไปอย่างง่ายดาย
หางที่บอบบางตีใส่อสูรกลืนฟ้าน้องเล็กที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่วันกระเด็นตกไปที่พื้นอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้ง และมันมองไม่เห็นว่าใครทำอะไร
พลังลำแสงเทพยิงลงมาทันที แฝงไปด้วยพลังทำลายล้างตลอดเส้นทางที่ผ่าน
สองพี่น้องเหยา-หยูมองเห็นไม่ชัด พวกนางพบว่ามีเงาร่างบางสายหนึ่งพุ่งไปที่ลำแสงเทพอย่างไม่น่าเชื่อ และฝืนพลังอยู่ในพื้นที่ใจกลางลำแสงเทพ มันแทะทะลวงช่องลำแสงเหมือนกินอาหารจนถึงที่สุด ร่างยักษ์ยกมือพยายามจับเงาเล็กแต่ข้อมือของมันแตกหักไปถึงครึ่งหนึ่ง
มือเทพทองพอสูญเสียสำนึกเจ้านายที่คอยเชื่อ ก็กระจายออกไปทันที กลายเป็นลำแสงและควันศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่ในท้องฟ้า
ไม่เพียงแต่มือเทพทองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเงาร่างเรียวเล็กที่กินพลังลำแสงเทพ
ก็ยังสูญเสียการควบคุมตนเอง
พลังกระจายอย่างบ้าคลั่ง...อสูรกลืนฟ้าใช้เวลาช่วงไม่กี่อึดใจกลืนกินพลังไปเป็นจำนวนมาก และมันพบเงาน้อยกำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องฟ้า พลังเทพที่เหลือกำลังถูกดูดกินพลังที่ข้อมือที่หักมีควันแสงพวยพุ่ง จากนั้นมันหนีมือยักษ์ไม่ให้จับร่างมันได้
ความเร็วของมันเร็วกว่าสายฟ้าและลื่นไหลยิ่งกว่าปลา
ไม่ต้องพูดถึงอสูรกลืนฟ้า แม้แต่พี่น้องเหยาหยูยังถอนหายใจโล่งอก
แม้ว่าสำนึกเทพที่ควบคุมมาจากระยะไกลจะเกรี้ยวกราดราวกับฟ้าร้อง แต่ดูเหมือนว่าการไล่ล่านั้นไร้ประโยชน์มันจึงล้มเลิกการไล่ค้นหา มันสลายสภาพพลังสำหรับโจมตีอีกครั้ง ไม่ได้ก่อร่างเป็นควันแสงเหมือนเก่า มันแค่วางกับดักพลังเทพซ่อนเร้นรอให้เหยื่อถูกหลอก ในขณะเดียวกันหัตถ์เทพที่กำลังกดลงก็ถูกดึงออกมาจากพื้น จนเย่ว์หยางที่กำลังค้ำหัตถ์เทพแทบจะยืนไม่อยู่และล้มลงกับพื้น หลังจากยกขึ้นไปหลายหมื่นเมตร ก็กดลงมาอีกครั้งด้วยความเร็วมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า คราวนี้วิธีการโจมตีที่เทพนั้นเลือกใช้มีความดุดันและโหดเหี้ยมที่สุด ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย เขาไม่สามารถทิ้งสหายและหนีเอาตัวรอดคนเดียวได้ การโจมตีครั้งนี้ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดและอันตรายที่สุดอย่างมิต้องสงสัย
นี่คือผลลัพธ์ทำให้เทพเดือดดาล!
เทวทัณฑ์ที่มิอาจคาดคิดถึงได้
ตาย
แต่นี่เป็นแค่การเริ่มต้น
ตราบเท่าที่เย่ว์หยางตาย เขาเชื่อว่าวิญญาณจะต้องถูกศัตรูดึงออกไป ไม่ว่าจะเป็นผนึก หรือทำลาย ทำให้ไม่มีอยู่อีกต่อไป
ต้องเผชิญกับพลังกดดันชนิดนี้ เย่ว์หยางมองดูเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน ชิงหมอและฮ็อกที่ยังสลบไม่ได้สติ คนเหล่านี้เป็นสหาย เว้นแต่เขาจะทอดทิ้งพวกนี้ไปอย่างไม่ไยดี มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาพวกเขาไปให้พ้นจากพลังกดดันนี้
มองดูหมิงจูที่ถูกพลังเทพลอบโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส
จะทิ้งคุณชายหนุ่มค้อนทองที่ชอบอิจฉานี้ได้หรือ?
เย่ว์หยางไม่คิด แต่เขายังรู้คำตอบของเขาว่าคือ ไม่
จุดที่สำคัญก็คือเย่ว์หยางเผชิญการต่อสู้ทั้งหมดในชีวิตของเขา เขาไม่เคยก้มหัว ไม่เคยหนี เมื่อเผชิญหน้ากับสือจินโหวผู้ทรงพลัง ในการเผชิญหน้ากับซุ่นเทียนผู้น่ากลัว, เผชิญหน้ากับจ้าวปีศาจฮาซินผู้แข็งแกร่งเหนือกว่า เผชิญกับจักรพรรดิชื่อตี้ เผชิญกับราชาเฮยอวี้ที่เขาไม่มีทางหลบหนีได้พ้น หรือในวิหารเทพจักรพรรดิอวี้เผชิญหน้ากับสามจอมภพแดนสวรรค์อย่างซิวคงและจิ่วเซียวที่เขาไม่ควรจะหนีรอดได้ เมื่อเขามาถึงแดนสวรรค์เป็นครั้งแรกเขาไม่ได้หลบหนีกับการเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสตำหนักกลางแดนสวรรค์ที่ไม่มีทางหลบหลีกได้ เมื่อกลับมายังหอทงเทียนต้องเผชิญกับราชันย์พันปีศาจและจ้าวปีศาจโบราณ แม้แต่เผชิญกับจักรพรรดินีฟ้านำเผ่าเก้าแสงรุกรานหอทงเทียนก็ยังหนีไม่พ้น จากนั้นในแดนสวรรค์ต้องสู้กับจ้าวสุริยาผู้น่ากลัวเพื่อต้องการชิงคัมภีร์เทพ เย่ว์หยางก็ยังไม่หนีเพราะสถานการณ์บังคับ แน่นอนว่าไม่ว่าศัตรูเป็นใครที่มาอยู่ต่อหน้าเขา ต่อให้เป็นเทพ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เย่ว์หยางยอมแพ้ อย่าว่าแต่หนีเลย
ต่อสู้อย่างไม่รู้จบ!
ไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้
นี่คือเย่ว์หยาง
“ประหารเทพ!” เย่ว์หยางกางมือ อาเหยาและอาหยูแปลงเป็นอาวุธเทพร่างมนุษย์เชื่อมผสานกับเขาทันที
“หือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ในโลกคัมภีร์สีหน้าเปลี่ยนไป ทักษะหกรับรู้ของนางทำให้นางรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในใจของเย่ว์หยาง ไม่ใช่แค่เฉพาะนางเท่านั้น แต่แม้แต่สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้ไม่สนใจวิทยายุทธ์ อู๋เหินที่ศึกษาอักขระรูนโบราณอยู่เงียบๆ เย่ว์หวี่ที่กำลังจัดวัสดุอยู่ในห้องทดลอง เย่ว์ปิงที่เพิ่งฝึกฝนเสร็จ นางเซียนหงส์ฟ้าที่กำลังหลับฝันหวาน... ทุกนางรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของเย่ว์หยางครั้งนี้พร้อมกัน ขณะนั้นดูเหมือนพวกนางจะสามารถเชื่อมโยงกับความคิดของเขา และอสูรวิญญาณทั้งหมดมีความเปลี่ยนแปลงขณะที่เสี่ยวเหวินหลีเร่งเร้าพลังอยู่ในโลกคัมภีร์อย่างเต็มที่
“อ๊า..........!” ที่ด้านข้างเสี่ยวเหวินหลี ไม่รู้ว่าอาหงและอาหมันมาถึงตั้งแต่เมื่อใด พวกนางมีพลังระดับขุนพลเทพ แม้ว่าพวกนางจะไม่สามารถออกไปช่วยได้ แต่ดูเหมือนพวกนางสามารถส่งผ่านพลังไปที่เสี่ยวเหวินหลีด้วยวิธีลับบางอย่างส่งผ่านพลังไปถึงเจ้านาย
“ข้ามาแล้ว!”
ที่บนสุดของท้องฟ้าโลกคัมภีร์ สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและอิคคาไม่ได้แบ่งใครก่อนใครหลังรวมพลังส่งพลังจิตไปที่เสี่ยวเหวินหลี อาหงและอาหมัน
เทียบกับพวกนางแล้ว ภูตฟ้าปั่นป่วนยังคงด้อยปัญญาเล็กน้อย เหมือนกับว่าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น
แต่นางไม่คิดมากลงมือทำตามความต้องการพื้นฐานทันที
ร่วมผนึกพลังเป็นกลุ่ม
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องการร่วมผนึกพลังด้วย แต่พลังสะท้อนกลับ แม้จะลองสองสามครั้งก็ยังไม่สำเร็จ ทุกคนเป็นกังวล
ทุกคนเห็นกลีบดอกไม้ร่วงหล่นจากท้องฟ้าพร้อมกับกลิ่นหอมสดชื่น ดอกไม้บนพื้นนับไม่ถ้วนเบ่งบานทันทีเปลี่ยนโลกคัมภีร์ให้กลายเป็นทะเลบุปผา เหมือนกับเทพแห่งดอกไม้จุติลงมาจากฟากฟ้า มือขาวดุจหยกของนางโบกไปมา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกสดชื่นเหมือนได้รับสายลมฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีสิ่งกีดขวางอีกต่อไป พลังนั้นรวมเข้ากับลำแสงพลังจิตที่เสี่ยวเหวินหลียิงออกมา และจากร่างของทุกคนผสมผสานกันอย่างน่าอัศจรรย์เหมือนกัน ไม่มีแรงต้านใดๆ อีกต่อไป
ความจริงไม่เพียงแต่พวกนางเท่านั้น แต่พลังจิตวิญญาณทั้งหมดในโลกคัมภีร์อยู่ภายใต้ความคิดของตั่วตั่ว
ผสานเข้าด้วยกัน
เพิ่มเข้าไปในลำแสงพลังจิตส่งไปให้เย่ว์หยางที่อยู่นอกโลกคัมภีร์ได้รับพลังสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่
แพนดอร่าที่ปกติจะอยู่เฉยกลับถูกปลุกให้ตื่นภายใต้การนำพลังของตั่วตั่ว
สมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด สมบัติเทพส่งเสียงกู่ร้องสะท้อนไปทั้งโลก
อสูรทั้งหมดตะโกนร้องพร้อมกัน
รวมจิตใจกัน
แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียผู้หลับจำศีลเพื่อหลอมรวมกับประกายเทพ จู่ๆ ก็ลืมตาโพลง เดิมทีเย่ว์หยางพยายามต่อต้านศัตรูด้วยกำลังของตน สิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดก็คือเสี่ยวเหวินหลี อาหง และอาหมันซึ่งเป็นอสูรพิทักษ์ เมื่อเขาสู้กับเทพ พลังจิตของแต่ละคนจะทะลวงผ่านกฎสวรรค์เปลี่ยนเป็นพลังของตนเอง
ภายในไม่มีวินาทีผู้คนมากขึ้น รวมทั้งสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง อิคคา ภูตฟ้าปั่นป่วน ตั่วตั่ว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางเซียนหงส์ฟ้า
แพนดอร่าที่ทรงพลังน่าสะพรึงกลัว กับเป่าเอ๋อที่มีพลังเล็กน้อย
รวมทั้งเทวีเสรีภาพที่ปฏิเสธจะรับพลังฟื้นฟูร่างและชิงผิงแห่งตระกูลกบฏทงเทียนที่ร่างนางยังไม่หายสนิท
แม้ว่าจะมีเสวี่ยอู๋เสียที่ทำให้เขาประหลาดใจมาก นางไม่ได้ตื่นขึ้นมานานแล้ว! ไม่มีสาวหิมะอยู่ใกล้เคียงเย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาได้ทำสิ่งต่างๆ ไปมากมาย ไม่รู้ว่าเขาต้องการให้นางกลับมาไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ตอนนี้นางตื่นขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเพื่อคลี่คลายอันตรายในท่ามกลางความโกลาหล นอกจากนี้ยังมีเหล่าอสูรนับไม่ถ้วน พวกเขาพยายามผนึกพลังกัน
เย่ว์หยางรู้ถึงการสนับสนุนจากหอทงเทียนอย่างเลือนลาง
เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นแม่สี่ หรือฝ่าบาท
หรือจักรพรรดินีราตรี จื้อจุน
“ประหารเทพ!” เย่ว์หยางรู้สึกตื่นเต้นมากและพยายามควบคุมตนเอง มีความช่วยเหลือมากมาย แม้ว่าเจ้านี่จะเป็นเทพ เขาก็ต้องสู้! ต่อให้เป็นเทพ เจ้าก็ต้องอยู่ใต้ดาบประหาร
ธนูบินอาหยูฝังร่างกับร่างเย่ว์หยาง แต่ผนึกพลังกับพี่สาวนางด้วยพลังเทพทั้งหมด
และพี่สาวนางมีภาพฉายดาบขนาดใหญ่ และเย่ว์หยางกวัดแกว่งดาบวิเศษ
ดาบสู่สวรรค์
*********