ตอนที่แล้วตอนที่ 1098 หัตถ์เทวะ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1100 ประหารเทพ!

ตอนที่ 1099 ข้าจะย่ำปอดของเจ้า!  


“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”  คุณชายหมิงจูจับมือเย่ว์หยางหนีไปพร้อมกับตะโกนถาม

“เจ้าหมายความว่ายังไง? สลัดเย็นดีไหม!”  เย่ว์หยางตอนนี้ไม่มีทางใดเลย  เทพที่ส่งเสียงดังเหนือหัวเขาตอนนี้เป็นเทพที่ไม่รู้จัก พวกที่เรียกว่าเทพไม่เหมือนกับเทพเล็กเทพน้อย พวกเขาไม่สามารถต้านทานเทพได้ ที่สำคัญคือระดับพลังของพวกเขายังห่างไกลเกินไป  แน่นอน พวกเขาได้แต่หนี  มีมือมีเท้าใครจะอยู่รอความตาย?

“แต่..ข้าไม่สามารถหนีได้!”  คุณชายหมิงจูมีความรู้สึกอยากร้องไห้ เขาถูกสำนึกเทพกักไว้ ไม่สามารถหนีได้หรือ?

มือที่ยังเห็นไม่มีกดนิ้วลงทันที

ตำแหน่งกดก็คือประตูเทเลพอร์ต

ถ้าใครวิ่งไปถึงนั่นจะต้องถูกบดเละแน่นอน

นี่ไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ เหมือนกับถูกส่งไปตายมากกว่า...อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สิ้นหวังมากที่สุดก็คือแม้รู้ว่าความหวังมีน้อยนิด แต่ความจริงที่โหดร้ายคือยังต้องถูกบังคับให้สู้  รู้อยู่ว่าหลบหนีไปข้างหน้านั้น ความตายรออยู่แน่  แต่ก็ต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ นี่เป็นความเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต!

มือเทพขนาดยักษ์กดลงมาอย่างรวดเร็ว  และปลายนิ้วใหญ่กว่าภูเขา  แรงเสียดทานกับบรรยากาศนั้นรุนแรงขณะที่กดลงมาด้วยความเร็วสูง

ปลายนิ้วมีเพลิงแดงลุกไหม้

แผดเผาเป็นสีแดง

ขณะที่เวลาผ่านไปสะเก็ดเศษซากขนาดเล็กมากที่ปลิวฟุ้งกลายเป็นฝนดาวตก เหมือนกับเทพธิดาโปรยปรายดอกไม้ใส่โลก เหมือนกับดอกไม้ไฟกระจัดกระจายไปทั่วปฐพี นำความตายมาอย่างไม่สิ้นสุด

นอกจากหัตถ์เทพแล้ว ยังมีฝนดาวตกและพลังอัดกระแทกไปทั้งโลก

หุ่นรบบนพื้นถูกบดขยี้

ไม่มีตัวใดรอด

แม้แต่ในสถาบันหุ่นที่มิอาจทำลายได้ในเวลานี้ก็ส่งเสียงดังเสียดสี มีรอยร้าวรอยแยกนับไม่ถ้วนกระจายออกเหมือนใยแมงมุม สั่นสะเทือน

รอยแตกขยายตัวมากขึ้น

สถานบันหุ่นอาจพังได้ทุกเมื่อ

พวกเขาต้องหนีอีกครั้ง

มันไม่สมเหตุสมผล

แต่ตอนนี้เขาจะยอมแพ้ หยุดหนี รอให้ความตายมาถึงอย่างนั้นหรือ?

ความจริงอันโหดร้ายก็คือ เย่ว์หยางและพวกกำลังหนีอยู่ด้านล่าง พวกเขาเคยรวดเร็วราวกับสายฟ้า  แต่ตอนนี้ถูกพลังเทพกักไว้ และแรงกดดันอัดกระแทกอยู่ตลอด พลังที่เทียบเท่ากับกฎสวรรค์จำกัดพลังในร่างของพวกเขาโดยตรง ไม่เพียงแต่ไม่สามารถเร่งความเร็วได้เท่านั้น  แต่กลับช้าลงเรื่อยๆ  และความเร็วยังตกลงอีกครั้ง และในที่สุดก็ช้าเหมือนหอยทาก  ถ้าเป็นเช่นนี้แม้ว่าทั้งเย่ว์หยางและหมิงจูที่กำลังหนีไปข้างหน้า  คงไปไม่ถึงสถาบันหุ่น หรือแม้แต่ไปถึงครึ่งทางห่างจากประตูเทเลพอร์ต พวกเขาจะถูกหัตถ์เทพที่อยู่เหนือศีรษะบดขยี้แหลกเละ!

ไม่มีใครรอดพ้นจากเทพได้

นี่คือการตัดสินของเทพ!

“อ๊า อ๊า........”  ฮ็อกกำลังจะบ้า เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในระดับนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้าน ความรู้สึกไร้พลังของผู้อ่อนแอจะถูกฆ่าตายทันที มันทำให้เขาหงุดหงิดมาก!

“ยังมีความหวังใดอีกไหม?”  เริ่นเทียนเกอสูญเสียความมั่นใจในตอนนี้

“มี”  คนที่กล้าพูดว่ามีตอนนี้ มีแต่เย่ว์หยางเท่านั้น

“เราจะทำอย่างไรดี?”  ซิวอิ่งรีบถาม ไม่ว่าเย่ว์หยางจะถูกจะผิด เขาเต็มใจเชื่อและพร้อมร่วมมือเต็มที่

“สวดภาวนา” คำตอบของเย่ว์หยางเช่นนี้แทบทำให้ทุกคนทรุดกับพื้น คำตอบแบบนี้ นี่เป็นวิธีแบบไหน? พูดส่งเดชไม่รับผิดชอบชัดๆ!  หากสวดภาวนามีประโยชน์ เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกยังจะมีอะไรน่าเสียดายอีกไหม?  หากการสวดภาวนามีประโยชน์ พระเจ้าคงจะงานยุ่งไม่หยุดหย่อน ต้องวุ่นวายกับการแก้ปัญหาเรื่องจิปาถะเล็กน้อยของผู้คนไม่มีหยุดพัก

ฮ็อกทนต่อไปไม่ไหว

เขาส่งเสียงคำรามกึกก้องเหมือนฟ้าร้อง จากนั้นกัดฟันหยุดนิ่ง

ต่อให้เขาตาย เขาจะต้องยืนตายอย่างเข้มแข็ง

เขาไม่ยอมหดหัวเป็นเต่าที่ไร้ประโยชน์

เริ่นเทียนเกอมีความคิดอย่างเดียวกัน

จากนั้นซิวอิ่ง เซี่ยที จินหายหยุดกันหมดทุกคนและมองดูท้องฟ้า ขณะที่มองเห็นปลายนิ้วมือของเทพ พวกเขาคิดหาทางหลบหนีอย่างหนัก  แต่ไม่มีวิธีอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูขณะแรงกดดันเพิ่มขึ้น

ในที่สุดแม้แต่บัณฑิตตาเงินผู้ฉลาดก็ยอมแพ้และหยุด

บางทีอาจเป็นไปได้ว่าเจ้านายกำลังตกที่นั่งลำบาก หุ่นแพลตตินัมทั้งสี่พุ่งขึ้นชูแขนขึ้นค้ำฟ้าเพื่อป้องกันเย่ว์หยางเจ้านายใหม่

แต่หัตถ์เทพที่กดลงมาถึง เกิดคลื่นอัดกระแทกและความรู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  แผ่นดินสั่นสะเทือนบิดเบี้ยว แขนทั้งแปดข้างหักทันที ร่างร้อยเมตรนั้นมีขนาดเล็กเมื่อเมื่อเทียบกับหัตถ์เทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะรับแรงกดดันจากพลังทำลายล้าง หุ่นรบแพลตตินัมระเบิด เศษซากกระจายไปทั่วท้องฟ้า

ถ้าไม่เห็นกับตา คงไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งที่บอบบางนี้คือหุ่นรบแพลตตินัมที่ไร้เทียมทานก่อนนี้

ปราศจากสรรพสำเนียง

ไม่มีเสียงกรีดร้องสิ้นหวัง

ทุกคนมีแต่ความหวาดผวา ตกตะลึง

ความจริงภายใต้แรงกดดันทำลายล้างนี้ ไม่มีทางที่จะเอ่ยปากส่งเสียงได้

ความกดดันจากหัตถ์เทพที่ใกล้มาถึงเพิ่มขึ้นทับทวี เท้าของฮ็อกและพวกจมลึกลงไปในพื้นทีละคน พื้นทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือน ภูเขาและพื้นไม่สามารถรับแรงกดดันอย่างบ้าคลั่งนี้ได้  นี่เหมือนกับฉากภาพวันมหาโลกาวินาศ!

หากไม่มีข้อจำกัดทางกฎสวรรค์ ทุกคนสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาใช้ต่อต้านได้  แม้ว่าอาจจะไม่มีประโยชน์ก็ตาม  แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการตายโดยไม่มีการต่อต้าน  อย่างไรก็ตามนี่คือหุบเขามนุษย์ พลังการต่อสู้ทุกอย่างถูกกักเอาไว้ภายใต้กฎสวรรค์ และการเกิดขึ้นของมือเทพ ฮ็อกและพวกพบว่าพวกเขามีจิตใจว่างเปล่าและไม่สามารถต้านทานได้  เมื่อเผชิญกับพลังแห่งสวรรค์ที่ครอบงำได้ทั้งหมดอย่างนี้  พวกเขาพบว่าตัวเองทั้งที่เป็นผู้มีพลังอำนาจมาก่อนอยู่แล้ว    แต่ขณะนี้อาจเพียงแค่ใหญ่กว่ามดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เทียบกับเทพแล้ว พวกเขาอ่อนแอสิ้นดี

“ข้ามีวิธีจะให้เจ้าไป  แต่ข้ามีเงื่อนไข”  คุณชายหมิงจูกระซิบบอกเย่ว์หยางขณะหลั่งน้ำตา

“เงื่อนไขอะไร?”  เย่ว์หยางถาม

“ข้อแรก..อย่าลืมข้า...”  คุณชายหมิงจูหลั่งน้ำเหมือนสายฝนจับมือเย่ว์หยางแน่น เปลี่ยนแนวคิดให้เย่ว์หยางรู้สึกซาบซึ้งใจได้

“อ่า..นี่ยากไปนิด ความทรงจำของข้ามีผลต่อหญิงงามเท่านั้น!”  เย่ว์หยางเกาหัวแกรกกรากพูดอย่างละอายใจ ถ้าเขาพูดกับคุณชายหมิงจูเช่นนี้ในเวลาปกติ คาดว่าคงโดนค้อนทองทุบหัวทันที แต่ตอนนี้คุณชายหมิงจูน้ำตาไหลและยิ้มกอดเย่ว์หยาง และพูดกระซิบอ่อนโยนอย่างที่เย่ว์หยางไม่เคยได้ยินมาก่อน  “ข้าไม่สนเจ้าหรอก เจ้าไม่อาจลืมผู้อื่นได้  แม้ว่าจะจำได้โดยบังเอิญก็ตาม..  ข้าอยู่กับเจ้าแทบจะทนไม่ได้จริงๆ ทุกวันข้าเห็นเจ้าเอาแต่เล่นตลกเหมือนห่านโง่... อย่างไรก็ตามข้าไม่มีทางจะอยู่กับเจ้าได้อีกต่อไป  หวังว่าเจ้าและภรรยาน้อยๆ ของเจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข  และคิดถึงข้าเป็นครั้งคราว... ลาก่อนคนโง่!”

คุณชายหมิงจูสวมกอดเย่ว์หยางแน่นและหลั่งน้ำตาเหมือนกับไม่ยินดีจะปล่อยเขาไป

ภายในร่างของเขาเปล่งแสงรัศมีเป็นพันสาย

แพรวพราวจนไม่อาจมองได้โดยตรง

กฎแห่งสวรรค์และโลกดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงช้าๆ เวลาและมิติถูกพลังบิดเบือน

มือของเทพทำลายล้าง ด้วยความตายที่กำลังกดลงเหนือศีรษะของเขาดูเหมือนจะค้างอยู่กลางอากาศ...  คุณชายหมิงจูปล่อยเย่ว์หยางร้องว่า “เจ้าต้องการรู้ความลับของข้ามิใช่หรือ?  ความลับของข้าคือ....”

พลังไม่มีที่สิ้นสุดหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ขณะที่หมิงจูพูด

ในขณะนั้นพลังนี้กำลังจะเทเลพอร์ตส่งเย่ว์หยางจากไป

พลังเทพที่น่าหวาดหวั่นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อโจมตีเข้าที่ใจกลางพื้นที่เทเลพอร์ตของเย่ว์หยางและหมิงจูที่ไม่มีพลังอะไรป้องกัน

คุณชายหมิงจูหลังจากถูกพลังโจมตีนี้ ก็กระอักเลือดทันที

“อั้ก..”

ไม่ทันได้พูดความลับต่อ

พลังที่น่าทึ่งซึ่งแต่เดิมตั้งใจว่าจะเทเลพอร์ตส่งเย่ว์หยางออกไป ก็อ่อนตัวลงและในที่สุดก็ถูกพลังเทพที่น่ากลัวยิ่งกว่าข่มจนหายไป  รัศมีที่ร่างหมิงจูสลัวลงเหมือนตะเกียงใกล้จะดับ เย่ว์หยางรีบกอดหมิงจูเช็ดเลือดที่ริมฝีปากเขาเบาๆ  “เจ้าช่างโง่จริงๆ แม้ว่าเจ้าจะจากไป ก็ควรจากไปด้วยกัน เจ้าก็ควรจะรู้ว่าข้าไม่ยอมให้เจ้าจากไปลำพังแน่”

คุณชายหมิงจูอดยิ้มเล็กน้อยไม่ได้ และพูดเบาๆ “ก็ได้งั้นเราจะตายด้วยกัน!”

เมื่อพูดจบก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป

หมดสติทันที

ชิงหมอนิ่งเงียบ เหมือนกับต้องการจะหนี

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นคุณชายหมิงจูพยายามอย่างไร้ผล เขาใคร่ครวญว่าเขาก็คงไม่สามารถต้านทนพลังแห่งสวรรค์ได้  ดวงตาที่น่ากลัวของเขาเหมือนมีรอยยิ้ม เขาส่ายหัวและหลับตารอคอยความตาย

“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร  หุบเขามนุษย์ไม่มีควรมีเทพพิทักษ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เรามาเพื่อฝึกซ้อมฝีมือตามความจำเป็นเท่านั้น ไม่ควรจะถูกเทพเจ้าโจมตีด้วยความโกรธเลย  เกิดอะไรขึ้น?  ข้าไม่เข้าใจเลย เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ต้องตายอย่างไม่รู้อะไร น่าเสียดาย!”  บัณฑิตตาเงินรู้สึกเสียใจเช่นกัน  แต่เขาไม่เสียดาย  แต่ทอดถอนใจที่ไม่รู้ความจริง

“เจ้าเทพโจร, ข้าไม่กลัวเจ้า ข้าฮ็อก..จะยืนหยัด และยอมตาย แต่จะไม่ขอความเมตตาจากเจ้า !”  ฮ็อกตะโกนส่งเสียงเป็นครั้งสุดท้าย

แต่แรงกดดันของพลังเทพทำให้เสียงตะโกนของเขาไม่ได้ดังมากกว่ามด

ที่ข้างตัวเย่ว์หยาง

ไม่ทราบว่ามีสตรีสองคนออกมายืนตั้งแต่เมื่อใด พวกนางคือสองพี่น้องมังกรเหยา-หยู

เขาส่งคุณชายหมิงจูที่บาดเจ็บสาหัสจนหมดสติให้แฝดผู้น้อง  เขายังไม่วางใจสั่งดาบอสูรเทาเถี้ย แมงป่องดาวฟ้า ฝักดาบพยัคฆ์อวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  อสูรจอมตะกละที่ข้อมือกลายร่างเป็นดาบศึกทงเทียน

เย่ว์หยางถือดาบศึกทงเทียน สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เขา

ไม่เคยลองท้าทายขนาดนั้น

ต้องทราบว่าสิ่งที่เขาท้าทายครั้งนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดาอีกต่อไป  แต่เป็นเทพที่ทรงพลังเกินจินตนาการ

ขณะมือเทพกดลงมา ฮ็อกผู้อ่อนแอที่สุดล้มลงกับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก  คนทั้งหมดล้มลงกับพื้นและจมลงไปในหิน คนถัดมาคือชิงหมอและบัณฑิตตาเงิน และในที่สุดก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเริ่นเทียนเกอและซิวอิ่งไม่สามารถต้านแรงกดจากหัตถ์เทพ และพลังเทพไหลผ่านร่างกายพวกเขา พวกเขารู้สึกว่าร่างกายและใจเป็นอย่างเดียวกัน ถูกดันไปหาความตายด้วยพลังบดขยี้จากหัตถ์เทพ นั่นคือหลุมฝังศพพวกเขา ในใจของพวกเขาเริ่มสับสน ขณะที่ความมืดครอบงำ ความคิดสุดท้ายดับวูบ

คนเดียวที่ยังสามารถต้านทานได้อยู่ก็คือเย่ว์หยางเพียงคนเดียว

เย่ว์หยางมีปณิธานราชันย์ที่แข็งแกร่งมากกว่าเริ่นเทียนเกอ ซิวอิ่ง เซี่ยทีและจินหาย ต่อให้เป็นเทพก็สั่นคลอนพลังปณิธานของเขาไม่ได้

ตราบเท่าที่เขายังพอใจ จะไม่มีพลังใดๆ บังคับเขาให้ยอมแพ้ได้ ดังนั้นต่อให้เป็นเทพ หรือเทพไร้เทียมทาน เย่ว์หยางสามารถต่อสู้ต้านทานจนถึงที่สุด

ระดับชั้นพลังของเย่ว์หยางยังไม่ถึงระดับ แต่ปณิธานของเขาไปถึงระดับเทพแล้ว

ไม่สามารถสะท้อนพลังไปถึงจื้อจุนที่โลกพฤกษาได้

การหลอมรวมมิติหลุมดำและวิญญาณกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ทำให้เย่ว์หยางมองไปถึงความลับของระดับเทพได้ ปณิธานปราณราชันย์ส่วนบุคคลเป็นอมตะนิรันดร์.. เหนือกว่าระดับของฮ็อกและเริ่นเทียนเกอ สำนึกเทพที่พังทลายดูเหมือนจะพบความลับของเย่ว์หยางที่ยังต้านทานอยู่  กลุ่มพลังเทพที่ไม่มีที่สิ้นสุดตั้งใจจะทำลายเย่ว์หยาง

“ไปให้พ้นหน้าข้า!”  เย่ว์หยางกระอักเลือดจากปาก และพลังกฎสวรรค์และกฎโลกแตกออก  พลังเทพสะท้อนออกไปเต็มที่ผ่านห้วงมิติและเวลาจากฝ่ามือเย่ว์หยาง มือเทพในท้องฟ้าและคลื่นกระแทกทำลายล้างโลกหยุดนิ่งสมบูรณ์

เมื่อเย่ว์หยางชูมือขึ้น มือในท้องฟ้ากำลังสั่นและดูเหมือนจะถูกยกขึ้น

พลังเทพขนาดมหึมาไวกว่าความคิดและพลังกฎสวรรค์น้อยที่ขวางกั้นอยู่ใช้พลังค้อนสายฟ้าโจมตีเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางไม่ถอย และกัดฟันแน่น

เลือดซึมออกจากระหว่างฟัน

บนพื้นที่พังพินาศเต็มไปด้วยรอยดาบฟันจากมืออีกข้างหนึ่งของเย่ว์หยาง ภายในปราณดาบศึกทงเทียนปรากฏเป็นวงเวทรูนมากมาย แรงสั่นสะเทือนโลกและสวรรค์  พื้นหินยกตัวและเสาหินมากมายค้ำต้านหัตถ์เทพไว้ได้  เย่ว์หยางเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งหมดเพื่อ เกราะรบบนร่างกายของเขาถูกพลังสายฟ้าโจมตีจนแตกสลายเป็นผุยผง ทิ้งรอยเลือดไว้ตามตัว

การลงมือครั้งนี้ทำให้เทพพิโรธต้องการจะทำลายหอคอยเหนือหอคอยทันที

กรงเล็บเทพถูกกลั่นสร้างพลังมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

เสาหินกลมขนาดภูเขา

หักพังทลาย

ไม่มีใครสามารถหยุดเทพไม่ให้กดมือลงมาได้

หัตถ์เทพเบื้องบนต้องการกดท้องฟ้าและโลกเข้าด้วยกัน โลกหอคอยเหนือหอคอยจะต้องตกอยู่ในความวุ่นวายและพังทลายหายไปจนไม่เหลืออะไร  พลังเทพส่งผลให้อาหยูอาเหยาถูกกดลงจนทรุดอยู่แทบเท้าเย่ว์หยาง พวกนางกอดคุณชายหมิงจูอย่างช่วยไม่ได้  แม้แต่เทาเถี้ยกับพวกก็ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้  พวกมันต้องการช่วย แต่พลังไม่พอเพียง

ระหว่างสวรรค์และโลก เหลือแต่เพียงเย่ว์หยางตามลำพังเท่านั้น

เขาเพียงลำพังยังค้ำโลกไว้อย่างใกล้ชิด

อย่างเดียวดาย

ต้านทานหัตถ์ที่จะทำลายสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง

เลือดไหล่ผ่านลงพื้นซึมเขาไปในดิน  แต่มือเขายังค้ำกันมือยักษ์ด้วยปณิธานปราณราชันที่ไม่หวั่นไหว เย่ว์หยางตวาดเสียงลั่นตะโกนท้าทายเทพที่ต้องการทำลายโลกอย่างถึงที่สุด

“มาเลย มาเลย ข้ารับได้ ข้าจะผลักเจ้ากลับไปจนปอดระเบิด ท้องเจ้าระเบิดให้ได้ คอยดูเถอะ!”

++++++++++++

- แฟนคลับโพสกันครึกครื้น พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเริ่มโพสวันละ 2 ตอนครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด