ตอนที่ 1096 ดีแต่ไม่มีอะไร
สิบนาทีต่อมา
กลับกลายเป็นว่านักเรียนโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้านำโดยจีอู๋ลี่บุกโจมตีโรงงานผลิตหุ่นรบอย่างดุเดือด ตอนนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมไปแล้ว
เหมือนกับไปแหย่รังผึ้ง ทันทีที่โรงงานผลิตหุ่นอสูรถูกบุกโจมตี หุ่นอสูรนับไม่ถ้วนพากันฮือออกมาทันที ถ้าการโจมตีของหุ่นอสูรก่อนนั้นเหมือนกับน้ำหลาก อย่างนั้นหุ่นอสูรที่ฮือกันออกมาโจมตีครั้งนี้ก็เท่ากับดวงดาวในทางช้างเผือก นักเรียนโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าและจีอู๋ลี่ถูกท่วมอยู่ในกระแสทันที สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ 90% ของหุ่นอสูรที่สู้กันในรอบก่อนนั้นเป็นหุ่นระดับบรอนซ์ แต่พวกที่โผล่ออกมาจากโรงงานผลิตหุ่นครั้งนี้แทบจะไม่มีหุ่นอสูรระดับบรอนซ์เลย 20% เป็นหุ่นอสูรระดับทอง
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีหุ่นอสูรระดับทองเก็บไว้ในโรงงานมากมายขนาดไหน
หุ่นอสูรระดับเงินนับหมื่น หุ่นระดับทองนับพัน
รายล้อมเข้ามาทั้งสี่ด้าน
ก่อเกิดพลังทำลายล้าง
ไม่ต้องพูดถึงนักเรียนธรรมดาที่ไม่สามารถต้านทานได้ แม้แต่จงหัวที่ควบคุมหุ่นระบำดาบและจีอู๋ลี่ผู้ควบคุมหุ่นแค้นของเจ้าชายยังรู้สึกกดดันเหมือนภูเขาบดทับ
“ล่าถอย” หุ่นแค้นขององค์ชายถูกหุ่นอสูรระดับทองรายล้อมนับร้อย ไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างสง่างามเหมือนเมื่อก่อน หากที่นี่ไม่ใช่หุบเขามนุษย์ ไม่มีกฎสวรรค์คอยบังคับห้ามใช้พลัง และอนุญาตให้จีอู๋ลี่ใช้พลังโต้ตอบหุ่นอสูรระดับทองนับหมื่นได้ เขาสามารถกวาดล้างหุ่นเหล่านั้นได้ในไม่กี่วินาที น่าเสียดายที่นี่คือหุบเขามนุษย์ จีอู๋ลี่ไม่มีโอกาสแสดงพลังระดับกึ่งเทพของตนได้
“ทุกคน รีบตามข้าให้ทัน!” จงหัวมีความสุขและกังวลไปพร้อมกัน โชคดีที่จีอู๋ลี่ถูกตัดสินว่าฝืนกระทำในวันนี้ แต่ก็กังวลว่ามีหุ่นอสูรระดับทองรายล้อมอยู่มากมาย แม้ว่าพวกเขาไม่ระวังให้ดีก็อาจตกอยู่ในวงล้อมได้
แต่อาจพูดได้ว่ายังไม่มีอันตรายที่คุกคามชีวิต หุ่นระบำดาบและหุ่นอสูรไอพ่นทั้งสองเป็นหุ่นรบที่มีค่า
ทันทีที่สูญเสียไปหมด การสร้างใหม่ต้องใช้ทรัพยากรและเวลามาก
นี่ขัดกันกับแผนอย่างมาก
หุ่นไอพ่นทั้งสองยิงลำแสงพลังที่สะสมไว้อีกครั้ง
วงล้อมถูกแหวกให้นักเรียนได้หนีจากความตาย จินฉีและมิกหมาป่าแห่งหอสูงและนักเรียนอื่น จากความสิ้นหวังกลายเป็นมีความสุขแหกวงล้อมออกไปได้ก่อน ต่างจากสองคนคุณชายหยางฉวนควบคุมหุ่นพ่นไฟปกป้องสหายของเขาให้หลบหนี แม้ว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย แต่เขาไม่เคยลืมทำหน้าที่รุ่นพี่คุ้มกันนักเรียนโดยรอบให้หนีไปได้อย่างน่าประทับใจ
เส้นทางแหวกวงล้อมถูกปิดอย่างรวดเร็ว นักเรียนที่หนีไปได้ครึ่งทางแทบไม่มีพลังโต้ตอบ ก็ถูกหุ่นระดับทองฆ่าตายในไม่กี่วินาที
ขณะนั้นเองดาบแสงสังหารทำลายฟ้าและดินฟันลงมาพร้อมกัน
เทียบกับปืนใหญ่ไอพ่นของหุ่นอสูรไอพ่นแล้ว พลังมากกว่าเป็นร้อยเท่า
หุ่นอสูรระดับทองที่รายล้อม
ถูกระเบิดในทันที
หักพัง
เศษซากหักพังกระจัดกระจาย... ดาบของจีอู๋ลี่นี้ก็คือ ‘แสงแค้น’ เขาเตรียมรอโอกาสมานาน แม้แต่หุ่นรบระดับทองก็ไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีได้!
อัศวินทองทั้งสิบบริวารจีอู๋ลี่ฉวยโอกาสก้าวเข้ามาป้องกันศัตรูที่อยู่ในเส้นทางเดินสร้างแนวป้องกันเพื่อให้นักเรียนได้ถอยหนีไปยังสถาบันหุ่นรบ
ปัง บึ้ม บึ้ม
ในโรงงานผลิตหุ่น จู่ๆ มีเสียงดังกึกก้องกะทันหัน
หุ่นรบสี่ตัวที่มีระดับความสูงแตกต่างกัน ประมาณร้อยเมตร แต่ทั้งหมดเป็นหุ่นรบระดับแพลตตินัมปรากฏตัวขึ้น พวกมันกระโดดลงบนพื้นทีละตัวด้วยพลังกดดันราวกับภูผาและเหยียบนักเรียนจมกับพื้นไปโดยตรง
หุ่นอัศวินทองไม่สามารถหลบหนีได้ ถูกหุ่นแพลตตินัมเหยียบใส่
บริวารของจีอู๋ลี่ที่อยู่ในห้องเครื่องบาดเจ็บหนักถึงกับกระอักโลหิต
ก่อนที่สหายของเขาจะทันได้ช่วย หุ่นรบระดับแพลตตินัมใช้มือยักษ์ฟาด ภาพมิติทั้งล่างและบนขนาดสิบเมตรดูบิดเบี้ยว วัตถุทุกอย่างบิดเบี้ยวเหมือนถูกกรงเล็บปีศาจที่มองไม่เห็นบิด ทุกอย่างถูกบดสลายเป็นผุยผงทั้งคนบังคับการและหุ่นรบสลายหายไปทันที หุ่นอัศวินทองสหายที่จะเข้ามาช่วยเห็นภาพที่น่ากลัวสยดสยอง พวกเขาเผ่นถอยหลังกลับทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
อ๊า.. อ๊า...
ทั้งสองเหมือนกับคนตาบอด
และถูกหุ่นแพลตตินัมอีกตัวหนึ่งเหยียบแบนกับพื้น
นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ภายใต้สายตาของทุกคน หุ่นรบอัศวินทองทั้งสองถูกกรดอยอย่างกัดกร่อนด้วยความเร็วอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งผู้ควบคุมทั้งสองคน
จงหัวสีหน้าเปลี่ยนหุ่นรบแพลตตินัมทั้งสี่ทรงพลังมากไปเกินกว่าทุกคนจะต้านทานได้
ที่เหลืออีกสองตัวยังไม่ทราบว่ามีความสามารถใด
แต่อย่างน้อยที่แน่ๆ หุ่นรบแพลตตินัมสองตัวแสดงความสามารถไปแล้ว ตัวหนึ่งหนึ่งแสดงพลังสลายวัตถุ อีกตัวหนึ่งใช้พลังกรดกัดกร่อน ความสามารถทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่หุ่นรบธรรมดาจะเผชิญหน้าสู้ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีความสูงขนาดร้อยเมตร มีระดับพลังชั้นแพลตตินัม เอาแค่กำลังการผลิตหุ่นรบได้อย่างไม่สิ้นสุดก็เพียงพอจะล้อมปราบศัตรูได้ทั้งหมด
“หนีไป!” จงหัวหลีกเลี่ยงการโจมตีหุ่นแพลตตินัมและพาหุ่นระบำดาบและฉุดหุ่นพ่นไฟของคุณชายหยางฉวนบังคับให้เด็กหนุ่มคนนี้หนีไป
เพื่อช่วยคุณชายหยางฉวน จงหัวต้องให้หุ่นไอพ่นยิงพลังโจมตี
หุ่นไอพ่นอีกตัวหนึ่งกำลังโซซัดโซเซตกอยู่ภายใต้การโจมตีของหุ่นอสูรระดับทองมากกว่าสิบตัวใกล้จะพังทลาย ยังดีที่คุณชายหยางฉวนให้ความร่วมมือและทำความเข้าใจโดยปริยายยิงสายลวดเหล็กดึงมันกลับมา
อสูรไอพ่นที่ถูกช่วยกลับมาสูญเสียแขนขาไปสอง ถ้าช้ากว่านี้อาจจะกลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว
ผู้ชมเพียงคนเดียวที่ยังสงบนิ่งอยู่ได้คือจีอู๋ลี่
เขาขับขี่หุ่นแค้นแห่งองค์ชายร่ายรำดาบเป็นพันสาย
ดาบวายุที่ยอดเยี่ยมเปรียบเสมือนพายุหมุนปรากฏใต้เท้าของนักเรียนและผู้ที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังและหลับตารอความตายถูกยกตัวลอยออกจากสนามรบอย่างชำนาญและส่งตรงไปยังสถาบันหุ่นที่อยู่ไกลออกไป... ด้วยฝีมือนี้ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่ได้รับการช่วยเหลือหรือนักเรียนระดับหัวกะทิที่หนีไปก่อนนั้น ทุกคนชื่นชมจีอู๋ลี่! รวมถึงคุณชายหยางฉวนที่ได้รับการช่วยเหลือจากจงหัวก็ยังอดส่งเสียงชื่นชมจีอู๋ลี่อย่างตื่นเต้นมิได้
จงหัวเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้เขารู้สึกขมขื่นใจ
ที่เขาทำไปไร้ผลจริงๆ
ถูกจีอู๋ลี่ชิงความเด่นไปได้อีกครั้ง
ในชีวิตนี้จะตามเขาได้ทันหรือไม่? จีอู๋ลี่ผู้นี้ใกล้เคียงความเป็นเทพจริงๆ เขารู้สึกสิ้นหวังจริงๆ อย่างไรก็ตามความผิดหวังของจงหัวหายไปอย่างรวดเร็ว เขามั่นใจ เพราะในหุบเขามนุษย์จงหัวรู้สึกว่าเขาโชคดีที่สุดในชีวิตก็คือการได้รู้จักบุรุษหนุ่มผู้นั้น
ถ้าบุรุษหนุ่มผู้นั้นมาจากเผ่าบูรพาอมตะและสู้กับจีอู๋ลี่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะถอนตัวในอนาคต
คนที่อยู่เบื้องหลังจีอู๋ลี่คือใครบางคน
แต่เบื้องหลังของเจ้าเด็กนี่ มีทั้งเผ่าตระกูล
เด็กหนุ่มคนนั้นจะไม่ล้มเหลวแน่ ปัญหาก็คือเขาจะสู้กับจีอู๋ลี่อย่างไร!
จงหัวรู้ว่าการแข่งขันชั่วคราวนี้มีเพียงจีอู๋ลี่เท่านั้นทีทำได้ดี สถานการณ์ใหญ่เลวร้ายมาก จนเขาไม่สามารถนำได้อีกต่อไป เขาเก็บหุ่นอสูรไอพ่นที่ระดับต่ำไว้ ใช้แต่เพียงหุ่นระบำดาบเก็บกวาดหุ่นอสูรระดับบรอนซ์ตามชั้นบันไดสถาบันหุ่นไม่หยุด
“จีอู๋ลี่อวดฝีมือใหญ่ในวันนี้ เจ้าไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ?” หมิงจูโกรธและนั่งข้างเย่ว์หยางที่นั่งแทะข้าวโพดปิ้งบนหลังคาโรงงานผลิตหุ่นอสูร ดูเย่ว์หยางท่าทางแปลกไปเล็กน้อย เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนว่ายังยืนเฉยได้อย่างไร คุณชายหมิงจูเชื่อว่าหากดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก เด็กคนนี้จะไม่ยอมให้จีอู๋ลี่ทำงานได้ราบรื่น
“รอดูฉากดีๆ อีกต่อไป!” เย่ว์หยางยังคงสงบมาก ตราบเท่าที่คุณชายหมิงจูไม่โดนหยอกล้อเรื่อง ‘กล้ามหน้าอก’ จีอู๋ลี่จะเป็นยังไง? หรือทำอะไร คนสุดท้ายที่ยังอยู่ตรงกลางก็คือเขาเอง
จีอู๋ลี่ถอนกำลังกลับไปที่สถาบันหุ่นได้สำเร็จ
เพราะเหตุผลบางประการ หุ่นอสูรระดับทองและแพลตตินัมไม่ยอมเข้าไปใกล้สถาบัน แม้แต่หุ่นอสูรระดับเงินก็มีการโจมตีเพียงประปรายเท่านั้น หากจีอู๋ลี่ต้องเต็มใจล่าถอยแม้ว่าจะมีหุ่นอสูรแพลตตินัมสี่ตัวสูงร้อยเมตรเขาก็ไม่สามารถจัดการได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการส่งเสียงเชียร์ของทุกคน หรือเพราะความไม่ยินยอมพร้อมใจเขาหันกลับไปและเล็งดาบแสงไปที่โรงงานผลิตหุ่นอสูรและยิงพลังดาบออกไปอย่างรุนแรง
“บึ้ม!”
หลังจากเสียงระเบิดดังจนพื้นสั่นสะเทือน
สิ่งที่มองเห็นคือโรงงานผลิตหุ่นแยกออกเป็นสองส่วน
แม้ว่าโรงผลิตหุ่นอสูรจะขุดลึกลงไปในพื้นใต้ดิน ส่วนที่โผล่พ้นดินขึ้นมาไม่ถึงหนึ่งในสิบ แต่อาคารที่สูงโผล่พ้นพื้นก็มีความสูงหลายร้อยเมตร
ดาบเดียวก็ผ่าครึ่งได้.....พลังนี้สามารถพิชิตใจนักเรียนที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างสิ้นเชิง อย่างเช่นนักเรียนชั้นหัวกะทิมิกหมาป่าแห่งหอสูงและคุณชายหยางฉวนต่างเทิดทูนบูชาจีอู๋ลี่
“หุ่น..แค้นแห่งองค์ชาย!”
“หุ่นแค้นแห่งองค์ชาย!”
แม้จะมีนักเรียนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่นักเรียนยังคงตะโกนและโห่ร้องดังราวกับว่าพวกเขาต่อสู้ได้ชัยชนะอย่างสนุกสนาน
พวกเขาตะโกนร้องให้กับจีอู๋ลี่ที่สามารถผ่าโรงงานผลิตหุ่นเป็นสองเสี่ยง
ยกเว้นคนเดียวคือ เจ้าตำหนักแสงจงหัว
เขาได้แต่แค่นเสียงรังเกียจ
ตอนนี้จีอู๋ลี่ชนะใจผู้คนไปแล้ว แต่ดาบนี้ก็กักเขาไว้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย หุ่นรบแพลตตินัมล้อมเขาไว้ และวงล้อมชั้นนอกเป็นหุ่นรบระดับทองนับพันตัว และด้านนอกสุดเป็นหุ่นอสูรชั้นเงินและชั้นบรอนซ์มีมากมายเหมือนน้ำในมหาสมุทร
เมื่ออยู่ลึกลงไปในกลุ่มคลื่นหุ่นอสูร ต่อให้จีอู๋ลี่ติดปีกก็ยากจะบินหนี
อย่าว่าแต่จงหัวก็ไม่ต้องการช่วย
ต่อให้เขาต้องการช่วย ก็ไม่อาจทำภารกิจบุกฝ่าทะเลหุ่นอสูรนี้ได้
หุ่นอัศวินทองสองตนพุ่งออกมาจากสถานบันหุ่นและหายเข้าไปในคลื่นทะเลหุ่นอสูรทันที แต่ในขณะที่พวกเขาจะจมหายเข้าไป สหายห้าคนที่เหลืออยู่คุมอัศวินทองเหยียบพวกเขาเหมือนหินรองเท้าหวังจะไปช่วยจีอู๋ลี่ฝ่าออกจากวงล้อม
“ไม่ อย่าเข้ามา!” จีอู๋ลี่ตะโกนบอกเป็นครั้งแรก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเห็นแน่นอน บริวารผู้ภักดีอุทิศตนอย่างซื่อสัตย์นั้นเขาเข้าใจ
แต่เขายังต้องใช้คนอีกในอนาคต และไม่ต้องการให้ผู้ติดตามของเขาถูกกินอยู่ในทะเลหุ่นอสูร หลังจากนี้จะมีคนติดตามเขาอย่างซื่อสัตย์เพียงไม่กี่คน ด้วยความสามารถของเขาแม้ว่าหุ่นแค้นขององค์ชายก็สามารถโจมตีช่วยให้เขาหลบหนีได้โดยไม่ถูกคุกคามชีวิต
ตอนนี้พวกอัศวินทองบริวารของเขากำลังทำอย่างดีที่สุด ไม่ต้องตั้งคำถามถึงเรื่องความภักดีและความทุ่มเท พวกเขามีประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่หรือ?
หุ่นแพลตตินัมใช้แขนยักษ์จับหุ่นอัศวินทองแต่ละตัวชูขึ้น
ระเบิดอนุภาค, กัดกร่อน... ไม่มีใครต้านทานได้ อัศวินทองสองตนตายไปต่อหน้าต่อตาจีอู๋ลี่
อัศวินทองสองคนสุดท้ายที่หนีไปถึงหุ่นแค้นขององค์ชายยังไม่ทันมีเวลายืนหยัดมั่น ก็ถูกแช่แข็งกลายเป็นน้ำแข็ง เมื่ออัศวินทองล้มลงก็แตกสลายกลายเป็นน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อย พวกคุณชายหยางฉวนมองด้วยหัวใจสะท้าน อุณหภูมิอะไรกันที่สามารถแช่แข็งเหล็กกล้าแล้วทำให้แตกเหมือนแก้วบางได้?
สิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่แค่แช่แข็งเหล็กแล้วทำลาย
แต่เป็นความสามารถสุดท้าย
ไม่มีการเปลี่ยนอะไรกับหุ่นอัศวินทอง แต่ชิ้นส่วนภายในหุ่นพร้อมทั้งคนขับขี่จะถูกบีบรีดออกมาจากหน้ากากเหล็กของอัศวินทองด้วยกัน ทั้งเหล็กและร่างกายมนุษย์จะถูกดึงออกมาเป็นเส้น
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือบุรุษที่โชคร้ายยังคงอาเจียนอวัยวะภายในออกมาก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อบดออกมาทางหน้ากากอัศวิน
อวัยวะภายในทั้งหมดปลิ้นออกมาพร้อมกับชิ้นเหล็ก
เหมือนกับว่ามีมือยักษ์ที่มองไม่เห็นอัดทำลายหน้าอกและท้องของเขา
“นี่มันความสามารถอะไรกัน?” จินฉีสั่นสะท้านหวาดกลัว มิกและคุณชายหยางฉวนที่อยู่ข้างๆ เขาไม่เคยได้ยินความสามารถแปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน
“ถ้วยสุญญากาศ” จงหัวพึมพำอย่างไม่แน่ใจ
ข้างหน้าคือพลังเยือกแข็ง แต่พลังถ้วยสุญญากาศจงหัวไม่เคยเห็น
หุ่นรบไม่ใช่นักรบที่มีทักษะความสามารถด้านสนามพลัง ไม่น่าแปลกใจถ้ามีพลังลม ไฟ ดินและการโจมตีอื่นๆ หลังจากที่ถูกผลิตขึ้นมาก็สามารถเอามาจับคู่กับอาวุธต่อสู้ที่เกี่ยวข้องได้ ระเบิดอนุภาคก็พอจะกล่าวกันได้ แต่ด้วยความสามารถที่แปลกประหลาดของถ้วยสุญญากาศ มันเหลือเชื่อจริงๆ ต้องเป็นคนแบบไหนจึงจะสร้างหุ่นรบแบบนี้ได้?
สร้างหุ่นรบแบบนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์อะไร
ถ้าใช้เพียงเพื่อปกป้องโรงงานผลิตหุ่น จำเป็นหรือไม่ที่สร้างหุ่นอสูรแบบนี้ขึ้นมา
จงหัวไม่สามารถค้นพบ ไม่ใช่เขาเท่านั้น แม้แต่จีอู๋ลี่ก็เป็นพยานได้ในช่วงไตรมาสหลัง เขาก็ยังมองไม่พบ
“เกิดอะไรขึ้น” คุณชายหมิงจูใช้ศอกสะกิดเย่ว์หยางขอคำอธิบาย ถึงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วเขาหยอกล้อเล่นหัวก็ตาม แต่บางครั้งคุณชายหมิงจูก็รู้สึกว่าเย่ว์หยางยังคงเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกอย่าง กิจการต่างๆ ที่ไม่รู้ต้องถามเขาแน่นอน
“เรื่องมันง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นระเบิดอนุภาค กรดกัดกร่อนรุนแรง พลังแช่แข็ง และถ้วยสุญญากาศ มันไม่ใช่เป็นความสามารถของหุ่นรบ หุ่นรบแพลตตินัมสูงร้อยเมตรสี่ตัวนี้มีแต่เพียงพลังป้องกันและใช้กำลังต่อสู้อย่างแท้จริง แต่ความจริงแล้วพวกมันมีคนอยู่ข้างใน” เมื่อเย่ว์หยางพูดถึงเรื่องนี้คุณชายหมิงจูร้องค้านทันทีและส่ายหน้าปฏิเสธ “เป็นไปไม่ได้ที่นี่คือหุบเขามนุษย์ เนื่องจากข้อจำกัดของกฎสวรรค์โบราณไม่มีใครสามารถใช้พลังวิทยายุทธ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะแฝงเร้นและสนามพลัง!”
“มีความเป็นไปได้ที่ละเอียดยิ่งกว่า หุ่นรบเลือดเนื้อที่สร้างโดยว่านหมอ ก็คือคนธรรมดาที่ไม่มีจิตสำนึกส่วนตัว ไม่มีวิญญาณและมีแต่ร่างกายที่มีชีวิตกลายเป็นหุ่นเชิดโดยผู้อื่น” ใบหน้าของเย่ว์หยางจริงจังและพยักหน้ายืนยัน “ถ้าเป็นอย่างนี้ ศพเดินได้บางทีความสามารถทักษะแฝงเร้นบางอย่างอาจจะรักษาไว้ได้ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือหุ่น แต่เป็นหุ่นชีวิตที่คนสร้างขึ้น!”
“อ๊า...” คุณชายหมิงจูได้ยินเช่นนั้นตัวสั่นทันที “ใครกันที่ชั่วร้ายขนาดนั้น ใช้คนสร้างหุ่น?”
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการรู้แน่นอน” เย่ว์หยางมองท้องฟ้า
พึมพำอยู่นาน “ในหุบเขามนุษย์ เกิดอะไรขึ้นในตอนท้ายกันแน่ ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงเป็นเช่นนี้? ข้าเชื่อว่าในสมัยโบราณเมื่อหุบเขามนุษย์ถูกสร้างขึ้นไม่เคยมีเรื่องอย่างในวันนี้ ใครทำลายคำสั่งและกฎของที่นี่?”
คุณชายหมิงจูตะลึง ก่อนจะกล่าวขึ้น “ไปถามสามสาวทูตสวรรค์ก็ได้ พวกนางน่าจะรู้ความจริง!”
เย่ว์หยางยิ้ม “พวกนางรู้แน่นอน มิฉะนั้นทำไมพวกนางถึงต้องตามหาคนเกิดใหม่อย่างเราให้ตามหาวัตถุโบราณด้วยเล่า?”