ตอนที่ 46 ลานหินแห่งเวลา
ตอนที่ 46 ลานหินแห่งเวลา
ทุกอย่างนั้นกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากลีโอออกมาจากลานหินเสาสามต้นด้านหน้า
“มันคืออะไรกัน อะไรคือต้นเหตุที่ทำให้มันเกิดขึ้น” ลีโอพยายามทำความเข้าใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคืออะไร ก่อนที่ลีโอจะลองเข้าไปด้านในอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไม่ตื่นตกใจจนหนีออกไป แต่ว่าสังเกตการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ทุกอย่างนั้นกลับมาเป็นปกติแล้วพอลองขยับมือไปมาก็ไม่มีภาพซ้อนทับทิ้งไว้อีก
“แปลกจริง ๆ เอ๊ะนั้นนี่มัน”
ลีโอค้นพบว่าที่ลานหินนั้นมีวงแหวนปรากฏขึ้นมา เมื่อนับดูแล้วจะพบว่ามันมีทั้งหมด 100 วงแหวนพอดีไม่มีผิดเพี้ยน
“วงแหวนเหล่านี้กำลังแสดงถึงสิ่งใด” ลีโอนั่งลงสังเกตมัน ก่อนหน้านั้นไม่พบเห็น แต่ตอนที่เกิดเรื่องราวประหลาดกับปรากฏขึ้นมา
หลังจากจ้องมองอยู่นานก็พบกับเบาะแส เส้นวงนอกสุดนั้นเหมือนจะจางลงเล็กน้อยมากซะจนแทบไม่สลักสำคัญ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลกย่อมเป็นคำใบ
ลีโอลองออกมาจากด้านในลานหินและมองดูมันจากข้างนอกก็พบว่าเส้นแสงวงนอกนั้นหยุดนิ่งไม่มีการลดแสงสว่างอีกแล้ว และเมื่อเข้าไปด้านในวงแสงรอบนอกสุดก็เริ่มลดแสงสว่างลง
“สิ่งนี้ถ้าข้าคิดไม่ผิดคงเป็นตัวแสดงสถานะพลังงาน หนึ่งร้อยวงแหวนหมายถึงพลังงาน 100%”
ลีโอเข้า ๆ ออก ๆ เพื่อดูว่านอกจากแสดงสถานะพลังงานแล้วมันทำอะไรอื่นได้อีก แต่สุดท้ายก็ไม่พบเบาะแสอื่นใด
“คงต้องไปถามดู” ลีโอเหลือบไปมองไข่สีขาวที่อยู่ไม่ไกล ตอนที่ดินแดนนี้เปลี่ยนแปลงและผลักเอาแปลงสมุนไพรของเขาออกไป ไข่สีขาวก็โดนผลักออกไปด้วย
“เจ้ารู้ข้อมูลถึงของสิ่งนั้นไหม” ลีโอสอบถามไข่สีขาว
แต่ไข่สีขาวนั้นกลับตอบมาด้วยการปล่อยอนุภาควิญญาณ 3 ครั้ง ซึ่งความหมายมันไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก เมื่อไม่ได้คำตอบลีโอจึงได้แต่ไว้ค้นหาทีหลัง
“ช่างเถอะ ข้าควรจะเอาผงวิญญาณไปขายและซื้ออุปกรณ์เขียนยันต์กับของอื่น ๆ มาเพิ่มก่อน”
ลีโอออกมาด้านนอกและหยิบเอาขวดผงวิญญาณขนาดเท่าเล็บมือออกมา แต่แล้วเขาก็ต้องตื่นตกใจกับภาพที่เห็นเมื่อขวดที่ก่อนหน้านั้นเต็มไปด้วยผงวิญญาณกลับกลายเป็นว่างเปล่าไปเสียแล้ว
“เฮ้ย...ได้ยังไง ก็ก่อนหน้านั้นมันเต็มอยู่เลย” ลีโอรีบหาดูว่าตนนั้นทำสลับกับขวดอื่น ๆ หรือเปล่า แต่เขาก็พบว่าทั้งตัวนั้นไม่มีขวดอื่นอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสลับกันแน่นอน
ขณะที่ลีโอยังงุนงงกับการหายไปของผงวิญญาณแพดสื่อสารที่พกติดตัวก็มีการแจ้งเตือนเข้ามา ลีโอจึงหยิบขึ้นมา แต่กลับพบว่าไม่มีใครส่งข้อความมาเป็นเพียงการแจ้งเตือนการคลาดเคลื่อนของเวลา ซึ่งแพดสื่อสารของเขาเวลากลับเดินเร็วกว่าเวลาปกติ 9 นาที
ลีโอกำลังกดเพื่อให้แพดสื่อสารเชื่อมต่อสัญญาณและปรับเวลาไปเป็นเวลาปัจจุบัน แต่นิ้วมือของลีโอก็ต้องหยุดชะงักนิ่งอยู่แบบนั้น
ก่อนที่ลีโอจะมองสลับซ้ายขวากับของในมือทั้งสองไม่ว่าจะเป็นขวดผงวิญญาณที่ว่างเปล่าหรือการคลาดเคลื่อนของเวลาที่ตัวแพดสื่อสาร
ลีโอจัดการปรับเวลาให้ตรงกับเวลาตามปกติ ก่อนจะรีบกลับเข้าไปด้านในโลกมิติและเข้าไปที่ลานหิน
“นาฬิกาจับเวลา เริ่มการจับเวลา” ลีโอกล่าวกับแพดสื่อสารของตนเองและมองดูเวลาที่ถูกจับ ตัวเลขค่อย ๆ เพิ่มทีละ 1 วินาทีไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไปถึงเวลาที่ 3 นาที ลีโอรีบหยุดเวลาทันที จากนั้นก็ออกไปด้านนอกโลกมิติ
ครั้งนี้การแจ้งเตือนจากแพดสื่อสารดังขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏว่าเวลาของแพดสื่อสารนั้นคาดเคลื่อนที่ 1 นาทีพอดีไม่มีผิดเพี้ยน
“เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย” ลีโอเผยรอยยิ้มมุมปากก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเพียงคนเดียว
“ฮ่า ๆ ข้าโชคดีแล้วนั้นมันคือลานหินแห่งเวลาไม่ผิดแน่นอน ลานหินแห่งนั้นสามารถเร่งเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิมได้ 3 เท่า ส่วนเรื่องผงวิญญาณที่หายไปของข้านั้นก็ชัดเจนว่ามันโดนลานหินแห่งเวลาดูดกลืนไปใช้เป็นพลังงานและตอนที่เกิดภาพซ้อนกันนั้น นั่นเพราะว่าลานหินแห่งเวลากำลังเริ่มการชาร์จพลังงานจึงทำให้เวลาด้านในบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ”
ลีโอรู้ดีว่าสิ่งนี้มีคุณค่ามากแค่ไหน ถ้าเขาอยู่ด้านใน 3 วันก็เท่ากับเวลาด้านนอกแค่ 1 วันเท่านั้น
“แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่แน่ใจ ลานหินแห่งเวลาดูเหมือนจะใช้พลังงานจากผงวิญญาณ ถ้าอย่างนั้นพลังงานที่มีอยู่ 100% นั้นหมายถึงมันเร่งเวลาให้ได้นานเท่าไหร่”
ในเมื่ออยากรู้ลีโอก็เข้าไปด้านในเพื่อพิสูจน์ทันที
ลีโอนั่งลงจ้องมองดูวงแหวนขอบนอกสุดที่แสดงถึงระดับของพลังงานของลานหินแห่งเวลา แต่พอนั่งไปสักพักลีโอก็พบว่าแม้แสงจะอ่อนลง แต่ก็ช้ามากจนคนอย่างลีโอที่มักทำอะไรอยู่ตลอดเวลาก็อดที่จะนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ใช้เวลานี้ซ้อมทักษะดาบพื้นฐานไปด้วยจะได้ไม่เสียเวลาเปล่า”
ลีโอเริ่มการฝึกซ้อมต่อทันที โดยเริ่มจากท่าฟันดาบพื้นฐานฟันแบบเดิมซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งครบ 3000 ครั้งด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัวลีโอจึงหยุดพัก พอฟื้นตัวแล้วก็เริ่มการฝึกท่าฟันและท่าเท้าไปด้วย
การทำแบบเดิมซ้ำ ๆ ช่วยให้ร่างกายของลีโอจดจำท่าทางที่ถูกต้องได้เรื่อย ๆ แม้จะไม่มีห้องฝึกซ้อมมาคอยบอกจุดผิดพลาด แต่ลีโอที่เป็นหมอผีฝึกหัดมีพลังจิตสูงกว่าคนทั่วไปก็สามารถคำนวณได้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาอยู่คล้ายกับท่าพื้นฐานที่ถูกต้องไม่ต่ำกว่า 70-80 % แน่นอน
ขณะที่ฝึกซ้อมลีโอก็หยุดดูแสงสว่างของวงแหวนว่าอ่อนลงไปมากแค่ไหนและเทียบกับเวลาในแพดสื่อสารดู
“แสงอ่อนลงไปเกือบ 1 ใน 10 ส่วนแล้ว เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง 24 นาเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าถ้าข้าเดาไม่ผิดวงแหวนพลังงานพวกนี้ 1 วง เท่ากับเวลา 24 ชั่วโมง”
“ถ้าอย่างนั้นพลังงานในลานหินแห่งเวลา 100% เทียบเท่ากับว่าข้าสามารถเร่งเวลาได้ต่อเนื่อง 100 วัน เท่ากับเวลาด้านนอกแค่ 1 เดือนกับอีกเศษไม่กี่วันเท่านั้น”
ลีโอรู้สึกตื่นเต้นมาก
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะการเติมพลังงานในแต่ละครั้งต้องใช้ผงวิญญาณที่เป็นเงินมากถึง 10,000 ดากาซ”
เมื่อมีได้ก็ต้องมีการจ่าย ลีโอเข้าใจข้อนี้ดี
“แค่ 10,000 ดากาซจะนับเป็นอะไรได้เมื่อแลกกับการเร่งเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า”
“แต่ว่าตอนนี้ข้าไม่มีผงวิญญาณไปขายเพื่อซื้อวัตถุดิบการเขียนยันต์กลับมาแล้วและไหนจะยาอีกนี่ก็ใกล้เวลาที่ต้องไปฝึกที่บ้านของจิมแล้วด้วยคงต้องเอายันต์ที่มีไปขายก่อน ถ้ารวมกับเงินที่เหลือคงเพียงพอ”
คิดได้ดังนั้นลีโอก็ออกจากลานหินแห่งเวลาหอบเอายันต์ที่เคยเขียนไปขายแลกดากาซ แต่ว่าเขาขายเพียงยันต์ 3 ชนิดเท่านั้น โดยยันต์ที่ขายจะมี ยันต์ไฟ ยันต์ลม ยันต์ดิน ส่วนยันต์คลื่นเสียงโหยหวนมีไม่มากจึงได้แต่เก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินก่อน
หลังจากขายยันต์และได้เงินมาลีโอก็จัดการเหมาซื้อกระดาษยันต์ที่มีขายมาจำนวน 1,000 แผ่นทันที ที่จริงอยากจะได้มากกว่านี้ เพียงแต่การที่ไม่มีผู้จารึกมาที่เหมืองมรณะทำให้ไม่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์เขียนยันต์มามากนัก นอกจากของที่สั่งมาไว้เมื่อนานมาแล้ว
แม้จะนาน แต่กระดาษยันต์ก็คือกระดาษยันต์ มันไม่ได้เสื่อมคุณภาพลงมากนัก
ส่วนน้ำหมึกนั้นดูเหมือนจะมีปัญหา เนื่องจากน้ำหมึกส่วนใหญ่นั้นทิ้งไว้นานจนแห้ง ลีโอจึงต้องซื้อเลือดของสัตว์มาผสมเพิ่ม
เลือดของสัตว์นั้นยังมีขายอยู่เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกหมอผีนักปรุงยาใช้ในการผสมยาบางตัว
หลังจากนั้นลีโอก็ชื่อยาเสริมความแข็งแกร่งมาอีกหลาย 10 ขวด เพื่อใช้ในการฝึกฝนและยาฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณมาเพิ่มด้วยแต่ราคาก็แพงเอาเรื่อง ของเก่าเขาเหลืออยู่ไม่กี่ขวดจึงซื้อมาเพิ่มแค่ 5 ขวดพอ
สุดท้ายลีโอเดินออกมาจากร้านในสภาพเหลือเงินดากาซอยู่ราว ๆ 120 เหรียญเท่านั้น
“เหลือข้าคงต้องหาเงินให้มากขึ้น” ลีโอถอนหายใจพร้อมกับมองดูเงินในถุงของตัวเอง
ลีโอเก็บของทั้งหมดเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพเหลือเพียงยาเสริมความแข็งแกร่ง 1 ขวดที่ต้องไว้ใช้และตรงไปที่บ้านของจิมเพื่อฝึกฝนที่ห้องต่อสู้
โดยมีโปรแกรมของระบบห้องต่อสู้ที่จิมใส่ไว้คอยควบคุมการฝึกซ้อม พอหมดวันลีโอก็ตรงกลับไปที่ห้องพักของตนเองในทันที
แต่ว่าตอนนั้นลีโอก็พบว่ามีคนมาดักรอเขาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสเวน
“ไง ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้วไม่คิดว่าเจ้าจะออกไปข้างนอกนานขนาดนี้” สเวนเดินเข้ามาทักทายลีโอในทันที
“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ลีโอถามกลับไป
“เจ้าลืมแล้วเหรอเรื่องที่เคยคุยกันว่าข้าจะให้เจ้าช่วยจารึกอักขระวิญญาณลงในอาวุธ” สเวนทวงถาม
ลีโอนึกขึ้นได้ เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องราวมากมายจนไม่มีเวลาไปคิดถึงคำสัญญาที่เคยให้กับสเวนไว้
“ช่วงนี้ข้าไม่ว่าง แต่ว่าเจ้าสามารถเอาของมาทิ้งไว้ได้ ถ้าเสร็จแล้วข้าจะติดต่อไป ถ้าตกลงพรุ่งนี้เจ้าส่งของมาไว้ที่ห้องข้าได้” ลีโอบอกไปตามตรงรวมทั้งเงื่อนไขของเขา แม้จะรับงานแต่เพราะยังวุ่นอยู่กับการฝึกฝนทักษะดาบจึงทำให้ลีโอไม่มีเวลาไปลองจารึกดาบให้กับสเวน
สเวนพยักหน้าตกลง เนื่องจากว่าลีโอเคยบอกแล้วว่าตนนั้นไม่ค่อยมีเวลา แต่อย่างไรการรอลีโอก็ยังดีกว่ารอให้ผ๔ฃู้จารึกคนอื่นลงมาที่นี่ แบบนั้นคงยากมาก
หลังจากสเวนกลับไปลีโอก็เข้าไปในห้องและเข้าสู่โลกมิติดวงตาผนึกเทพในทันที