ตอนที่ 191 ขาเนียนนุ่ม(ตอนฟรี)
ควันและฝุ่นม้วนตัว เสียงกรีดร้องฆ่าฟันดังขึ้นระงม
พอเห็นฉากด้านหน้าเขา ซูสือก็ตัวแข็งทื่อ
นี่คือการฝึกซ้อม?
มันคือการต่อสู้จนตัวตายชัดๆ!
ผู้บัญชาการหนุ่มหลายคนนำทัพ และทหารก็แบ่งเป็นฝ่าย เข่นฆ่ากันไม่หยุด
แม้อาวุธจะถูกแทนด้วยดาบไม้ กลิ่นเลือดก็ยังคลุ้งไปทั่ว บางครั้ง คนจะถูกส่งออกสนามด้วยบาดแผลเต็มตัว
หลังพักฟื้นสักพัก พวกเขาก็จะหยิบอาวุธขึ้นใหม่และวิ่งไปสู้
พอเห็นสภาพของมัน เสียงของซูสือก็กระตุก“การฝึกนี้จะโหดเกินไปไหม!”
“ถ้าเจ้าไม่หลั่งเลือดเสียตอนนี้ เจ้าจะเสียชีวิตในเวลาสงคราม”
เฟิงเฉาเกอมองมัน“บนสนามรบ สิ่งสำคัญสุดคือจิตวิญญาณที่ไร้ความกลัว ยิ่งกลัวตาย เจ้าจะยิ่งตายเร็ว”
พอคิดถึงกองทัพเกราะดำ ซูสือก็ไม่สามารถหาเหตุผลมาเถียงได้
การฝึกซ้อมนี้ก็เพื่อให้ทหารทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศของสนามรบจริง
ซูสือเพ่งมอง
เขาเห็นว่าพวกเขาไม่ได้เข่นฆ่ากันแบบไร้สติ แต่ทหารที่ต่างประเภทจะร่วมมือกันอย่างเป็นระเบียบ ผลัดกันรุกและรับอย่างไร้ที่ติ แม้กระทั่งใช้ค่ายกลรบ
นี่แค่ทหารธรรมดาที่เฝ้าที่ราบกลาง
พวกหัวกะทิของกองทัพเช่นหูเปิ่น เสวียนเจียกับกุยเว่ยจะไม่เป็นแบบนี้
นี่แสดงให้เห็นถึงพลังของหลินหลาง!
“ถ้าฝ่ายมารเปิดสงครามเต็มรูปแบบกับจักรวรรดิจริง โอกาสชนะจะมีเท่าไร?”
ซูสือครุ่นคิด
บางทีพลังรบระดับสูงสุดของสำนักยักษ์มารขุมนรกคงแข็งแกร่งมาก
แต่ถ้ามองโดยรวม มันยังด้อยกว่าราชวงศ์
การที่เฟิงเฉาเกอสามารถปกครองจักรวรรดิได้นั้น นางไม่ได้พึ่งพาแค่ฐานบ่มเพาะของตัวเอง
นางยังปกครองบ้านเมืองเก่งและบัญชาการรบเก่ง
ซูสือมองผู้หญิงข้างเขาอย่างจริงจัง
คิ้วของเฟิงเฉาเกอขมวด“ข้าบอกให้เจ้ามาดูการฝึกซ้อมรบ เจ้ามาจ้องข้าทำไม?”
ซูสือส่ายหัว“ข้าแค่คิดว่าบางทีท่านคงเป็นจักรพรรดินีที่ดีจริงๆ”
เฟิงเฉาเกอตกตะลึง
นางไม่คิดว่าจู่ๆอีกฝ่ายจะพูดชมนาง
“หรือว่าเจ้าอยากออกจากด้านมืดและเข้าสู่แสงสว่าง?”
หัวใจของนางเต้นกระหน่ำ นางกำลังจะพูดบางสิ่งแต่ก็เห็นซูสือลูบคางของเขาและสังเกต“แต่แค่มีความเป็นผู้หญิงน้อยไปหน่อย ไม่เหมาะกับการเป็นภรรยานัก”
ใบหน้าของเฟิงเฉาเกอกระตุก
ไม่เหมาะ…จะเป็นภรรยา?
เขาพูดไร้สาระอะไร?
“สามหาว!”
เฟิงเฉาเกอจ้องเขาโกรธๆ“ข้าจะไปเป็นภรรยาของใครได้ยังไง?”
ซูสือพูดตรงๆ“ต่อให้ท่านจะเย็นชาและแข็งแกร่ง ท่านก็ยังเป็นผู้หญิง”
ลมหายใจของเฟิงเฉาเกอสะดุด นางรีบเบือนหน้าหนี
คนคนนี้ปากกล้าจริงๆ!
บนสนารบด้านล่าง การต่อสู้ยังคงดำเนิน แต่บรรยากาศระหว่างทั้งสองสงบ
สายตาของเฟิงเฉาเกอว่างเปล่าและเหม่อลอย
คำพูดของซูสือดังสะท้อนในหัวนางอยู่นาน
“ความเป็นผู้หญิง?”
คำนี้แปลกเกินไปสำหรับนาง
นางไม่เคยเห็นตัวเองเป็นผู้หญิงเช่นกัน
แต่ตอนนางได้ยินซูสือพูด นางก็รู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อย
“ความเป็นผู้หญิงหมายความว่าอย่างไรกัน?”
เฟิงเฉาเกอครุ่นคิดเงียบๆ
ตอนนี้ ภาพแวบผ่านหัวนาง
“เขาดูเหมือนจะชอบแบบนั้น…แต่ที่นี่มีคนตั้งเยอะ…”
เฟิงเฉาเกอลังเลอยู่นานก่อนตัดสินใจและหายตัวไป
พอมองที่นั่งว่างเปล่าข้างเขา ซูสือก็เกาหัว“นางโกรธ?”
แต่วินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวใหม่
ใบหน้าของเฟิงเฉาเกอไร้อารมณ์
ซูสือพูดอย่างอยากรู้“ท่านทำอะไร…หืม?!”
เขาตาเหลือกและขากรรไกรก็แทบตกถึงพื้น
เขาพบเห็นว่าที่ระหว่างขาของชุดหงส์ ถุงน่องดำสามารถเห็นได้ลางๆ มันรัดรอบขาเรียวของนางไว้แน่น!
ซูสือพูดอย่างเหลือเชื่อ“ท่านไปเปลี่ยนชุด?”
เฟิงเฉาเกอมองเขา“ข้ามีความเป็นผู้หญิงหรือยัง?”
ซูสือกลืนน้ำลาย
นางเป็นจักรพรรดินีที่ไม่ยอมใครเลยจริงๆ!!
หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง“ไม่ว่าท่านจะมีความเป็นผู้หญิงไหม ข้าก็ต้องค้นหาก่อน”
“ยังไง?”
เฟิงเฉาเกอยังไม่ทันตอบสนอง ทั้งตัวนางก็แข็งทื่อ
ตอนนางก้มมอง นางเห็นมือใหญ่ลอดผ่านชุดของนางมาและวางบนขาของนาง“เจ้าทำอะไร?”
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและสับสน
ซูสือพูดด้วยใบหน้าตายด้าน“มันรู้สึกนุ่มและเนียนมาก”
“??”
แก้มของเฟิงเฉาเกอขึ้นสีแดง หน้าอกของนางพองขึ้นและยุบลงอย่างแรง
“ตาย!!!”
ตอนที่นางกำลังจะผลักซูสือ ขุนนางหญิงก็เดินมา ก้มหัวและถาม“ฝ่าบาท กองทัพเกราะเสือฝึกเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ท่านมีอะไรจะสั่งเพิ่มเติมไหมคะ?”
“เสร็จแล้ว?”
เฟิงเฉาเกอมองกลับไป เห็นว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว…
ในลานฝึก ทหารยืนเป็นแถว สายตาจับจ้องมาที่นาง
โชคดี นางกับซูสือนั่งใกล้กันมาก และชุดของนางก็เป็นชุดตัวกว้าง จึงไม่มีใครเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
เฟิงเฉาเกอกระแอมลำคอ“ไม่เลว ข้าพอใจมาก”
เสนาบดีฝ่ายทหารกับเหล่าแม่ทัพถอนหายใจโล่งอก
“ที่ดวงตะวันและจันทราส่องแสง จะไร้อำนาจอื่นใดนอกจากของฝ่าบาท ที่ใดมีแม่น้ำใหล นั่นคือดินแดนของจักรวรรดิหลินหลาง!”
“ขอให้ฝ่าบาทมีอายุยืนยาวเป็นพันปีหมื่นปี!”
เหล่าทหารพากันคุกเข่า เสียงของพวกเขาดังก้องไปทั่ว
แต่เฟิงเฉาเกอกลับรู้สึกไม่สบายตัว
ด้านหลังนางคือเหล่าขุนนางและทหารคนสำคัญ ส่วนด้านหน้านางคือนักรบนับหมื่น และข้างกายนาง มีคนสารเลวที่จับขานางอยู่!
ขุนนางหญิงถาม“เช่นนั้นแล้ว ให้กองทัพอื่นเข้ามาต่อเลยหรือไม่เจ้าคะ?”
“อืม”
เฟิงเฉาเกอพยักหน้า
ขุนนางหญิงก้มหัวแล้วถอยไป
เหล่าแม่ทัพสลายตัวเหมือนคลื่นน้ำและอากาศก็กลายเป็นเงียบสงบ
ซูสือพลิดเพลินกับขาเนียนนุ่มของนาง ขณะที่เสียงลอดไรฟันของเฟิงเฉาเกอดังข้างหูเขา“ข้าจะนับสาม ถ้าเจ้าไม่ปล่อย ข้าจะตัดมือเจ้า!”
ตอนนางนับสาม ซูสือก็รีบดึงมือออก
เฟิงเฉาเกอกัดฟัน“เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
โดยปกตินางจะไม่ถือสา
แต่เขากล้าทำมันในที่สาธารณะ ซึ่งเกินขอบเขตที่นางจะรับได้
ซูสือพู“ทำไมไม่พูดมันตอนเจ้ากอดข้าหลับละ?”
เฟิงเฉาเกอสำลักอากาศและรีบพูด“นี่ไม่เหมือนกัน…นอกจากนี้ เจ้าไม่สามารถทำมันในที่สาธารณะได้สิ?”
ซูสือเข้าใจ“งั้นหมายความว่าในที่ส่วนตัวข้าทำได้ใช่ไหม?”
“…ข้าไม่อยากพูดกับเจ้าแล้ว!”
เฟิงเฉาเกอรู้สึกเหมือนนางกำลังจะตายเพราะความโกรธ
ซูสือยิ้มและกระซิบข้างหูนาง“จริงๆแล้ว ตอนนี้ฝ่าบาทดูมีเสน่ห์แบบผู้หญิงมากเลยละ”
หัวใจของเฟิงเฉาเกอเต้นแรง และสีแดงก็ลามขึ้นหูนาง
นางพยายามผลักเขาออกไป แต่ตัวของนางกลับไร้เรี่ยวแรง
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”