ตอนที่ 1090 เจ้าจะทิ้งข้าหรือ
“มีใครบางคนมาถึงที่นี่แล้ว” คุณชายหมิงจูขมวดคิ้ว และเขามีสีหน้าสงสัยทันที
“เจ้าหมายถึงว่ามีบางคนได้รับภารกิจนี้ด้วยหรือ?” เย่ว์หยางสะท้านใจเนื่องจากเขาและหมิงจูสามารถรับภารกิจได้ คนอื่นก็มีโอกาสรับได้เช่นกัน ภารกิจประเภทนี้เป็นการแข่งขันอย่างหนึ่งมาตั้งแต่โบราณกาลแล้วเป็นความท้าทายที่ผู้พเนจรที่ยอดเยี่ยมทุกคนมีสิทธิ์ลองเช่นเดียวกับการฝึกฝนอสูรในหุบเขาอสูร มากกว่าเป็นการมาพบเป็นส่วนตัวของหญิงสาวชุดขาวทั้งสาม
“ข้ารู้สึกได้ถึงข้อมูลบางอย่างที่หลงเหลืออยู่ในพื้นดินหลังจากตรวจหาอย่างเต็มที่ความคิดของคนผู้นี้ทรงพลังมาก แทบทัดเทียมกับเทพ อาจเป็นจีอู๋ลี่ก็ได้!” คุณชายหมิงจูพยักหน้าและให้คำตอบแก่เย่ว์หยาง
“จีอู๋ลี่มาถึงที่นี่แล้วหรือ?” ตอนนี้เย่ว์หยางพบว่าพลังตรวจสอบของเขาไม่ดีเท่ากับคุณชายหมิงจู
ถ้าพลังที่ซ่อนอยู่ของเขาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่เขาสามารถใช้พลังจักษุญาณทิพย์ได้โดยไม่ถูกจำกัดและด้วยปณิธานปราณราชันย์และพลังกฎสวรรค์น้อยใช้ค้นหาทั่วยอดเขาตะวันออก เย่ว์หยางคาดว่าคงทำได้ไม่ดีกว่าหมิงจูและหมิงจูอาจทำได้ดีกว่ามาก
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นสภาพปกติ เย่ว์หยางคงไม่ดีเทียบเท่าจริงๆ
ความสามารถในการสัมผัสรู้ของคุณชายหมิงจูเหนือกว่าเย่ว์หยางคาดว่านอกจากทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน คงไม่มีใครเทียบได้
การได้รับทราบข้อมูลร่องรอยว่าจีอู๋ลี่มาทำให้อารมณ์ของหมิงจูค่อนข้างตึงเครียดราวกับว่าเขากำลังรอศัตรูอยู่เขาอาจกระโดดออกมาและเริ่มโจมตีคนทั้งสอง ในทางตรงกันข้ามเย่ว์หยางค่อนข้างสงบ หากจีอู๋ลี่ยังคงอยู่ที่นั่น สายเกินกว่าจะจากไป แต่ข้างหน้าคือการต่อสู้และที่คือยอดเขาเทียนผิงแห่งหุบเขามนุษย์จีอู๋ลี่ไม่สามารถแสดงฝีมือได้แม้ว่าเขาจะยอดเยี่ยมเพียงไหนก็ตาม หากเป็นการต่อสู้ของหุ่นรบกับหุ่นรบเย่ว์หยางในตอนนี้อาจตบอกและพูดว่า ‘ก็เข้ามาสิ ใครจะกลัวใครกันแน่!’
จุดที่สำคัญที่สุด
เย่ว์หยางเชื่อว่าแม้ว่าสำนึกของเขาจะโง่ แต่เขาจะไม่ยอมให้จีอู๋ลี่เข้ามารังแกเขาง่ายๆ
จีอู๋ลี่หลังจากใช้พลังจิตค้นหาร่องรอยพลังงานที่เหลืออยู่เบาบางมากในยอดเขาตะวันออกมันเบาบางเกินไป เย่ว์หยางไม่สนใจก็เลยไม่รู้สึก แต่ถ้าจีอู๋ลี่ซุ่มซ่อนอยู่ไหนสักแห่งความรู้สึกถึงวิกฤติของเย่ว์หยางในสนามต่อสู้นั้นไม่น้อยไปกว่าทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเขารู้สึกได้ทันที... ดังนั้นจูอู๋ลี่ไม่ได้อยู่ยอดเขาตะวันออกแน่นอน
ฉะนั้นจีอู๋ลี่ไม่อยู่ในยอดเขาตะวันออกแน่นอน
ในเมื่อเขาไม่อยู่ที่นั่นทำไมเย่ว์หยางจึงรู้สึกกลัว?
“นอกจากพลังจิตจีอู๋ลี่ที่ตกค้างแล้วยังมีคนแปลกประหลาดอีกจำนวนหนึ่ง” คุณชายหมิงจูไม่แน่ใจว่าใครจึงต้องอดทนเปรียบเทียบความแข็งแกร่งกับจีอู๋ลี่?
“ข้ารู้ว่าเป็นใคร!” เย่ว์หยางไม่ต้องคิดมาก เขารู้แล้วว่าเป็นใคร
จอมปีศาจไคเทียน!
ถ้าไม่ใช่เพราะคัมภีร์อัญเชิญสำนึกเทพและอสูรพิทักษ์ ฯลฯ ถูกผนึกไว้ในวิหารปีศาจฟ้าแห่งหุบเขาปีศาจ จอมปีศาจไคเทียนแข็งแกร่งมากกว่าจีอู๋ลี่ที่ว่ากันใกล้เคียงระดับเทพแน่นอน เมื่อจอมปีศาจไคเทียนอาละวาดอยู่ในแดนสวรรค์จีอู๋ลี่ยังไม่เกิด! แน่นอนว่าจอมปีศาจไคเทียนยังถูกผนึกพลังไว้อีกครึ่งหนึ่งทั้งพลังของเขาก็สูญเสียไปมาก แต่เย่ว์หยางก็แทบจะรับมือไม่ได้จึงยังด้อยกว่าจีอู๋ลี่ที่อยู่ในสภาพสูงสุด
โดยเฉพาะแค่ความสามารถหลบหนีจากผนึกโบราณก็บ่งบอกให้รู้ว่าจอมปีศาจไคเทียนนั้นน่าทึ่งเพียงไหน
เทียบกับจอมปีศาจไคเทียนแล้วสุดยอดนักสู้ระดับเดียวกันไม่ว่าจะเป็นมังกรปีศาจ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลียังไม่อาจทำตามลำพังได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของผนึกแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ผนึกของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและมังกรปีศาจนั้นน่าสิ้นหวัง
แต่ผนึกของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและจอมปีศาจไคเทียนไม่ไกลกันเลย
ในบรรดาสี่สุดยอดนักสู้นั้นมีแต่จอมปีศาจไคเทียนเท่านั้นที่หลบหนีความยากลำบากออกมาได้เขายอมสละสำนึกเทพ และคัมภีร์อัญเชิญได้เพื่อต้องการอิสระนี่เป็นจุดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจอมปีศาจไคเทียนนั้นทรงพลังเพียงไหนไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ ไม่มีสำนึกเทพและไม่มีอสูรพิทักษ์ ฯลฯ นอกจากนี้เขากับเย่ว์หยางได้สู้กันมาแล้วในหุบเขาปีศาจ คิดว่าจีอู๋ลี่คงทำเช่นนี้ไม่ได้
ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคัมภีร์อัญเชิญสำนึกเทพและอสูรพิทักษ์ จีอู๋ลี่กล้าสู้กับเย่ว์หยาง เย่ว์หยางรับประกันได้ว่าสามารถมันเอาชนะได้
เหมือนกับสูญเสียพื้นฐานพลัง!
สิ่งที่จอมปีศาจไคเทียนไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแท้จริงก็คือชะตากรรมไม่ใช่เย่ว์หยางในปัจจุบัน หรือจีอู๋ลี่ที่มีพลังเหนือเขาชั่วคราว
คุณชายหมิงจูฟังเรื่องเล่าจากเย่ว์หยางเขาพยักหน้าและเรื่องราวเกี่ยวกับจอมปีศาจไคเทียนดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินมาก่อนและเป็นที่รู้จัก แม้ว่าจอมปีศาจไคเทียนซึ่งสูญเสียพลังไปมากตอนนี้กลายเป็นพยัคฆ์แก่ไร้เขี้ยว แต่ย่อมไม่ใช่ตัวดีแน่นอน
เขาระมัดระวังเย่ว์หยาง
คุณชายหมิงจูเห็นด้วยเป็นอย่างมาก
“จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนมาที่นี่ อย่างนั้นเราไม่ต้องไปหามัน” เย่ว์หยางไม่คิดว่าเขาจะพบโบราณวัตถุแต่อย่างใดหากค้นหาตามหลังทั้งสองคนนี้ถ้าทั้งจีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนไม่สามารถหาได้พบ อย่างนั้นเขากับหมิงจูก็เสียเวลาและสิ้นเปลืองพลังงานเปล่าๆไม่น่าจะหาพบ ถ้าพวกเขาพบเจอไปแล้ว อย่างนั้นเขาจะต้องเสียเวลามาที่นี่ทำไม?
แต่คุณชายหมิงจูรู้สึกว่าเสียดายถ้าจะจากไปลักษณะนี้
“ให้ข้าคิดดูก่อน” เย่ว์หยางนึกถึงคำของหญิงสาวชุดขาวทั้งสามคนอย่างรอบคอบ หากพวกเขาพบแล้ว พวกนางคงไม่ตามหาเขาด้วยตนเองแน่นอน ตรงกันข้ามถ้ามีอยู่ยอดเขาตะวันออกจริงๆก็ไม่มีเหตุผลที่จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนจะหาไม่เจอ
“คิดไหมว่า?ทะเลที่พวกนางบอกอาจจะเกี่ยวกับทะเลต้นไม้? ที่นี่มีป่ามากมายและนั่นก็เป็นทะเลต้นไม้” คุณชายหมิงจูวิเคราะห์ด้วยแนวคิดนี้
ไม่...เย่ว์หยางส่ายหน้าไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน
ถ้าเป็นเรื่องง่ายจริงๆ จีอู๋ลี่และจอมปีศาจไคเทียนจะกลับมาโดยไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
เย่ว์หยางใช้สมองคิดอย่างจริงจังเขาตั้งใจทำสมาธิและคิดหาคำตอบ
ไตร่ตรองครั้งละครึ่งชั่วโมงอยู่สองครา
แต่ไม่ได้ผลอะไร
คุณชายหมิงจูรีบปลอบใจ “ไม่ต้องห่วง เราจะต้องหาวัตถุโบราณได้แน่เรามีเวลาไม่ต้องกังวล ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือสิ่งที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ยอดเขาตะวันออกไม่มีใครท้าทายได้ และการเลือกยอดเขาตะวันออกเป็นสถานที่ต่อสู้จะไม่มีใครมาที่นี่เพื่อรบกวนเรา เจ้าคิดช้าก็ได้ไม่ต้องกังวล เราจะพยายามร่วมกัน แม้ว่าใครบางคนเข้ามาเพื่อต่อสู้กันก่อนประตูเทเลพอร์ตจะกระพริบเรามีเวลาพอจะซ่อนตัว
เย่ว์หยางไม่สนใจเรื่องความสบาย แต่ก็ยอมรับแนวคิดของคุณชายหมิงจู
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณชายหมิงจูผู้นี้จะอารมณ์เสียและใช้ค้อนทองใหญ่ไล่ทุบหัวคน
ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ เย่ว์หยางคว้าไหล่คุณชายหมิงจูไว้แน่นและร้องดังๆ “เจ้าว่าไงนะ? เจ้าว่าประตูเทเลพอร์ต?”
คุณชายหมิงจูตกใจกับความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางครั้งนี้ “ข้า หมายถึงอาจมีคนเข้ามา ประตูเทเลพอร์ตจะส่งสัญญาณไฟกระพริบเตือน...”
“ใช่แล้ว นี่แหละ!” เย่ว์หยางกอดคุณชายหมิงจูด้วยความตื่นเต้น
เขากอดแน่นไม่ยอมปล่อย
คุณชายหมิงจูมึนศีรษะไปหมด
เกิดอะไรขึ้น
นี่เกี่ยวอะไรกับประตูเทเลพอร์ต? แม้ว่าเป็นเรื่องสำคัญก็ไม่ควรกอดจนแน่นอย่างนี้
เย่ว์หยางไม่เพียงแต่กอดเปล่าๆแต่ยังตบหลังคุณชายหมิงจูอย่างแรงและหัวเราะลั่นเมื่อคุณชายหมิงจูเตรียมใช้ค้อนยักษ์เคาะกะโหลกปลุกสำนึกของเขาเย่ว์หยางรีบก้าวไปยังประตูเทเลพอร์ตที่อยู่ไกลออกไป
รอจนคุณชายหมิงจูมาถึงที่ประตูเทเลพอร์ตเย่ว์หยางจึงล้วงเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากฐานประตูเทเลพอร์ต
“เจ้าอย่าบอกนะว่านี่คือวัตถุโบราณ?” คุณชายหมิงจูมองดูเหมือนจะรู้
“ศิลาศักดิ์สิทธิ์นี้มีพลังงานไม่สิ้นสุดมันอยู่ในยุคแรกๆ เมื่อหุบเขามนุษย์ถูกสร้าง บางทีอาจสร้างโดยเทพโบราณก็ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นรุ่นก่อนเทพโบราณวางเอาไว้ที่ประตูเทเลพอร์ตนี้ทำไมจะไม่ใช่โบราณวัตถุ?” เย่ว์หยางพูดอย่างน่าเชื่อถือ
“แต่มีศิลาศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างในหุบเขามนุษย์ นี่ไม่ใช่เพียงก้อนเดียวอย่าบอกนะว่ายอดเขาตะวันออกที่นี่ ยอดเขาใต้ยอดเขาตะวันตกและยอดเขาเหนือก็มีเช่นกัน” คุณชายหมิงจูยังค้นไม่เจอ
“รวบรวมทั้งหมด!” เย่ว์หยางรวบรวมศิลาศักดิ์สิทธิ์เก็บไว้ในแหวนเก็บของ
“อย่าฉุดดึงข้า!” คุณชายหมิงจูปล่อยให้เย่ว์หยางจูงมือตามไปรู้สึกอึดอัดและหลังจากพยายามสองสามครั้งก็ยังดึงมือไม่หลุดจากมือใหญ่ได้
เย่ว์หยางกับคุณชายหมิงจูไม่รู้ว่าหลังจากพวกเขาออกไปได้สิบนาที
เจ้าตำหนักแสงจงหัวที่มีสถานะในหุบเขามนุษย์เป็นบุตรคนที่สิบของเจ้าเมืองไม้เงินและสุดยอดนักสู้อื่นๆ มีเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน พระยายมซิวอิ่งจ้าวกระดูกจินหาย จอมถลกหนังเซี่ยที พวกเขาเทเลพอร์ตมาที่ยอดเขาตะวันออกนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ได้รับมอบหมายภารกิจให้ค้นหาวัตถุโบราณ เมื่อพวกเขาเข้าไปในทะเลเพื่อค้นหาต้นไม้ขณะที่เตือนคู่ต่อสู้ มีนักเรียนอื่นอีกหลายคนเข้ามาด้วย รวมทั้งฮ็อกชิงหมอและนักเรียนหัวกะทิจากหุบเขามนุษย์หลายคนเช่นเจ้าเมืองน้อยจินฉีผู้อ้างว่าสร้างหุ่นรบแม่เหล็ก
ฮ็อกหลังจากเข้ามาก็ส่งเสียงหัวเราะลั่น “ข้าไม่ต้องการเอาหน้า ทูตสวรรค์มอบหมายให้พี่น้องข้าค้นหาสิ่งของ พวกเจ้ากลับติดตามเข้ามาจริงๆ จมูกไวจริงนะ!”
หยางผิงนักเรียนหัวดีจากสาขาเมืองเปลวอาทิตย์แค่นเสียงหนักหน่วงแต่ไม่ปฏิเสธ
จินฉีผู้หยิ่งผยองแค่นเสียงหนักครั้งแล้วครั้งเล่า “พวกวรรณะต่ำอย่างทหารรับจ้างทำได้ทำไมเราชนชั้นสูงจะทำบ้างไม่ได้? เราใช้ความคิดริเริ่มที่จะทำภารกิจนี้ ทูตสวรรค์ทั้งสามก็เห็นด้วยไม่ใช่หรือ?เราจะพิสูจน์ว่าเรามีพลังมาก และทำภารกิจหลักให้สำเร็จ พวกเจ้ากลับไปได้เลย พวกเจ้าจะไม่มีทางหาวัตถุโบราณพบแน่!”
“หือ?” ชิงหมอสวมหน้ากากปีศาจสีเขียว ดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่างเขากลับหลังหันและจากไปโดยไม่หยุดยั้งแม้แต่วินาทีเดียว
“เออ, มีแต่พวกเจ้าที่มีคุณสมบัติจะรับภารกิจ มันเสียเวลาเกินกว่าจะไปหรือ?” ฮ็อกหลั่งเหงื่อ แต่เขาคุ้นชินบุคลิกของชิงหมอแล้วไม่ว่าอย่างไรฟังชิงหมอดีกว่า เขาเป็นคนฉลาดแน่นอน
“ข้าไม่รู้จักเจ้าพวกทหารรับจ้างขยะ!” จินฉีกระทืบเท้าและถ่มน้ำลาย
“พวกเขาต้องกลัวว่าเราจะรวมพลังกันโจมตี”หยางผิงวิเคราะห์เช่นนั้น
“ใช่ ใช่ ที่นี่ยอดเขาตะวันออกสามารถลงมือโจมตีได้!” จินฉีเต็มไปด้วยความหงุดหงิดทำไมเขาไม่ใช่หุ่นรบทำลายทหารรับจ้างยากจนทั้งสองนี้นะ?
ขณะนี้เย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูมาถึงยอดเขาทิศเหนือแล้ว
ภายในไม่กี่นาทีทั้งสองก็ผ่านไปยอดเขาตะวันตกจากตะวันออกไปยอดเขาใต้ แล้วเดินทางมายังยอดเขาเหนือ
เพื่อรวบรวมหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ในที่ทั้งสี่เหล่านี้เย่ว์หยางต้องจ่ายด้วยการยอมแพ้สามครั้งต่อเนื่องกับค่าสารท้าทายเกียรติยศเพราะไม่มีม้วนสาร การเข้าพื้นที่ทุกครั้งจะต้องมีสารท้าทายเพื่อให้ผ่านประตูเทเลพอร์ตไปได้ เย่ว์หยางพ่ายแพ้สามครั้งรวดเพราะแสดงน้ำใจสุภาพบุรุษผู้กล้าหาญเสียสละยอมลำบากต้องยอมแพ้คุณชายหมิงจูสามครั้งรวดเพื่อให้ผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตได้
เมื่อคุณชายหมิงจูปลอบโยนเขาเย่ว์หยางกลับบอกว่าไม่มีอะไร
ช่างเสียสละอะไรเช่นนี้
ตายเพื่อสตรี ฉิบหายเพื่อสตรีนี่คือการทดสอบในเมืองหลวงหรือ? นี่หรือความกล้าหาญทะเยอทะยาน?
ชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเคยเขียนไว้ว่าเจ้าชู้กับสาวๆ ไม่ประสบความสำเร็จ นักศึกษาต้องพยายามอย่างหนัก..คำพูดนั้นมีชื่อเสียง เมื่อเย่ว์หยางศึกษาตอนนั้น เขาใส่คำพูดนี้เป็นคำขวัญก่อนนอนของเขาผลักดันให้ตนเองก้าวหน้าไปตามอุดมคติ
หลังจากได้ยินคำพูดผิดเพี้ยนของเย่ว์หยางแล้วคุณชายหมิงจูอดเขินไม่ได้
หลังจากยกค้อนยักษ์เกือบจะหวดใส่เย่ว์หยางอยู่แล้ว โชคดีที่เย่ว์หยางรีบตะโกน “อย่าบังคับให้ข้านอนหลับมิฉะนั้นข้าจะไปพบเจ้าในความฝัน’
คุณชายหมิงจูตกใจทิ้งค้อนลงกับพื้น
หลังจากหยอกล้อกันพอสมควร
หลังจากได้ศิลาศักดิ์สิทธิ์จากยอดเขาทิศใต้ตะวันออก เหนือและตะวันตกมารวมกันเย่ว์หยางไม่ได้นำไปให้หญิงสาวชุดขาวทั้งสาม แต่อักขระรูนที่สลักไว้บนศิลาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสมบูรณ์ทั้งสี่ก้อนเชื่อมโยงเข้าด้วยกันพลังงานสี่สายไหลออกมาจากศิลาศักดิ์สิทธิ์รวมกันตรงกลางภาพผังอักขระรูนและฉายเป็นลำแสงพุ่งขึ้นไป
เย่ว์หยางวิ่งเข้าไปในลำแสง คุณชายหมิงจูเมื่อเห็นเจ้าผู้นี้ไม่พาเขาไปด้วยก็รู้สึกกระวนกระวายรีบคว้ามือเขาไว้แน่น “อย่าทิ้งข้าไว้ตามลำพัง!”
ลำแสงเทเลพอร์ตส่งทั้งสองออกไปทันที
รอจนทั้งสองตั้งสติได้
ทั้งสองพบว่ามาอยู่ที่เกาะน้อยล้อมรอบไปด้วยทะเล...!