ตอนที่ 1086 ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แค่บอกข้า
เมืองเจี้ยนกว่อ
หลังจากฆ่าโมบาและสมุนสุนัขของเขาแล้ว ฮ็อกมิอาจทนรอได้แม้แต่วินาทีเดียว เขารีบกลับไปที่ร้านขายของตามหากันหลิน อย่างไรก็ตามกันหลินไม่อยู่ที่นั่นอีกแล้ว มีแต่กองเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ที่บันไดร้าน ฮ็อกไม่ได้สั่งให้สิงโตทองทำลายร้านที่น่าอัปยศนี้ ไม่ได้ฆ่าเถ้าแก่ร้านที่เขาเห็นแล้วอยากจะอาเจียน
เขาแค่ต้องการรู้ว่าตอนนี้กันหลินไปอยู่ที่ไหน
“เขา เขา เขาเพิ่งจากไป คนของคุณชายโมบาพาตัวเขาไป ไม่ใช่ความผิดข้า!” เถ้าแก่ร้านหน้าแดงตัวสั่น
“ไม่ใช่ธุระของเจ้าหรือ? ฮ็อกรอยเลือดบนพื้นก็เป็นเขาตี! สุนัขรับใช้ของโมบาลากตัวกันหลินออกไป และเขาก็ขับไล่กันหลินและถือไม้ไล่ตีเราด้วย กันหลินถูกตีหัวแตก..” คนงานอีกคนหนึ่งเห็นฮ็อกกลับมา และมีหุ่นสิงโตระดับทองที่มีแต่เจ้าเมืองเท่านั้นที่ครอบครอง เขาจึงมีความกล้าออกมาต่อต้านเถ้าแก่ร้านทันที
“ถ้ากันหลินเป็นอะไรไป เจ้าต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง!” ฮ็อกเป็นเหมือนราชสีห์ที่น่ากลัวขณะข่มขูเถ้าแก่ร้านหวาดกลัวจนปัสสาวะราดรดกางเกง
อย่างไรก็ตามหลังจากกำจัดโมบาในไม่กี่วินาที ความโกรธของเขาก็สงบลง
ฆ่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม ควรทรมานหรือปล่อยให้อีกฝ่ายรอด แล้วค่อยๆ คิดบัญชีช้าๆ เขาเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น แต่ยังเพื่อคนอื่นที่ต้องเสียเลือดและน้ำตา
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฮ็อกต้องการตามหาตัวกันหลินให้เร็วเท่าที่ทำได้ แทนที่จะทรมานเถ้าแก่ร้านผู้ไม่มีค่าแก่การเหลียวดู ฮ็อกโยนเถ้าแก่ร้านปล่อยให้สิงโตเหล็กหัวหน้าทหารรับจ้างจัดการ ส่วนตัวเขาขึ้นขับขี่สิงโตทอง โลดทะยานเต็มความเร็วเพื่อไปให้ทันสุนัขรับใช้ที่จับกันหลินไป
ชุมชนแออัดชานเมืองเจี้ยนกว่อเป็นพื้นที่เต็มไปด้วยขยะ สิ่งสกปรกและน้ำเน่าไหลผ่าน
ความจริงที่นี่เป็นสถานที่ทิ้งขยะประจำเมืองเจี้ยนกว่อ
สถานที่แบบนี้แม้แต่สุนัขก็ยังไม่อยากจะอยู่นาน แต่ก็กลายเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของคนจน และพวกขุนนางจะไม่ส่งคนออกมาที่นี่ สถานที่เนื้อที่เล็กน้อยแห่งนี้มีผู้คนอาศัยมากถึงครึ่งเมืองเจี้ยนกว่อ และคนยากจนเหล่านี้ต้องใช้ทำงานใช้เลือดและเหงื่อเพื่อค้ำจุนพวกผู้เอารัดเอาเปรียบที่อยู่ในกำแพงเมืองเจี้ยนกว่อ คนจนที่นี่กลัวที่จะมองกำแพง พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าไปในกำแพงเมือง
แม้แต่คนจนบางคนตั้งแต่เกิดจนตายไม่เคยเข้าไปในเมืองเลยสักครั้ง
กันเช่า พี่สาวกันหลินก็เป็นคนเช่นนั้น
ถ้าไม่มีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น อย่างนั้นหญิงตาบอด จะไม่มีทางเข้าไปใช้ชีวิตในเมืองได้เลย ไกลที่สุดเท่าที่นางเคยไปก็แค่คลองที่อยู่ห่างไปจากกระท่อมไม่กี่เมตร และเก้าอี้ที่สะดวกสบายที่สุด และเก้าอี้แข็งที่ฮ็อกใช้เรี่ยวแรงขนย้ายเข้ามา
ตอนนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นแล้ว แต่สำหรับกันเช่าไม่ใช่เรื่องดี
ปรากฏว่าร่างที่อ่อนแอของนางถูกจิกศีรษะลากลงจากเตียงและโยนลงบนพื้นสกปรก ประตูบ้านที่ฮ็อกช่วยซ่อมแซมถูกพังกระจายเป็นชิ้น เศษฝุ่นเศษไม้ปลิวกระจาย กันหลินน้องชายของนางกำลังดิ้นรนตะเกียกตะกายไปหาพี่สาว แต่หลังของเขาถูกเท้าข้างหนึ่งที่หนักหน่วงดุจภูเขาเหยียบไว้ กันหลินใช้มือที่สกปรกไปด้วยฝุ่นโคลนตะกายพื้นพยายามจะดิ้นให้พ้นแรงกดดันบนหลัง แต่ไร้ประโยชน์
มือของเขาแตกเปรอะไปด้วยเลือดและฝุ่นดูสกปรก
“พี่ข้า..พี่ข้า..ปล่อยนางไป ปล่อยนาง!” กันหลินดิ้นรนอย่างอ่อนล้า แต่เขาอ่อนแอ และอำนาจป่าเถื่อนอยู่ข้างหน้าเขา เขาไม่คู่ควรเอ่ยปาก
“เราทำอะไรผิด?” กันเช่าสงบใจได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่านางจะมองไม่เห็น แต่นางพร้อมจะใช้กฎหมายปกป้องตัวเอง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่นางทำได้ ก่อนที่ศัตรูจะคร่ากุมนาง นางต้องพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องตัวเองเท่าที่นางทำได้ “เราไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ เราระมัดระวังตัวเองตลอดมา”
“เฮ้, ทำเป็นพูดดี!” บุรุษร่างกำยำที่ฉุดลากนางออกมาจากเตียงแค่นเสียงเยาะเย้ยนาง
“พวกมดต้องดิ้นรนก่อนตาย” สหายของเขาตอบด้วยอาการดูถูกเหยียดหยาม
“อยากจะฟังสิ่งที่นางพูดไหมเล่า?” บางคนเสนอแนะ
“แม้ว่าเราจะเป็นสามัญชน แต่เราเป็นคนของเทพเจ้า เราไม่ได้ก่ออาชญากรรม พวกเจ้าไม่อาจทำร้ายเราอย่างนี้ พระเจ้าจะมีความเมตตาปราณี พระเจ้าไม่ทำร้ายเรา เจ้าไม่สมควรละเมิดประสงค์ของพระเจ้า!” กันเช่ามองไม่เห็นศัตรูที่ทรงพลังข้างหน้านาง นางพยายามปกป้องตนเองด้วยกฎหมาย
“ฉลาดมาก แน่นอนว่าเราจะไม่ละเมิดประสงค์ของเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ใช่เป้าหมายคุ้มครองของเทพเจ้า เจ้าเป็นเป้าหมายของการลงโทษของพระเจ้า เราแค่ลงโทษเจ้าในนามของพระเจ้า เจ้ามีความผิดไม่ใช่หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า มันตลกมาก เจ้าไม่รู้หรือว่าคนจนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นคนบาปทั้งนั้น? ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดแบบนั้นก็ได้ เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่คนผิด แต่น้องชายของเจ้าขโมยของมีค่า ของนั้นไม่สามารถชดใช้ได้ด้วยกำลังงานของเจ้าผู้เป็นพี่สาวของเขา เขาได้ก่ออาชญากรรมลักขโมยสินค้า ตอนนี้ถูกจับได้ เจ้ายังต้องการปฏิเสธอีกหรือ?” บุรุษร่างใหญ่เหยียบหลังผอมแห้งของนางและหัวเราะเยาะด้วยความผยอง
“ข้าไม่ได้ขโมยอะไรเลย ข้าไม่ได้ทำผิด ข้าไม่ผิด!” กันหลินดิ้นรนสุดกำลัง ปากตะโกนร้องดังขึ้นทุกคน
“หลักฐานเห็นกันอยู่ พวกเจ้าสองพี่น้องจะปฏิเสธได้อย่างไร?” บุรุษข้างหลังเขากระทืบกันหลินอย่างแรง กันหลินกระอักโลหิตออกมาด้วยความเจ็บปวด และไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
“พวกเจ้า...” ตอนนี้กันเช่าเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายหนึ่งตอบโต้พวกเขา ถึงแม้ว่านางกับน้องชายจะมีพันปาก แต่มีแต่จะกระตุ้นให้อีกฝ่ายฆ่าพวกนางเอง
“พบสร้อยคอทองคำแล้ว” มีคนในห้องตะโกน
“ยังมีต่างหูมุกและกำไลหยก หาพบในบ้านซอมซ่อหลังนี้” มีอีกคนหยิบกล่องงดงามที่ห่อด้วยเศษผ้าขาด
“สองพี่น้องจอมขโมยบังอาจขโมยของมีค่าไป แล้วดูเหมือนว่าถ้าปล่อยให้โจรอาละวาดแล้วไม่ดำเนินการ จะรักษากฎหมายของเมืองเจี้ยนกว่อไว้ได้อย่างไร?” คนร่างใหญ่เหยียบหลังกันเช่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กำลังมากเกินไป แต่เพราะร่างกันเช่าบอบบาง เสียงกระดูกลั่นกร๊อบ กระดูกสันหลังของนางแทบหัก
“สารภาพผิดเดี๋ยวนี้ เจ้าขโมยมาได้อย่างไร? พวกเจ้าได้มาเมื่อไหร่ ลงมือเมื่อไหร่?” มีคนใช้ปลายเท้าเขี่ยหน้าของกันหลินและสั่งให้เขาสารภาพต่อสาธารณะ
พวกคนยากจนที่มุงดูอยู่ข้างนอกต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ต้องเป็นกันหลินผู้น้องที่ตอแยจนเกิดเป็นภัยพิบัติ
สำหรับของที่ถูกขโมยมาอย่างสร้อยคอทองคำ ไม่มีใครเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ ต่อให้กันหลินกล้าเพียงใดก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่จะมีโอกาสขโมยต่างหูมุก กำไลหยกและของมีค่าดังกล่าว คนงานเล็กๆ อย่างกันหลินไม่มีโอกาสได้เห็นสร้อยทองคำนั้นในชีวิตอย่างใกล้ชิดแน่ แล้วเขาจะมีโอกาสขโมยได้อย่างไร?
เรื่องนี้ชัดเจนแล้วว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจเหล่านี้ตั้งข้อหากลั่นแกล้งกันเช่าและน้องชายของนาง
ทุกคนเข้าใจ
แต่พวกเขารู้แล้วจะทำอะไรได้?
คนจนอย่างพวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพูด หากใครกล้าลุกขึ้นเถียงจะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกเดียวกันกับขโมย
“ไม่, ข้าไม่ยอมรับ ข้าไม่ได้ขโมย เจ้าใส่ร้ายข้า ข้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้าไม่ได้ขโมย!” กันหลินไม่ยอมสารภาพ เขารู้เรื่องนี้ ทันทีที่เขาสารภาพ เขากับพี่สาวจะต้องตายแน่นอน
“ช่างยุ่งยากจริงๆ ไม่ว่าเจ้าจะรับสารภาพหรือไม่ ข้ามีวิธีทำให้เจ้ายอมรับ!” บุรุษร่างใหญ่ไม่ประหลาดใจ เขาทำเรื่องอย่างนี้มามาก และไม่ประหลาดใจกับปฏิกิริยาอย่างนี้ คงเป็นเรื่องแปลกถ้ากันหลินสารภาพทันที! ไม่สำคัญว่าเขาจะไม่เต็มใจหลังจากทรมานเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่ ก็แค่แสร้งทำเป็นสัญญาว่าเขาจะไม่ถูกประหารชีวิต อีกฝ่ายจะพังทลายและยอมรับสารภาพทันที จากนั้นจูงใจเล็กน้อย วันนี้ก็สามารถปิดคดีได้เลย เรื่องเล็กน้อย
“เราถูกใส่ร้าย ใส่ความชัดๆ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม?” กันเช่ากรีดร้องทันที “เราไม่ได้โกรธหรือรุกรานคนอื่น ทำไม ทำไม?”
“เรื่องมันง่ายมาก คุณชายโมบาต้องการให้เจ้าฮ็อกที่ดื้อรั้น อยู่อย่างสุนัขในเมืองเจี้ยนกว่อ ต้องการให้มันคุกเข่าต่อหน้าโมบาตลอดทั้งวัน เจ้าเป็นคนให้ทุนมันไม่ใช่หรือ? ทำให้มันลุกขึ้นยืนจากความล้มเหลวไม่ใช่หรือ? นี่คืออาชญากรรม มีโทษถึงตาย” บุรุษร่างกำยำก้มตัวลงกระซิบบางอย่างที่หูนาง เสียงหยิ่งยโสเหมือนกับการตัดสินของเจ้าของทาสที่ต้องการประหารทาสที่ดื้อดูไม่ดี
“พี่... พี่..” กันหลินเมื่อได้ยินพี่สาวยินดีจะสารภาพก็ร้องไห้ทันที “ข้าไม่ได้ขโมย ไม่ได้ขโมยจริงๆ ไม่มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ขโมย ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี!” ทันใดนั้นกันเช่าหัวเราะ และใบหน้าน้อยที่มอมแมมไปด้วยดินทรายยิ้มอย่างน่าสมเพช ดวงตาที่มืดบอดของนางดูเหมือนมีประกาย “อาหลิน, เราไม่มีความหวัง เราทุกคนจะตายถ้าเราสารภาพ แต่นั่นไม่สำคัญ ฮ็อก, ฮ็อกจะต้องประสบความสำเร็จ! เขาจะประสบความสำเร็จ เขาเป็นคนที่มีความฝันไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะยากลำบากเพียงไหน ความฝันของเราไม่สามารถทำให้สำเร็จ แต่เขาจะช่วยให้ฝันเราบริบูรณ์ อาหลิน..พี่ให้เจ้าทำเรื่องนี้ เจ้าจะเสียใจไหม?”
“พี่, ข้าเชื่อท่าน ข้าไม่เสียใจ” กันหลินปล่อยให้คนที่อยู่ข้างหลังเหยียบย่ำด้วยความเจ็บปวด “ข้า ข้าจะไม่มีทางเสียใจ!”
“หลังจากข้าหวังให้เขาประสบความสำเร็จ เขาจะพาเจ้าไปด้วย เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ต้องอดๆ อยากๆ น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีโชค...” กันเช่าน้ำตาไหลพราก
“นี่คือคำพูดสุดท้ายของพวกเจ้าใช่ไหม?” บุรุษร่างใหญ่เห็นสองพี่น้องร้องไห้ แต่จิตใจของเขาเหมือนก้อนหินไม่รู้สึกอะไร
“ฮ็อกจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน และจะล้างแค้นให้เรา สักวันจะมีคนตัดสินเจ้า เจ้าละเมิดประสงค์ของเทพเจ้าและทำลายกฎที่เทพเจ้ากำหนดไว้ วันหนึ่งเจ้าจะต้องรับผลของการล่วงละเมิดนี้!” กันเช่าแข็งใจและตะโกนทันที “แม้ว่าจะตายเราจะไม่ยอมแพ้ เจ้าต้องการให้เราก้มศีรษะยอมแพ้ เพราะเราไม่ผิด ต่อให้เจ้าฆ่าเราก็คือเราไม่ผิด!”
“หนวกหูจริงๆ พวกเจ้าคิดเช่นนั้นหรือเปล่า?” คนตัวใหญ่มองดูคนรอบๆ ตัวเขา
“....” พวกคนจนรีบถอยกรูดด้วยความกลัวเหตุวุ่นวาย
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครสามารถหยุดความป่าเถื่อนข้างหน้านี้ได้
พวกคนจนกลัวที่จะพูดออกมา
พวกเขาก้มหัวทีละคน
ไม่มีใครกล้าสบตาผู้มีอำนาจ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องทุกข์ยากลำบากแก่ตนเอง!
บุรุษร่างใหญ่พอใจมากที่ได้เห็นการแสดงออกของพวกคนจน เขาเรียกหุ่นรบบรอนซ์ออกมาช้าๆ และบ่นเล็กน้อย “น่าเสียดายที่บอบบางเกินไป เล่นกับโครงกระดูกเดินได้มันน่าอึดอัด มิฉะนั้นคงเก็บไว้ได้สักหลายวัน ช่างเถอะกลับไปรายงานเถอะ เจ้าสอง! มีความสนใจเด็กผู้ชายบ้างไหม หากเจ้าลองดู เจ้าอาจติดใจยิ่งกว่าเด็กในบ้านคุณชายโมบานะ”
กันหลินเมื่อได้ยินก็เตรียมจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย
ไม่รู้ว่ากันเช่าหยิบหินแหลมคมมาจากพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่และกระแทกใส่หน้าผากนาง
“ถ้าจะเล่น ข้าก็จะเล่นด้วย!” เสียงคำรามดังมาจากท้องฟ้า สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทำให้ชุมชนแออัดสั่นสะเทือน เสียงน่ากลัวยิ่งกว่าพายุสลาตัน
หุ่นสิงโตระดับทองกระโจนเข้ามาจากระยะหลายร้อยเมตร
เงาของมันบดบังท้องฟ้าบดบังสายตาของบุรุษร่างใหญ่ที่มองดูจากข้างล่าง
และกระโจนมาถึงทันที
กรงเล็บยักษ์ตะปบใส่บุรุษร่างใหญ่และหุ่นอสูรชั้นบรอนซ์ไว้ใต้ฝ่าเท้าของมันกดจนราบกับพื้น
บุรุษที่อยู่บนหลังสิงโตทองม้วนตัวลงมาอยู่บนพื้น เขาไม่ชอบโคลนสกปรกและน้ำเน่าบนพื้น เขาเอื้อมมือรับการกระแทกจากหินคมในมือกันเช่าอย่างหมดจด จากนั้นคว้ามือน้อยๆ ไว้ และจับหินแหลมเปื้อนเลือด เขาทิ้งหินเปื้อนเลือดลงพื้นและตวาดลั่นเสียงกึกก้อง “บัดซบ, บังอาจอ้างกฎหมายทำร้ายประชาชนอย่างเหี้ยมโหด ข้าจะลงโทษเจ้าในนามของเทพเจ้า.. ไปลงนรกเสียเถอะ เจ้าสุนัขพันทาง เจ้ามันแย่ยิ่งกว่าขยะ”
“เป็นฮ็อกใช่ไหม?” มีคนจำได้ทันทีว่าคนที่ขี่หุ่นสิงโตทองก็คือฮ็อก
“กลับมาได้ยังไง เขามีหุ่นสิงโตระดับทองได้อย่างไร?” สหายของคนร่างใหญ่หวาดกลัวจนคิดอะไรไม่ออก
“ลากพวกมันมาทั้งหมด ข้าต้องการให้อาหารสิงโตของข้าด้วยเนื้อสด!” ฮ็อกสั่งคำเดียว ทหารรับจ้างหลายคนที่กำลังขี่หลังหุ่นหมาป่าเงินสองสามคนบินมาจากที่ไกลและดึงร่างบุรุษกำยำขึ้นอย่างง่ายดายพร้อมทั้งสหายของเขาเตรียมดำเนินการ
ฮ็อกช่วยกันหลินด้วยตัวเอง
เขากอดเด็กหนุ่มที่กำลังเลือดไหลและร้องไห้ “เจ้าน้องชาย, ไม่ต้องกลัวต่อไปเจ้าจะได้ติดตามข้า ข้าฮ็อกกินอาหารของเจ้าไปแล้ว จะต้องมีอาหารให้เจ้ากิน เจ้าไม่มีพี่ชาย ข้าจะเป็นพี่ชายเจ้า! ต่อไปในอนาคตจะไม่มีใครรังแกเจ้า ข้าสัญญา ตราบใดที่ข้าฮ็อกยังมีลมหายใจ จะไม่มีใครมาแกล้งเจ้า เรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแน่นอน...”
กันหลินสั่นไปทั้งตัว และเขาฟังคำพูดของฮ็อก เขาพูดอะไรไม่ออก
เขาร้องไห้โฮน้ำตาไหลพราก
รอจนปลอบโยนกันหลินเล็กน้อยแล้ว
ฮ็อกเดินกลับมาที่พื้น กันเช่าไม่มีแม้แต่แรงคลาน
เมื่อเผชิญหน้ากับสตรีตาบอด เขาค่อยๆ คุกเข่าหลั่งน้ำตาเงียบๆ เขายื่นมือใหญ่ออกมาช้อนตัวนางเบาๆ ราวกับช้อนมืออุ้มตุ๊กตากระเบื้อง เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะแตกหักด้วยการใช้กำลังเพียงเล็กน้อย ฮ็อกผมแดงไม่เคยมีความอ่อนโยนเท่านี้มาก่อนในชีวิต เขาค่อยๆ ประคองกันเช่าให้ลุกขึ้นนั่ง
กันเช่าควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าน้องชายนางมาก
แม้ว่านางจะหลั่งน้ำตา แต่นางพยายามฝืนยิ้ม “ท่านกลับมาแล้วหรือ? ข้ารู้ว่าท่านจะต้องกลับมาอีกแน่นอน แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะกลับมาอย่างรวดเร็ว... ถึงตาข้าจะมองไม่เห็น ข้าสัมผัสได้ด้วยใจ ข้ารู้ว่าท่านจะเอาชนะคนเลวได้ ฮ็อก..คนอย่างท่านจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน ข้ารู้มานานแล้วว่าท่านจะต้องประสบความสำเร็จ...”
“นี่ไม่ใช่ความสำเร็จด้วยความพยายามของข้า แต่มันไม่สำคัญ ตราบเท่าที่เจ้ารู้ว่าข้าประสบความสำเร็จก็แล้วกัน! ข้ามีสหายที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่ง เขาแข็งแกร่งเท่ากับเทพ เมื่อข้าหมดหวังมากที่สุด เขาหาข้าพบและให้ความหวังแก่ข้า!” ฮ็อกใช้มือใหญ่เช็ดน้ำตาของหญิงสาวตาบอดเล็กน้อยช้าๆ จากนั้นเรียกเงินผลึกสวรรค์กำมือหนึ่งจากแหวนเก็บสมบัติยัดใส่มือกันเช่า กันเช่ารู้สึกได้ถึงสิ่งที่อยู่ในมือนาง “นี่คือเงินผลึกสวรรค์ ข้ามีเงิน, กันเช่า ต่อไปเจ้ากับกันหลินจงติดตามข้า ในอนาคตเราจะได้ไม่ต้องทนหิวอีก.. เป็นไง? ข้ามีความสุขมาก ตอนนี้ข้ามีเงินทุนที่ได้จากการทำงานพิเศษให้สหายของข้า ข้าไม่อาจรับเงินของเขามาเปล่าๆ ได้ ข้ารับทำงานให้เขาเป็นผู้ดูแลปราสาทไดมอนด์สตาร์ ข้ามีทหารรับจ้างหลายพันคนอยู่ในความดูแล ในอนาคตข้าจะมีมากขึ้น ข้าจะมีเงินพอเลี้ยงเจ้า กันหลิน กันเช่า พวกเจ้าจะเดินทางไปกับข้าเลยไหม?”
“ก่อนนี้ข้านิสัยไม่ดีนัก สตรีในความคิดของข้าคือเครื่องสนองอารมณ์ จนกระทั่งได้พบกับความเมตตาของเจ้า ทำให้ข้าได้เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต... ไม่มีเจ้าอยู่ข้างกายข้า ข้าอาจเป็นตัวบัดซบต่อไปในอนาคต ดังนั้นแม่นางกันเช่าผู้กล้าหาญ เจ้าจะอยู่กับข้าได้ไหม ทำให้ข้าเป็นฮ็อกเหมือนวันนี้ได้ไหม? ดวงตาเจ้ามองไม่เห็น ข้าจะเป็นดวงตาให้ ใจของข้ามองไม่เห็น หัวใจของเจ้าจะช่วยให้ข้าเห็นอนาคตได้ เจ้าจะยินดีไหม?”
“เจ้าคือสตรีที่แท้จริงกล้าหาญเท่าที่ข้าเคยพบในปัจจุบันนี้ กันเช่า ไปกับข้าเถอะ ช่วยรับปากข้า ให้ข้าได้ดูแลเจ้าตลอดไปได้ไหม?” ฮ็อกคุกเข่าบนพื้นร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ต่อหน้าสตรีตาบอดอ่อนแอยิ่งกว่าแก้วบาง และกำลังรอคำตอบนาง
“พี่..” กันหลินตื่นเต้นมากจดอดร้องเตือนพี่สาวมิได้
“เจ้าไม่ต้องพูด” กันเช่าโบกมือห้ามกันหลิน ดูเหมือนนางกำลังคิด นางยิ้มแล้วร้องไห้จากนั้นคิดชั่วขณะ แล้วส่ายหน้าช้าๆ ดูเหมือนว่านางกำลังพบกับปัญหาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต
“รับปากข้า กันเช่า ข้าจริงใจกับเจ้า” ฮ็อกก้มหน้าเป็นครั้งแรก
“แต่ข้าเป็นสตรีตาบอด และมักป่วยกระเสาะกระแสะ” กันเช่ามีสีหน้าลังเลเล็กน้อย
“ข้าเพิ่งบอกไปแล้ว ข้าจะเป็นดวงตาให้เจ้า กันเช่า ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตาย ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตาย จนกว่าข้าจะตายก่อน!” ฮ็อกรีบเผยความในใจและให้คำรับรอง
“ให้ข้าจับหน้าท่านได้ไหม?” จู่ๆ กันเช่ายื่นมือออกพยายามคลำหน้าของฮ็อก
“คืออย่างนี้กันเช่า ข้าไม่ได้มีรูปลักษณ์อย่างที่เจ้าคิด... ข้าตัวโตไปบ้าง ข้าหมายถึง ถ้าเจ้าไม่ถือสาว่าข้าตัวใหญ่.. พอถึงตอนนี้เป็นฮ็อกกลับลังเล เพราะเขารู้ว่าเขามีรูปลักษณ์หน้าตาเช่นไร ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยางที่หล่อมากจนต้องสวมหน้ากากเงินปิดบัง แค่คนธรรมดาเขาก็เทียบไม่ได้ ฮ็อกอัปลักษณ์กว่าปีศาจ กลัวว่าถ้านางเห็นอาจรู้สึกไม่ชอบ
“ความจริงข้าเคยสัมผัสหน้าเจ้าเมื่อตอนเจ้าหลับ” กันเช่าพูดขึ้นทันที เจ้ากับกันหลินนอนบนพื้นเย็น แข่งกันกรนราวกับฟ้าร้อง ข้านอนไม่หลับกำลังคิดอยู่ว่าท่านละสภาพแวดล้อมที่ดีและเข้ามายังหุบเขามนุษย์เพื่อเป็นสามัญชนหรือ? เห็นได้ชัดว่าท่านเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี แต่สามารถอยู่ในกระท่อมของเราได้ สวมเสื้อผ้าปอนๆ กินอาหารสุดแย่ ที่แย่ที่สุดคือบางครั้งก็ต้องอดมื้อกินมื้อ อะไรเป็นแรงผลักดันให้คนผู้นี้ยอมใช้ชีวิตที่ยากลำบาก ต่อมาข้าคิดเอาเองว่าเป็นเพราะความฝัน ท่านเข้ามาที่หุบเขามนุษย์ ก็เพื่อไล่ตามความฝันของท่าน ดังนั้นตั้งแต่วันนั้นข้าจึงตัดสินใจจะช่วยให้ท่านให้บรรลุความฝัน.. เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ตัวข้าเป็นแค่หม้อยาเคลื่อนที่ไม่สามารถทนรับแดดและลมได้ ดวงตาข้ามืดบอดมองไม่เห็นอะไรเลย ฮ็อก! ข้าทำเพื่อท่านได้แค่เพียงมอบเงินผลึกแตกให้ท่านถุงหนึ่ง ไม่มีความสามารถจะช่วยท่านได้ ที่ท่านต้องการก็คือสตรีที่สามารถช่วยท่านได้จริงๆ ไม่ใช่ข้า”
“ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือเจ้า สตรีทั้งโลกมีเป็นล้าน แต่คนที่ช่วยข้าได้ที่แท้จริงมีแต่เจ้าเท่านั้น!” ฮ็อกรีบดึงมือนางให้ลูบคลำหน้าของเขา “ถ้าเจ้าไม่ถือสาว่าใบหน้าข้าอัปลักษณ์ เจ้าไม่กลัวความอัปลักษณ์ของข้า ก็รับปากข้าเถอะ? ข้าจะรักษาอาการป่วยของเจ้า จะไปขอให้คนรักษาตาของเจ้า เจ้าจะได้มองเห็นโลกที่มีสีสันในอนาคต”
“ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นช่วย” เด็กหนุ่มผู้สวมหน้ากากเงินเดินก้าวข้างหน้าออกมาจากกลุ่มคน เขายิ้มและกล่าว “เจ้าขอข้าก็พอ”
“จริงหรือ?” ฮ็อกดีใจแทบคลั่ง
“เจ้าพูดจายกยอข้าหาว่าข้าเป็นราวกับเทพเจ้า ข้าก็ต้องแสดงอภินิหารให้ใกล้เคียงกับเทพเจ้าสักเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นจะคู่ควรให้เจ้ายกย่องได้อย่างไร? แม่นางกันเช่า! เจ้าเพิ่งช่วยเปลี่ยนชะตาชีวิตให้เขา มีแต่ฮ็อกเท่านั้นที่มีความสามารถจะดูแลทหารรับจ้างที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต การตัดสินใจของเจ้าสำคัญมาก ถ้าเจ้ารับปากฮ็อกก็จะทำงานให้ข้าอย่างสบายใจ เจ้าไม่ต้องการให้เขาบรรลุฝันหรือ?” บุรุษหนุ่มหน้ากากเงินถามพร้อมกับยิ้ม
“คุณชาย, ท่านคือคนที่สามารถทำให้เขาตระหนักถึงฝันได้หรือ?” กันเช่าเมื่อได้ยินสีหน้านางมีความสุข
“ฮ็อกบอกว่าข้าเก่งเหมือนเทพ สามารถทำให้คนอื่นมีความหวัง ฮ่าฮ่า แม้ว่าคำพูดเหล่านี้แฝงแววประจบอยู่เล็กน้อย แต่เนื่องจากเขาบอกอย่างนี้ ข้าก็ต้องทำอะไรให้เป็นประโยชน์บ้าง แม่นางกันเช่าขืนทำแบบนี้ ข้าก็คงไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของฮ็อกได้ ได้แต่ให้ความหวังกับเขา การที่ได้ตระหนักถึงความฝันของเขา สามารถเปลี่ยนโชคชะตาของเจ้า ให้ความหวังแก่เจ้าได้ การตระหนักถึงความฝันของเจ้า แม้ว่าข้าจะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของคนจำนวนมากได้ ให้ความหวังและตระหนักถึงความฝันของเขา แต่ข้าก็ต้องการความช่วยเหลือจากหลายคนด้วย คือ ฮ็อก เจ้าและน้องชายของเจ้ากันหลิน มีคนเพิ่มขึ้นทุกวัน เจ้าก็ต้องใช้พลังของเจ้าก้าวไปสู่ความสำเร็จให้เร็วขึ้นและดีขึ้น หากเจ้าอยากจะเห็นความยุติธรรม ความไม่เอารัดเอาเปรียบ การประหัตประหาร จะไม่มีคนจนที่ดิ้นรนต่อสู้อย่างพวกเจ้า และผู้พเนจรผู้สิ้นหวังอย่างฮ็อก อย่างนั้นข้าจะตราระเบียบกฎหมายใหม่ พวกที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษ” คำพูดของบุรุษหนุ่มทำให้ทุกคนตกใจ
“เจ้าค่ะ” กันเช่าคุกเข่ากับพื้น “ความสำเร็จของฮ็อกก็คือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของกันเช่าในชาตินี้ ถ้าสามารถอยู่ภายใต้บัญชาการของคุณชาย กันเช่ายินดีจะทำงานร่วมกับฮ็อก แม้ว่าข้าจะเป็นแค่คนตาบอดก็ตาม”
“ตกลง อย่างนั้นคำสั่งแรกที่ข้ามอบให้เจ้าก็คือ แต่งงานกับฮ็อก” หลังจากเด็กหนุ่มสั่งการเสร็จ เขาจากมาทันที
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ สามารถบอกชื่อท่านได้หรือไม่?” กันหลินไม่เคยเทิดทูนใครมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เด็กหนุ่มหน้ากากเงินนี้น่าเทิดทูนยิ่งกว่าเทพเสียอีก
“ฟังนะ ชื่อของท่านผู้ยิ่งใหญ่ต้องพูดอย่างให้เกียรติ อย่าตะโกนเรียก เจ้าเพิ่งเข้ามาใหม่ เราผู้เป็นหัวหน้าจะบอกให้เจ้าทราบ เจ้าปราสาทของเราคือเจ้าของปราสาทไดมอนด์สตาร์ ชาวโลกเรียกท่านว่า ‘บารอนไตตัน” บุรุษร่างใหญ่นามสิงโตเหล็กตอนนี้เป็นหัวหน้าทหารองครักษ์ให้เย่ว์หยาง เขาเป็นรองแค่ฮ็อก แทนที่จะตอบดังให้ได้ยินทั่วถึง แต่เขาดึงตัวกันหลินมากระซิบบอก
“ใช่แล้ว” กันหลินมองหลังเย่ว์หยางในสายลม การรู้สึกถึงความหวัง เกิดขึ้นในใจ ได้ติดตามเจ้านายอย่างนั้น มีหรือจะอดตาย? ไม่เลย หากได้ติดตามข้างหลังเขา จะเปลี่ยนแปลงหุบเขามนุษย์ได้มากมาย
“.....................”