ตอนที่แล้วตอนที่ 1084 เขาฆ่าเจ้าไม่ได้ แล้วข้าล่ะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1086 ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แค่บอกข้า

ตอนที่ 1085 นี่คือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับเทพหรือ?


เมืองทรายแดง

เริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินเพิ่งรับภารกิจรับจ้างสำเร็จและออกมาจากสมาคมทหารรับเจ้าง

แม้ว่าภารกิจจะสำเร็จสมบูรณ์เริ่นเทียนเกอรับผิดชอบเก็บรวบรวมสมุนไพรเก็บเกินเป้าหมายถึงสองระดับ  แต่นักธุรกิจเจ้าเล่ห์ไม่ได้เพิ่มรางวัลให้แค่บอกว่า ‘จ่ายค่าตอบแทนทั้งหมดตามสัญญา’ ให้เริ่นเทียนเกอ

“ภารกิจนี้ใช้เวลาแปดวันแต่ได้ผลเก็บเกี่ยวเพียงสามผลึกสวรรค์” เริ่นเทียนเกอรู้สึกว่าค่าแรงนี้ถูกเกินไป เป็นทหารรับจ้างไม่ใช่เรื่องง่าย

“ถ้าเจ้ารู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นมีระดับราคาอย่างน้อยห้าร้อยผลึกสวรรค์เจ้าจะผิดหวังยิ่งขึ้น” บัณฑิตตาเงินยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ใส่ใจเริ่นเทียนเกอที่หยุดเดินดื้อๆ

“ทำไม?” เริ่นเทียนเกอไล่มาทันเขาและตะโกนถาม  “เจ้ารู้ว่ามีค่ามาก ทำไมไม่บอกข้า?  สำหรับมูลค่าห้าร้อยผลึกสวรรค์เราเสียใจกับผลของมัน แม้ว่าภารกิจล้มเหลวก็แค่ชดเชยให้อีกฝ่ายสำหรับความผิดพลาด  ค่าปรับเราสามารถชำระคืนได้อย่างสมบูรณ์  พระเจ้า! นั่นคือเงิน 500 ผลึกสวรรค์ทำไมข้าถึงต้องมอบให้เจ้าอ้วนที่ไร้ประโยชน์นั่น”

“เพราะกำลังทำตามคำสั่งของหุบเขามนุษย์”  บัณฑิตตาเงินไม่ใส่ใจ

“ข้าเข้าใจว่าเจ้าหมายถึงอะไร  ถ้าเจ้าเป็นนายจ้างที่ปฏิบัติตามกฎเราสามารถทำสิ่งนี้ได้แน่นอน แต่เจ้าอ้วนขี้เหนียวไม่ได้ทำตามกฎก่อนมีบทบัญญัติชัดเจนว่าหากงานเสร็จสมบูรณ์ นายจ้างควรให้รางวัลพิเศษที่สมควรแก่เหตุผล...แต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ได้ทำเลยทั้งที่จ้างงานเราถึงสามครั้งแต่เขาจะจ่ายให้ตามสัญญาที่ไม่เป็นธรรม รู้ไหมว่าเราเป็นเพียงทหารรับจ้างเล็กน้อย เพื่อแสวงหาโอกาสของชีวิตเป็นไปไม่ได้ที่จะไปต่อรองกับพวกเขา! ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ปฏิบัติตามกฎเลย แม้แต่การกำหนดในสัญญาการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่สมเหตุสมผลเพื่อรังแกเราและใช้ประโยชน์จากแรงงานของเรา  คนอย่างพวกเราต้องคุยกับพวกเขาเรื่องความน่าเชื่อถือหรือไม่?  ไม่เลยคนที่หากำไรจะรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะทำงานกับเรา และเราทำเช่นนี้พวกเขาจะไม่เห็นคุณค่าเลย พวกเขาเพียงแค่ไม่เข้าใจความรู้สึกขอบคุณ” เริ่นเทียนเกอตวาดด้วยความโมโห

“เจ้าพูดถูก ใช่แล้ว พวกเขาเป็นคนที่ไม่ทำตามกฎแต่เราจะเป็นอย่างพวกเขาหรือเปล่า?”  บัณฑิตตาเงินส่ายหน้า  “เราเป็นคนเกิดใหม่ อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนไม่ใช่เพื่อทำเงิน จำนวนเงินนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งที่เราต้องการก็คือการเปลี่ยนแปลงในหุบเขามนุษย์และผ่านการทดสอบ”

“โอว..ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าไม่ถูก”เริ่นเทียนเกอไม่เคยสงสัยบัณฑิตตาเงิน แต่ความจริงคือเขาหงุดหงิดมากกว่า

พอเดินไปได้ชั่วครู่

เริ่นเทียนเกอถอนหายใจเบาๆ  “ถ้าเรามีสักห้าร้อยผลึกสวรรค์อย่างนั้นเราจะสามารถซื้อของได้หลายอย่าง และเราจะสามารถสร้างห้องปฏิบัติการค้นคว้าวิจัยหุ่นรบและหุ่นอสูรของเรา  นอกจากนี้ฮ็อกกำลังมีชีวิตที่แย่ลำบาก  ข้าเกรงว่าเขาจะเอาตัวไม่รอด  ถ้าเรามีสักห้าร้อยผลึกสวรรค์  ข้าเชื่อว่าฮ็อกไม่ต้องกล้ำกลืนทำงานหนักหาเงินอีกต่อไปมันยากลำบากสำหรับเขา...”

บัณฑิตตาเงินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า“ถูกแล้ว เป็นเรื่องทรมานจริงๆ ที่ทำให้ฮ็อกต้องทำงานหนัก อย่างไรก็ตามที่คือวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของหุบเขามนุษย์! เมื่อมาถึงที่นี่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็จะต้องทนทุกข์ทรมานและจะต้องลองพบรสชาติของชีวิตทุกชนิดในโลกเพื่อที่เราจะได้เข้าใจถึงความยากลำบากในการเป็นมนุษย์และจะจดจำทุกอย่างที่เรามีในอนาคต คนที่แข็งแกร่งสามารถรับเงินและตำแหน่งอย่างง่ายดายแต่ถ้าเจ้าไม่เข้าใจวิธีถนอมหรือเข้าใจคุณค่าของวัตถุ ไม่ว่าจะได้มามากมายเพียงไหนชีวิตก็จะไม่มีความสุข  นั่นคือการทำความเข้าใจค่านิยมของพวกเขาทั้งหมดไม่ใช่เข้าใจสิ่งที่เรามี  เรามาที่นี่ต้องปล่อยวางสถานะสุดยอดนักสู้ไปสัมผัสบุคคลระดับต่ำต้อยทำความเข้าใจด้วยตัวเองกับสิ่งเหล่านี้  รวมทั้งค่านิยมของเจ้าขอบเขตอุดมการณ์ของเจ้าด้วยวิธีนี้ ในอนาคตแม้ว่าเจ้าจะออกจากหุบเขาไปแล้ว เจ้าจะเข้าใจคุณค่าความต่ำต้อยและขอบคุณทุกชีวิตมากกว่าที่จะเป็นราชาโดดเดี่ยวดูแคลนทุกชีวิตและอยู่อย่างไม่มีความสุขแม้แต่น้อย”

เริ่นเทียนเกอฟัง

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่านัยของการก่อตั้งหุบเขามนุษย์จะเป็นเช่นนี้

ไม่น่าแปลกใจที่เด็กอย่างเย่ว์หยางมีเงื่อนไขที่ดีที่สุดอย่างชัดเจน  ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนแต่ได้รับมรดกที่มารดาตกทอดให้ แน่นอนว่าเขากับบัณฑิตตาเงินคนฉลาดเหล่านี้มาหุบเขามนุษย์เพื่อสัมผัสกับชีวิตไม่ใช่เพื่อกอบโกยให้หุบเขามนุษย์

เสียงฝีเท้าของบัณฑิตตาเงินค่อยชะลอลง“ในสายตาของคนธรรมดา ‘เทพ’อาจจะอยู่สูงเหนือพื้นโลก เต็มไปด้วยรัศมีความรุ่งเรืองศักดิ์สิทธิ์  แต่ในจิตใจของสุดยอดฝีมือนอกเหนือไปจากพลังอันน่าเหลือเชื่อ เทพนั้นโดดเดี่ยว เพราะพวกเขาจินตนาการว่าเทพจะต้องละทิ้งทุกอย่างในโลกก่อนที่พวกเขาจะบรรลุไปถึงสถานะเทพ ความคิดทั้งสองนี้มีอคติจริงๆ  ข้าสงสัยว่าเทพอาจเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดที่มีความเข้าใจผู้คนว่าพวกเขาลำบากเพียงไหนโชคร้าย เศร้าโศก  พวกเขาเข้าใจทั้งหมด ทำไมเทพถึงไม่ช่วยเหลือมนุษย์คนอื่นที่ต้องทนทุกข์ทรมาน? เพราะพวกเขาต้องการให้มนุษย์ลุกขึ้นยืนหยัดสู้กับความยากลำบากเอาชนะความทุกข์ยาก เอาชนะตนเอง ผ่านความยากลำบากไปได้ด้วยตนเองก้าวสู่ขอบเขตเทพที่ปราศจากทุกข์ทรมาน แทนที่จะเพลิดเพลินจมอยู่ในโลก ไม่ว่าโลกจะสุขหรือทุกข์เพียงใดในท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปจากชีวิตและความตายได้ไม่สามารถหนีจากจุดจบโศกนาฏกรรมได้ เราจะไปกำจัดความโชคร้ายของมนุษย์ได้อย่างไร?นั่นคือการก้าวไปสู่ขอบเขตของเทพ อาณาจักรของเทพ และเป็นเหตุผลที่ต้องตั้งวัตถุประสงค์ไว้ในหุบเขามนุษย์”

“ไม่เพียงแต่หุบเขามนุษย์เท่านั้น  แต่ทั่วทั้งมิติด่านฝึกฝีมือนี้ก็มีการทดสอบเช่นนั้น  มหาเทพยุคโบราณได้สร้างพื้นที่มิติฝึกฝีมือไว้ไม่เพียงแค่ทำให้ผู้คนแข็งแกร่ง แต่ยังทำให้คนหลุดพ้นจากความโชคร้ายเลื่อนระดับไปเป็นเทพ  แน่นอนว่าตราบใดที่เข้าใกล้ระดับเทพเจ้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่คนจำนวนมากมองสิ่งนี้และเข้าใจผิด”คำอธิบายของบัณฑิตตาเงินทำให้เริ่นเทียนเกอได้ยินแล้วถึงหลั่งเหงื่อ

“ในเมื่อเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ทำไมเจ้าไม่ทำด้วยตัวเอง? ต้องบอกข้าด้วยหรือ?” เริ่นเทียนเกอรู้สึกว่าเขามีความเข้าใจและความสามารถเช่นนี้จะสามารถเลื่อนเป็นระดับเทพได้

“ความจริง ข้าก็เหมือนกับเจ้า”บัณฑิตตาเงินยิ้ม  “ข้าเข้าใจว่าสายเกินไปและต่อให้ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นคนที่มีความเข้าใจและความสามารถที่แข็งแกร่ง จึงจะตอบสนองความประสงค์ของมหาเทพโบราณได้อย่างสมบูรณ์”

“มันทำให้ข้าโล่งใจที่จะพูดเรื่องนี้  ข้าเห็นว่าข้าสมควรเป็นคนธรรมดามากกว่านี้  ข้าไม่สามารถแบกรับความรับชอบที่หนักหน่วงแบบเทพได้”เริ่นเทียนเกอหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

เขากลัวจริงๆว่าบัณฑิตตาเงินจะบอกว่าเขาเป็นคนเช่นนั้น และเขาควรทำตามมาตรฐานในระดับสูงขึ้น

เลื่อนเป็นระดับเทพอาจกล่าวได้ว่าสำหรับเริ่นเทียนเกอนี่คือความฝันของเขามาตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตามเริ่นเทียนเกอฝันว่าเขากลับไปใช้ชีวิตตามมาตรฐานของการเป็นเทพเขาคงยืนหยัดไม่ได้หากไม่มีความเข้าใจระดับสูงและมีความตั้งใจที่แน่วแน่  เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำได้  ถ้าเขายังฝืนทำไป เขาอาจเป็นบ้าก็ได้! ความฝันแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นมันเป็นแรงบันดาลใจที่มีความสนุกที่สุดในชีวิตอยู่แล้ว

ทันทีที่สำเร็จในบัดดลกลับไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ!

บัณฑิตตาเงินได้ยินก็หัวเราะลั่น  “ข้ายังไม่เข้าใจเจ้าน่ะหรือ?  ในความเป็นจริงข้าขอบอกว่าตอนนี้ข้ากลัวว่าเจ้าจะรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นคนอื่นเลื่อนระดับก้าวหน้าในอนาคตระดับเทพไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถไล่ตามได้ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีข้าไม่ดีพอ เจ้าไม่ดีพอ ถ้าจะทำได้ก็ต้องมีมากกว่าที่ข้ารู้ การรู้แจ้งได้เร็วไม่ว่าในแง่ของความรู้ ภูมิปัญญา ความเข้าใจ ความสามารถและอื่นๆพวกเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษถึงจะเป็นไปได้! คนแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ของตนเองหรือทุกข์ของคนอื่นไม่ว่าในชีวิตตนเองหรือชีวิตคนอื่น ไม่ว่าในการต่อสู้ของตนเองหรือการต่อสู้ของผู้อื่น ก็สามารถเข้าใจในหลักการเรื่องเหล่านี้เรียนรู้แนวคิดและความเชื่อของตนเอง จากนั้นตกผลึกเป็นแนวความคิดของตนเอง  พิจารณาดูจากบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา  สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ไม่ว่าด้วยกำลังใดๆรวมทั้งความช่วยเหลือจากพลังภายนอก ที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ต้องเป็นความสำเร็จของเขาเองจึงจะอยู่เป็นนิรันดร์  ทำไมคนเราอ่อนแอ มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะได้รับการเลื่อนระดับในขอบเขตระดับเทพ ด้วยเหตุผลว่าพวกเขาอาจใช้สติปัญญาที่ยิ่งใหญ่ดำเนินการอย่างยากลำบากที่สุดที่จะไปให้ถึงระดับเทพโดยตรง แต่จุดนี้คือสิ่งที่เผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังน่ากลัวอื่นๆ  ไม่สามารถฝันถึงและมีความหวังเลื่อนไปถึงระดับเทพ ไม่ว่าอสูรศึกเผ่าพันธุ์ไหนที่เดินทางมาถึงหุบเขามนุษย์ เมื่อถึงบทหนึ่งบุคคลผู้มีประสบการณ์ชีวิต มีความเข้าใจชัดเจนว่าชีวิตคืออะไร  ทำไมพฤติกรรมการฝึกฝนจึงทำให้ก้าวไปสู่ระดับเทพได้อย่างแท้จริง”

เริ่นเทียนเกอหลับตาแน่นและรู้สึกประทับใจ

เหตุผล ความจริงก็เป็นเช่นนี้

ในขณะนั้นเขารู้สึกภูมิใจในเผ่าพันธุ์มนุษย์และประทับใจอย่างยิ่งกับการเป็นมนุษย์

มนุษย์เป็นพวกที่อ่อนแอที่สุด  แต่ทุกชีวิตต้องเป็นเหมือนมนุษย์เฉพาะจากผู้อ่อนแอที่สุด เจ็บปวดที่สุด ลำบากที่สุดเท่านั้นสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตอาณาจักรสูงส่งได้ ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีพลังที่แข็งแกร่ง เป็นเพียงชีวิตที่น่าสงสารและไม่มีทางเกี่ยวข้องกับชีวิตนิรันดร์ ไม่มีทางได้ชีวิตนิรันดร์

“ไปหาฮ็อกกับชิงหมอกันเถอะ! ตอนนี้เราตระหนักถึงสัจธรรมของหุบเขามนุษย์แล้ว เราควรจะบอกพวกเขาให้พวกเขาหยุดยั้งไม่นอกลู่นอกทางโดยไม่จำเป็น ตั้งแต่มาถึงที่นี่เพื่อสัมผัสกับชีวิต  ความขมขื่นและความสุขก็ไม่สำคัญอีกต่อไป” เริ่นเทียนเกอหัวเราะเสียงดัง ตอนนี้เขารู้สึกว่าความซึมเศร้าของการมาถึงหุบเขามนุษย์ถูกกวาดออกไปจากอกราวกับห้องโถงที่กว้างขวางขึ้น พร้อมจะรองรับสิ่งต่างๆ ได้นับไม่ถ้วน

“เจ้าคิดว่าการรับรู้ของฮ็อกจะเป็นเหมือนกับเจ้าหรือไม่?”  บัณฑิตตาเงินส่ายหน้าเบาๆ “ข้ารู้สึกว่าเขาจะต้องเจอทุกอย่างที่เป็นเรื่องโน้มน้าวใจ มิฉะนั้นเขาคงจะไม่พอใจ และไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น  ถ้าฮ็อกรวยขึ้นมาในเวลานี้ เขาอาจไม่รู้จักคิด  แต่ตอนนี้เขาจนต้องให้เขาเข้าใจถึงความทุกข์ยากลำบากอีกสักเล็กน้อย”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าใจความเป็นจริง...ดูเด็กคนนั้น!” เริ่นเทียนเกอแทบรอพบเย่ว์หยางไม่ได้ เพื่อดูการแสดงออกของเขา

“อย่าเลย, เจ้านึกว่าเจ้าเด็กนั่นจะตระหนักรู้ได้ช้ากว่าข้าไหม?  เด็กหนุ่มนั่นคือความคงอยู่ที่เราตรวจดูได้ยาก!”  บัณฑิตตาเงินถอนหายใจเบาๆ ทันที  “เป็นเพราะทางเลือกของเขา ข้าเองก็สงสัยข้าเองต้องการจะเข้าใจ เจ้าบอกว่าความเข้าใจของเขาจะช้ากว่าข้าอีกหรือ?  บางที เขาไม่ทันเข้าหุบเขา  เขาก็เข้าใจหมดแล้ว!”

“อะไรนะ?” เริ่นเทียนเกอหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เจ้าเด็กไตตันไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ?

“ไม่เป็นไร, ไปหาเขาเถอะ อย่างน้อยฮ็อกก็ต้องการความช่วยเหลือจากเขาเป็นอย่างมาก  เมื่อฮ็อกตั้งหลักได้ แล้วค่อยมาดูกันว่าในหุบเขามนุษย์เราจะช่วยเจ้าได้อย่างไร!” บัณฑิตตาเงินกลับคืนสู่สภาพบัณฑิตผู้ฉลาด ปากของเขามีรอยยิ้มเป็นยิ้มที่มาจากใจ

เมื่อเริ่นเทียนเกอเตรียมกลับไปที่เมืองเจี้ยนกว่อ

ข้างหน้าเขามีคนผู้หนึ่งกำลังรอพวกเขาอยู่

เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีสวมชุดทหารรับจ้างธรรมดา

กำลังรอให้เริ่นเทียนเกอพูดเสร็จ  เขารีบพูดอย่างเป็นพิธีการ  “สองท่านคือเริ่นเทียนเกอและบัณฑิตตาเงินใช่ไหม?  ข้าคือเหวินซินบริวารประจำปราสาทไดมอนด์สตาร์ท่านเจ้าปราสาทสั่งให้ข้าเหวินซินมารอท่านทั้งสอง”

เริ่นเทียนเกอตะลึง  เจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์รู้จักเขาด้วยหรือ?

เขารู้สึกตัวทันที  ต้องเป็นเจ้าเด็กไตตัน!

ยังไม่ทันถามว่าเกิดอะไรขึ้นเหวินซินหยิบปลอกข้อมือทองออกมาจากตัว “นี่คือปลอกข้อมือทองที่ท่านเจ้าปราสาทมอบให้ท่านทั้งสอง  และนี่ผนึกหุ่นรบอสูรชั้นทองท่านเริ่นเทียนเกอได้รับราชสีห์ทอง และงูเขาทองเพื่อสู้ทางน้ำ  ท่านบัณฑิตตาเงินได้รับหุ่นแมมม็อธทองและหุ่นฉลามเสือทองเพื่อรบทางน้ำทั้งสองท่านโปรดรับไว้ด้วย นอกจากนี้ท่านเจ้าปราสาทสั่งข้าเหวินซินให้ส่งจดหมายนี้กับท่านบัณฑิตตาเงิน”

หลังจากนั้นทหารรับจ้างหนุ่มฉีกชุดและดึงจดหมายที่ถูกห่อไว้อย่างดีออกมาน้อมมอบให้บัณฑิตตาเงินด้วยความเคารพ

“ข้าทำงานอย่างหนักมาเกือบสามเดือนได้แค่หุ่นอสูรหินดำที่ยังไม่ถึงระดับบรอนซ์ด้วยซ้ำแต่ที่ส่งมาให้ข้านี่มันคือหุ่นรบระดับทอง เจ้าเด็กนี่ต้องการให้ข้าละอายใจจนฆ่าตัวตายหรือไง?”  เริ่นเทียนเกอสวมปลอกข้อมือทองและเขาค้นพบระบบทำงานพิเศษของหุ่นรบของเขาทันที ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก เรื่องประหลาดใจครั้งใหญ่นี้แทบจะทำให้เขาล้มทรุดทันที ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ต่อหน้าเหวินซินทหารน้อย  คงจะไชโยโลดเต้นโดดตัวลอยเป็นการระบายความอัดอั้นในใจของเขา  หุ่นรบทองที่เริ่นเทียนเกอได้รับคาดว่าด้วยกำลังซื้อของเขาคงต้องเก็บออมเงินสักร้อยปี

“ข้าได้รับจดหมายแล้วโปรดกลับไปบอกเจ้าปราสาทเจ้านายของเจ้า บอกว่าเราจะไปตรงเวลาแน่” บัณฑิตตาเงินอ่านจดหมายแล้วและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ทหารหนุ่มเหวินซินเรียกหุ่นหมาป่าระดับเงินเตรียมจะขับขี่ออกไป

“รอเดี๋ยว” เริ่นเทียนเกอรั้งตัวเขาไว้  “ข้าอยากรู้เจ้านายของเจ้าส่งคนไปที่เมืองเจี้ยนกว่อหรือเปล่า?  เรามีสหายอยู่คนหนึ่ง”

“ท่านหมายถึงท่านฮ็อกใช่ไหม?”  เหวินซินพูดด้วยความเคารพ  “เพราะข้าได้ยินเรื่องท่านฮ็อกเจ้าตำหนักให้ความสำคัญกับเขาอย่างยิ่ง เขาพาคนไปหาท่านฮ็อกแล้ว คาดว่าท่านฮ็อกคงพบท่านเจ้าปราสาทแล้ว  โปรดอย่ากังวล นอกจากนี้เรามีพี่น้องอีกหลายคนถูกส่งไปเมืองไผ่เขียว เมืองเปลวอาทิตย์ เมืองผาโลหิตเมืองหมอกดำ ฯลฯ เพื่อพบเจอท่านผู้ใหญ่หลายคน อาทิ ท่านชิงหมอ ท่านซิวอิ่งท่านเซี่ยที”

“โอว,นี่คือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับเทพหรือนี่?” เริ่นเทียนเกอส่ายศีรษะมึนงงเล็กน้อย “เรายังคิดหาวิธีได้หุ่นรบระดับบรอนซ์ เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจ ส่งหุ่นทองมาให้เราคนละสองตัว ของแบบนี้มันงอกได้เองในสวนเหมือนกะหล่ำปลีตั้งแต่เมื่อใด?”

“ตอนนี้ข้าชักห่วงเรื่องจีอู๋ลี่บ้างแล้วฮ่าฮ่าฮ่า!” บัณฑิตตาเงินหัวเราะอย่างมีความสุข

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด