ตอนที่ 1076 กระบี่วิถีมนุษย์
ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในโลกคืออะไร?
คำถามนี้ผู้คนในแต่ละภูมิภาคจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไปแต่ในหุบเขามนุษย์ ทุกคนจะตอบเหมือนกันว่าศิลาเทพ
ศิลาเทพเป็นผลผลิตจากหุบเขามนุษย์ทั้งหอทงเทียนและแดนสวรรค์ สิ่งนี้เป็นของหายากที่นำกลับมาโดยผู้ท้าทายผ่านด่านในดินแดนมิติฝึกฝีมือ ศิลาเทพมีลักษณะที่เหมือนกันก็มีแตกต่างกันก็มีเหมือนกับผลึกสวรรค์ในจุดที่เหมือนกันทั้งสองเป็นแก้วผลึกที่ใช้เก็บพลังงานมหาศาล เมื่อถูกใช้งานจะมีพลังที่ร้ายกาจ ศิลาเทพแตกต่างจากผลึกสวรรค์ก็คือ ในผลึกสวรรค์สามารถใช้เพื่อชีวิตเป้าหมายที่ดีที่สุดก็คือมนุษย์ ต่อจากนั้นก็เป็นอสูรที่มีเลือดเนื้อและวิญญาณ หุ่นที่ไม่มีชีวิตเลือดเนื้อ ร่างกาย ผลึกสวรรค์ไม่สามารถส่งผลได้
แต่ศิลาเทพเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม
มันใช้ได้ผลกับหุ่นรบที่ไม่มีชีวิตไม่มีเลือดเนื้อเท่านั้น
ในหุบเขามนุษย์ศิลาเทพมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า พลังงานอนันต์
ตราบใดที่มีแสงสว่างศิลาเทพสามารถดูดซับพลังงานแสงเพื่อเติมเต็มพลังงานในผลึกที่ลดน้อยเสื่อมถอยไปได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นศิลาเทพขนาดเท่ากำปั้นมันถูกใช้เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนอสูรหุ่น หลังจากใช้พลังงานไปแล้ว มันอาจเติมเต็มได้ภายในวันเดียวถ้ามีพลังแสงเพียงพอ
ด้วยเหตุนี้เองศิลาเทพจึงมีชื่อเสียงในด้านของพลังงานอนันต์
ศิลาเทพถือเป็นของที่ลือชื่อในหุบเขามนุษย์เป็นที่นิยมที่สุดแม้แต่ราคาของมันในระหว่างสงครามเหนือกว่าเงินผลึกสวรรค์ที่มีคุณภาพระดับเดียวกัน
ทุกคนต้องการมีศิลาเทพมากๆ..ยกเว้นเย่ว์หยาง
“พวกเจ้าคิดว่าทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลกคืออะไร?” เย่ว์หยางกลับไปยังโลกคัมภีร์เขายิ้มและถามองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่
“ผลึกสวรรค์” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะโกนตอบ “ยกเว้นหุบเขามนุษย์ ศิลาเทพไร้ประโยชน์ จะเอามาเทียบกับผลึกสวรรค์ได้อย่างไร?”
“ไม่ใช่ผลึกสวรรค์ ก็ควรเป็นอักขระรูน ตราบเท่าที่เจ้าเชี่ยวชาญพลังของอักขระรูนมากเจ้าก็มีพลังงานอนันต์ บารอนไตตันเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์ของเราทำไมไม่สนใจศิลาเทพที่ทุกคนต่างตามหาเหมือนเป็ดกันเล่า? นอกจากนี้เขายังไม่เข้าใจพลังของอักขระรูน เจ้าสามารถใช้อัญมณีสร้างโลกและสนามพลังสร้างโลกสร้างหุ่นรบได้โดยตรงไม่ใช่หรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะความรู้ตกทอดจากมารดาทำให้เชี่ยวชาญอักขระรูนโบราณอย่างไม่มีจำกัด คุณชายไตตันเรายังจะเท่ห์เหมือนกับเดี๋ยวนี้หรือเปล่า?” จุ้ยมาวอี้ยิ้มและตอบ
“ผิด” เย่วหยางบอกว่าเขาไม่ได้ถามเพื่อคำตอบนี้
“ไม่ใช่ผลึกสวรรค์ ไม่ใช่อักขระรูน อย่างนั้นอะไร?” อี้หนานถามด้วยความสงสัย
“เป็นคน! เจ้าไม่ได้เข้าใจผิด เป็นคนจริงๆ” คำตอบของเย่ว์หยางทำให้จุ้ยมาวอี้อึ้งเล็กน้อยแต่นางตอบสนองและเห็นด้วยทันที
“นั่นเป็นเรื่องน่าอายถ้าจะบอกว่ามนุษย์ไม่ใช่ทรัพยากร! อย่างไรก็ตามมันยากที่จะบอกว่าคนเป็นทรัพยากร ดังนั้นมนุษย์จึงเป็นทรัพยากรที่ไม่มีที่สิ้นสุดสามารถสร้างได้ใหม่ต่อเนื่องอย่างไม่รู้จักหมดสิ้น พลังของคนคนเดียวอ่อนแอมาก แต่เมื่อเพิ่มจำนวนขึ้นพลังของทรัพยากรนี้สามารถเพิ่มขึ้นเป็นล้านสร้างปาฏิหาริย์ได้มากมาย....” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยอมรับว่าเป็นอย่างที่เย่ว์หยางกล่าว
“มิน่าเล่า เสี่ยวซานพยายามรวบรวมทรัพยากรผู้คนตั้งแต่เจ้าเข้ามาในหุบเขามนุษย์” เย่ว์หวี่ยิ้มตลอดเวลาที่นางให้การสนับสนุนน้องชาย เมื่อน้องชายสร้างปาฏิหาริย์และประสบความสำเร็จนางจะภูมิใจเขา
“ทรัพยากรมนุษย์นี้ไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้แต่ยังมีอย่างไม่รู้จักหมดสิ้น ไม่มีการหมดอายุจุดที่สำคัญที่สุดก็คือยิ่งมีทรัพยากรมนุษย์มาก ก็มีการแสดงออกได้มากขึ้น แน่นอนว่าจะต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์และการบังคับบัญชาที่เหมาะสมความพยายามร่วมกัน หากความสามัคคีภายในไม่เป็นเอกภาพและมีความไม่ลงรอยกัน ทรัพยากรมนุษย์ประเภทนี้กลับจะท้าทายเจ้านายของตนกลายเป็นหายนะที่ใหญ่ที่สุดของโลก”เย่ว์หยางตวัดดาบจันทร์เสี้ยวในมือและยิ้ม “ทรัพยากรมนุษย์เป็นดาบสองคม ถ้าเจ้าใช้ไม่ดี เจ้าก็อาจทำร้ายตัวเอง แต่ถ้าเจ้าใช้ได้ดีนั่นจะเป็นทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดในโลก เป็นดาบที่คมที่สุดในโลก!”
“นี่คือสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้ในโลกจิตสำนึกดาบกระบี่หรือ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจำได้ว่าเย่ว์หยางมีการรู้แจ้งในโลกจิตสำนึกดาบกระบี่วันนั้น
“การรับรู้เป็นเรื่องดีแต่ยังไม่มีความหมาย” สีหน้าท่าทางของเย่ว์หยางตอนนี้วางมาดว่า ‘ข้าฉลาดนักหนาดีนักหนา’ จนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมั่นไส้อยากกัดจมูกเขายิ่งนัก
“กระบี่มนุษย์? กระบี่วิถีมนุษย์...เทพเจ้าสร้างอาวุธเทพร่างมนุษย์เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจกับอนุชนรุ่นหลังอย่างเราหรือเปล่า?” อี้หนานถามประโยคนี้ในทันใด
“อ๊า....” เย่ว์หยางตะลึงเมื่อได้ยินประโยคนี้
“หากเป็นในกรณีนี้อย่างนั้นหุบเขามนุษย์ก็น่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะสองสาวพี่น้องอาเหยาอาหยู ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎสวรรค์เรื่องนี้ข้าเองก็รู้สึกว่าแปลกเล็กน้อย แต่ข้าบอกไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ดูเหมือนจับเค้าลางได้เล็กน้อยแต่ครู่หนึ่งนางไม่สามารถแสดงออกอย่างชัดเจน
“หุบเขามนุษย์ไม่ได้จำกัดอาวุธเทพร่างอสูรใช่ไหม!” หลังจากจุ้ยมาวอี้พูดยังไม่ทันจบดี เย่ว์หยางตะโกนทำให้ทุกคนตกใจ
“ข้าเข้าใจความลับของชีวิตในหุบเขามนุษย์แล้ว อย่างน้อยก็เล็กน้อย อย่างน้อยข้าก็อยากจะเข้าใจ” เย่ว์หยางกระโดดตัวลอยด้วยความตื่นเต้นเขากอดอี้หนานผู้ไร้เดียงสาและไขความลับฟ้าโดยมิได้ตั้งใจพร้อมกับจูบนางอย่างหนักหน่วงเป็นการให้รางวัลจากนั้นกอดจุ้ยมาวอี้และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แม้จะมีการขัดขืนเล็กน้อยก็ตามก็ยากจะยับยั้งความดีใจของเขาได้
“เสี่ยวซาน เสี่ยวซานเจ้าสงบสติอารมณ์ลงก่อน” เย่ว์หวี่กลัวว่าเย่ว์หยางจะเผลอจูบนางอย่างร้อนแรงนางรู้ว่าเขากำลังดีใจมาก แต่ถ้าทำอย่างนั้นเป็นเรื่องไม่ดี มันน่าอายเกินไป
“ข้าสงบมากอยู่แล้ว พี่หวี่, ท่านมากับข้าก่อน!” เดิมทีเย่ว์หยางก็ต้องการกอดเย่ว์หวี่และจูบนางแต่เมื่อได้ยินนางพูดดักคอไว้ก่อน เขาควบคุมแรงกระตุ้นนั้นอย่างรวดเร็วจากนั้นจูงมือนางพาไปห้องค้นคว้าทดลอง เขาค่อนข้างใจร้อนเล็กน้อยเพื่อจะพิสูจน์ความลับของหุบเขามนุษย์ที่เขาเพิ่งรู้ว่ามีอยู่จริง และเขาไม่อาจรอคอยได้แม้แต่ครู่เดียวกลัวว่าแม้แต่จะอธิบายให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟังจะทำให้สายเกินไป
“อย่าดึงข้า เสี่ยวซาน รีบปล่อยมือ” เย่ว์หวี่ไม่สามารถต้านทานความแข็งแรงของเย่ว์หยางได้ เขายังดึงดันตื่นเต้นดึงนางไปจนได้นางทั้งโกรธทั้งขำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางกังวลแบบนี้ เขามีความตั้งใจยังไงกันแน่?
“แม้ว่าเจ้าเด็กนี่มีความคิดเพี้ยนๆแต่ความรู้ของเขานั้นดีจริงๆ” จุ้ยมาวอี้มองดูเย่ว์หยางและเย่ว์หวี่แล้วอดยิ้มชื่นชมมิได้
“เรื่องนี้ต้องยกให้เป็นความดีของอี้หนานเจ้าทำให้เขามีความรู้กระจ่างขึ้นมิฉะนั้นเจ้านั่นคงต้องอยู่ในหุบเขามนุษย์ไปเป็นปีและอาจไม่เข้าใจความลับที่แท้จริงในหุบเขามนุษย์ก็เป็นได้” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนลูบหน้าอี้หนานเบาๆ
“ฮะฮะ ตราบเท่าที่ข้าไม่สนใจเรื่องใหญ่ๆของเขา...”
อี้หนานอารมณ์ดีอดแลบลิ้นล้อเลียนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมิได้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีสีหน้าภูมิใจ
สามารถช่วยเขาได้
แม้ว่านางจะพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นความภูมิใจในใจนาง
นางไม่เหมือนกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกับเสวี่ยอู๋เสียนางสามารถช่วยเขาได้ในทุกด้าน ไม่เหมือนกับมารกฎฟ้า โล่วฮัวพี่อู๋เหินและพี่เย่ว์หวี่ พวกนางทุกคนมีทักษะฝีมือเฉพาะตัวที่ไม่มีใครแทนได้ แม้ว่าอี้หนานจะให้การช่วยเหลือเย่ว์หยางผ่านการฝึกพลังคู่รักเพื่อเสริมพลังให้กับเย่ว์หยางและช่วยเสริมพลังงานบริสุทธิ์ให้กับเย่ว์ปิง แต่นี่เป็นความลับในการฝึกฝนพลังคู่รักไม่สามารถอธิบายกันต่อหน้าได้ และอี้หนานก็หวังว่าเขาก็เหมือนกันสามารถช่วยเขาได้มากขึ้น ไม่ใช่เอาแต่ส่องกระจกมองดูความงามนี่ไม่สมกับเป็นภรรยาผู้น่ารักของเขา
ในหุบเขามนุษย์ไม่มีใครรู้ว่าเย่ว์หยางอยู่ในห้องทดลองค้นคว้าแน่นอนเขาเรียนรู้ความลับด้วยความช่วยเหลือจากเย่ว์หวี่
มันยังคงทำงานได้ตามปกติ
ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เป้าหมายและแสดงตามบทของตน ขุนนางมีความหยิ่งทระนงสูงส่ง และสามัญชนทำงานอย่างหนักเพื่ออาหารวันละสามมื้อ
เย่ว์หยางออกมาจากโลกคัมภีร์นั่นคือเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อทหารรับจ้างที่นำโดยสิงโตเหล็กและเหวินซินได้รับการยอมรับเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เย่ว์หยางมาพร้อมกับแสงตะวันยามเช้าฉายส่องจากด้านหลังของเขาราวกับเทพเจ้า...ทหารรับจ้างที่รอต้อนรับต่างตกใจกันหมด
“คุณชายไตตันเรากำลังเตรียมออกเดินทางไปรับไข่อสูรปราณฟ้าที่ได้สั่งซื้อไว้” สิงโตเหล็กผู้มีเคราดกรู้สึกว่าเย่ว์หยางมาที่นี่ ต้องมีการมอบหมายภารกิจใหม่
“ไม่ต้องวุ่นวายเกินไป” เย่ว์หยางโบกมือ “เมื่อทุกคนพร้อมจะทำงานบางอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือทำทันที การซื้อไข่อสูรปราณฟ้าเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ วันนี้จะกลับไปซื้ออีกก็จะตกเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงราคาตลาดที่สูงคาดว่าบางคนคงคิดว่าสินค้าแปลกสามารถเลี้ยงชีวิตได้ ก็จะพากันโก่งราคาเพื่อตุนเอาไว้ทันทีเป้าหมายของเรายังเหมือนเดิม แต่ต้องมีเคล็ดลับการใช้ให้ยืดหยุ่นเล็กน้อย” เย่ว์หยางยื่นส่งกระดาษระบุราคาให้หัวหน้าสิงโตเหล็กซึ่งสิบกว่ารายการจำเป็นต้องจัดซื้อให้ได้มาก
“ของเหล่านี้ต้องการทั้งหมดหรือไม่? บางอย่างดูไม่คุ้มค่า!” หัวหน้าสิงโตเหล็กชำเลืองมองตอนแรกรู้สึกอึดอัดใจ
“เราไม่เพียงแต่แสดงรายการสิ่งของที่เราต้องการบางอย่างก็ต้องการ บางอย่างก็ไม่จำเป็นแต่ทั้งหมดรวมกันนั้นเพื่อให้เกิดความสับสน ความสับสนทำให้ผู้คนไม่สามารถคาดเดาเป้าหมายที่แท้จริงของเราได้ เย่ว์หยางให้ความมั่นใจกับทหารรับจ้าง และยิ้มกล่าว ”ไปซื้อของตามรายการที่ระบุไว้ให้มากที่สุด อย่าหยุดในทุกกรณี...”
“เข้าใจแล้ว” หัวหน้าสิงโตเหล็กในตอนนี้กำหนดตัวเองอยู่ในสถานะผู้ใต้บังคับบัญชาสิ่งที่เจ้านายสั่งไม่จำเป็นต้องสงสัย
“เพื่อให้ได้ของต่างๆ โดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้ข้าจะมอบเงินไว้ให้เจ้า 300 ผลึกสวรรค์” เย่ว์หยางยื่นบัตรแลกเงินผลึกสวรรค์ให้สิงโตเหล็กจำนวนเงินที่ระบุไว้บนตั๋วแลกเงินทำให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ สิงโตเหล็กแทบจะทำร่วง
“ความจริงไข่อสูรปราณฟ้าราคาห้าสิบผลึกสวรรค์เมื่อวานนี้เราก็ยังได้ไม่คุ้มค่าราคาเงินมากนักนอกจากนี้ส่วนใหญ่แปลงเป็นเงินผลึกแตกตามมูลค่าที่แท้จริงของเงินผลึกสวรรค์เราได้รับการยอมรับ และเงินที่ยังเหลือ 45ผลึกสวรรค์ก็เพียงพอซื้อของได้เป็นจำนวนมาก และของต่างๆ มากมายนั้นมีราคาถูกเอามากองรวมกันคาดว่าน่าจะสูงกว่าภูเขา ตอนนี้ท่านให้มาเพิ่มอีกสามร้อยผลึกสวรรค์เรารู้สึกละอายใจมากตอนนี้เราอยู่ใต้บัญชาการของปราสาทไดมอนด์สตาร์แล้ว ถ้าไม่มีความดีความชอบเราไม่กล้ารับเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น” สิงโตเหล็กขอโทษเย่ว์หยางเขากล่าวว่าเขาและสหายของเขายอมรับว่ามีการหลอกลวงอยู่บ้างเมื่อวานนี้ ขอให้เขายกโทษและเขารู้สึกว่าถ้ายังไม่ได้ทำความดีพิสูจน์ความภักดีเขาไม่กล้าถือเงินมากมายถึงสามร้อยผลึกสวรรค์ แม้ว่าจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานเขาก็ไม่กล้ารับไว้
“สามร้อยผลึกสวรรค์มากเกินไป คุณชายไตตันโปรดรับคืนกลับไปเถิดเราจะทดรองจ่ายไปส่วนหนึ่งก่อนและค่อยรายงานท่านก็ยังไม่สายเกิน” เหวินซินทหารรับจ้างผู้ทำหน้าที่ต้อนรับเมื่อวานนี้รีบส่งเงินคืนเย่ว์หยางด้วยความเคารพพร้อมกับแนะนำเขา
“ฟังให้ดี สิ่งที่ข้าไม่ยอมขาดแคลนก็คือเงินผลึกสวรรค์” เย่ว์หยางพูดคำที่เป็นแรงบันดาลใจตอนเข้าหุบเขามนุษย์ ที่หลายคนลืมไปแล้ว
ประโยคนี้ทำให้ทหารรับจ้างตะลึง
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผลึกสวรรค์?
อารมณ์ของพวกทหารรับจ้างเปลี่ยนไปรู้สึกเหมือนคุณชายโกหกน้ำขุ่น
สิงโตเหล็กบุรุษร่างใหญ่รู้สึกอยากร้องไห้ทันทีหากเขาติดตามเจ้าปราสาทที่ทรงอำนาจขนาดนั้นหลุมศพตระกูลของเขาคงได้รับการเชิดชูความกล้าหรือไม่? ในเวลาเดียวกันเจ้านายให้ความไว้วางใจมอบเงินให้พวกเขาสามร้อยผลึกสวรรค์ ความไว้วางใจแบบนี้เขาไม่สามารถทดแทนได้นั่นเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มใจที่สุดในโลกหรือไม่?
สำหรับบุรุษที่โตเป็นผู้ใหญ่ล้วนแต่กระตือรือร้นเพื่อความก้าวหน้า
ได้รับการยอมรับและไว้วางจากผู้บังคับบัญชา
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
คำชื่นชมความไว้วางใจคือสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระตือรือร้นอยากได้มาทั้งชีวิตไม่สามารถตอบแทนได้ นอกจากผู้มีความภักดีแล้วไม่มีอะไรจะเทียบได้
“ข้าเชื่อว่าท่านจะทำได้ดี” เย่ว์หยางตบไหล่สิงโตเหล็กเบาๆ เป็นการให้กำลังใจแต่สิงโตเหล็กรู้สึกสั่นสะท้านในวิญญาณ
“เข้าใจแล้ว”สิงโตเหล็กพยายามอย่างดีที่สุดในชีวิตเค้นคำตอบรับอย่างหนักแน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเสียงสั่น
“นอกจากนี้สิ่งต่างๆ ในรายการนี้ถ้าพวกเจ้าพบเจอบางอย่างที่ล้ำค่าและสามารถสั่งซื้อได้อย่างเช่น บัวเพลิงแสงถ้าพบว่ามีอายุพันปีขึ้นไป ให้รายงานข้าทันที นอกจากนี้หากเจ้ามีเงินมากมายในตัวและเจ้ากำลังซื้อของอย่างเพลิดเพลินอาจมีพ่อค้าที่ขายศิลาเทพให้กับเจ้า จำไว้ว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องมีศิลาเทพโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าให้ศิลาเทพกับบัวเพลิงแสงต้นไม้วิเศษสัมผัสกันถ้าเป็นไปได้ให้เจ้าซื้อทาสมามากๆ” เย่ว์หยางคนเดียวสั่งสิงโตเหล็กเหวินซินและหัวหน้าทหารรับจ้างอื่นอีกหลายคน
“ขอรับ”แม้ว่าพวกสิงโตเหล็กจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เจ้านายมีคำสั่ง เขาเพียงแต่ทำตามที่เจ้านายสั่ง
“ดีแล้ว เมื่อข้าไม่พูดอะไรพวกเจ้าขณะอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะเป็นการดีที่สุดให้ทำเป็นแสร้งไม่รู้จักข้าสิ่งของทั้งหมดให้ส่งไปที่ปราสาทไดมอนด์สตาร์พ่อบ้านตูลี่จะจัดการทุกอย่างให้พวกเจ้า อย่าให้คนอื่นสังเกตได้ว่าข้าเป็นเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์สถานะของข้าในตอนนี้เป็นแค่นักเรียนผู้พเนจรแดนฟ้า” เย่ว์หยางกระซิบเบาๆจากนั้นกลับไปยังห้องจัดแสดงสินค้าเมืองไม้เงินกลับไปเป็นนักเรียนใหม่ที่ว่าง่าย
ไม่มีใครรู้พฤติกรรมของเขาในช่วงสองวันมานี้
ในไม่ช้าวังวนการค้าใหญ่จะก่อตัวขึ้นทั่วทั้งหุบเขามนุษย์
เย่ว์หยางผู้รู้เรื่องความลับของหุบเขามนุษย์โดยบังเอิญจากอี้หนานกำลังจะใช้กระบี่วิถีมนุษย์เขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก รอยยิ้มของเขาสว่างกว่าแสงตะวันยามเช้า