CD บทที่ 323 ต้าเหิงสุดมหัศจรรย์
“นะ… หนีไป…” เผิงซินล้มลงและคลานไปบนพื้น เธออยากจะลุกขึ้นแต่จู่ ๆ ก็รู้สึกวิงเวียน จากนั้นเธอก็ล้มลงและหมดสติไปหลังจากที่เธอพูดจบ
จ้าวหยู่ตกใจมาก เมื่อเขามองไปที่ทางเข้าร้านหนังสือ เขาเห็นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากร้าน ในควันเหลียงฮวนกำลังลากขาของใครบางคนออกมา
แม้ว่าจ้าวหยู่จะตกใจ แต่เขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ควันสีขาวในร้านหนังสือน่าจะเป็นควันพิษ ดังนั้นตำรวจส่วนใหญ่ที่พุ่งเข้าไปจึงถูกควันพิษเข้าเต็ม ๆ
คนที่เหลียงฮวนกำลังลากคือต้าเฟย คนแรกที่รีบเข้าไป ต้าเฟยทรุดลงบนพื้นแล้ว ไม่ขยับเลย! เมื่อเหลียงฮวนพยายามดึงเขา เขาไม่สามารถกลั้นหายใจได้ เขารู้สึกวิงเวียน สำลักควันสีขาว และล้มลงตรงทางเข้าร้านหนังสือ
จ้าวหยู่ปิดประตูรถและรีบไปช่วยเหลือทันที แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าควันสีขาวคืออะไร แต่ความรู้สึกในหัวของเขาบอกเขาว่าเขาไม่สามารถสูดควันพวกนั้นเข้าไปได้ ดังนั้นเขาจึงเปิดใช้งานเครื่องช่วยหายใจล่องหนผ่านระบบทันที!
เครื่องช่วยหายใจล่องหนสามารถให้ออกซิเจนได้โดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีนี้ เขาจะไม่รับก๊าซพิษใด ๆ เข้าไป
นักสืบคนอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับเขากำลังตื่นตระหนก พวกเขาต้องการช่วยชีวิตเพื่อนร่วมงานด้วยเช่นกัน จ้าวหยู่กลัวว่าพวกเขาอาจถูกพิษจากควัน เขาจึงบอกให้พวกเขาอยู่เฉย ๆ ขณะที่เขารีบวิ่งไปที่ทางเข้าร้านหนังสือ เขาลากต้าเฟยและเหลียงฮวนกลับมาด้วยมือคนละข้าง
ส่วนเผิงซินที่หมดสติ เธออยู่ห่างออกไปจากควันสีขาวอยู่พอสมควร นักสืบคนอื่น ๆ ก็ลากเธอไปยังพื้นที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว
“มันอาจเป็นยาสลบอย่างแรง” นักสืบบอกจ้าวหยู่ หลังจากตรวจดูเพื่อนร่วมงานที่หมดสติทั้งสามคน “พวกเขาไม่น่าจะเป็นอะไรมาก แค่ถูกทำให้หมดสติไปเท่านั้น!”
“โทรไปที่สถานีเพื่อกำลังสำรอง! ฉันจะเข้าไปข้างในเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัย!” จ้าวหยู่วิ่งตรงเข้าไปในร้านหนังสือ
“เดี๋ยวก่อน หัวหน้าทีมอย่าเข้าไป!” นักสืบต้องการหยุดจ้าวหยู่ แต่เขาได้วิ่งเข้าไปในร้านหนังสือแล้ว
ร้านหนังสือเต็มไปด้วยควันสีขาว และเขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แม้ว่าจ้าวหยู่ไม่จำเป็นต้องหายใจ แต่ควันก็ดูเหมือนจะเป็นก๊าซที่ทำให้ระคายเคืองเมื่อเข้าตาและทำให้เขาน้ำตาไหล
จ้าวหยู่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะมองไปรอบ ๆ ในที่สุดเขาก็พบคนสองคนนอนอยู่บนพื้นในร้านหนังสือ สองคนนี้น่าจะมาจากทีมเฉพาะกิจ และพวกเขาก็สลบไปแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะมีความขัดแย้งแบบไหน จ้าวหยู่ก็ไม่สามารถทิ้งพวกเขาไว้ที่นั่นได้ เขาจับขาของพวกมันแล้วลากออกมา
"หัวหน้าทีม!" เหล่านักสืบเห็นจ้าวหยู่ลากอีกสองคนออกมาและพวกเขาก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวหยู่ถึงไม่ได้รับผลกระทบจากควันสีขาว แถมเขายังพาคนทั้งสองออกมาข้างนอกและวิ่งเข้าไปในร้านอีกครั้งโดยที่ไม่เป็นอะไรเลย
เมื่อจ้าวหยู่เข้าไปในร้านก่อนหน้านี้ เขาก็พบบันไดในร้านได้อย่างง่ายดาย เขาเห็นตะเกียงน้ำมันก๊าดที่บันได และนั่นคือที่มาของควันสีขาว เขาก้าวข้ามตะเกียงและวิ่งขึ้นชั้นบน มันยังเต็มไปด้วยควันสีขาว เขาเห็นนักสืบอีกคนบนพื้น
‘แปลก’ เขาคิด ‘นักสืบที่หมดสติได้ชี้ไปทางหน้าต่างชั้นสอง ดูเหมือนว่าเขากำลังชี้อะไรบางอย่าง!’
ทันใดนั้น จ้าวหยู่ก็นึกถึงผู้ต้องสงสัย ฉิวซินหยางทันที!
“ฉินซินหยางหนีไปแล้วงั้นหรือ?” เขารีบมองออกไปนอกหน้าต่าง มีสนามหญ้าเล็ก ๆ อยู่ข้างนอก และมีต้นทับทิมอยู่ข้างหน้าต่าง บนกิ่งไม้แห่งหนึ่ง มีหน้ากากกันแก๊สที่สะดุดตา ดูเหมือนว่าหน้ากากป้องกันแก๊สต้องติดอยู่ที่กิ่งไม้ตอนที่ฉิวซินหยางกำลังหลบหนี!
“โธ่เอ๊ย!” จ้าวหยู่มองไปรอบ ๆ แต่เขาไม่เห็นใครเลย เขาติดต่อกับนักสืบข้างนอกด้วยเครื่องส่งรับวิทยุของเขา และบอกให้พวกเขาไปที่สวนหลังบ้านและรอบ ๆ ร้านหนังสือเพื่อตามหาผู้ต้องสงสัย!
หลังจากนั้น จ้าวหยู่ก็เดินไปรอบ ๆ ชั้นสองของร้านหนังสืออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น ก่อนที่เขาจะหามนักสืบที่หมดสติออกจากร้านหนังสือ!
เมื่อจ้าวหยู่เดินออกจากร้านหนังสือ กำลังเสริมชุดแรกก็มาถึง เสียงไซเรนของรถตำรวจส่งเสียงดังที่ทางเข้าร้านหนังสือ ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมเสื้อเการะกลุ่มหนึ่งเดินออกมา ทุกคนตกใจที่เห็นเจ้าหน้าที่หมดสติจำนวนมาก พวกเขาเรียกรถพยาบาลและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
จ้าวหยู่บอกให้เพื่อนร่วมงานไปตั้งด่านในบริเวณใกล้เพื่อสกัดกั้นผู้ต้องสงสัยที่กำลังหลบหนี จากการประเมินคร่าว ๆ เขาคิดว่าผู้ต้องสงสัยคงอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ!
ในขณะที่เขากำลังสั่งการเพื่อนร่วมงานของเขา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาอุตส่าห์คิดว่าเมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาจะสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้โดยละม่อม
เขาคิดว่าสมาชิกในทีมของหวังเชินเหยาคงไม่รู้มาก่อนว่าฉิวซินหยางเป็นฆาตกรในคดีธุรกรรมอำพราง พวกเขามาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับคดีนี้เท่านั้น แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าฉิวซินหยางจะโจมตีพวกเขากลับด้วยควันยาสลบ!
ถ้าไม่ใช่เพราะคนเหล่านี้มายุ่ง พวกเขาอาจจับกุมฉิวซินหยางได้ไปแล้ว ไม่เพียงแต่ผู้ต้องสงสัยจะไม่ถูกจับกุม แต่ยังทำให้นักสืบบางคนที่ถูกรมยาสลบอีกด้วย!
‘แม่งเอ๊ย! ให้ตายเถอะ!’
ในตอนแรก พวกเขาต้องการรอให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดมาถึงเพื่อกำจัดควันสีขาวที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น แต่จ้าวหยู่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และในขณะที่เครื่องช่วยหายใจล่องหนของเขายังทำงานอยู่ เขาจึงรีบเข้าไปในร้านหนังสือและนำตะเกียงน้ำมันก๊าดที่มีควันขาวพุ่งออกมา มีกองทรายอยู่ข้างถนนจึงโยนเข้ากองทรายแล้วฝังมันไว้ จากนั้นควันก็จางหายไป
*วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ…*
ในเวลาเดียวกัน เสียงไซเรนของรถตำรวจของทีม B ก็มาถึงที่เกิดเหตุแล้ว หลังจากทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น เหมี่ยวอิงก็หัวร้อนในทันที ถ้าเธอไม่มีงานสำคัญอยู่ในมือ เธอคงจะรายงานเรื่องของหวังเชินเหยาให้ทางเบื้องบนทราบไปแล้ว!
เนื่องจากอุบัติเหตุที่ร้านหนังสือ ฉิวซินหยางจึงดูน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น ตำรวจค่อนข้างแน่ใจว่าเขาเป็นฆาตกรในคดีธุรกรรมอำพราง
ดังนั้น เหมี่ยวอิงจึงรีบส่งรูปถ่ายของฉิวซินหยางให้กับทีมจับกุมแต่ละทีม และติดต่อกับแผนกจราจรเพื่อจัดชุดลาดตระเวนเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัย
ผ่านไปประมาณสิบนาที ไม่มีการอัพเดทเพิ่มเติมจากแต่ละแผนก ไม่มีใครพบฉิวซินหยางเลยแม้แต่น้อย
ในที่สุด รถพยาบาลก็มาถึง โชคดีที่เผิงซินได้รับพิษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อรถพยาบาลมาถึง เธอก็ฟื้นคืนสติแล้ว แต่เหลียงฮวนและต้าเฟยยังหลับสนิทและไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นเลย
เจ้าหน้าที่แพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเร่งด่วน เจ้าหน้าที่แพทย์ที่มีประสบการณ์คนหนึ่งบอกพวกเขาว่ายาสลบที่ผู้ต้องสงสัยใช้มีฤทธิ์รุนแรงอาจอันตรายถึงชีวิต และพวกเขาต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา
การช่วยเหลือพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเหล่านักสืบจึงช่วยกันเคลื่อนย้ายพวกเขาทั้งหมดขึ้นรถพยาบาล
เมื่อรถพยาบาลออกไป หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดก็มาถึง
ขณะที่จ้าวหยู่ได้จัดการที่ปล่อยควันแล้ว หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและยืนยันว่าไม่มีอันตรายใด ๆ ในร้านหนังสือแล้ว
“ทุกคนเร็วเข้า!” เหมี่ยวอิงบอกนักสืบที่เหลือ “เราต้องสืบค้นในร้านหนังสือให้เร็วที่สุด หากซุนยี่ฮานถูกฉิวซินหยาจับตัวไป เธออาจถูกขังอยู่ที่นี่!”
ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อทำการตรวจสอบทันที
จ้าวหยู่ต้องการตามพวกเขาไป แต่จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
‘ฉิวซินหยางไม่น่าจะอยู่ห่างจากที่นี่มากเกินไป มันเพิ่งมาได้ไม่นานเอง ไอ้สารเลวนั่นอาจจะซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากที่นี่อย่างแน่นอน!’
ดังนั้น จ้าวหยู่จึงเข้าไปเปิดรถและอุ้มต้าเหิงออกมา
“ต้าเหิง” จ้าวหยู่ลูบหัวมันแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ฉันต้องพึ่งแกแล้ว!”
เขาพาต้าเหิงไปที่สวนหลังบ้านของร้านหนังสือและหยิบหน้ากากป้องกันแก๊สที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งไว้บนต้นไม้ลงมา เขาบอกให้ต้าเหิงดมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ และเขาก็แสดงรูปถ่ายของฉิวซินหยางให้ต้าเหิงดูด้วย
“ไปเลย ต้าเหิง!” จ้าวหยู่พูดอย่างตื่นเต้น “เร็วเข้า หาไอ้เลวนี่ให้ฉันที!”
หลังจากดูภาพแล้ว ต้าเหิงก็เห่าอย่างตื่นเต้น จากนั้นมันก็วิ่งไปรอบ ๆ จ้าวหยู่เป็นวงกลมและวิ่งเข้าไปในซอยผ่านสนามหลังบ้านของร้านหนังสือ
“เยี่ยมมาก!” จ้าวหยู่ตามต้าเหิงไป
เมื่อเหล่านักสืบเห็นจ้าวหยู่มุ่งหน้าไปอย่างไม่มีขี่ไม่มีขลุ่ย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและตามจ้าวหยู่ไปพร้อมปืนในมือ
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง…”
หลังจากเลี้ยวไม่กี่ซอยพวกเขาก็มาถึงที่หมาย จ้าวหยู่เกือบจะคุกเข่าลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า!
“อะไรกันวะเนี่ย!” จ้าวหยู่โวยวาย เมื่อเห็นว่าต้าเหิงพาพวกเขาไปที่ห้องน้ำสาธารณะที่มีกลิ่นเหม็น!!