ตอนที่ 1074 สั่งซื้อ
การประชุมสัมมนาในเมืองใบทองไม่เหมือนงานเลี้ยงประชันความงาม
แต่ค่อนข้างคล้ายกับงานแสดงสินค้ามากกว่า
ในหุบเขามนุษย์ผู้มีชื่อเสียงและนักเรียนที่ได้รับเชิญจากทั่วโลกจะนำผลิตภัณฑ์พิเศษของตนหรือผลิตภัณฑ์พิเศษมานำเสนอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนประเภทนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการแลกเปลี่ยนกันและกันพร้อมกับมองหาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
เมืองไม้เงินมีผลิตภัณฑ์ที่พิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดนั่นก็คือใบเมเปิลเงินที่ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยายาเสพติด
เมืองไม้เงินตั้งชื่อตามใบเมเปิลเงินนี้
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่าง
ในพื้นที่ปราสาทไดมอนด์สตาร์ที่เย่ว์หยางเป็นเจ้าของ อัญมณีอะเมทิสที่ขุดได้จากเหมืองไม่มีพบเจอในที่อื่นหากเขานำเสนอครั้งใหญ่นั่นจะเป็นบททดสอบที่ดีสำหรับการประเมินคะแนนชีวิตในอนาคต นักเรียนหลายคนชมชอบอวดตนเองในการสัมมนาแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการพัฒนาของพวกเขา... “บารอนไตตัน! ท่านไม่แสดงผังรูนของท่านหน่อยหรือ?” ฟ่านซื่ออี้ยิ้มขณะพบเจอเย่ว์หยาง
“บารอนเพิ่งจะเข้าโรงเรียน! ผลงานของเขาคงจะยังไม่สมบูรณ์” ชายชราเคราดำหยอกเขาเล่น
“เหรอ?งั้นก็คงไม่มีงานมาอวด” ฟ่านซื่ออี้ทำเป็นเผลอตะโกนดัง เขาหวังว่าทุกคนในห้องประชุมสัมมนาจะได้ยินคำพูดของเขา และทำให้เย่ว์หยางเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์ได้รับความอับอาย
“เจ้ามาทำงานที่นี่หรือ?”เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย “เจ้าคิดว่าลูกค้าที่จ่ายเงินอย่างไม่เห็นแก่ตัวเพื่อช่วยเหลือนักเรียนจะได้รับความนิยมมากขึ้นได้อย่างไร?”
“เฮอะ!” ฟ่านซื่ออี้สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เขาเป็นคนฉลาดจะไม่เข้าใจความหมายนี้ได้อย่างไร?
เย่ว์หยางบอกว่ารถม้าและม้าล้วนใช้หลอกลวงเอาเงิน เขาฟังแล้วรู้สึกไม่ดีในใจทว่าก็ช่วยอะไรไม่ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สามารถห้ามอีกฝ่ายมิให้ใช้เงินในการประชุมสัมมนาได้? ในหุบเขามนุษย์ถ้ามีเงินและสถานะใครจะห้ามอะไรได้? หากเย่ว์หยางเป็นเพียงทหารรับจ้างธรรมดา หรือนักธุรกิจธรรมดา ฟ่านซื่ออี้ยังสามารถใช้อำนาจบางอย่างข่มเย่ว์หยางได้และขับไล่ออกจากการสัมมนาโดยตรง แต่เย่ว์หยางมีศักดินาเป็นบารอนครอบครองปราสาทไดมอนด์สตาร์และมีเขตแดนปกครอง.. ฟ่านซื่ออี้เป็นคนรุ่นเก่าสถานะที่แท้จริงเมื่อเทียบกับเย่ว์หยางแล้วด้อยกว่ามาก
ปรากฏว่าเจ้าเมืองไม้เงินต้องการเอาเปรียบปราสาทไดมอนด์สตาร์ฟ่านซื่ออี้โห่ร้องตามเขาหวังมีส่วนร่วมดื่มน้ำแกง (หวังผลประโยชน์ที่เหลือ)
ตอนนี้เจ้าเมืองไม้เงินและจงหัวบุตรชายคนที่สิบยอมสละการแสวงหาผลประโยชน์จากปราสาทไดมอนด์สตาร์เขาไม่ยุ่งกับการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ และยังมีความตั้งใจจะดูแลเขา
“ไตตันน้อย,นี่เงินหนึ่งพันผลึกสวรรค์ หากเจ้าต้องการซื้ออะไร ก็ซื้อได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” อาจารย์ใหญ่กำลังจะออกไปสมทบกับสหายเก่าสองสามคน ก่อนจะออกไปเขาส่งบัตรใบหนึ่งให้เย่ว์หยางนักเรียนที่น่าภาคภูมิใจของเขาได้ใช้ในงานสัมมนา อาจารย์ใหญ่กังวลว่านักเรียนที่เขาภาคภูมิใจจะรังเกียจในการใช้เงินแต่เขาก็แนะนำไว้ก่อน
“ขอบคุณอาจารย์ใหญ่”ถ้าเป็นความประพฤติตัวเรียบร้อยในโรงเรียนเย่ว์หยางคงได้รางวัลนักเรียนมารยาทดีเด่น
“บัดซบ..” ฟ่านซื่ออี้เห็นเช่นนั้นเขาอยากเอาศีรษะโขกกำแพง
เขาไม่เคยเห็นอาจารย์ใหญ่เป็นแบบนี้มาก่อน
ปกป้องทะนุถนอมนักเรียนนี่ยังให้เงินอีกพันผลึกสวรรค์ เป็นไปได้อย่างไร?
พันผลึกสวรรค์ หมายความว่ายังไง? เขาเป็นถึงเจ้าหน้าที่กงสุลและเป็นบุคคลสำคัญในเมืองไม้เงิน แต่รายได้ประจำปีของเขารวมทั้งเงินเดือนปกติ และเงินสีเทาต่างๆก็ยังไม่มากเกินกว่านี้
ตอนนี้รายได้ของเจ้าหน้าที่กงสุลต่อปียังไปไม่ถึงจำนวนมหาศาล ยังไม่เท่ากับเงินที่เจ้าเด็กนี่ได้รับ
นี่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!
ฟ่านซื่ออี้รู้สึกว่าถ้าเขาเป็นเทพผู้ลงโทษตามกฎสวรรค์เขาจะใช้สายฟ้าฟาดเจ้าเด็กนี่จนตาย
“เงินมากมายขนาดนี้ข้าควรซื้ออะไรดี? บางครั้งมีเงินมากเกินไปก็น่ารำคาญ!” เย่ว์หยางล้วงตั๋วเงินออกมาและสะบัดต่อหน้าฟ่านซื่ออี้ ฟ่านซื่ออี้โมโหแทบกระอักเลือด เจ้าเด็กบ้านี่ไม่รู้ได้รับเงินมาได้ยังไง? เจ้ามีความสุขนักหรือที่ได้ยั่วโมโหคนอื่น? ถ้าไม่ใช่เพราะในหุบเขามนุษย์ห้ามใช้กำลังสู้ฟ่านซื่ออี้คงปล้นทรัพย์แน่
“อาจารย์ใหญ่ใจดีจริงๆ!” ชายชราเคราดำมองดูอย่างอิจฉา
นอกจากนี้เขายังเข้าใจในตอนนี้แล้วว่าทำไมเจ้าเมืองไม้เงินและบุตรคนที่สิบจงหัวถึงได้เปลี่ยนทัศนคติมาสนับสนุนบารอนไตตันแทนที่จะเอาชนะช่วงชิงปราสาทไดมอนด์สตาร์แบบลับๆเหมือนเมื่อก่อน แน่นอนว่าเจ้าของปราสาทไดมอนด์สตาร์คนเก่า ไม่เพียงแต่ออกไปจากปราสาทนอกจากนี้นางยังทิ้งเครือข่ายความสัมพันธ์ไว้ให้บุตรของนาง ทุกคนดูแลเขาเป็นอย่างดีรวมทั้งอาจารย์ใหญ่ผู้เข้มงวด
บุคลิกแบบนี้ถ้าเจ้าเมืองไม้เงินเป็นศัตรูกับเขาก็คงแปลก
ชายชราเคราดำพบเจอเค้าเงื่อน
เขาอดชื่นชมในใจไม่ได้ ตั้งแต่บารอนไตตันรับตกทอดปราสาทไดมอนด์สตาร์ทำไมไม่พัฒนาตนเองให้สมบูรณ์แบบ
คงเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะติดต่อกับเจ้าปราสาทที่มีอำนาจสถานะและอนาคตมากกว่าสหายในระดับเดียวกัน... แทบจะในทันทีชายชราเคราดำอยู่ในแถวเดียวกับฟ่านซื่ออี้กงสุลชุดแดง? นี่ไม่ใช่ที่ทำกันตลอดชีวิต แต่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการทุกห้าปีจะเทียบกับบารอนผู้มีศักดินาและอำนาจตลอดชีวิตได้อย่างไร? สำหรับบทบาทอย่างเจ้าปราสาทไดมอนด์สตาร์มีอนาคตไร้ขีดจำกัด อย่าว่าแต่เจ้าเมืองและเจ้าชายเลย ราชาก็อาจจะเป็นได้ตอนนี้ลงทุนภายในไปก่อนอาจได้ผลประโยชน์ในอนาคตเป็นพันเท่านอย่างมิต้องสงสัย
“บารอนไตตัน! ถ้าท่านไม่คุ้นเคยกับการประชุมสัมมนา ข้ามีคนรับใช้ใกล้ชิดคนหนึ่งเป็นคนฉลาดข้าจะให้นางคอยรับใช้ท่านทุกที่ดีไหม?” บุรุษเคราดำตัดสินใจใช้แผนนางงามยกสาวใช้งดงามให้คนหนึ่ง นี่เป็นหนึ่งในแผนการสร้างพันธมิตรที่ดีที่สุดของพวกชนชั้นสูง
“ขอบคุณในความมีน้ำใจของท่าน แต่ต่อไปข้ายังต้องให้ความสนใจกับการเรียนมากขึ้น” เย่ว์หยางปฏิเสธ
“ถูกแล้วเมื่อการประเมินผลคะแนนชีวิตของท่านบารอนจบลงข้าจะร่วมแสดงความยินดีกับท่านบารอนทันที ถึงเวลานั้นท่านอาจเลื่อนฐานันดรเป็นไวเคานต์ หรือแม้แต่ระดับเอิร์ล” ชายชราเคราดำหัวเราะไม่ถือสาคำปฏิเสธของเย่ว์หยาง เขาเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาเห็นด้วยเช่นกันว่าบารอนหนุ่มไตตันเป็นเป้าหมายของโรงเรียนแน่นอนมิฉะนั้นอาจารย์ใหญ่คงไม่มอบเงินให้บารอนหนุ่มใช้จ่ายถึงพันผลึกสวรรค์ไว้ใช้จ่ายอย่างมีความสุข
“ขอบคุณความมีน้ำใจของท่านอีกครั้ง ข้ามีเรื่องต้องออกไปข้างนอกแล้วค่อยกลับมาคุยกัน!” เย่ว์หยางยิ้มและกล่าวคำอำลา
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ฟ่านซื่ออี้รู้สึกอึดอัดเหมือนคนท้องผูกมาสิบวันและไม่สามารถกลั้นเอาไว้ต่อไปได้ เขาถามชายชราเคราดำ “เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจำเป็นต้องประจบมากถึงขนาดนั้นหรือ? แม้ว่าเราจะอยู่ในกลุ่มงานที่ต่างกัน แต่เราก็เป็นสหายกันเสมอวันนี้เจ้าไม่ช่วยเข้าข้างข้า แต่กลับหันไปเข้าข้างเจ้าเด็กนั่น”
“ฟ่านซื่ออี้เจ้าสามารถเลือกคนคบได้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่ในเส้นทางเดียวเสมอไป” ชายชราเคราดำเหมือนนักการเมืองเจนเวทีรอยยิ้มของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะถูกดุก็ตาม
“ก็ได้,เรามาคอยดูกันต่อไป!” ฟ่านซื่ออี้โมโหนี่เขามีเหตุผลของการเป็นคนทรยศด้วยหรือ?
“ไม่ส่งละนะ” มองดูผิวเผินชายชราเคราดำยิ้มแต่ในใจส่วนลึกเขาดูถูกการกระทำของฟ่านซื่ออี้ คนที่โง่คือเจ้าไม่ใช่หรือ?ทำไมเขาถึงต้องเป็นอริกับบารอนไตตันเพราะเห็นแก่หน้าเล็กน้อย? แม้แต่คนตาบอดก็ยังมองออกว่าอนาคตของเด็กหนุ่มนี่ถูกปูไว้แล้วเมื่อสิบปีก่อนบทบาทอย่างลอร์ดไม้เงินและบารอนจงหัวมีให้เห็นทั่วไป เจ้าหน้าที่กงสุลชุดแดงอย่างเจ้าโง่ดีแต่พล่ามก็คงไม่มีอะไรแต่นี่เขาเป็นคนฉลาดปล่อยให้ความริษยาบังตา รู้ว่าผิดแทนที่จะกลับตัว แต่เขากลับดันทุรังยอมตาย ทำให้พูดไม่ออกเลยจริงๆ
ถือว่าเป็นธุระของฟ่านซื่ออี้เอาไข่ไปกระทบหินก็ไม่ต่างอะไรกับหาที่ตาย
แต่เขาจะดึงมิตรสหายไปตายด้วยหรือ?
เราเป็นเพียงพันธมิตรการเมืองไม่ใช่ญาติพี่น้องที่มีความสัมพันธ์ ต่อให้เขาเป็นญาติพี่น้องในกรณีนี้ก็ต้องเลือกคนอื่น นี่เป็นวิถีที่ควรเป็น!
ชายชราเคราดำส่ายหน้าและพิจารณาขึ้นชื่อฟ่านซื่ออี้ไว้ในบัญชีดำ พันธมิตรการเมืองแบบนี้ดีแล้วที่เลิกคบกันเร็วมิฉะนั้นจะก่อความผิดพลาดใหญ่ในอนาคต
เย่ว์หยางเดินออกมาที่ห้องนิทรรศการไม้เงินตามลำพัง
ภายในนี้มีห้องจัดแสดงติดบอร์ดรายรอบพื้นที่จัตุรัสกว้างหลายสิบห้อง
ห้องจัดนิทรรศการมีทั้งห้องใหญ่และเล็กอย่างเช่นห้องจัดแสดงของเมืองไม้เงินมีขนาดใหญ่ ผลิตภัณฑ์พิเศษและหุ่นรบกองซ้อนทับอยู่ข้างใน มีหลายสิบหลายร้อยตัวยกเว้นที่แสดงอยู่ข้างนอก ภายในห้องโถงยังมีห้องรับรองอำนวยความสะดวกต่างๆ ห้องโถงนิทรรศการขนาดเล็กโดยทั่วไปจะมีขนาดหนึ่งในสามของห้องโถงจัดแสดงขนาดใหญ่ พื้นที่หนึ่งในห้าจัดไว้ให้กลุ่มการค้าสำคัญสมาคมคมทหารรับจ้างขนาดใหญ่ พวกเขาจะมีส่วนร่วมในงานแสดงนิทรรศการ ซึ่งแตกต่างจากแวดวงสังคมชั้นสูง
นอกจากนี้ยังมีจัตุรัสกลางใช้จัดเป็นโถงใหญ่
อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ในการประชุมสัมมนายังไม่ได้ถูกเปิดเผยจึงไม่ถือว่าเป็นการเปิดประตูต้อนรับอย่างแท้จริง
เย่ว์หยางเดินห่างออกไปและผ่านไปตามห้องโถงนิทรรศการของหลายๆ เมือง เขาพบว่าผลิตภัณฑ์พิเศษส่วนใหญ่ยังคงจัดวางกับที่และมีการรวมตัวของหุ่นรบอย่างเร่งด่วน ไม่มีใครเปิดประตูรับอาคันตุกะเต็มที่หลังจากเห็นว่าเมืองใหญ่กำลังวุ่นจัดการ เย่ว์หยางให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์พิเศษแต่ไม่ได้ซื้อสินค้า
เมื่อยังไม่เปิดแสดงว่าคนอื่นยังไม่พร้อมตั้งราคา และราคาย่อมไม่ถูกอย่างแน่นอน
เรื่องเป็นเช่นนั้น
นอกจากนี้ยังง่ายต่อการเปิดเผยความต้องการที่แท้จริงของตนเอง
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเห็นสินค้าที่ไม่เลว แต่เย่ว์หยางก็แค่ยิ้มและไม่ถามราคา เขาไม่ได้พูดคุยถึงคุณสมบัติพิเศษอะไรมากมาย...แน่นอน เย่ว์หยางมีจักษุญาณทิพย์ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาขนาดนั้น
ห้องโถงนิทรรศการใหญ่วุ่นวายครึกครื้น แต่ยังมีห้องแสดงสินค้าห้องเล็กๆ หอการค้าหลายแห่งประจำอยู่ด้านหน้าและเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี
นี่คือคือความสัมพันธ์ของพ่อค้านักธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการสัมมนาแลกเปลี่ยน
“ไข่อสูรขายยังไง?” เย่ว์หยางไปที่ห้องแสดงสินค้าขนาดเล็กที่กลุ่มทหารรับจ้างหลายคนร่วมหุ้นกันเช่าและพบว่าสิ่งต่างๆ ภายในห้องจัดแสดงได้เตรียมการไว้พร้อมอย่างเต็มที่แล้วรอให้แขกและลูกค้ามาถึงที่หน้าประตู อย่างไรก็ตามห้องจัดแสดงสินค้าของพวกเขาไม่ได้รับการสนใจเท่าใดนักเย่ว์หยางเข้าไปข้างในและเห็นว่าผิดปกติเกินไป ในหุบเขามนุษย์หุ่นรบและอสูรหุ่นที่สามารถใช้พลังต่อสู้ได้นั้นได้รับความนิยมที่สุดน้ำพุแห่งชีวิตและเหล้าร้อยบุปผาก็สามารถพัฒนาสถานะบุคคลของพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามอาวุธอย่างอสูรและสิ่งของที่ไม่สามารถใช้ความสามารถได้ ในหุบเขามนุษย์นี้แลกเปลี่ยนกันด้วยราคาที่ถูกมาก
หุบเขามนุษย์นั้นมนุษย์มนุษย์มีประโยชน์กว่า
หากอสูรรบมีพลังถึงปราณฟ้าระดับห้าถูกวางขายไปทั่วทุกที่ไม่ต้องพูดถึงหอทงเทียน แม้แต่ในพื้นที่แดนสวรรค์อสูรศึกที่หายากทุกคนก็ยังกระตือรือร้นต้องการเป็นเจ้าของ
แต่ในหุบเขามนุษย์ พวกมันไม่มีความสามารถต่างอะไรกับอสูรปีศาจปราณดินกินเนื้อธรรมดา
เพราะอสูรศึกไม่สามารถใช้งานในหุบเขามนุษย์ได้ไม่ว่ามันจะทรงพลังเพียงไหนก็ไร้ประโยชน์ พวกมันยังสูญเสียการฝึกฝนที่มีกระบวนการซับซ้อน แน่นอนว่าอสูรเหล่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงกินเนื้อหรือให้กำเนิดลูกอสูรปราณดินเอาไว้ขายทำเงิน หรือจะพูดให้ชัดก็คือในหุบเขามนุษย์มังกรดำปราณฟ้าระดับห้าราคายังถูกกว่าหมูน้ำมันชั้นปราณดินระดับสามมาก ยังถูกกว่ากระต่ายหิมะขนยาวหรือหนูตะเภาบุปผาปราณดินระดับหนึ่งเสียอีก
หนูตะเภาบุปผาเลี้ยงง่ายให้ลูกมากมายให้ผลผลิตเป็นเนื้อจำนวนมาก นอกจากนี้ยังใช้ให้มันช่วยกินต้นถั่วอีกด้วย
ในหุบเขามนุษย์มีถั่วชนิดหนึ่งเรียกว่าถั่วทองคำแดง
มันแข็งมาก
มีเพียงหนูกระต่ายไม่กี่ชนิดที่สามารถย่อยมันได้ครึ่งหนึ่ง
ถั่วทองคำแดงที่ย่อยครึ่งหนึ่งนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการหมักเหล้า....ในหุบเขามนุษย์...เขาไม่รู้ว่าพวกทหารรับจ้างและสามัญชนอาศัยการเลี้ยงหนูตะเภาบุปผาให้ช่วยกินถั่วทองคำแดงและขายพ่อค้าใช้หมักเหล้าเพื่อเลี้ยงชีวิตพวกเขา
มังกรดำปราณฟ้าระดับห้าทำเช่นนี้ได้หรือ?
มังกรดำเป็นสัตว์จอมตะกละ
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือกระต่ายหิมะขนยาว กระต่ายชนิดนี้มีขนงอกยาวตลอดสามารถตัดขายได้ทั้งปี แม้ว่าคุณภาพจะไม่เท่าขนสัตว์สีขาวอย่างดีที่สุด แต่ขนของมันงอกเร็ว มีอัตราการรอดชีวิตและง่ายต่อการเลี้ยงดู แต่นี่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับมังกรดำปราณฟ้าระดับห้ามิใช่หรือ?
ส่วนหมูปีศาจที่ผิวของมันเป็นน้ำมันสามารถฆ่ามันเพื่อเอาเนื้อได้ตอนที่มันโต
ดังนั้นในสภาพแวดล้อมพิเศษของหุบเขามนุษย์อสูรโดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรรบ ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมของมัน
ไข่อสูรที่เย่ว์หยางสอบถามเป็นไข่อสูรชนิดต่อสู้กองซ้อนกันอยู่ที่มุมห้องไม่รู้ว่าอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้วโดยไม่มีใครสนใจ ในไข่กองนั้นส่วนใหญ่มีคุณภาพสูงกว่าระดับทองทั้งนั้นเกือบทั้งหมดเป็นอสูรปราณฟ้า
การเลี้ยงมังกรดำปราณฟ้าระดับห้าก็แค่ขายเลือดมังกรทำเงินเท่านั้น แต่ก่อนที่จะขายเลือดมังกรได้ คาดว่ามังกรดำคงอดอาหารร่างกายผ่ายผอม
นอกจากนี้ไข่มังกรดำฟักแล้ว กว่าจะเป็นมังกรดำเต็มวัย แค่ร้อยปี พันปียังเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นถ้าจะมีเรื่องน่าเศร้ายิ่งกว่าอสูรปราณฟ้าก็คือไข่ของอสูรปราณฟ้าที่ไม่ได้รับความสนใจนี้ เว้นแต่เป็นไข่ระดับสูง อาจประสบกับชะตานำมาเป็นไข่อสูรปราณฟ้าต้มเป็นอาหาร
“นี่...ไข่อสูรเหล่านี้ไม่ใช่สำหรับใช้ปรุงเป็นอาหารชั้นทั้งหมดเป็นไข่อสูรนักสู้” ทหารรับจ้างผู้ทำการต้อนรับได้ยินเสียงแล้ว ทำหน้าขมขื่นเหมือนอมบอระเพ็ดเย่ว์หยางต้องการซื้อ และเขาไม่กล้าขายเพราะกลัวว่าเย่ว์หยางจะหันกลับมาทันทีที่ออกไป เด็กตระกูลขุนนางอย่างเย่ว์หยางสวมชุดไหมกินอาหารอย่างดีเขาไม่กล้าโกงต่อให้กล้ากว่านี้ร้อยเท่าก็ตาม
“อสูรศึกไม่ได้แบ่งชั้นออกเป็นตามองค์ประกอบธาตุชั้นของนักสู้ และชั้นพิเศษใช่ไหม?” เย่ว์หยางยิ้ม
“ขอรับ,เป็นเช่นนั้นแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วเราจะเว้นชั้นองค์ประกอบธาตุและชั้นระดับพลัง อสูรเหล่านั้นไม่มีการค้าขายในตลาดและชั้นสำหรับนักสู้ถูกแบ่งเป็นประเภทรบ เป็นประเภทกินเนื้อและไม่กินเนื้อ โดยทั่วไปอสูรศึกพิเศษจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักสู้ผู้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญ” ทหารรับจ้างที่ทำการต้อนรับรีบอธิบายโดยเร็ว เขาพูดกับเย่ว์หยาง “ถ้าท่านชอบเชิญเข้ามาดูได้ได้เลย เรามีของมากมายและคงมีบางอย่างเป็นที่สนใจของท่าน”
“แม้ว่าข้าจะไม่ได้ขาดแคลนไข่อสูรแต่มองดูหายนะและความสิ้นเปลืองของดีๆ อย่างนี้ ก็ไม่อาจทนได้เช่นกัน” เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าไข่อสูรปราณฟ้าเหล่านี้ถูกนำกลับไปที่หอทงเทียนคาดว่าคงทำให้กลุ่มราชาต่างๆ คลั่งจนแทบเป็นบ้า
“ท่านต้องการซื้อจริงๆหรือ?” ดวงตาของทหารรับจ้างผู้ทำหน้าที่ต้อนรับโตยิ่งกว่าตาวัวปากอ้าค้างจนยัดกบเข้าไปได้ทั้งตัว
“เสนอราคามาถ้าเหมาะสม ข้าจะเหมาหมด” เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้เขาจะตรวจของที่อีกฝ่ายเก็บไว้ในที่เก็บของให้หมด
“อาอย่างนั้น ท่านเอาจริงหรือ? ต้องการจะซื้อจริงๆ หรือ? เอาอย่างนี้ โปรดให้ ห้าผลึกสวรรค์ ไม่ ไม่ ..สามผลึกสวรรค์ เหมาหมดนี่เลย.. ท่านจะว่าอย่างไร?” ทหารรับจ้างที่ทำหน้าที่ต้อนรับกลัวว่าเย่ว์หยางจะหันหลังกลับเขาจึงรีบลดราคา เขากังวลกลัวว่าเย่ว์หยางจะตบหน้าเขาเหมือนกับพวกขุนนางที่มีชื่อเสียง
“ครั้งต่อไปข้าจะสั่งซื้อ50 ผลึกสวรรค์ ข้าหวังว่าพรุ่งนี้เช้าข้าจะสามารถเห็นไข่อสูรปราณฟ้าสายนักสู้กองอยู่ข้างหน้าข้า” เย่ว์หยางตบไหล่ทหารรับจ้างผู้ทำหน้าที่ต้อนรับทำให้อีกฝ่ายหนึ่งปลื้มปิติ“ฟังให้ดี ถ้าเจ้าสามารถทำได้ตามที่ข้าสั่งไว้ ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอีกห้าผลึกสวรรค์”
“อ๊า...”ทหารรับจ้างพนักงานต้อนรับล้มหมดสติ และไม่รู้ว่าเย่ว์หยางจากไปเมื่อใด
ในใจของเขายังได้ยินคำสั่งของเย่ว์หยางก้องวนเวียนตลอด‘ฟังให้ดี ถ้าเจ้าสามารถทำได้ตามที่ข้าสั่งไว้ ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอีกห้าผลึกสวรรค์’
ห้าผลึกสวรรค์ต่อให้เขาทำงานหนักตลอดทั้งปีก็ยังทำรายได้ไม่ถึงครึ่งห้าผลึกสวรรค์ แต่วันนี้เขาได้ยินจากปากคุณชายผู้สูงศักดิ์ว่าเขาจะรางวัลให้ห้าผลึกสวรรค์ นี่เป็นความจริงหรือ?!