ตอนที่ 1070 มังกรทองบินวน
ปัญหาในการช่วยให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหลอมรวมกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย
อารมณ์โมโหของแม่เสือสาวไม่ใช่เรื่องเล็ก
เย่ว์หยางต้องถอยเผ่นหนีและยกเลิกแผนช่วยนางชั่วคราวก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้สึกอยากกัดนางสถานการณ์คงดีขึ้นไม่บานปลาย
แน่นอนว่าแรงกระตุ้นนี้ก็ดีโดยไม่รู้ตัวเช่นกันหลังจากเปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดระหว่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่คว้าดาบไล่ฟันเขาและเย่ว์หยางที่ยั่วโมโหจนนางโกรธ ทันใดนั้นความอายที่ค้างคาอยู่ในใจนางก็หายไปและนางยังกำจัดความหยิ่งถือดีที่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเย่ว์หยาง หลังจากนั้นนางเล่าให้ทุกคนฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่านางจะไม่ให้อภัยเขาง่ายๆ แต่ทุกคนมองออก
อารมณ์ของแม่เสือสาวเหมือนพายุฤดูร้อน
มาง่ายและหายเร็ว
ตามข่าวซุบซิบที่เปิดเผยโดยสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์บอกว่าเมื่อคืนก่อนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถือดาบไล่ฟันเย่ว์หยาง แต่พอเช้านี้นางจัดเตรียมอาหารเช้าให้เย่ว์หยางเป็นอย่างดี
ทุกคนเมื่อได้ยินก็แอบขำ
ความจริงทุกคนรู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวนางเองต่อหน้าเย่ว์หยาง
มิฉะนั้นนางคงจะไม่เตรียมอาหารเช้าเพื่อคืนค่าภาพลักษณ์ที่ดุร้ายของแม่เสือสาวเมื่อคืนนั้น
ตอนเริ่มแรกเพื่อเรียนรู้วิธีทำอาหารให้ดี องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ตามปกติจะไม่ถนัดงานบ้านครัวเรือนประสบความลำบากมาก โชคดีที่มีแม่สี่และผู้อาวุโสคอยแนะนำอย่างระมัดระวังมิฉะนั้นภาพลักษณ์ของนางจะเปลี่ยนแม่เสือสาวไปเป็นองค์หญิงที่น่าภาคภูมิใจหรือ
“คาดว่าใช้เวลาไม่นานเรื่องราวต่างๆก็จะเสร็จสิ้น” เย่ว์หวี่ดีใจที่สุดที่มองเห็นจุดเปลี่ยน
“ตัวร้ายนั่นก็แค่แข็งขืนใช้กำลังก็สิ้นเรื่องบางครั้งไม่ต้องนุ่มนวลนักก็ได้” นางเซียนหงส์ฟ้าบอกว่าทั้งสองคนนี้ยังไม่มีบทสรุปเสียทีเป็นการเสียเวลาไปเปล่าๆ ทุกคนไม่เห็นด้วยกับความคิดของนางการใช้เรี่ยวแรงบังคับอาจใช้ได้ผลกับคนอื่น แต่กับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะทำให้นางอึดอัด นอกจากนี้อาจเกิดเงาทะมึนในจิตใจแม่เสือสาวได้
“หึหึ!” ราชันย์ปีศาจใต้หัวเราะ แต่ไม่พูดอะไร
“จริงๆ แล้วก็คงไม่เป็นไร...” โล่วฮัวคิดว่าเย่ว์หยางยังมีข้อดีหลายอย่าง “เมื่อตัวร้ายพิชิตใจอู๋เหินครั้งแรกยังทำคะแนนไม่ค่อยดีนักไม่ใช่หรือ? ทุกคนลองคิดดู อู๋เหินเป็นคนเงียบๆ เรื่องอารมณ์รักเป็นเรื่องแฝงหากไม่ลองดูก็ไม่รู้ต้องรอไปอีกเมื่อไหร่”
“อย่าให้พี่อู๋เหินได้ยินเชียว”อี้หนานทำเสียงจุ๊ๆ ให้ทุกคนเงียบ
“ว่าไปแล้วน้องอี้หนานของเรากล้าที่สุด” โล่วฮัวอดหยอกล้อเรื่องที่อี้หนานเป็นฝ่ายให้ของหมั้นเย่ว์หยางก่อนไม่ได้
“ข้าไม่พูดด้วยแล้ว”อี้หนานเอามือปิดหน้าด้วยความอาย แม้ว่านางยังอายุน้อย แต่ในเรื่องความรัก นางกล้าจริงๆหลายคนได้แต่ถอนหายใจ
“พวกเจ้าพูดถึงเรื่องอะไรกัน?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมาถึง
ทักษะหกรับรู้ทำให้นางมีลางสังหรณ์ว่าทุกคนกำลังพูดเรื่องของนาง
นางรู้สึกอึดอัดใจ แต่ก็รีบข่มใจทันที อย่างไรก็ตามนางเป็นคู่หมั้นที่ถูกที่ควรของเขาทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดี
ก่อนที่เย่ว์หวี่จะเป็นสื่อกลางไกล่เกลี่ยองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่งภาพวาดหลายภาพให้ทุกคนดู “เมื่อวานนี้ข้าคิดเรื่องนี้ ในที่สุดก็มีวิธีการที่ดีให้พวกเจ้าช่วยกันแสดงความเห็นเรื่องนี้ ”นางเซียนหงส์ฟ้าหงส์ฟ้ามองดูถึงกับตกใจอุทาน “เชี่ยนเชี่ยน..อาดาบเทพจักรพรรดิอวี้ซึ่งยังเหลือพลังของจักรพรรดิอวี้อยู่ ถ้ามันถูกลบไปอย่างสมบูรณ์จะเป็นการดูหมิ่นบรรพบุรุษหากไม่ถูกลบก็ไม่อาจหลอมรวมกับดาบได้อย่างสิ้นเชิงตอนนี้พลังถูกถ่ายเทมาที่ฝักดาบแทน นับเป็นการใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกได้สองตัว!”
สำหรับความคิดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่รวมเอาพลังที่เหลือของจักรพรรดิอวี้ผสานเข้ากับพลังเทพผันผวนของเย่ว์หยางสร้างเป็นฝักดาบจักรพรรดิอวี้
ทุกคนโห่ร้องพร้อมกันและเห็นด้วยกับความคิดนี้
โล่วฮัวหลังจากเห็นฝักดาบหลายแบบที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกแบบจู่ๆ นางมีความคิดผุดขึ้นมา “ถ้าพลังปั่นป่วนเกิดขึ้นได้อย่างไม่จำกัด มันน่าจะเปลี่ยนเป็นเกราะรบจันทราและปรับเปลี่ยนเป็นชุดรบที่เหมาะสมได้ ตัวอย่างเช่นชุดประเภทที่ไม่ได้ใช้สู้รบอย่างสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์และเป่าเอ๋อก็อาจเปลี่ยนรูปไปเป็นชุดที่สวยงามเหมาะกับชีวิตทั่วไปที่ไม่ใช่เกราะรบ”
อี้หนานปรบมือเห็นด้วย “ดีเลย แต่ข้าต้องการทั้งสองแบบ แบบหนึ่งเป็นชุดเกราะรบอีกแบบหนึ่งเป็นชุดในชีวิตประจำวัน”
ราชันย์ปีศาจใต้แนะนำ “นั่นยังไม่ดีเท่าชุดสำหรับชีวิตประจำวัน ควรจะเรียกว่าชุดวชิรดาราอยู่ข้างนอกหุบเขามนุษย์มารดาเจ้าไม่ได้สร้างปราสาทไดมอนด์สตาร์ไว้ใช่ไหม?อย่างนั้นเราใช้ชื่อรำลึกเพื่อให้สอดคล้องกับเกราะรบจันทรา”
นางเซียนหงส์ฟ้าเกิดแนวคิดที่บรรเจิดยิ่งใหญ่สมกับเป็นจักรพรรดินีเทียนฟา“แค่นั้นยังไม่พอ ข้าคิดว่าชุดวชิรดารานี้ออกแบบอย่างชุดชั้นในแบบพิเศษดีกว่า เอาแบบชนิดที่เน้นสัดส่วนทรวดทรงจนตัวร้ายมองเห็นแล้วตาโตน้ำลายหก! มาดูกันเถอะมาร่วมกันออกแบบ มาดูกันว่าชุดชั้นในแบบไหนสวมใส่แล้วจะดูดีมีเสน่ห์มากขึ้น....เจ้าหมายถึงตัวร้ายนั่นหรือ?เขาต้องชอบแน่นอน! ดูเสื้อผ้าที่เขาออกแบบให้เซี่ยอีและสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์สิดึงดูดสายตาทุกคน...ความจริงเกราะรบจันทราก็สามารถออกแบบเพิ่มเสน่ห์เล็กๆ น้อยๆอย่างไรก็ตามพวกเจ้าแทบไม่ได้ไปต่อสู้อะไรทำให้เกือบทั้งหมดแทบไม่ได้สวมใส่มัน แต่นี่เป็นการแสดงอวดเขา”
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ได้ยินแล้วมีความสุข “ข้าจะไปเอาปากกามาให้ทุกคนได้ออกแบบด้วยกัน”
“เฮ้, พวกเจ้าอย่าทำเฉไฉนอกเรื่องได้ไหม”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหลั่งเหงื่อพรั่งพรู
นางมาหาทุกคนขอให้ช่วยดูฝักดาบ แต่กลับเฉไฉไปพูดเรื่องเสื้อผ้าได้อย่างไร?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนวิพากษ์วิจารณ์สีสันด้วยประโยคคำพูดของเย่ว์หยาง แต่โล่วฮัวกับพวกสุมหัวกันออกแบบชุดไม่มีใครยินดีช่วยองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดูฝักดาบ
“ไม่มีทาง”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฉุดดึงเย่ว์หวี่พี่สาวที่จิตใจดีอ่อนโยนที่สุดมาด้วย
เย่ว์หวี่เริ่มคิดว่าให้คำแนะนำไปพอแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะให้นางร่วมวิจารณ์กระบวนการทั้งหมดนางอุทานขึ้นทันที “โอว ข้าไม่”
แน่นอนนางรู้ว่ากระบวนการสร้างฝักดาบจักรพรรดิอวี้ทั้งเย่ว์หยางและเชี่ยนเชี่ยนจะต้องฝึกพลังคู่รัก และในกระบวนการฝึกพลังคู่รักนั้นคู่รักหนุ่มสาวจะต้องแผดเผาพลังปราณโอบกอดใกล้ชิด ต้องทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะให้เด็กดู จะให้นางยืนดูกระบวนการอยู่ตลอดอย่างนั้นจะได้อย่างไร?
“พี่หวี่, ถ้าท่านไม่อยู่ที่นี่ด้วย ข้าเกรงว่าข้าจะควบคุมตัวเองไม่ได้”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าอาย “ถ้ามีท่านอยู่ใกล้ๆ มีท่านคอยมองเขา ความประพฤติเขาจะดีมาก”
“โอว...นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”เย่ว์หวี่เข้าใจว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมายความว่ายังไงแต่เรื่องอย่างนี้จะให้นางมองหน้าน้องชายติดได้ยังไง?
“เมื่อฝักดาบทำเสร็จไปหนึ่งในสิบท่านค่อยออกไปก่อนก็ได้” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหาข้อแก้ตัวให้เย่ว์หยางเล็กน้อย
“ไม่ได้!” เย่ว์หวี่ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเดียว
เย่ว์หยางพาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมาที่ห้องทดลองและไม่ให้นางร้องขออะไรอื่น “ข้าจะรอที่ประตู ถ้าจำเป็นข้าค่อยเข้าไปช่วย มั่นใจได้เลยว่าข้ารออยู่ที่ประตูไม่จากไปไหน... แล้วเสี่ยวซานเล่า?”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเปิดประตูห้องเข้าไปและดูเหมือนเย่ว์หยางนั่งคิดปัญหาบางอย่างอยู่เงียบๆ
เย่ว์หวี่ก็มองเห็น
นางอึ้งไปชั่วขณะ
น้องชายผู้โง่เขลาของนางนี้มักจะยิ้มอยู่เสมอมองผิวเผินเหมือนกับไม่ได้จริงจังอะไร เขาเหมือนทารกใหญ่ที่ต้องได้รับการดูแลอยู่ทุกเมื่อ ความจริงเขามักจะเก็บเรื่องที่ยากที่สุดเหนื่อยที่สุดและลำบากที่สุดไว้กับตัวเองอย่างเงียบๆ เขามักจะแก้ปัญหาได้ดีเกินกว่าใครจะคิดได้
“มีอะไรหรือเปล่า?” เย่ว์หวี่ลืมไปว่านางกำลังเฝ้าดูอยู่ที่ประตูและลืมไปว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังมองดูอยู่ข้างๆ นางเข้ามาอย่างเงียบงันนั่งอยู่ข้างหน้าเขาและจับมือเขาเบาๆ ใช้สายแพรเชื่อมใจกันและกันอย่างเงียบงันเมื่อเชื่อมถึงกันนางจ้องมองเขาและถามด้วยความกังวล “เจ้าพาคนอื่นๆ มาด้วย?ทำไมไม่นึกถึงเราด้วย?”
“.....” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจมีแต่พี่หวี่ที่ปลอบโยนเขาได้ แม้แต่นางและเสวี่ยอู๋เสียก็ยังทำอย่างนี้ไม่ได้
ขณะที่นางนั่งลงนางก็เชื่อมใจผ่านสายแพรวิญญาณได้ทันที
และพบว่าในโลกของความคิดเย่ว์หยางเต็มไปด้วยปราณกระบี่
นั่นคือโลกของดาบกระบี่! ดาบกระบี่ต่างๆเป็นล้านรูปแบบบินอยู่ในโลกของกระบี่นั้น และศูนย์กลางของโลกก็คือจิตของเย่ว์หยาง เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำตามเย่ว์หวี่ขยายสายแพรเชื่อมใจจนสัมผัสกับจิตวิญญาณของเย่ว์หยางเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในร่างนางทันที ทำให้วิญญาณของนางสั่นสะท้าน
ในโลกแห่งดาบกระบี่นี้นางไม่ทราบว่าอยู่ได้นานเพียงใดแล้ว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกอยู่ในกระบวนการรู้แจ้งของเย่ว์หยางเหมือนกับว่าจะเข้าถึงพลังจิตวิญญาณดาบกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดมีพลังผันผวนมากมายในร่างของนาง
ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้และสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ลอยออกมาจากไหล่ของนางและเปล่งรัศมีเจิดจ้า
แสงทุกสายรัศมีกลายรูปเป็นกระบี่ในโลกดาบกระบี่ที่ไม่มีสิ้นสุด
ไม่มีการซ้ำรูปแบบ
จิตของเย่ว์หวี่ไม่ได้ถอนออกมาจากโลกดาบกระบี่ นางเคลื่อนไหวอย่างอิสระและยื่นมือแตะเสื้อของเย่ว์หยางและถ่ายเทปราณพลังน้ำที่อ่อนโยนให้เขา นางไม่ใช่สายบู๊อย่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ดาบกระบี่อาวุธดีๆไม่ส่งผลต่อจิตของนาง ต่างจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจิตสำนึกของนางร่วมมือกับเย่ว์หยางอย่างเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการทดลองต่างๆที่ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะถูกนำมาใช้ตามธรรมชาติ... กระบี่ดำกุยจ้างกระบี่ขาวซวงหัว กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียน กระบี่ส้มเฉิงหงกวงปรากฏอยู่ในร่างเย่ว์หยาง
แยกออกเป็นตะวันออก, ใต้, ตะวันตก,เหนือ
และตรงใจกลางมีการสร้างกระบี่อย่างเลือนราง
สีเหมือนกับโลหะทองเหลวและเริ่มฉายรัศมีเรืองรองเหมือนอาทิตย์อุทัยทุกอย่างเหมือนเป็นชีวิตใหม่และเหมือนกับมีมังกรฟ้าบินอยู่ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้า กระบี่ที่ห้านี้เย่ว์หยางใช้เวลาฝึกอยู่นานแล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจกระบี่เหลืองหลงหยวนได้เต็มที่
“ลองดูนี่!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้เหมือนเงาสายหนึ่งและชี้ไปที่กระบี่หลงหยวนที่อยู่ใจกลางกระบี่ทั้งสี่
กระบี่นี้ชี้ตรงมาที่วิญญาณของเย่ว์หยาง
ในโลกกระบี่วิญญาณเย่ว์หยางทำเข้าใจวิถีกระบี่อย่างระมัดระวัง เขารู้สึกถึงองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังคุมดาบพุ่งมาข้างหน้ากระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา เย่ว์หวี่กลายสภาพเป็นน้ำผสานพลังเป็นหนึ่งให้เขาจากด้านหลัง ในกระแสจิตที่ยอดเยี่ยมของเย่ว์หยางดูเหมือนจะเริ่มรู้แจ้งพลังงานนับไม่ถ้วนขยายออกไปเกินความตั้งใจดั้งเดิมของเขาจนกระทั่งถึงขีดสุดพริบตาก็กลับมารวมตัวอีกครั้งด้วยความเร็วที่มิอาจบรรยายได้กลายเป็นมังกรทองหมุนวนอย่างแปลกประหลาดผ่านร่างของเย่ว์หวี่วนรอบตัวนางพันเข้ารอบขาเย่ว์หยางตรงเข้าไปในจุดตันเถียนแล้วโผล่ออกมาที่หน้าอกพันรอบหน้าอกเย่ว์หยางกลืนดาบเทพจักรพรรดิอวี้จากนั้นผ่านร่างอ่อนนุ่มขององค์เชี่ยนเชี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
แล้วกลับมาอยู่ที่ศีรษะของเย่ว์หยางอีกครั้งและจมเข้าไปในตัวของเขา
พยายามผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเขา
เงียบไม่มีเสียงอะไรอีก
ดูเหมือนมังกรทองจะไม่ปรากฏออกมาอีก เย่ว์หยางและสองสาวในโลกวิญญาณไม่เพียงตกใจตื่นตะลึงเท่านั้น ทั้งสามไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้
แน่นอนว่าเย่ว์หยางเองไม่เข้าใจแม้แต่น้อย เพราะกระบี่มังกรเหลืองนี้ได้พ้นสถานะดั้งเดิมจนเหนือการควบคุมของเขา เย่ว์หยางประเมินว่าอาจเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ เหตุผลที่เทพธิดากระบี่ฟ้าทิ้งเหตุผลโดยชี้นิ้วตรงๆ แต่สิ่งนี้ไม่สามารถอธิบายให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ทราบได้ชัด
“เมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นลองแข็งใจทำต่อ!” เย่ว์หยางไม่ต้องการคิดมากเกินไป และความรู้สึกในใจของเขายังอยู่ที่นั่นเขานำอัญมณีสร้างโลกออกมาและปล่อยพลังเทพผันผวนครอบคลุมดาบเทพจักรพรรดิอวี้ที่ถูกกระบี่มังกรทองกลืน