ตอนที่แล้วตอนที่ 1065 อ่อนโยนกับเด็กบ้างได้ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1067 จับมือเป็นสหาย? เจ้าไม่คู่ควร!

ตอนที่ 1066 ปาฏิหาริย์เกิด?


ทารกหญิงอยู่กับเย่ว์หยางแน่นอน

เขาเฝ้าดูอย่างใจเย็น

ตอนนี้ เขารู้สึกว่าได้เวลาออกหน้า

เขาไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษ  แต่เขาไม่ชินกับการทำงานของสวะเหล่านี้

หากการรังแกเอารัดเอาเปรียบมีอยู่ทุกที่ในโลกตราบใดที่พอดูมีชั้นเชิง สิ่งนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้  การรังแกและเอาเปรียบนี้เย่ว์หยางไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงทันที แม้ว่าเขตพื้นที่นี้จะเป็นของเขา แต่เพราะเรื่องนั้น เนื่องจากคำพูดและการกระทำดังกล่าว กวนใจเขามาก  ในมุมมองต่อแผนนี้เป็นจงหัวและจีอู๋ลี่ทำ  อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางเห็นพวกทหารรักษาพื้นที่และแม่ทัพเหลยผาวแสดงออกอย่างกระหายเลือดพวกเขานี้ไม่สนใจชีวิตมนุษย์และฆ่าได้อย่างไม่คิดอะไร นี่ไม่ใช่แค่รังแกเท่านั้นแต่เป็นการกระทำของพวกโรคจิต!

ความตั้งใจเดิมของหุบเขามนุษย์ต้องการให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในคลี่คลายปัญหาด้วยปัญญาเหมือนกับมนุษย์

ตอนนี้พวกเขากำลังใช้ประโยชน์จากช่องโหว่

ใช้ความรุนแรงกลั่นแกล้ง

ทั้งชีวิตเย่ว์หยางดูถูกคนแบบนี้เป็นที่สุดพวกเขาเชี่ยวชาญในการหาช่องโหว่ได้

ทุกคนใช้สติปัญญาแก้ไขความรุนแรงแต่เจ้าผู้นี้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา สมองของเขาตายไปแล้วหรือ?  ฆ่ากันแบบนี้ ลืมไปแล้วหรือว่าอยู่ในหุบเขามนุษย์!

“มีคนต้องการเป็นวีรบุรุษ ฮ่าฮ่า..น่าสนุกดีวีรบุรุษอ้างตนเองว่าพิทักษ์ความเป็นธรรมปรากฏตัวเมื่อไหร่กันนี่?”  แม่ทัพเหลยผาวชะงักตอนแรก แต่แล้วก็หัวเราะลั่นด้านหลังของเขามีทหารฝีมือดีหลายร้อยหลายพัน ทุกคนมีอสูรหุ่นอยู่ในมือและนายกองบางคนมีตำแหน่งสูงนั่งอยู่บนอสูรหุ่นขนาดใหญ่  แน่นอนแม่ทัพเหลยผาวก็เหมือนกันภายใต้ที่นั่งของเขาคืออสูรหุ่นที่มีความยาวจากหัวถึงหางยี่สิบเมตร

มีอสูรหุ่นรายรอบ เทียบกับได้กับหุ่นสิงโต

เหมือนกับสิงโตที่ยืนอยู่ในกลุ่มหนูอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่ว่าจะเป็นร่างคุณภาพวัสดุและความแข็งแกร่งแตกต่างกันมาก

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจตอนนี้ว่าเย่ว์หยางใช้วิธีลับใดช่วยทารกหญิงนี้ แต่คำถามนี้หายไปจากหัวเหลยผาวทันที

เขามักไม่ชอบเป็นคนที่ใช้สมอง นิสัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่อยู่แดนสวรรค์ก่อนเข้ามาในหุบเขามนุษย์  แม้จะเข้ามาในหุบเขาแล้วเขาก็ยังชอบใช้กำลังแก้ปัญหามากกว่าจะใช้สิ่งที่เรียกว่าปัญญา เมื่อพูดถึงปัญญาแล้วไม่ได้หมายความว่าเหลยผาวโง่  ตรงกันข้ามเขามีสติปัญญาเข้าใจได้แน่นอน

การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเป็นนิสัยปกติของเหลยผาวหลักการของเขาคือใช้อารมณ์และทิฏฐิที่ดื้อรั้นแก้ปัญหา

ในหุบเขามนุษย์ เหลยผาวตัดสินใจว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จในอาชีพได้โดยไม่ต้องใช้สมอง

เขาทำแบบเดียวกันนี้มาโดยตลอด

“ทหารรับจ้างที่น่าตาย  ข้านึกว่าใครเสียอีกที่บังอาจเข้ามาขวางธุระของข้าเหลยผาว นึกไม่ถึงเลยว่ายังเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” เหลยผาวมองลงมาที่เย่ว์หยางและพบว่าเป็นบุรุษธรรมดาเขาถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความรังเกียจ และไม่ให้ความสนใจกับมดแมลงน้อยอย่างเย่ว์หยางต่อไป

“หัวหน้า, ไม่ หัวหน้า... ข้าขอโทษเป็นความผิดของข้า!”

ทหารรับจ้างหนุ่มที่ถูกทหารรับจ้างหลายคนฉุดรั้งไว้เห็นหัวหน้าทหารรับจ้างถูกแทงลงกับพื้นต่อหน้าต่อตา  เขากลัวแทบตายขณะร้องไห้หลังจากบิดาและพี่ชายของเขาตายไป หัวหน้ากลุ่มที่แข็งแกร่งอีกคนกำลังจะตาย

แม้ว่าเขาเพิ่งจะโกรธจนแทบตัดความสัมพันธ์

แต่ในใจของทหารรับจ้างหนุ่มมักนับถืออีกฝ่ายว่าเป็นเหมือนพี่ชาย

บัดนี้เขาเห็นร่างโชกเลือดของหัวหน้าที่ถูกหลาวยิงที่หน้าอกท้องทะลุหลังตรึงร่างกับพื้น ทหารรับจ้างหนุ่มจะไม่โศกเศร้าได้อย่างไร

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหุนหันพลันแล่นจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?

เขาคิดว่าตนเองทำให้หัวหน้าตาย

ทหารรับจ้างหนุ่มทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรงเหยียดแขนขึ้นฟ้าราวกับหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ทำให้หัวหน้ากลับมามีชีวิต..มีทหารรับจ้างหลายคนที่เศร้าโศกและไม่พอใจทหารรับจ้างหนุ่ม  พวกเขารู้สึกถึงความเศร้าโศกและความเกลียดชังในใจอย่างเดียวกัน  แต่พวกเขาจะแก้ปัญหาได้อย่างไร?  ศัตรูมีพลังและอำนาจอยู่ในมือ  ศัตรูเหมือนกับถ้ำปากพยัคฆ์ที่ลึกไม่เห็นก้นไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่ชีวิตก็ไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นทหารรับจ้างมีจำนวนแค่สิบกว่าคนเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามแม่ทัพเหลยผาวที่คุมกลุ่มทหารมือดีเป็นร้อยพวกเขาจะสู้ได้อย่างไร?

ความคิดเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือจากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ยิ่งอยู่ตรงนี้นานขึ้นเท่าใดก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!

“หัวหน้า, หน้าหน้า...”  ทหารรับจ้างหนุ่มถูกสหายลากตัวออกมาเขาคร่ำครวญร้องไห้ด้วยความเสียใจ มือของเขาพยายามยืดพื้นรั้งตัวให้อยู่ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาไม่เต็มใจจะทิ้งหัวหน้าที่เขารักและเคารพไว้ที่นี่และศพเขาจะตกเป็นอาหารของสัตว์ร้าย

“มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่ไม่เลว  แต่ยังไม่พอ” เหลยผาวโบกมือ “พวกเจ้าต้องแสดงฉากภาพชีวิตให้ข้าดูตื่นเต้นมากยิ่งกว่านี้!”

“ครืน ครืน ครืนน!”

ฝูงอสูรหุ่นที่กำลังจะโจมตีเย่ว์หยาง  หุ่นที่ล้อมหัวหน้าทหารรับจ้างแม้แต่อสูรหุ่นที่กัดทำร้ายทาสบุรุษที่เป็นสามีเกือบตาย หันหน้าไปพร้อมกันและไล่ตามทหารรับจ้างที่กำลังจะหนีด้านซ้ายขวาของแม่ทัพเหลยผาวหุ่นสัตว์รบและหุ่นนักรบมากมายล้อมกักตัวทาสประจำเหมืองที่อ่อนแอ

เย่ว์หยาง?

มองเหมือนกับทหารรับจ้างพกดาบที่อ่อนแอ  อย่าว่าแต่แม่ทัพเหลยผาวเลยแม้แต่องครักษ์หรือทหารรักษาการณ์ก็ยังไม่มองเขาอีกต่อไป

ทหารรับจ้างที่ไม่มีหุ่นอสูรจะเรียกได้ว่ามีพลังรบหรือ?

ไม่มีใครสนใจ

เมื่อเพิกเฉยเช่นนี้ก็เหมือนกับใช้กฎหมายบ้านเมืองบังคับอย่างเช่นเทศกิจเห็นพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ไม่ได้ถืออาวุธในมือก็ไม่ต้องการใช้กำลังรุนแรงตามอำเภอใจไม่ใช่หรือ? แน่นอนว่าถ้าพบพ่อค้าแม่ค้าผู้เชี่ยวชาญในการใช้ค้อนใช้ไม้พลองก็คงเป็นเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้า อย่างไรก็ตามความน่าจะเป็นนี้น้อยมาก มีไม่ถึงหนึ่งในร้อยล้านหนึ่งในสิบล้าน เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเห็นโดยทั่วไป เจ้าหน้าที่มากมายไม่คิดหรอกว่าชาวโลกจะมีดาบอาญาสิทธิ์ที่หยุดยั้งทุกสิ่งได้

คู่สามีภรรยาเลือดท่วมตัวไม่มีกำลังจะเอื้อมมือไปลูบตัวลูกสาวอีกต่อไป

พวกทาสประจำเหมืองที่กล้าขยับตัวจะมีอสูรหุ่นของทหารประจำการณ์ใช้หลาวหรือแส้แขนกลคอยขู่คุกคามให้พวกเขาตกใจ

“เราไม่อาจต่อต้านได้ มิฉะนั้นเราจะถูกตัดสินว่าละเมิดเบื้องสูง” มีทหารรับจ้างชราผู้มีประสบการณ์เห็นอสูรหุ่นเคลื่อนไหวจึงห้ามสหายไม่ให้ต่อต้านพวกเขา เขาต้องการให้สหายของเขาทำอย่างเดียวกับพวกทาสประจำเหมืองจัดกลุ่มต้านทานการโจมตีของศัตรูด้วยกัน ด้วยวิธีนี้พวกทหารยังป้องกันไม่ให้ใครหนีไปได้

“ขณะที่พวกเจ้าก้าวเข้ามาในพื้นที่เหมืองตั้งแต่ก้าวแรกพวกเจ้ากลายเป็นคนบาปไปแล้ว!”  ท่ามกลางเสียงหัวเราะสบายๆ ของแม่ทัพเหลยผาวอสูรหุ่นนับไม่ถ้วนวิ่งเข้าหาทหารรับจ้างกลุ่มเล็กอย่างรวดเร็วและพยายามแยกโจมตีพวกเขาทีละคน

ภายในไม่กี่วินาทีทหารรับจ้างยังไม่ถึงกับแพ้

รอจนกระทั่งพวกเขาต้องการต่อต้านอีกครั้ง

ก็สายเกินไปเสียแล้ว

และหุ่นสัตว์รบรอบๆตัวเขาไม่อาจเทียบได้กับอสูรหุ่นที่เหลยผาวบัญชาการ

หุ่นสัตว์รบเหล่านั้นบีบวงล้อมแคบและยิ่งเพิ่มอสูรหุ่นขนาดยักษ์ร่วมด้วยทำให้พวกทหารรับจ้างส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดร่างกายบาดเจ็บเพราะอสูรหุ่น

ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยผาวต้องการจะทรมานพวกนี้ทหารรับจ้างที่อ่อนแอคงถูกอสูรหุ่นจับร่างฉีกไปแล้ว

“หยุดนะ!”

เสียงดังมาจากด้านหลังเย่ว์หยาง

ปรากฏว่าหัวหน้าทหารรับจ้างที่ถูกหลาวแทงหน้าอกทะลุหลังดูเหมือนร่างจะมีแสงสีทองเปล่งออกจากตัวเหมือนแสงเทพ  สีหน้าที่บิดเบี้ยวเจ็บปวดไม่ใช่แสดงออกว่ากำลังจะตาย แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดอย่างน่าทึ่ง

เขาสะบัดมือและตัดหลาวที่ด้านหลังของเขา

และเหยียดมือออกมาข้างหน้าท่ามกลางสายตาของทุกคน

เขาดึงหลาวที่ย้อมด้วยเลือดออกจากอกเลือดฉีดพุ่งเหมือนน้ำพุ แต่เขาเหมือนไม่รู้ตัว

“ฮะฮะฮะ ข้าต้องยั้งมือไว้เสียแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่จะตายเร็วมากมายขนาดนั้น ดูสิ..เป็นฉากภาพที่งดงามเหลือเกิน ใช้พลังลับเผาผลาญพลังชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่น้องตนเองอย่างไม่ลังเล...ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบอย่างนี้ ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าทหารรับจ้างจะส่งต่อความรับผิดชอบนี้จากรุ่นสู่รุ่นหรือเปล่า  ตัวอย่างเช่น อสูรหุ่นขนาดใหญ่หรืออสูรหุ่นดีๆ” แม่ทัพเหลยผาวลูบคางที่เต็มไปด้วยตอหนวดเคราของเขาด้วยมือหยาบใหญ่

“ฮึ่ม!” หัวหน้าทหารรับจ้างยื่นมือที่เปื้อนเลือดคลำที่คอและเขาเปล่งรัศมีสีทองและตวาดลั่น “ข้าแต่บรรพบุรุษ ลูกหลานของท่านมาถึงช่วงวิกฤตเป็นตายของชีวิตแล้วเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด โปรดอภัยลูกหลานที่ไร้ความผิดด้วยเถิด ข้าขออัญเชิญเกราะรบวานรทอง”

ครืนน ครืนนน ครืนน...เมื่อผู้นำทหารรับจ้างทำลายผลึกที่เขาแขวนรักษาไว้ที่คอมาหลายวัน

อสูรหุ่นร่างลิงยักษ์สูงสิบเมตรปรากฏต่อหน้าทุกคน

มันเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าจนยากจะมองได้ตรงๆ  และหัวหน้าทหารรับจ้างผู้นี้ที่กำลังจะตายดูเหมือนจะมีพลังชีวิตขึ้นมาเป็นร้อยเท่าทันที เขากระโดดเข้าไปในช่องอกอสูรหุ่นวานรที่เปิดออกเพื่อเข้าควบคุมอสูรหุ่น

ผสานร่างมนุษย์กับเครื่องจักร!

แขนยักษ์ของหุ่นรบวานรชูขึ้นสูงเสียงคำรามดังออกมาจากปากของหุ่นรบวานรดังสะท้านใจผู้คน

และโจมตีใส่หุ่นรบที่โจมตีใส่ทหารรับจ้าง

หัวหน้าทหารรับจ้างกวาดแขนหุ่นวานรยักษ์ใส่อสูรหุ่นรบ

ประสิทธิภาพรบของมันสูงมากกว่า

ด้วยการกวาดแขนทั้งสองฟาดเป็นรูปกากบาททำให้หุ่นรบตัวใหญ่พังกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย...ส่วนอสูรหุ่นตัวเล็กตัวน้อยต่างเล็ดลอดกลับไปหาเจ้านายของมัน  แต่หนีไปได้ครึ่งทางก็ถูกหุ่นรบวานรไล่ตามและทำลายทีละตัวๆจนลดจำนวนลง

“โอว..ยอดเยี่ยม!”

ทาสประจำเหมืองเห็นภาพเช่นนี้แล้วอดปรบมือตื่นเต้นดีใจไม่ได้

พวกทหารรับจ้างที่นอนจมกองเลือดมองดูหุ่นลิงยักษ์อย่างเหลือเชื่อ  ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติแล้วทำไมหัวหน้าถึงไม่ใช้มัน? หัวหน้าขับขี่มันอยู่ข้างในจริงๆ หรือ? หุ่นลิงยักษ์นี้ เขาได้มาจากไหน? คำถามนี้และความตื่นเต้นจากการรอดตายทำให้พวกทหารรับจ้างไม่คิดถึงอาการบาดเจ็บและลุกขึ้นมารวมตัวกัน

แข็งแกร่งหุ่นรบวานรยักษ์นั้นแข็งแกร่งนัก แต่กังวลว่าจะสู้กับแม่ทัพเหลยผาวได้หรือไม่?

ถ้าเขาเอาออกมาใช้ก่อนนั้น พวกทหารที่น่าเกลียดเหล่านี้คงถูกไล่ทุบไปแล้ว!

ต่างจากพวกทหารรับจ้างข้างล่าง หัวหน้าทหารรับจ้างที่กำลังควบคุมหุ่นวานรยักษ์ตวาดลั่น  “ข้าจะคุ้มกันหลังให้พวกเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า  ข้าทนได้อีกไม่นาน”

“แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถฝืนทนได้นานนัก ฮ่าฮ่าเจ้าไม่มีพลังหรือสิทธิ์ในการจัดการได้ เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ต้องควบคุมหุ่นอสูรที่มีระดับสูงซึ่งไม่คู่ควรกับเจ้านี่เท่ากับว่าเจ้าหาเรื่องตายง่ายๆ! คนที่ประสบความสำคัญข้าเชื่อว่าตอนนี้คงตายไปแล้ว!” แม่ทัพเหลยผาวไม่กังวลแม้แต่น้อยเขาโบกมือข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “เสริมกำลังขึ้นไปอีกสองสามคน ไปเล่นกับมันอีกครั้ง  จำเอาไว้อย่าปล่อยให้มันตายง่ายเกินไป  พวกเจ้าต้องหยอกล้อกับมันเหมือนแมวหยอกหนูเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะตายยังน่าสนใจมากกว่าเยอะ!”

“หนีไม่พ้นหรอก”ก่อนที่ทหารรับจ้างจะตอบโต้มีอสูรหุ่นร่างมนุษย์สูงราวเจ็ดแปดเมตรบินเข้ามาสมทบพวกเขาคือสมาชิกของทหารฝีมือดีภายใต้บัญชาการของแม่ทัพเหลยผาว อสูรหุ่นของเขาอาจไม่ทรงพลังเท่ากับอสูรหุ่นวานรยักษ์แต่ถ้าพูดถึงการประสานงานระหว่างวิทยาการที่สร้าง กับจักรกลที่ผสานกับมนุษย์  หัวหน้าทหารรับจ้างยังไม่ได้เท่าปลายนิ้วของเขา

แต่เดิมเหลยผาวต้องการดูฉากแสดงดีๆ  แต่บังเอิญเขาเหลือบไปเห็นทหารรับจ้างที่คาดดาบที่เอว  ดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหว

ในใจของเขาตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม

เขาหันไปมองทันที

เขาพบว่าเจ้าเด็กนี่ปูเสื่อกับพื้นวางอาหารและผลไม้จากนั้นนั่งอย่างสบายอารมณ์มองดูการต่อสู้ในสนามพลางหยิบอาหารกินราวกับว่ากำลังมาเที่ยวปิกนิก สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าเดิมก็คือทารกน้อยตัวดำสกปรกตอนนี้เปลี่ยนไปมากใส่เสื้อผ้าที่สวยงามราวกับเจ้าหญิงน้อยกำลังหลับอย่างสบาย

แม่ทัพเหลายผาวอดขยี้ตาไม่ได้และสงสัยว่าตนเองกำลังเห็นภาพลวงตา

ไม่มีเหตุผล นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน

ต่อให้อาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดให้ทารกหญิงที่ผอมหิวแต่หนูน้อยดูร่าเริงและดูสมบูรณ์สดชื่นได้อย่างไร? และดูไม่เหมือนลูกทาสที่หิวโหยในตอนแรก  แต่เหมือนกับสมาชิกที่เกิดในตระกูลสมบูรณ์พูนสุข ใบหน้ากลมน้อยๆของทารกหญิงดูอ้วนท้วนสมบูรณ์

นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ในสนามต่อสู้ที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเหลยผาวได้อีกต่อไป

ตอนนี้เขาเหมือนกับเห็นปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อเกิดขึ้นต่อหน้าเขาทำให้เขาสับสนใจ พลังแบบไหนกันที่ทำให้ทารกผอมแห้งอดโซที่กำลังจะตายไม่มีแรงจะร้องไห้เหลือแต่ลมหายใจรวยรินกลับกลายเป็นเหมือนเจ้าหญิงน้อยผิวเหมือนสีกุหลาบอ้วนท้วนสมบูรณ์?

เหลยผาวขยี้ตาอีกครั้งก็ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม

คู่สามีภรรยาที่นอนจมกองเลือดไม่รู้ว่ามาอยู่ริมเสื่อตั้งแต่เมื่อใด

นอกจากคู่สามีภรรยาจะไม่ถูกอสูรหุ่นกัดทึ้งแล้วบาดแผลของทั้งสองคนที่ฉีกขาดบาดเจ็บยังมีการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เกิดปาฏิหาริย์หรือ?!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด