ตอนที่ 1064 สวรรค์โปรดลืมตาเถิด!
เย่ว์หยางตื่นขึ้นเกือบเที่ยง มีทหารรับจ้างมากกว่าสิบคนเห็นประกาศจากภายนอกพวกเขาเข้าไปในพื้นที่ทำเหมืองด้วยกัน
ทหารรับจ้างหลายสิบคนนั้นไม่มีคนที่เป็นผู้เกิดใหม่เลย
ทุกคนเป็นรุ่นลูกหลานของผู้เกิดใหม่รุ่นก่อน
ในหุบเขามนุษย์ ผู้เกิดใหม่แม้ว่าจะถูกห้ามใช่วิทยายุทธ์แต่พวกเขายังมีความแข็งแรงเป็นของตนเอง แม้ว่าพวกเขาจะยากจนหรือหิวจนตายได้ แต่พวกเขาไม่เลือกที่จะก่ออาชญากรรมและในฐานะเป็นผู้เกิดใหม่ก็มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเช่นกันไม่อย่างนั้นใครเล่าจะท้าทายหุบเขามนุษย์เพียงคนเดียวเล่า ย้อนกลับไปเมื่อประสบความสำเร็จในการผ่านด่านที่หก หุบเขาปีศาจแม่เฒ่าซาลามันด์เผชิญหน้ากับหุบเขามนุษย์ ยังต้องหลีกหนีอย่างยากลำบาก
ดังนั้นเขาไม่ต้องการทราบถึงความยากลำบากในการผ่านด่านหุบเขามนุษย์
ยิ่งการผ่านด่านมากขึ้นเท่าใดการอยู่ในหุบเขามนุษย์ก็นานมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ท้าทายที่เกิดใหม่หลายคนอาจไม่สามารถไปจากหุบเขามนุษย์ได้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ผู้เกิดใหม่บางส่วนแม้ว่าจะสามารถจากไปได้ แต่เพราะอยู่ในหุบเขามนุษย์มาเป็นเวลานาน ไม่สามารถทนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายได้จึงแต่งงานมีลูกมีหลาน.... เพราะเงื่อนไขในการนำผู้คนออกไปสูงเกินแม้ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัวที่สำคัญที่สุดก็ตาม ผู้เกิดใหม่ต้องไปจากหุบเขามนุษย์แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง ไม่ต้องพูดถึงกาลเวลาที่ต่อเนื่องทายาทของผู้กลับมาเกิดอาจมีซ้ำกันหรือต่อเนื่องกันหลายรุ่นกลายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่หลายพันคนจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพาพวกเขาไปได้ทั้งหมด
คนเหล่านี้ต้องอยู่ร่วมกับผู้เกิดใหม่ของหุบเขามนุษย์ซึ่งผสมผสานรวมกันจากรุ่นสู่รุ่น
ลูกหลานส่งต่อกันถึงรุ่นต่อไป
หากสถานะเกิดใหม่ของบรรพบุรุษรุ่นต้นๆมีสถานะระดับสูง บางทีแม้แต่คนที่รักยังพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย อย่างไรก็ตามถ้าในบรรพบุรุษผู้เกิดใหม่นั้นมีสถานะสามัญชน อย่างนั้นลูกหลานรุ่นหลังก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่ออยู่รอดให้ได้
โดยรวมกันนี้อาจเป็นพ่อค้าหรือทหารรับจ้างก็ได้
สามัญชนก็คือคนธรรมดาทั่วไปและแน่นอนว่าก็คือคนจนผู้ขายแรงงานให้คนอื่นเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ท้ายที่สุดก็คือทาสที่สูญเสียอิสรภาพพวกเขาขายตนให้คนอื่นแลกเปลี่ยนเงินให้ครอบครัวได้มีชีวิตต่อไปได้...ทหารรับจ้างนับสิบที่เข้ามาในหุบเขาด้วยกันพร้อมกับเย่ว์หยางอาจเป็นทายาทที่ตกค้างมาหลายรุ่น
ในคนพวกนี้สายเลือดผู้เกิดใหม่เจือจางมากแล้ว
พลังก็อ่อนแอมาก
คนที่แข็งแกร่งที่สุดแค่ปราณดินระดับห้า
ถ้ามีความแข็งแกร่งระดับนี้ไปที่หอทงเทียนก็ยังนับว่าไม่เลว แต่ที่นี่คือหุบเขามนุษย์ ผู้เกิดใหม่ก็คือสุดยอดนักสู้ ต่อให้มีฝีมือระดับอ่อนแอที่สุดสวะที่สุดก็ยังมากกว่าปราณฟ้าระดับห้า พลังปราณดินระดับห้าไม่ควรแก่การเหลียวแล
โชคดีที่หุบเขามนุษย์ห้ามมิให้ใช้วิทยายุทธ์ มิฉะนั้นคนอื่นอาจฆ่ากันได้โดยใช้เพียงนิ้วเดียว
“เจ้ามีหุ่นรบด้วยหรือ?” ผู้นำในหมู่พวกเขามีที่ดูคล้ายเย่ว์หยางบ้าง เพราะในสายตาของพวกเขา ความแข็งแรงระหว่างบุคคลไม่สำคัญเลยสิ่งสำคัญที่ต้องมีก็คือแต่ละคนจะมีหุ่นรบซึ่งมีพลังแตกต่างแล้วประเมินว่ามีความแข็งแกร่งไม่เบาเลย ตามธรรมดาพวกเขาเห็นเย่ว์หยางห้อยดาบซึ่งเหมือนเป็นเครื่องประดับไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา โชคดีที่สถานะทหารรับจ้างของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ต้องพูดเรื่องกล้าอวดอ้างกำลังต่อหน้าเย่ว์หยางที่เป็นเหมือนกุ้งน้อย
“ใช่” เย่ว์หยางอยากจะพูดปฏิเสธ แต่เขารู้สึกว่าถ้าเขาพูดไป ฝ่ายตรงข้ามจะฉวยโอกาสเป็นลูกพี่ และเพื่อไม่ให้เกิดคำพูดรกหูเย่ว์หยางตัดสินใจพูดจริง
“ระดับไหนกันนี่?” คนหัวโจกตกใจ เจ้าเด็กนี่เป็นทหารรับจ้างกุ้งแห้งที่ยากจน หายใจก็ยังยากลำบากไม่ใช่หรือ?
“เจ้าถามถึงชั้นบรอนซ์ เงิน หรือทอง?” เย่ว์หยางถาม
“เจ้ามีด้วยหรือ?” ทหารรับจ้างอีกคนที่ได้ยินโดยบังเอิญถึงกับตกใจ ทหารรับจ้างธรรมดาแต่มีหุ่นรบด้วยทั้งสองเงื่อนไขมีข้อจำกัดอยู่แล้ว นี่เป็นของการต่อสู้มาตลอดชีวิต คนหนุ่มสาวธรรมดามีไม่ได้ในหุบเขามนุษย์นอกจากผู้ควบคุมกองทัพแล้ว ใครจะนำกลุ่มหุ่นรบมาด้วยเล่า?
“ข้ามีบรรพบุรุษเป็นผู้เชี่ยวชาญในการค้นคว้าหุ่นรบ” เย่ว์หยางบอกว่าบรรพบุรุษของเขาใจกว้างฟุ่มเฟือยแต่ก็ทำให้เขาพอใจ
“มิน่าเล่า!” หัวหน้าทหารรับจ้างตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ในเวลานั้นเมื่อเขาได้ยินว่าบรรพบุรุษของเย่ว์หยางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นรบทัศนคติของทหารรับจ้างที่มีต่อเย่ว์หยางเปลี่ยนไปทันทีไม่ว่าลูกหลานจะผสมเปลี่ยนแปลงไปเพียงใดบรรพบุรุษก็ยังยอดเยี่ยมพวกเขามีมรดกทางวัฒนธรรม นี่คือสิ่งที่เงินจำนวนมากมิอาจหาซื้อได้
เมื่อพวกเขาเข้าไปในพื้นที่เหมืองเพื่อลงทะเบียนบอกสถานะตนทุกคนพากันเข้าแถวต่อท้ายเย่ว์หยางอย่างเห็นได้ชัด
แม้แต่หัวโจกทหารรับจ้างก็ยังถ่อมตัวปฏิเสธจะขึ้นมายืนนำ
แต่เย่ว์หยางกลับโบกมือพัลวัลและขอให้หัวหน้าทหารรับจ้างมาอยู่หัวแถวแสดงถึงทัศนคติที่ถ่อมตนและเป็นผู้เยาว์ที่ได้รับการศึกษามาดีไม่ใช่ธรรมดาทำให้พวกทหารรับจ้างรู้สึกประทับใจ
ถามตนเองดูถ้ามีหุ่นสัตว์รบเก็บไว้แล้ว ไม่เอามาอวด แต่กลับห้อยดาบแทน หมายความว่ายังไง?
โลกนี้มีกี่คนที่เก็บตัวซ่อนความสามารถได้อย่างแท้จริง? โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มสาวผู้มีความภูมิใจเย่อหยิ่ง!
“เข้าสู่พื้นที่ทำเหมืองไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับงานที่พวกเจ้าจัดไว้! นอกจากนี้ของฝากผลึกฟ้าคืออะไร? ข้าไม่เคยได้ยินว่าเข้าเหมืองต้องจ่ายเงินผลึกสวรรค์ นี่ก็เป็นแนวคิดแบบเดียวกันพวกเจ้ารับสมัครคนงานที่นี่ไม่ใช่หรือ?” ทันทีที่หัวหน้าทหารรับจ้างเห็นสภาพเมื่อพวกเขาเข้ามาในหุบเขา เขาโมโหทันทีทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน เขาต้องจ่ายเงินหนึ่งผลึกสวรรค์ก่อนนี่มันเหตุผลอะไร?
“ไม่ทำก็ไสหัวไป!” ทหารยามเป็นเหมือนสุนัขอารมณ์ไม่ดีที่ส่งเสียงเห่า
“อะไรนะ?” แม้ว่าทหารรับจ้างมักจะโดนดูถูกแต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะพลาดพลั้งผิดพลาดบางอย่าง ถ้าพวกเขาทำงานผิดพลาด พวกเขายอมรับการตำหนิได้ แต่ตอนนี้ถ้าพวกเขายังไม่ทันเข้าประตูกลับถูกมนุษย์ตาสุนัขบางคนดูถูก เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?
“หลายวันมานี้ บิดาอารมณ์ไม่ดีเจ้าจงไสหัวไปเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะถูกจับเป็นทาส!” ทหารยามที่ทำหน้าที่ดุร้ายนัก
“เสียงดังอย่างนี้ เจ้าเห็นไหม?” ผู้นำทหารรับจ้างรู้ว่าเขานำกลุ่มมาที่นี่เพื่อหางานทำเลี้ยงชีพไม่ใช่มาเพื่อทะเลาะ ในฐานะหัวหน้าเขาต้องอดทนมากกว่า เขาสูดหายใจลึก และข่มความหงุดหงิดหันหน้าไปหาเย่ว์หยางคล้ายจะถามความเห็นว่าจะอยู่ต่อไหม?
“ไสหัวไปได้แล้ว มิฉะนั้นบิดาจะปล่อยสุนัขไล่กัดอย่านึกว่ามีทหารรับจ้างที่มีหุ่นรบคร่ำคร่ามาด้วยแล้วเจ้าจะอวดเบ่งได้ ข้าจะบอกให้ตราบใดที่พวกเจ้ากล้าต่อต้านวุ่นวาย พวกเจ้าจะถูกจับขังคุกมืดข้อหาบุกรุกพื้นที่ชนชั้นสูง!” มีทหารทำหน้าที่สี่คน แต่ท่าทีของพวกเขาหยิ่งยโส
มีสองคนปรากฏตัวข้างหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง
แน่นอนว่าถ้าถูกกล่าวหาว่าบุกรุกแย่งชิงพื้นที่ของชนชั้นสูง นั่นเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่มีใครรับได้
แม้ว่าจะไม่ใช่การก่อกบฏแต่ก็นับว่าเป็นความผิดที่ใกล้เคียง... หากถูกจับได้ก็ต้องขังคุกมืดและเป็นไปได้ว่าอาจถูกลงโทษประหารชีวิต
หัวหน้าทหารรับจ้างขมวดคิ้วและรีบโบมือให้สหายพวกเขาถอยทันที เขาไม่ต้องการขัดแย้งกับสี่ทหารวายร้าย เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้แผนร้ายยัดข้อหาบุกรุกที่ของชนชั้นสูง
ขณะที่หัวหน้าทหารรับจ้างเตรียมจะนำกลุ่มของตนจากไป ทันใดนั้นมีเสียงวุ่นวายดังมาจากเหมือง
เสียงผู้คนโห่ร้อง
เสียงฝีเท้าสับสนไม่เป็นระเบียบจากที่ไกลเริ่มดังใกล้เข้ามาทุกที....
ในเวลาไม่กี่สิบวินาทีก็มองเห็นเงาร่างสองสายหนีออกมาจากด้านข้างด้านหลังมีหุ่นสัตว์รบหลายตัวตาสีแดงกำลังไล่ตาม
เย่ว์หยางมองดูจากระยะไกลตอนแรกพบว่าเป็นเงาดำที่กำลังเคลื่อนไหวทุกคนไม่ได้แต่งตัวดี ร่างกายสกปรกมอมแมมคาดว่าน่าจะเป็นทาสคนงานประจำเหมือง เช่นเดียวกันกับเงาสองสายที่วิ่งขึ้นข้างหน้า เงาดำซ้ายมือแม้มองผ่านๆ ก็ดูออกว่าเป็นสตรีเงาดำด้านขวาเป็นบุรุษร่างผอมสูง และในอ้อมกอดเป็นเงาดำสกปรกสีดำ เย่ว์หยางคาดว่าเงาดำเล็กนั้นน่าจะเป็นบุตรของคนทั้งสอง หลังจากผ่านไปนานพลังความแข็งแรงของทั้งสองคนลดน้อยลงและยากจะรักษาฝีเท้าพวกเขาได้ ฝีเท้าของพวกเขาเริ่มยุ่งเหยิง
ความเร็วช้าลงทุกที
สัตว์หุ่นรบไม่รู้จักเหนื่อยความเร็วของพวกมันไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ตกลงเช่นกัน
ในพริบตามันไล่ตามเข้ามาใกล้หญิงสาวที่ค่อนข้างล้าหลังและอ้าปากเกือบงับถูกน่องของนาง...บุรุษคนนั้นรีบพยายามดึงมือสตรีผู้นั้นซึ่งกำลังจะตกเป็นเหยื่อของหุ่นสัตว์รบแต่ไม่ได้ตระหนักเลยว่าทหารยามได้ถูกส่งไปเพื่อสกัดขัดขวางเขาไว้แล้ว เขามัวแต่สนใจด้านหลังไม่ได้สนใจการจู่โจมจากด้านหน้าและถูกจู่โจมโดยหุ่นสัตว์รบรูปหมาป่า
เขาล้มลงกับพื้นทุกคนทันที
บุรุษคนนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็วและคว้าเงาดำเล็กไว้ทันเวลา
แต่หุ่นสัตว์รบรูปหมาหมาป่าอ้าปากกัดแขนของบุรุษนั้นจนเนื้อฉีกเลือดฉีดพุ่งกระจาย
“เป็นไปไม่ได้?” ทหารรับจ้างร้อง “ถ้าไม่มีเหตุผลโจมตีหุ่นสัตว์รบไม่มีทางทำร้ายมนุษย์ได้!”
“นี่เป็นเพราะสามีภรรยาถูกตัดสินว่ามีโทษ” หัวหน้าทหารพูดเย็นชา
“เป็นไปได้อย่างไร พวกเขาไม่ได้ติดอาวุธและไม่ได้รุกราน” พวกอดีตทหารรับจ้างไม่อยากจะเชื่อ “กฎสวรรค์ปกป้องมนุษย์อย่างเรา พวกมันเมินข้ามกฎสวรรค์มาทำร้ายเราได้อย่างไร นี่เป็นไปไม่ได้!”
“ความจริงหุบเขามนุษย์มีตำนานที่น่ากลัวมาอย่างยาวนานแล้ว” หัวหน้าทหารรับจ้างหวาดกลัวพยายามลดเสียง “เมื่อได้รับการอนุมัติจากเทพแห่งความขัดแย้งพวกเขาจะระบุว่าสามัญชนอย่างเราทุกคนเป็นศัตรู กฎสวรรค์คุ้มครองความอยู่รอดของมนุษยชาติ แต่พวกเขาบิดเบือนกฎสวรรค์และปฏิบัติต่อคนส่วนใหญ่ในฐานะ‘คนบาป’ ผู้สามารถโจมตีเพื่อเอาตัวรอดได้”
“.....” ทหารรับจ้างได้ยินข้อมูลลับนี้แล้ว พวกเขารู้สึกหนาวสะท้านไปหมด
ไม่ไกลจากหน้าเย่ว์หยางมีหุ่นสัตว์รบสองสามตัวกระโจนเข้าหาบุรุษเตรียมฉีกเขาและเงาดำเล็กในอ้อมกอดเขาให้เป็นชิ้น
บุรุษผู้นั้นพยายามต่อสู้อย่างหนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาไม่สามารถเอาชนะหุ่นสัตว์รบรูปหมาป่าได้
เขาคำรามเบาๆ
รวบรวมพลังสุดท้ายในร่างกายและผลักก้อนเงาดำในอ้อมแขนให้พ้นจากการโจมตี หุ่นสัตว์รบเมื่อพบว่าเป้าหมายเล็ดรอดหลบไปได้มันตามมาทันทีและอ้าปากใหญ่พร้อมจะบดขยี้ศีรษะของเงาดำเล็กๆ นั้น
สตรีผู้ที่ถูกหุ่นสัตว์รบหลายตัวรายล้อมไว้ไม่รู้ว่ารวบรวมแรงมาจากไหนนางรีบเข้ามากอดร่างเงาดำเล็กไว้
นางชูร่างเงาดำเล็กไว้
นอกจากการปกป้องที่อ่อนแอที่สุดนี้แล้ว ในฐานะมารดานางไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้... “ดี..แทะขาของนางก่อน ฮ่าฮ่าฮ่า เริ่มแทะจากหลังเท้าก่อน ค่อยๆแทะขานางเรื่อยๆ แล้วค่อยกินเด็กนั้นอย่ากัดนาง อย่ากัดนาง ต้องแน่ใจว่านางจะต้องเห็นลูกถูกกิน...ฮ่าฮ่าฮ่า ฉากที่ซาบซึ้งตรึงใจนี้ ยอดเยี่ยมเป็นบ้า!” ทหารทั้งสี่ที่ปฏิบัติหน้าที่หัวเราะลั่น
“ไม่!” บุรุษคนนั้นส่งเสียงคำรามตะเกียกตะกายเลือดท่วมวิ่งมาหาสตรีและเด็กนั่น
ในฐานะบุรุษเขาไร้พลังอำนาจจะปกป้องลูกและเมีย
สิ่งที่ทำได้ก็คือให้เขาตายก่อนพวกเขา
แม้ว่าชีวิตจะหมดหวังไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังในใจของเขาว่ากฎสวรรค์ที่เทพสร้างไว้จะมีปาฏิหาริย์เพื่อไม่ให้คนเลวพบช่องโหว่อีกต่อไปคนจนจะต้องมีชีวิตอยู่ได้ อย่างน้อยเขาจะไม่ยอมตายกับการกระทำสมรู้ร่วมคิดกับหุ่นสัตว์รบ เขาต้องการให้มีความตั้งใจเดิมของนางพญาผู้พิชิตในการสร้างหุ่นนักรบเพื่อปกป้องสามัญชน!
“สวรรค์, ได้โปรดลืมตาเถิด!” บุรุษผู้ถูกหุ่นสัตว์รบจำนวนมากรายล้อมคำรามอย่างเศร้าสร้อย