ตอนที่ 1055 ก็ได้ ข้าคือคุณชาย!
เย่ว์หยางเดินผ่านประตูเทเลพอร์ตและพบว่าตนเองอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่ง
ไม้ดอกนับร้อยบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอม
ถนนศิลาสีขาวกว้างนำไปสู่ปราสาทบนสุดเนินเขา ตรงกลางมีน้ำพุแก้วผลึกงดงามรูปหญิงงามรินคนโทน้ำรัศมีของรูปหญิงงามเหมือนกับเทพธิดาผู้หลั่งรินสายน้ำชีวิตให้กับโลก.. ภายในกำแพงปราสาทเหนือเนินเขามีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีราวกับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจากช่างฝีมือดี
ปราสาทมียอดแหลมสูงสามยอดในตรงกลางของปราสาทมีการจัดเรียงออกแบบในรูปสลับไปมา
ปราสาทสามยอด ยอดตรงกลางสูงที่สุด
ทั้งยังพิเศษที่สุด
ดูเหมือนว่าจะฝังเพชรขนาดใหญ่ไว้ ภายใต้แสงอาทิตย์สะท้อนแสงวูบวาบเหมือนดวงดาว
บางทีการมาของเย่ว์หยางคงถูกพบแล้วสตรีวัยกลางคนสองคนพากลุ่มบ่าวทาสมากกว่ายี่สิบคนมาตั้งแถวต้อนรับ
สตรีคนซ้ายมีผมขาว แต่สง่างามสวมชุดของบุรุษ และติดอินทรธนู ที่ตาของนางสวมแว่นเลนส์เดียวมองดูเหมือนพ่อบ้านใหญ่ที่รับจัดการดูแลทุกเรื่องในคฤหาสน์
นางทักทายเขาอย่างสุภาพด้วยมาดสุภาพบุรุษ “ยินดีต้อนรับคุณชายสู่ปราสาทไดมอนด์สตาร์ ข้าตู้ลี่เป็นหัวหน้าพ่อบ้านมาน้อมรอต้อนรับคุณชายอยู่ที่นี่”
ทางด้านขวาเป็นสตรีชาวจีนร่างท้วม แต่รูปร่างนางไม่อ้วนบวมแค่ดูก็รู้ว่านางมีความสุข
นางหัวเราะก่อน
ด้วยรอยยิ้มหวานของนางทำให้นางดูใจดีเหลือเชื่อ สตรีทางขวามือดูไม่จริงจังเหมือนสตรีทางซ้ายมือ แต่นางเดินเข้ามากอดเย่ว์หยางและมือนางลูบศีรษะเขาเบาๆ นางยิ้มและกล่าว “ข้าชื่อซูซาน เป็นหัวหน้าแม่ครัวของท่าน อาหารการกินความเป็นอยู่ ข้าเป็นคนดูแลจัดการทั้งหมด ข้ายังเคยดูแลท่านแม่ของคุณชายให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ด้วย”
เย่ว์หยางเมื่อได้ยินถึงกับหลั่งเหงื่อพรั่งพรู เขาไม่อยากอ้วนเหมือนหมู
ป้าซูซานผู้นี้กระตือรือร้นมากเหลือเกินเหมือนกับไฟตรงกันข้ามกับพ่อบ้านตู้ลี่ที่เหมือนกับน้ำแข็ง โชคดีที่ป้าซูซานนี้มีเพียงคนเดียว มิฉะนั้นเขาคงลำบากใจเวลาเรียกหาเป็นแน่
ต่อจากหัวหน้าคนใช้ทั้งสองคนเป็นสตรียี่สิบกว่าคนคาดว่าเป็นผู้รับใช้ที่อยู่ช่วยงานในปราสาท
สถานะของพวกนางต่ำ และพวกนางไม่กล้าพูด
แค่ทำตามหัวหน้าคนใช้และคำสั่งเย่ว์หยางเจ้านายใหม่
ในปราสาทไม่มีผู้คุ้มกัน ไม่มีบุรุษ การงานทั้งหมดเป็นสตรีทำรวมทั้งงานบุรุษและงานทำสวนในคฤหาสน์... พ่อบ้านตู้ลี่ผมขาวนำสมุดบัญชีที่มีรายละเอียดมากมาให้เย่ว์หยาง รายการข้างต้นเป็นที่ดินของปราสาท เมืองและป่าในเขตดูแล เหมืองแร่ เย่ว์หยางพบว่าเจ้าของสมุดคนล่าสุดนี้ได้ลงลายมือชื่อไว้เมื่อสิบปีที่แล้วกล่าวตามตรงก็คือชื่อมารดาของเขา พี่สาวของแม่สี่ อย่างน้อยนางออกจากหุบเขามนุษย์ไปสิบปีแล้ว ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือบันทึกบัญชีของสมุดนี้ อยู่ในสภาพสมดุลมาตลอดสิบปีไม่ว่ารายได้รายจ่ายจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เย่ว์หยางไม่ได้ถามตู้ลี่ว่าจะทำอย่างไร
ในใจของเขาพ่อบ้านตู้ลี่และหัวหน้าแม่ครัวซูซานก็เหมือนตัวตนในเกมคอมพิวเตอร์ เขาเองก็เป็นเหมือนหัวหน้าบ้านมือใหม่
โดยทั่วไปในเกมออนไลน์เมื่อผู้เล่นเข้ามาเป็นหัวหน้าบ้านใหม่ เจ้าบ้านจะให้ผู้เล่นทำภารกิจเสมอ อย่างเช่นเพื่อช่วยหลานชายของเจ้าบ้านจากหมาป่าผู้เล่นทุกคนจะต้องออกไปฆ่าราชาหมาป่าเพื่อช่วยหลานชายของหัวหน้าบ้าน? ไม่เคยมีใครศึกษาอย่างละเอียดว่า หัวหน้าบ้านมีลูกหลานกี่คน?และปล่อยราชาหมาป่าไป? ผู้เล่นหลายพันคนจะฆ่าหมาป่าช่วยหลานชายนายบ้านได้อย่างไร...เขาไม่ได้ศึกษาไว้ก่อนอย่างละเอียดว่า ทำไมหมาป่าจึงพาตัวหลานของเขาไป ราชาหมาป่าที่จับหัวหน้าบ้านไปมักจะรอให้ผู้เล่นเข้ามาช่วยก่อนเตรียมพร้อมจะรับมือหรือไม่?
เกมนี้เป็นเกมที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบเหมือนอย่างที่เย่ว์หยางไม่เข้าใจว่าเหตุใดปราสาทจึงมีบัญชีที่สมดุลในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจนกระทั่งขาดสมดุล
เขารู้แต่เพียงว่าถ้าเขาไม่ได้มาถึงร้อยปี พ่อบ้านตู้ลี่และแม่ครัวซูซานก็ยังคงรออยู่
สมุดบัญชีนี้จะต้องมีความสมดุลเสมอ... “ปราสาทจำเป็นต้องซ่อมแซมป่าจำเป็นต้องจ้างคนงานมาทำ เหมืองแร่จำเป็นต้องมีจุดตั้งหลอมและถลุง เมืองสองเมืองจะต้องตัดถนนผ่านเพื่อเพิ่มกำลังการค้า” เย่ว์หยางรู้ว่าภารกิจที่มือใหม่จะต้องทำคือดูหนังสือคู่มือ เขาไม่ถามพ่อบ้านตู้ลี่ทำไมไม่ทำอย่างนี้ไว้ก่อนก็เหมือนกับผู้เล่นเกมออนไลน์ จะไม่ถามหัวหน้าหมู่บ้านว่ามีหลานกี่คนที่ถูกหมาป่าเอาตัวไป
“คุณชาย, ม้าในคอกม้าและชุดก็ควรเปลี่ยนก่อน ในฐานะชนชั้นสูงศักดิ์เราต้องรักษาสถานะที่เป็นเอกลักษณ์ที่ดีไว้ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรต่างๆ ที่ขุนนางควรเรียนรู้และจะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก” พ่อบ้านตู้ลี่เพิ่มเงื่อนไขอย่างไม่ลดละ
“เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องประหยัดเงิน ตอนนี้ข้าควรจะลงทุนเท่าใด?”เย่ว์หยางหยิบหนังสือขึ้นและถามโดยตรง
“ค่าใช้จ่ายปีนี้ต้องใช้มากอย่างน้อยก็ห้าพันผลึกสวรรค์สำหรับลงทุนด้านข้างปราสาท ประมาณสามพันสำหรับลงทุนในปีอื่น” พ่อบ้านตู้ลี่ผมขาวตอบทำนองนี้
“ดีมาก” เย่ว์หยางข้างนอกยิ้ม แต่ในใจมีเหงื่อหยาดหยด
ท่านจำเป็นต้องรู้บัญชีรายได้ประจำปีเสียก่อน แต่ 1000 ผลึกสวรรค์บางครั้งก็เหลือบางครั้งก็ไม่พอ จำนวนไม่แตกต่างกันมาก ปราสาทไดมอนด์สตาร์ทำบัญชีให้สมดุลได้อย่างไรทั้งที่งบประมาณบานปลายไปถึงสามถึงห้าเท่า
เดิมทีเขาต้องการเงินสักสองถึงสามหมื่นผลึกสวรรค์แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
เย่ว์หยางผู้มีเงินผลึกสวรรค์ 12500นำการ์ดวิญญาณออกมาโดยตรงมอบให้พ่อบ้านตู้ลี่เบิกไปห้าพันผลึกสวรรค์
ภายในครึ่งวัน ความมั่งคั่งในครอบครัวลดลงทันที
แม่ครัวซูซานยิ้มอารมณ์ดี นางไม่ได้ต้องการเท่ากับพ่อบ้านตู้ลี่ นางต้องการเพียงห้าร้อย เย่ว์หยางรู้ว่าเงินส่วนนี้ไม่อาจประหยัดได้ แต่ลอบถอนหายใจฝืนยิ้มยอมให้เบิกห้าร้อยผลึกสวรรค์อีกครั้ง
ในที่สุดยังไม่ต้องนึกถึงค่าม้าที่เขาเลือกใช้เดินทางด้วยตนเอง ไม่นึกถึงการเตรียมพร้อมให้กับชนชั้นสูงค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนชนชั้นสูง ตอนนี้เย่ว์หยางเหลือเงินเพียงเจ็ดพันผลึกสวรรค์อยู่กับตัวเท่านั้น
หากจัดการรายจ่ายทั้งหมดได้เสร็จสิ้นคาดว่าเขาคงกลายเป็นยาจกในไม่ช้า
สิ่งเดียวที่ควรแก่การประโลมใจก็คือมีที่ตั้งหลักในอนาคต ไม่ต้องเป็นเหมือนเริ่นเทียนเกอหรือฮ็อกซึ่งเขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ถนนใดกันแน่
ถ้าเขาต้องการเป็นขุนนางจริง เขาต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง มิฉะนั้นทุกคนก็คือคนชั้นสูงหมด...ปราสาทอยู่ในความดูแลของพ่อบ้านตู้ลี่และแม่ครัวซูซาน
สิ่งที่เย่ว์หยางต้องทำในตอนนี้ก็คือหาเงิน
หาเงินให้มากขึ้นให้เร็วขึ้นเท่าที่เป็นไปได้
มิฉะนั้นจะทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องตายเพราะขาดเงิน
เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้จ่ายประจำวันโดยพึ่งพาภาษีจากสองเมืองรายได้ของภูมิภาคป่าไม้และเหมืองก็ยังใช้ไม่ได้ เย่ว์หยางยังไม่ทันได้กินดื่มนอนหรือพักในปราสาทก็นิ่งเป็นเหมือนรูปปั้นเสียแล้ว เย่ว์หยางเหมือนกับจะยังไม่เหนื่อยมาก พวกขุนนางจะต้องมีชีวิตชีวามากกว่านี้ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นขุนนางแบบไหนกันแน่?
เย่ว์หยางเพิ่งนั่งกินอาหารกลางวันยังไม่ทันได้ใช้เวลาสำรวจปราสาท
ก็มีคนรอเขาอยู่ที่นอกประตู
เทศมนตรีเมืองทั้งสอง หัวหน้ารักษาความปลอดภัยประจำการที่ดูแลเหมือง
ตัวละครจากในเกมคอมพิวเตอร์ในสายตาของเย่ว์หยางเหล่านี้รายงานว่ามีอสูรทะเลที่น่ากลัวปรากฏตัวตามชายฝั่งทะเลชื่อเมืองทรายขาวชาวประมงพากันหวาดกลัวไม่กล้าไปหาปลาในทะเล เพราะเมืองทรายขาวมุ่งเน้นที่กิจการทำประมงและขนส่ง นั่นคือภัยร้ายแรงพวกเขาหวังว่าคุณชายจะสามารถหาวิธีคลี่คลายปัญหาให้บริวารของเขา อีกเมืองหนึ่งชื่อเมืองหินดำ ไม่มีอสูรทะเล แต่กล่าวกันว่าจะมีโจรลงมาจากภูเขา พวกเขารวมตัวเป็นกลุ่มและปล้นขบวนรถสินค้าในเมืองอยู่บ่อยครั้งทำให้พ่อค้านักธุรกิจในเมืองหินดำเป็นกังวลไม่สบายใจ และพากันขู่ว่าถ้าปัญหาโจรขโมยไม่ได้รับการแก้ไขภายในหนึ่งเดือนพวกเขาทั้งหมดจะเลิกกิจการและอพยพออกจากเมืองหินดำ
หัวหน้าทหารที่ดูแลพื้นที่ป่ากล่าวว่าต้นไม้ในป่าถูกหมาป่ากัดทำลายเป็นจำนวนมาก ความจำเป็นเร่งด่วนก็คือเพิ่มจำนวนทหาร หรือจะให้ดีที่สุดหาคนมากำจัดหมาป่า
ข่าวของหัวหน้าทหารที่ดูแลเหมือนไม่ถึงกับแย่เพราะแร่ขุดมารวบรวมไว้แล้ว ถ้าไม่มีการสำรวจแหล่งแร่ใหม่ อย่างนั้นคนงานจะเผชิญกับปัญหาว่างงาน เย่ว์หยางอยากจะเป็นลม
ดูเหมือนว่าเป็นขุนนางคราวนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
หากเป็นเรื่องช่วยไม่ได้สิ่งที่เย่ว์หยางจะทำคือตรงไปยังเมืองทรายขาวและฆ่าอสูรทะเล ไปที่เมืองศิลาดำเข่นฆ่าโจรขโมยให้หมด จากนั้นไปกำจัดฝูงหมาป่าที่สวนป่าด้วยความภูมิใจ ความเป็นวีรบุรุษแม้แต่พยัคฆ์ก็ยังอาจตกใจกลัว
แต่ปัญหาก็คือ นี่ไม่ใช่หอทงเทียน ไม่ใช่แดนสวรรค์...แต่เป็นหุบเขามนุษย์
ที่นี่แม้แต่อัจฉริยะที่ผิดธรรมดาอย่างเย่ว์หยางเป็นเพียงคนธรรมดาที่ต้องแก้ไขคลี่คลายปัญหาตามวิถีของคนธรรมดา
“ก็ได้ ข้ารู้แล้ว” เย่ว์หยางไม่มีความกระตือรือร้นจะเชิญตัวละครในเกมคอมพิวเตอร์เหล่านี้ให้ร่วมทานอาหารค่ำไม่ได้พยายามเอาชนะใจพวกเขา ไม่ทำให้พวกเขาทุ่มความภักดีเต็มร้อย เขาเป็นเหมือนกับคุณชายโบกมือไล่ให้พวกเขากลับไปยังที่ๆพวกเขามา เขาคร้านเกินกว่าจะมองดูคนพวกนี้อีกครั้ง นี่มันภารกิจบ้าบออะไรกัน? มีแต่ปัญหาเต็มไปหมด? ใครเป็นเจ้านายกันแน่? มีอสูรทะเล โจรขโมย ฝูงหมาป่า พวกเจ้าไม่ได้ไปขอให้ทหารรับจ้างแก้ปัญหาบ้างเลยหรือ?
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าจะไปรอฟังข่าวดีก่อน” หัวหน้าทหารผู้มาพบเย่ว์หยางรู้สึกผิดหวัง คุณชายมีพฤติกรรมผิดปกติเกินไป เขาไม่โกรธ ไม่พยายามโน้มน้าวใจ เขาต้องการรู้ว่าคุณชายคิดยังไง แค่ต้องการประจบสอพลอจึงอดเดินไปที่ประตูไม่ได้
“.....” เย่ว์หยางยังกินต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณชาย! การแสดงออกของท่านเป็นไปตามวิถีขุนนางอย่างสมบูรณ์ และโปรดทำอย่างนี้ต่อไป” พ่อบ้านตู้ลี่ยกย่องว่านี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
“ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้และคนอื่นมักจะใช้ความเฉลียวฉลาดอ้างความชอบธรรมของตนเอง” แม่ครัวซูซานจัดของขบเคี้ยวที่อร่อยให้เย่ว์หยางพวกนางถากถางเทศมนตรีและหัวหน้าทหารกับพวก แม้ว่าจะไม่ได้พูดมากแต่เย่ว์หยางสามารถตัดสินใจได้ชัดเจนว่าสถานะของตู้ลี่และซูซาน ดูเหมือนจะสูงกว่าเทศมนตรีกับพวกมาก ดูเหมือนว่าประชากรดั้งเดิมในหุบเขามนุษย์จะมีสถานะทางสังคมที่จริงจังมากกว่า
“คุณชาย, ท่านมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก” พ่อบ้านตู้ลี่พูดต่อ
“เข้าใจแล้ว” ตอนนี้เย่ว์หยางแน่ใจว่าอย่างน้อยเขาสามารถเชื่อใจคนในปราสาทไดมอนด์สตาร์ได้โดยเฉพาะพ่อบ้านตู้ลี่และแม่ครัวซูซาน พวกนางไว้ใจได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นคนที่พี่สาวแม่สี่ทิ้งไว้ให้ดูแล สำหรับคนอื่นๆ เขาต้องสังเกตดู สิ่งต่างๆในหุบเขามนุษย์ไม่ง่ายเหมือนเกมนายบ้านบริหารงานภารกิจ
งานที่นี่ดำเนินการโดยสตรีที่แข็งแรงยิ่งกว่าบุรุษ เย่ว์หยางกับพ่อบ้านตู้ลี่มุ่งเข้าเมืองไม้เงิน
ที่นั่นเย่ว์หยางถึงได้พบกับคนที่เกิดใหม่ได้อย่างแท้จริง
เขายังสามารถเข้าหาแวดวงสังคมชั้นสูงได้
นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จในหุบเขามนุษย์ของเย่ว์หยางทีละก้าว!