ตอนที่แล้วตอนที่ 1047 ทุกอย่างมีครั้งแรก....
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1049 ตามไปดู?

ตอนที่ 1048 ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!


“ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”นี่คือคำสบถในนาทีแรกที่จอมปีศาจไคเทียนพูดหลังจากโกรธที่เย่ว์หยางเหยียบหลังของเขา”

“ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” นี่คือคำพูดที่จอมปีศาจไคเทียนพูดหลังจากโจมตีต่อเนื่องผ่านไปหนึ่งชั่วโมง  แต่เย่ว์หยางยังคงยืนหยัดอยู่ได้

“ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” นี่คือคำพูดของจอมปีศาจไคเทียนหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งวันเต็ม

จอมปีศาจไคเทียนไม่เคยคิดมาก่อน

การต่อสู้กับเย่ว์หยางไม่ใช่การต่อสู้แบบครั้งเดียวก็ฆ่าได้เหมือนที่เขาทำได้ก่อนนั้นหรือเป็นการหยอกศัตรูแบบแมวหยอกหนู เพื่อล้างอายระบายความโกรธ เขาต้องการทำลายฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าจะไม่ระดมโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อีกฝ่ายหมดแรง แต่อีกฝ่ายก็ยังยืนหยัดสู้อยู่ได้แม้ปะทะฝีมือผ่านไปเป็นพันกระบวนท่า

นี่คือการต่อสู้ที่ยืดเยื้อซึ่งเขาไม่สามารถคาดการณ์ได้แม้ว่าเขาจะมีทักษะแฝงเร้นมองการณ์ไกล

ปัจจุบันนี้เขามองการณ์ไกลได้เต็มที่คือหนึ่งวันเต็ม

แต่ฝ่ายตรงข้ามยังคงยืนนิ่งได้ ไม่รู้ว่าจะยืนหยัดได้อีกนานถึงเท่าใด

ในใจของจอมปีศาจไคเทียนไม่มีความคิดอย่างอื่น มีอยู่เพียงความคิดเดียวนั่นคือฆ่าเจ้าเด็กผู้โค่นล้มขีดจำกัดการประเมินซ้ำแล้วซ้ำเล่า  น่าเสียดายความแข็งแกร่งของเขาสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ผ่านไปหนึ่งวันเขาก็ยังล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ

มีอยู่หลายครั้งที่จอมปีศาจไคเทียนคิดว่าเจ้าเด็กนี่จะล้มลงและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย

ใจของเขามีความหวังมากเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามเจ้าเด็กนี่แม้จะถูกความตายคุกคามแต่สีหน้าไม่เปลี่ยน สร้างความผิดหวังให้กับเขา

เจ้าเด็กนี่ลุกขึ้นยืนหยัดครั้งแล้วครั้งเล่าและเริ่มร่วงลงกับพื้นบ้าง จอมปีศาจไคเทียนพอเริ่มจะมีเวลาเยาะเย้ยเขา  แต่เขากลับลุกขึ้นยืนทันที

จอมปีศาจไคเทียนบางครั้งก็รู้สึกจนปัญญา  ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?

เขาไม่ต้องการเข้าใจ

เจ้าเด็กนี่เขาไม่สามารถฆ่าให้ตายได้  เจ้านี่เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกัน  ทำไมถึงฆ่าไม่ตายสักทีและทำไมถึงต้านรับพลังโจมตีของเขาได้

ทุกอย่างเป็นความลับ  สิ่งเดียวที่สามารถยืนยันได้แน่นอนก็คือหลังจากเจ้าเด็กนั่นร่วงลงกับพื้นดวงตาของเขายังกระจ่างเยือกเย็น จ้องมองไม่หยุดทั้งที่เลือดไหลผ่านระหว่างคิ้วของเขา เขายังคงจ้องมองเขม็งเหมือนกับดวงดาวที่ไม่เคยตกจากฟากฟ้าเหมือนกับจะสะท้อนชีวิตนิรันดรของอีกฝ่าย

การโจมตีต่อเนื่องผ่านไปอีกหนึ่งวัน  เขาโจมตีทุกวิธีพลังโจมตีหนักหน่วงเริ่มหมื่นครั้ง

ต่อให้เป็นเทพเจ้าเชื่อได้ว่าคงตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม

ฝ่ายตรงข้ามยังคงยืนอยู่ได้เสมอ

เขาจะฆ่าเจ้าเด็กนี่ได้อย่างไร?  บางครั้งจอมปีศาจไคเทียนสงสัยว่าเจ้าเด็กนี้เป็นเทพเจ้าโบราณสร้างขึ้นมาหรือไม่ และร่างของเขาเป็นร่างอมตะที่ไม่มีวันตายมิฉะนั้นจะทนรับพลังโจมตีของเขาได้เป็นล้านครั้งได้อย่างไร?สิ่งที่จอมปีศาจไคเทียนกลัวที่สุดก็คือวิธีที่เขาใช้โจมตี  เจ้าเด็กนี่ไม่ได้เรียกอสูรศึกไม่ได้ใช้คัมภีร์อัญเชิญ ไม่ได้ใช้วิทยายุทธ์อย่างอื่น... สิ่งเดียวที่เขาใช้ก็คือวิชาต่อสู้ต่างๆที่เขาได้เรียนรู้ชั่วคราว

ในการต่อสู้  เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ซึมซับกลยุทธ์วิธีการต่างๆในการต่อสู้เหมือนฟองน้ำที่ซับน้ำ

ทุกครั้งที่ถูกซัดลงไปกับพื้นเขาจะเรียนรู้ได้เพิ่มอีกเล็กน้อย

ถ้าเขาไม่ฆ่าเจ้าเด็กนี่ปล่อยให้หนีไปได้อย่างลอยนวลและรับประโยชน์จากการต่อสู้ทั้งหมด จอมปีศาจไคเทียนนึกไม่ออกเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะเติบโตได้มากขนาดไหนในอนาคต...

ซ้อมมือ!

บางครั้งจอมปีศาจไคเทียนก็รู้สึกเหมือนเป็นการซ้อมมือและทุกอย่างที่เขาทำก็คือมอบประสบการณ์ให้เจ้าเด็กนี่ได้เติบโตขึ้น

ครืน.. ครืน... ครืน...ทันใดนั้นโดมหลังคาทรุดตัวลงมาอีกครั้ง  ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวปรากฏให้เห็นทันทีซากปรักหักพังของถ้ำใต้ดินอันมืดมิดที่ซ่อนลึกลงไปในพื้นเป็นระยะทางเกือบร้อยกิโลเมตร  โดมและผนังหินพังทะลุจนถึงท้องฟ้า  เมื่อจอมปีศาจไคเทียนมองเห็นท้องฟ้า เขาแค่นเสียงสูดหายใจลึกข่มความโกรธและอารมณ์ด้านลบในใจของเขา

เขาตัดสินใจไม่โกรธ

เพราะโกรธไปก็ไร้ประโยชน์ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ความโกรธของเขาฆ่าเจ้าเด็กข้างหน้า

คิดจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามมิอาจใช้อารมณ์ด้านลบได้ มีทางเดียวเท่านั้นคือสู้เพื่อกิน

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะฆ่าเจ้าเด็กนี่ในทันที แม้ว่าเขาจะใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงปราณราชันย์ระดับห้าแต่พื้นฐานของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเหมือนกำแพงเมืองการข่มปราบด้วยพลังปณิธานหรือขอบเขตพลังใดๆ ล้วนไร้ผล  หากจะเปรียบเทียบจอมปีศาจไคเทียนคิดว่าเขาเหมือนกับกองทัพอัศวินเกราะเหล็กขี่ม้านับแสนตัว  ทุกที่ๆ ผ่านไปจะถูกทำลายหมด มีแต่เจ้าเด็กนี่ที่เหมือนปราสาทมั่นคงที่มีทหารมือดีคอยปกป้องแต่ยากจะจินตนาการว่าจะเข้าตีได้อย่างไร

หากต้องการเอาชนะกันจะต้องทำลายกันไปข้างหนึ่ง

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะโจมตีบดขยี้อย่างรุนแรงได้สำเร็จ

ขอเพียงตัดกำลังไปเรื่อยๆ  ด้วยพลังแข็งแกร่งที่สุด และหลังจากพลังชีวิตเหลือเพียงเล็กน้อยหรือแทบหมดไปอีกฝ่ายจะทรุดลงแทบเท้าเขาเอง

“เจ้าคือคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า”  จอมปีศาจไคเทียนไม่ต้องการยอมรับ  แต่นั่นเป็นเรื่องจริงไม่จำเป็นต้องพูดถึงคนที่ผนึกเขา นั่นเป็นคนที่ไม่อาจจินตนาการได้ถึงและจอมปีศาจไคเทียนมิอาจท้าทาย คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่อดีตคู่ต่อสู้เมื่อก่อนนี้ แต่เป็นผู้เยาว์ที่ไม่รู้จักตายข้างหน้านี้

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตข้า....”  เย่ว์หยางไม่คิดเช่นนั้น  จอมปีศาจไคเทียนมีพลังมากพอแน่  แต่เย่ว์หยางคิดว่าเบื้องหลังจอมปีศาจไคเทียนยังมีผู้มีพลังน่ากลัวมากกว่านี้ อย่างเช่นผู้ทรงพลังที่สุดของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  คนผู้นั้นน่ากลัวที่สุด  เมื่อเทียบเจ้าตำหนักสูงสุดจอมปีศาจไคเทียนและจีอู๋ลี่ อย่างมากที่สุดก็เป็นหัวหน้าระดับรอง  ไม่ใช่หัวหน้าสูงสุด   เย่ว์หยางกล่าวเช่นนั้นไม่ได้หมายความว่าลดระดับตนเอง  เขาหยุดมือและพยักหน้าจริงจัง “ถ้าสำนึกเทพของเจ้าไม่ถูกผนึกไว้ที่วิหารปีศาจฟ้าและอยู่ในสภาพมีพลังสูงสุดเหมือนหมื่นปีก่อน เจ้าอาจเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า น่าเสียดายที่เจ้าได้รับความเสียหายจากการถูกผนึก  และเจ้าก็ยังไม่รู้ตัว”

“แม้ว่าข้าไม่ได้อยู่ในสภาพพลังสูงสุด  แต่ข้าจะโค่นเจ้าให้ได้”  จอมปีศาจไคเทียนสาบานว่าไม่ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนเขาต้องฆ่าเด็กหนุ่มนี่ให้ได้

จะปล่อยให้เจ้าเด็กนี่เติบโตขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อเจ้าเด็กนี่เติบโตขึ้น  เขาเกรงว่าเขาจะเหนือกว่าคนรุ่นก่อนทั้งหมดและกลายเป็นคนที่ไม่มีใครไล่ตามได้ทัน

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น  เอาแค่ในสนามรบนี้   เพียงแค่การเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่รู้จบก็น่ากลัวพอแล้ว จอมปีศาจไคเทียนไม่เคยเห็นคนที่เรียนรู้และก้าวหน้าในขณะนั้นเลย

“เจ้าไล่ตีข้ามาทั้งวันแล้ว  คราวนี้ถึงคราวข้าเอาคืนบ้าง!” เย่ว์หยางปล่อยให้อีกฝ่ายโจมตีเป็นบ้าเป็นหลังมาทั้งวัน แทบไม่มีความสามารถตอบโต้คืน  นั่นไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการตอบโต้คืน  เพียงแต่เขาทำไม่ได้ พลังของจอมปีศาจไคเทียนสามารถบดขยี้โค่นนักสู้ที่มีระดับต่ำกว่าปราณชันย์ระดับเก้าได้ทั้งหมด  และเพื่อตอบโต้กับศัตรูดังกล่าวเย่ว์หยางรู้สึกว่ายากยิ่งกว่าการกินเต้าหู้

แม้แต่จ้าวสุริยาเขาก็สู้อาบเลือดมาแล้ว เฉียดตายก็หลายครั้ง

อย่างไรก็ตามตอนนี้สู้กับจอมปีศาจไคเทียน ก็มีอันตรายถึงตายได้ทุกเมื่อทุกที่  พลังโจมตีทุกอย่างรุนแรง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังระเบิดของจอมปีศาจไคเทียนมีทักษะการฆ่าโบราณแตกต่างกันเป็นพันๆ กลยุทธ์ที่เขาแสดงออกมา มีความเชี่ยวชาญในการฆ่าทุกอย่างที่ทำให้เย่ว์หยางไม่สามารถป้องกันตัวได้

เปลี่ยนเป็นคนอื่นคงตายไปนานแล้ว

เย่ว์หยางกัดฟันยืนขึ้น

จนกระทั่งวันต่อมา

จอมปีศาจไคเทียนหยุดโจมตีเย่ว์หยางรอเวลาตอบโต้

“เจ้ายังต้องการตอบโต้กลับอีกหรือ?”  จอมปีศาจไคเทียนได้ยินแล้วรู้สึกเหลือเชื่ออยู่ในใจ เขาต้องการเยาะเย้ยอีกฝ่าย แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ เขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามอาจมีพลังตอบโต้ได้จริงๆ และไม่ใช่พลังที่เล็กน้อย

“แน่นอนข้าจะต้องซัดเจ้าจนแม่เจ้าจำหน้าเจ้าไม่ได้!” เย่ว์หยางไม่ใช่เป็นคนช่างเจรจา เขาจะไม่ปล่อยโอกาสให้ไคเทียนลงมือ  แม้ว่าเขาโชคดียั่วโมโหไคเทียนได้  แต่เขาไม่ได้ดีใจแม้แต่น้อย  ถ้าโจมตีคืนไม่ได้ถึงสิบครั้งนั่นยังจะเป็นเขาได้หรือ? เย่ว์หยางถอดเกราะที่แตกหักทุกชิ้นออกจากร่างและเปลือยกายเขาใช้เพลิงอมฤตควบแน่นสร้างเป็นเกราะอมฤต มือซ้ายถือตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้มือขวาถือคทาเทพจักรพรรดิอวี้ที่ยังไม่ได้ใส่หัวมังกร

คัมภีร์อัญเชิญชั้นศักดิ์สิทธิ์ปรากฏออกมาครั้งแรกในการต่อสู้ครั้งนี้

สว่างเจิดจ้า

ลำแสงรัศมีฉายขึ้นไปบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

ภายในร้อยเมตรของโลกที่แตกสลายเกิดดวงดาวนับไม่ถ้วนภายในสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางเลียนแบบสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีมีดวงดาวนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นกลุ่มดาวซึ่งมีพลังไม่สิ้นสุด

ปรากฏร่างยักษ์ทองยืนขึ้นแต่ไม่ใช่ยักษ์เทพชะตาที่ปรากฏตอนที่เย่ว์หยางหมดสติหรือที่ปรากฏตอนที่เย่ว์หยางใช้พลังเกินขีดกำหนดแต่เป็นยักษ์ทำลายล้างที่เย่ว์หยางสร้างขึ้นผ่านสนามพลังสร้างโลกและพลังดวงดาวที่ไม่มีสิ้นสุดรวมทั้งพลังเทพวิบัติและพลังศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าพลังของยักษ์ทำลายล้างไม่อาจเทียบได้กับพลังของยักษ์เทพชะตาที่ควบคุมพลังแห่งโชคชะตา ต้องทราบกันว่าพลังยักษ์เทพชะตาไม่ใช่พลังที่ดีที่สุดของเขา  แต่ช่วยให้ได้เปรียบจ้าวสุริยาในการสู้รบอาบเลือดกับเย่ว์หยางอยู่หลายชั่วโมง  ก่อนที่เขาจะบาดเจ็บสาหัสและตายไป อย่างไรก็ตามยักษ์ทำลายล้างที่เย่ว์หยางใช้ความสามารถของตนเองสร้างขึ้นไม่ใช่พลังระดับเดียวกัน  แต่ศัตรูใดประมาทอาจต้องตายภายใต้พลังหมัดของมัน

จอมปีศาจไคเทียนผู้หยิ่งยโสเมื่อเห็นยักษ์ทำลายล้างปรากฏตัวหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

พลังกฎสวรรค์  เขารู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามใช้พลังกฎสวรรค์

ใช้พลังวิญญาณสร้างร่างมนุษย์ยักษ์ได้โดยตรง!

แม้ว่าพลังกฎสวรรค์นี้ยังถือว่าน้อยมากอยู่  ไม่ถึงกับเรียกว่าพลังกฎสวรรค์ได้  แต่ก็เพียงพอต่อการทำเช่นนี้ได้  อย่างน้อยเริ่นเทียนเกอ และพระยายมซิวอิ่งยอดนักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดและคนอื่นๆ ก็ยังใช้พลังกฎสวรรค์น้อยไม่ได้ อย่าว่าแต่ถึงขั้นเชี่ยวชาญเลย

“เสริมพลัง!”

เย่ว์หยางตวาดลั่นประหนึ่งทหารนับล้านโห่ร้องคำรามเหมือนสายฟ้าฟาดอัสบาตทั่วทั้งโลกสั่นสะเทือน

เขาโบกคทาเทพจักรพรรดิอวี้เบาๆภายใต้การสั่งการของเขาคัมภีร์อัญเชิญของเขาพลิกเปิดไปทีละหน้าไปที่หน้าเงายักษ์พิเศษมันออกมาจากคัมภีร์อย่างรวดเร็ว กระโดดไปรวมกับร่างยักษ์ล้างโลกทันที  ยักษ์ล้างโลกมีพลังเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่าจนเกือบจะร้อยเท่า....

จอมปีศาจไคเทียนไม่เคยคาดคิดเลยว่าอสูรพิทักษ์ของเจ้าเด็กนี่จะมีพลังวิเศษมากมายถึงเพียงนั้นทำให้เขาสีหน้าเปลี่ยนทันที

เสริมพลังขึ้นร้อยเท่าเชียวหรือ?

นี่มากเกินไปหรือเปล่า?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังของยักษ์ล้างโลกขยายมากขึ้นและสามารถเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ทักษะแบบนี้ขี้โกงชัดๆ!

“ผ่าภูผามหานที!”เย่ว์หยางชูตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้และยักษ์ล้างโลกก็ทำอย่างเดียวกันแต่มันไม่ได้ใช้ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ แต่ใช้พลังเทพวิบัติสร้างเป็นดาบ  ดาบโค้งพลังเทพวิบัติ!

“ฮึ่ม!” จอมปีศาจไคเทียนต้องการจะรับพลังดาบนั้น แต่เมื่อเขาเห็นพลังทำลายล้าง เขากลับเลือกตั้งสติและฉากหลบ

ยากจะรับพลังโจมตีนี้หรือ?

นั่นมันโง่เกินไป  ข้าไม่อาจจะทำแบบนั้นได้

จอมปีศาจไคเทียนหลบพลังฟันที่น่ากลัว  ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าเขาถูกตรึงโดยสำนึกเทพของฝ่ายตรงข้า เขารู้สึกถึงแรงฟันที่เท้า ไม่รู้ว่ากระบี่เทพสีดำฟันใส่ขาเขาตั้งแต่เมื่อใด เขาไม่รู้ว่านี่คือกระบี่ดำกุยจ้างของเย่ว์หยาง  แต่เขารู้ว่ามันร้ายกาจรุนแรงสะท้านหัวใจเขาจนต้องรีบหายตัวไปในอากาศทันที

“ฉัวะ!”

เย่ว์หยางใช้กระบี่ดำกุยจ้างเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีพ้น อย่าว่าแต่จอมปีศาจไคเทียนลังเลที่จะหลบท่าดาบของยักษ์ล้างโลกดาบผ่าปฐพี จึงพลาดโอกาสสนองตอบที่ดีที่สุดไป

กระบวนท่าแรกสำเร็จ

เย่ว์หยางไม่ผ่อนคลายใช้กระบี่ขาวซวงหัว กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนตามติดต่อเนื่อง

จอมปีศาจไคเทียนทั้งตกใจทั้งโกรธ  ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีพลังแข็งแกร่งมากมายบางทีเขาอาจถูกเจ้าเด็กนี่ฆ่าตายไปแล้ว ... เขาเช็ดเลือดที่มุมปากและสูดหายใจลึกและข่มความโกรธจนจิตใจเขาสงบลง   “หนุ่มน้อย,เจ้าทำได้ดีกว่าที่ข้าคาดเอาไว้มาก หากสามารถฆ่าเด็กหนุ่มอย่างเจ้าได้ นี่คงเป็นความทรงจำที่ไม่รู้จบของข้า หรือจะบอกว่าการได้ทำลายเด็กรุ่นใหม่เช่นเจ้าก็เท่ากับพิชิตโลกได้ทั้งโลก  ข้าขอสาบาน ไม่ว่าต้องใช้เวลาหนึ่งวัน สองวันสิบวัน ยี่สิบวัน หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี ข้าไม่สนใจทั้งนั้น  ตราบเท่าที่ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ ต่อให้ใช้เวลาร้อยปีพันปีก็ช่าง!”

“ข้าต้องฆ่าเจ้า!”  นี่คือคำสาบานของจอมปีศาจไคเทียนเป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดนับแต่ถูกเย่ว์หยางตอบโต้

“ฝันไปเถอะ!” นี่คือคำตอบของเย่ว์หยาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด