บทที่ 86: ของเราดีกว่าของต่างประเทศ!
ในอนาคตจะมีของที่เอาออกจากเกมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และต้องมีของที่สามารถเอาวางขายในวงกว้างได้ อย่างเช่นซอสมะเขือเทศ แตงโม และเฟื่องฟ้าซึ่สองอย่างหลังถ้าขยายพันธุ์ได้สำเร็จล่ะก็เขาจะทำให้มันแพร่หลายในแบรนด์ชิงหลินอย่างแน่นอน
‘Qinglin’ เป็นแบรนด์ของเขา
ซอสมะเขือเทศชิงหลินเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ราคาของซอสมะเขือเทศจะแตกต่างกันไปตามวัสดุ บรรจุภัณฑ์ และวิธีการผลิตที่แตกต่างกัน
ราคาซอสมะเขือเทศบรรจุขวด 200 กรัมของฉินหลินรวมมะเขือเทศ บรรจุภัณฑ์ แรงงาน วัสดุต่าง ๆ ฯลฯ แล้วจะอยู่ที่ขวดละประมาณ 5 หยวน ถ้าขายขวดละ 10 หยวนเขาก็สามารถทำเงินได้มากมายแล้ว
ทว่าราคาจริง ๆ นั้นยังไงก็ต้องคิดอย่างถี่ถ้วนก่อน
และที่สำคัญคือเขาต้องเอาไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอะไรพวกนี้ให้เรียบร้อยก่อนด้วย จะได้กันไอ้พวกหน้าโง่มันมาฟ้องเรียกค่าชดเชยขอหาละเมิดอะไรนั่นเข้าซักวัน ยามใดที่สังคมเสื่อมลงยามนั้นไอ้เรื่องโง่ ๆ แบบนี้ก็จะกลับมาเป็นกระแสอีก
ที่สำคัญและหน้าปวดหัวมาก ๆ ก็คือไอ้คนที่ทำตามกระแสละเมิดเครื่องหมายการค้าอะไรนี่มักจะเป็นคนไม่รู้กฎหมายเนี่ยสิ
หลังจากที่ฉินหลินออกจากโรงงานเขาก็ไปที่โกดังเช่าแล้วเข้าโลกในเกมเพื่อเช็ครายละเอียดของซอสมะเขือเทศชิงหลิน
[ซอสมะเขือเทศชิงลิน: เลเวล 1]
[ซอสมะเขือเทศรสหวานอมเปรี้ยวที่ทำจากสูตรลับพิเศษมีรสชาติดีเลิศ รสสัมผัส +1 อร่อย +1 ความอยากอาหาร +1]
เมื่อได้เห็นรายละเอียดดังนี้แล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก
..........................…
2 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ฉินหลินตามซุนหมิงไปยังพื้นที่ใกล้ป่าบริเวณทางเหนือของบ้านไร่ ซุนหมิงนั้นใส่ใจกับโครงการของบ้านไร่อย่างมากถึงขนาดแทบจะมาตรวจสอบชนิดที่วันเว้นวัน
“เถ้าแก่ครับ ตามที่เถ้าแก่กำหนด บริเวณทั้งหมดเราได้มาร์คเอาไว้หมดแล้ว เชิญเถ้าแก่เปรียบเทียบกับพิมพ์เขียวได้เลย” ซุนหมิงนำฉินหลินไปดูไซด์งานก่อสร้างที่ถูกล้อมไว้
ก่อนหน้านี้ฉินหลินได้คุยกับซุนหมิงเรื่องที่จะสร้างคฤหาสน์วิลล่าขึ้นที่นี่
นี่ก็คือขอบเขตของคฤหาสน์วิลล่าซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่คือ 20 หมู่เต็ม ๆ ในพิมพ์เขียวนอกจากตัวอาคารหลักที่หรูหราแล้วยังมีลานสีเขียวขนาดใหญ่พร้อมที่จอดรถแยกต่างหาก ทั้งพิมพ์เขียวจะเห็นว่ามีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ มีสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว...
นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าคฤหาสน์วิลล่า 20 หมู่หนี้จะโดดเด่นไม่น้อยไปกว่าของจุดชมวิวเฉอซานเลย
โครงการวิลล่าแห่งนี้เรียกว่า ‘คฤหาสน์พักร้อนบ้านไร่ชิงหลิน’ เนื่องจากไม่มีทางสร้างที่อยู่อาศัยส่วนตัวบนที่ดินหลวง 500 หมู่นี้ได้ ดังนั้นจึงได้แต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น
สำหรับคฤหาสน์พักร้อนนี้ในอนาคตจะรับแขกยังไง เท่าไหร่ แบบไหน ล้วนขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น
แต่เริ่มแรกเลยคือเมื่อสร้างเสร็จแล้วเขาจะใช้มันเหมือนเป็นบ้านอีกหลังของตัวเองไปก่อน...
การสร้างวิลล่าขนาดใหญ่แบบนี้การจะสร้างให้เสร็จต้องใช้เวลาอีกนาน
ฉินหลินดูพิมพ์เขียวเสร็จแล้วก็ส่งคืนให้ซุนหมิง “ผมพอใจกับการออกแบบนี้มาก ต้องรบกวนคุณซุนแล้วครับ”
ซุนหมิงรับพิมพ์เขียวกลับมาและพูดอย่างเขินอายว่า “จริง ๆ แล้วผมมีเรื่องจะรบกวนเถ้าแก่หน่อยน่ะครับ... เถ้าแก่ช่วย... เอ่อ... หากระเจี๊ยบเขียวพันธุ์พิเศษมาให้ผมลองโดนดูบ้าง...”
เขาเคยเห็นข่าวแบบนี้บนอินเทอร์เน็ตมาก่อน แต่ตอนนี้ที่บ้านไร่ไม่มีวางขายแล้วดังนั้นเขาเลยยังไม่มีโออาสได้โดน
“ของมันมีน้อย แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองหามาให้ดูแล้วกันครับ” ฉินหลินไม่ปฏิเสธ
กระเจี๊ยบเขียว ห่วยซัว และบรอกโคลีเลเวล 2 นั้นเขาได้เก็บไว้ในช่องเก็บของในเกมโดยไม่ได้เอาออกมาขายอีกแล้ว และการเอาออกมาเป็นของขวัญในเวลาแบบนี้สิมันถึงจะเลอค่า
การไว้หน้าให้ซุนหมิงแบบนี้ทำให้เจ้าตัวมีกะจิตกะใจที่จะสนใจโครงการของบ้านไร่เขามากขึ้น
จากนั้นทั้งสองก็คุยรายละเอียดปลีกย่อยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้าย
หลังจากนั้นฉินหลินได้รับโทรศัพท์จากเติ้งกวง “ซอสมะเขือเทศได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและได้รับใบรับรองการผลิตแล้วครับ”
หลังจากได้ข่าวฉินหลินก็รีบไปดูใบรับรองคุณภาพและการผลิตที่ออกโดยสำนักงานควบคุมคุณภาพที่โรงงานทันที
สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตและการขายผลิตภัณฑ์ จากนั้นก็แค่เอาใบนี้ย่อส่วนลงในสติ๊กเกอร์หรือไม่ก็พิมพ์ลงขวดบรรจุภัณฑ์โดยตรง
แล้วซอสมะเขือเทศชิงหลินก็จะสามารถผลิตและวางขายในจำนวนมากได้
เติ้งกวงยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้สินค้าออกมาหมดแล้ว จะขายในราคาเท่าไหร่เหรอครับ?”
ฉินหลินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วราคาซอสมะเขือเทศในท้องตลาดตอนนี้ขายกันเท่าไหร่?”
เติ้งกวงอธิบายว่า “ซอสมะเขือเทศทั่วไปสองร้อยกรัมเท่ากันราคาประมาณห้าถึงเจ็ดหยวน ส่วนของมียี่ห้อจะแพงกว่าคือเหวยเหม่ยสิบสองหยวน ไฮนซ์สิบสามหยวน เหม่ยเหลียงฟางสิบสสามจุดห้าหยวน ฮันซ์สิบสองหยวน เดลมอนเตสิบห้าหยวน...”
เติ้งกวงทำการบ้านมาดีมาก เขาได้แนะนำราคาซอสมะเขือเทศส่วนใหญ่ในปริมาณเท่ากันตามท้องตลาดออกมาในชั่วพริบตา โดยมีตั้งแต่ของกาก ๆ ธรรมดาทั่วไปถูกสุดอยู่ที่ 5 หยวนยาวไปจนถึงแพงสุดคือเดลมอนเตคือ 15 หยวน
จะเห็นได้ว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ ทั้งหมดจะขายกันที่ราคาเกิน 10 หยวนหมดเลย
ฉินหลินถามว่า “ผู้เฒ่าเติ้งคิดว่าไงบ้าง?”
เติ้งกวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ในแง่ของรสชาติเพียงอย่างเดียวสูตรเราถูกปากคนทั่วไปกว่าซอสมะเขือเทศทั้งสิบยี่ห้อนั่นแน่นอน แม้เราจะขายแพงกว่าแต่ก็ไม่ควรมากไป ส่วนสิ่งสำคัญที่จะทำให้ขายดีคือชื่อเสียง”
ฉินหลินคิดตามอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจว่า “งั้นก็ประเดิมขายกันที่บ้านไร่ชิงหลินก่อนเพื่อสร้างชื่อ ส่วนราคาก็ไม่ต้องไปเอาที่แพงกว่าของแบรนด์ดัง ๆ พวกนั้นหรอก แต่จะให้ถูกเกินไปก็ไม่ได้”
“เอาที่สิบห้าหยวนเหมือนของเดลมองเตนั่นก็แล้วกัน วัดกันไปเลยว่าของเรากับของเดลมองเตแตกต่างกันมากแค่ไหน”
เติ้งกวงพยักหน้า “ในเมื่อกำหนดราคาแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างล้วนพร้อมสำหรับการผลิตซอสมะเขือเทศจำนวนมากก็จริง แต่คุณฉินได้สั่งไลน์การผลิตมาเพิ่มอีกสามไลน์ ไลน์การผลิตเวเฟอร์ก็ยกเลิกไปแล้วด้วย ดังนั้นเราต้องมีการจ้างคนงานเพิ่ม”
“คุณจัดการไปได้เลย เริ่มทำซอสมะเขือเทศล็อตแรกโดยเร็วที่สุดแล้วส่งไปที่บ้านไร่คืนนี้ พรุ่งนี้จะได้เอาออกไปประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว” ฉินหลินสั่ง
“จะจัดการให้เดี๋ยวนี้ครับ” เติ้งกวงเป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการสูง การทำงานของเขาเป็นไปอย่างเฉียบขาดและฉับไว
ฉินหลินออกจากโรงงานและกลับไปที่บ้านไร่พร้อมซอสมะเขือเทศหนึ่งกล่อง เมื่อเขาไปถึงห้องโถงเขาก็วางซอสมะเขือเทศลงบนโต๊ะ จ้าวม่อชิงเดินมาหยิบขวดซอสมะเขือเทศขึ้นมาดูแล้วถามว่า “นี่จากโรงงานเหรอ?”
ฉินหลินพยักหน้า “เธอช่วยโพสต์ประกาศกิจกรรมลงในติ๊กต็อกออฟฟิเชียลของบ้านไร่ที่สิ ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์การทำอาหารเอาท์ดอร์ที่บ้านไร่จะมีบริการซอสมะเขือเทศฟรี แล้วยังสามารถเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายมายื่นเพื่อขอรับซอสมะเขือเทศชิงหลินสองร้อยกรับฟรีอีกหนึ่งขวดด้วย”
“จ้ะ!” จ้าวโม่ชิงเข้าใจจุดประสงค์ของฉินหลิน เธอเรียกเกาเหยาเหยากับพนักงานหญิงอีกสองคนมายกกล่องซอสมะเขือเทศไปถ่ายคลิปกันที่ด้านหลัง
ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ตอนกลางคืนจ้าวโม่ชิงได้ตัดคลิปโปรโมตกิจกรรมเสร็จแล้วก็ลงคลิปไปเลย
แม้ว่าความนิยมของบ้านไร่จะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมากอีกต่อไปเนื่องจากข้อจำกัดในปัจจุบัน แต่ด้วยฐานแฟนคลับที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว ทันทีที่มีการประกาศกิจกรรมมันก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากจนกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้าก็นี้มีเรื่องอย่างน้ำผึ้งชงสมุนไพรไปแล้วรอบหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กิจกรรมใหม่นี้จะกระตุ้นให้คนเกิดความอยากรู้อยากเห็น
“บ้านไร่ชิงหลินจัดกิจกรรมอีกแล้วเหรอ? ครั้งนี้แจกซอสมะเขือเทศชิงหลินสูตรพิเศษ?”
“ครั้งนี้ขี้เหนียวว่ะ จะเอาซอสมะเขือเทศไปทำมะเขือเทศอะไรวะ?”
“ดูโลโก้ดิ แปลว่าต้องเป็นซอสมะเขือเทศที่บ้านไร่ชิงหลินทำเองเห็น ๆ เราชอบซอสมะเขือเทศ เพราะงั้นขอลองดูหน่อยซิว่ารสชาติจะเป็นยังไง”
“น้ำผึ้งชงสมุนไพรของบ้านไร่คราวที่แล้วมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ซอสมะเขือเทศคราวนี้ไม่ควรแย่กว่าน้ำผึ้งนะ ไม่งั้นเสียราคาหมด”
“...”
“ฉินหลิน ฉันประกาศกิจกรรมลงติ๊กต็อกแล้วนะ” จ้าวโม่ชิงหยิบมือถือออกมาโชว์ให้เห็นผลงานของตนทันทีทีกลับถึงบ้าน
“โอเค ที่เหลือก็รอให้นักท่องเที่ยวมาลองชิมซอสมะเขือเทศของเราในวันพรุ่งนี้ พอนักท่องเที่ยวเห็นว่าซอสมะเขือเทศของเราดีกว่าแบรนด์ดังเหล่านั้นล่ะก็รับรองว่าบ้านไร่เราจะดังระเบิดอีกรอบชัวร์!” ฉินหลินทิ้งร่างลงบนโซฟาเจ้าหมาก็วิ่งเข้ามานอนหนุนตักทั้ง ๆ อย่างนั้นเลย
บางครั้งหมามันก็ติดเจ้าของมากเกินไปเหมือนหมัดเกาะหัว เราต้องลูบ ๆ ไล้ ๆ ให้มันฟินจนพอใจซะก่อนถึงจะยอมถอยไปดี ๆ
วันรุ่งขึ้น
นอกศูนย์การขายของบ้านไร่ชิงหลินได้จัดบู๊ตรับแจกซอสมะเขือเทศฟรี
เมื่อคืนนี้เติ้งกวงได้ส่งซอสมะเขือเทศที่จากโรงงานมาที่บ้านไร่ตามคำสั่ง และฉินหลินสั่งให้ลูกน้องจัดเตรียมของให้พร้อมไว้แล้ว
เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในบ้านไร่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกดึงดูดทันที หลังจากที่ประกาศไปเมื่อคืนนี้ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจซอสมะเขือเทศชิงหลินกันขึ้นมาเล็กน้อย