บทที่ 17 อาโป สู้ สู้!
บทที่ 17 อาโป สู้ สู้!
【คะแนน +1! 】
【คะแนน +2! 】
【คะแนน +1! 】
การแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นทีละครั้ง และคะแนนหยุดเดินก็ต่อเมื่อ เฉินเหวินพาอาโปนั่งลงหลังจากการเดินก่อนถึงเส้นชัย
เมื่อเปิดระบบ เฉินเหวินรีบมองไปที่คอลัมน์คะแนน
【คะแนน: 13】
อินเทอร์เฟซของระบบทั้งหมดไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพิ่มเพียง 13 คะแนน และไม่มีแม้แต่วงล้อเสี่ยงโชค
ถึงกระนั้น เฉินเหวินก็ค่อนข้างพอใจ
แม้ว่าฟังก์ชั่นของระบบจะยังไม่ปรากฏ แต่เขาเชื่อว่าสิ่งนี้น่าจะเกิดจากคะแนนที่น้อยเกินไป
ท้ายที่สุดมีเพียงไม่กี่คนบนสนาม และอาโปก็เพิ่งยืนขึ้นและเดินไปไม่กี่ก้าว เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่สามารถเก็บแต้มได้
เขาจงใจพยายามในส่วนสุดท้ายของเส้นชัย และเขาแค่ต้องการค้นหาวิธีที่จะได้รับคะแนนเพิ่ม
แม้การทดลองครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ แต่มันก็สามารถเพิ่มคะแนนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หรือว่ามาจากการเดินของอาโปเลยทำให้คะแนนขึ้นช้า? แล้วการตีลังกา กระโดดผ่านวงแหวนไฟ และทุบก้อนหินที่หน้าอกล่ะ?
หรือการแสดงศิลปะการต่อสู้ล่ะ?
เฉินเหวินสงสัยว่าตราบใดที่เขาใช้ลูกบอลพรสวรรค์ "ศิลปะการต่อสู้" เขาสามารถเริ่มได้รับคะแนนระบบจำนวนมาก
ดังนั้นเขาจึงขุดค้นฟังก์ชั่นอื่น ๆ ของระบบและเร่งการเติบโตของตัวเองและสัตว์อสูร
อย่างไรก็ตาม เขาต้องหาเวลาที่เหมาะสมในการใช้ลูกบอลพรสวรรค์!
เขามีแผนในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่แค่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
มัวทำอะไรกัน! วิ่งแค่นี้ใช้เวลานานมากแล้ว! ตะคอก!
ครูซูซินดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วยการตบมือ และตะโกนส่งเสียง
"เอาล่ะ ๆ หากพักผ่อนพอแล้ว ก็รีบเข้าแถวตามคิวที่จุดเริ่มต้น!"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาก็ลุกขึ้นจากสนามหญ้า และต่างกอดลูกสัตว์อสูรของตัวเอง
จากนั้น ทุกคนก็มองไปที่ชั้นเก็บลูกฟุตบอลด้านหลังครูซูซินอย่างอยากรู้อยากเห็น ซึ่งวางลูกฟุตบอลไว้มากกว่าหนึ่งโหล
"มาเริ่มการฝึกความสัมพันธ์ของวันนี้กันเถอะ!"
"พวกเธอเห็นฟุตบอลที่อยู่ข้างหลังครูมั้ย นี่คืออุปกรณ์ประกอบการฝึกซ้อมของพวกเธอในวันนี้"
"ให้พวกเธอแบ่งทีม ทีมละสามคน จากนั้นมารับฟุตบอลที่ครูแล้วเริ่มได้เลย"
หลังจากพูดจบ เธอเรียกสุนัขจิ้งจอกหิมะสัตว์อสูรของเธอ จากนั้นจึงเรียกฟู่หยุนเฟย และหลี่ซิ่วหยูที่ถึงเส้นชัยคนแรกมาสาธิตด้วยกัน
การฝึกให้ผ่านไม่ใช่เรื่องยาก เหล่านักเรียนบีสต์มาสเตอร์จับกลุ่มเป็นวงกลม จากนั้นจะสุ่มส่งลูกบอลให้แต่ละคน ภายใต้คำสั่งของครูซูซิน
สัตว์อสูรส่วนใหญ่ชอบวัตถุทรงกลม ดังนั้นเกมง่ายๆ ทำให้สัตว์อสูรทั้งสามตัวต่างทำได้เป็นที่น่าพอใจ และดวงตาของพวกมันก็ลุกวาว
หลังจากการสาธิต ครูซูซินขอให้ทุกคนตั้งทีมกันเอง จากนั้นจึงมาหาเธอเพื่อรับลูกฟุตบอล
ทันทีที่การประกาศของครูซูซิน สิ้นสุดลง นักเรียนก็เริ่มจัดตั้งทีม
เฉินเหวินและเหอเซิ่งอยู่ทีมเดียวกัน แต่ต้องการหาเพิ่มอีกหนึ่งคน แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะหาเพื่อนร่วมทีมอีกคน ก็มีกลุ่มคนมาล้อมพวกเขาไว้
ฉันขอเข้ากลุ่มด้วยคน!
หลี่ซิ่วหยูเหลือบมองไปที่อาโปที่นั่งกองอยู่บนพื้น แต่เลือกที่จะยอมแพ้หลังจากเห็นนักเรียนที่ล้อมรอบเฉินเหวินเพื่อขอเข้าร่วมทีม....................
ในขณะนี้เธอรู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่ ๆข้างเธอ!
เมื่อหันศีรษะไปมอง ...นั่นคือฟู่หยุนเฟยที่กำลังสาธิตกับเธอเมื่อกี้ เดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม
“หลี่ซิ่วหยู บังเอิญว่าเราฝึกมาด้วยกัน และมีประสบการณ์ ทำไมเราไม่อยู่ทีมเดียวกันล่ะ”
หลี่ซิ่วหยูยากที่จะปฏิเสธ และพยักหน้าอย่างสุภาพ: "ตกลง!"
ฟู่หยุนเฟย แสดงรอยยิ้มสดใสทันที
สิ่งที่เขาไม่ทันสังเกตก็คือ หลี่ซิ่วหยู ใช้เวลาเหลือบสายตามองไปที่เฉินเหวิน แต่แววตาที่สวยงามของเธอแอบแฝงไปด้วยความเสียใจ......
น้อยคนนักที่จะต้านทานความน่ารักของอาโปไปได้ แม้ว่าหลี่ซิ่วหยูเองก็ตาม เมื่อเธอทำใจได้ที่ไม่ได้ร่วมทีมก็ได้แต่เอามือลูบท้องอาโปเบา ๆ
ในอีกด้านหนึ่ง เฉินเหวินตัดความยุ่งเหยิงอย่างรวดเร็ว และเลือกมี่ซู่เหรินเพื่อจัดตั้งทีม
ทั้งสองฝ่ายรับลูกฟุตบอลจากครูซูซินทีละคน จากนั้นพวกเขาก็ก้าวออกไปเพื่อเริ่มการฝึกซ้อม
มี่ซู่เหริน ดูมีมารยาทดี แต่สัตว์อสูรของเธอดุร้ายมาก มันเป็นลูกหมาป่าเขี้ยวยาวที่ชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ
เฉินเหวิน และคนอื่นๆ ต่างก็อธิบายกติกาของเกมให้สัตว์อสูรของตนฟังก่อน
“อาโป เรามาเล่นเกมกันต่อเถอะ”
เฉินเหวินชี้ไปที่ลูกฟุตบอลบนพื้น แล้วพูดต่อว่า "แค่เตะลูกบอลลูกนี้ไปรอบๆ และใครก็ตามที่ฉันบอก ให้นายเตะไปที่คนนั้น นายจะเตะไปให้ใครก็ได้ เข้าใจไหม!?"
"โอ~เค! สู้โว้ย"
อาโปลุกขึ้นและร้องเรียกพลังด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
หลังจากอธิบายกฎกติกาแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายไปรวมตัวกันเป็นวงกลม
“อาโป เอาเลย!”
ขณะที่พูด เฉินเหวินค่อย ๆเตะฟุตบอลส่งไปที่อาโป.....
ลูกฟุตบอลกลิ้งไป - มาอย่างช้าๆ จากนั้นอาโปประสานมือ ลุกขึ้นและรีบวิ่งไปที่ลูกฟุตบอล
และแล้ว...
แผล๊ะ!
อาโปสูญเสียการทรงตัวเหยียบลูกฟุตบอลลื่นล้มแผล๊ะ แล้วมันก็กลิ้งทับลูกฟุตบอลอย่างงงงงวย
อูยยยยอารายเนี่ยะ!
เมื่อมองไปที่อาโปที่กำลังเกาหัวตัวเองด้วยความสับสน ทั้งเหอเซิ่ง และมี่ซู่เหริน ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า อาโปตลกมาก!”
"น่ารัก!"
เฉินเหวินทำได้เพียงเบือนหน้าหนีด้วยความสิ้นหวัง
แต่ทว่า.... โชคดีที่ไม่ใช่แค่อาโปเท่านั้นที่อับอาย
หลังจากนั้นไม่นานเซิ่งเอ๋อก็ตบลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศจนกระเด็นไปไกลจนเหอเซิ่งต้องวิ่งไปครึ่งสนามเพื่อไล่ล่าลูกฟุตบอล.....
และหมาป่าเขี้ยวยาวของมี่ซู่เหรินเองก็เช่นเดียวกัน แทนที่มันจะเตะลูกฟุตบอล แต่กลับหอนไปรอบๆ ลูกฟุตบอล ราวกับว่าลูกฟุตบอลเป็นศัตรูของมันซะอย่างนั้น.......
ท้ายที่สุด...สัตว์อสูรของแต่ละคนก็ค่อย ๆเรียนรู้และทำความเข้าใจกันจนสำเร็จภารกิจ
จากนั้นทั้งสามก็คุยกัน และเพิ่มความยากขึ้นให้กับสัตว์อสูรของตน
เช่นเตะลูกบอลให้สูงขึ้นให้สัตว์อสูรต้องกระโดดขึ้นไปสกัดกั้น......
และเร่งความเร็วลูกฟุตบอล ให้พวกมันได้ฝึกความเร็วเป็นต้น.....
ในที่สุดเฉินเหวินและคนอื่นๆ ก็เข้าใจว่าทำไมเกมง่ายๆ จึงถูกมองว่าเป็นการฝึกฝน
เนื่องจากการฝึกฝนแบบธรรมดาไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างสัตว์อสูรกับเจ้าของเท่านั้น แต่ทว่ามันยังช่วยความเร็วในการตอบสนอง และความสามารถอื่นๆ ของพวกมันอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่าการผ่านการฝึกฝนนี้เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยม ที่ให้ทั้งความบันเทิง และให้ทั้งความรู้
เพราะมันสนุก สัตว์อสูรส่วนใหญ่จึงไม่รู้สึกเบื่อหรือเหนื่อย แม้จะผ่านการฝึกฝนสองครั้งติดต่อกัน ก็ยังมีสัตว์อสูรบางตัวที่ยังเกาะฟุตบอลไว้ไม่ยอมปล่อย.....
เมื่อถึงเวลาที่นักเรียนต้องนำสัตว์อสูรของตนเองเข้าไปยังพื้นที่มิติของสัตว์อสูร จากนั้นครูซูวอนจึงเริ่มสังเกตการณ์
เธอก้าวไปข้างหน้า จับคอของเจ้าสัตว์อสูรขี้เล่นตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย แล้วใช้มืออีกข้างแย่งลูกฟุตบอลไป
ครูซูซินวางลูกของสัตว์อสูรไว้ในมือของนักเรียน แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า: "ปล่อยให้ครูจัดการให้นะ ดูสิ มันยังไม่เชื่อใจเธอเลย!"
หลังจากพูดจบ เธอวางลูกฟุตบอลไว้บนชั้นเก็บของและประกาศว่าเลิกเรียนแล้ว
???????????????
เมื่อเฉินเหวิน กำลังจะเรียกอาโปกลับเข้าสู่พื้นที่มิติสำหรับสัตว์อสูร มี่ซู่เหรินจึงเรียกให้เขาหยุดก่อน
“ดะ...เดี๋ยวก่อน ขอฉันจับมันหน่อยได้ไหม?”
ใบหน้ากลมของมี่ซู่เหรินเต็มไปด้วยความคาดหวัง และดวงตาที่เบิกกว้างของเธอก็เต็มไปด้วยความปรารถนา
เฉินเหวินลูบคางเมื่อได้ยินสิ่งนี้.....
เฉินเหวินกำลังครุ่นคิดถึงวิธีการเรียกเก็บเงิน.....
แต่ทว่า....มี่ซู่เหรินเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ฝึกด้วยกันในตอนนี้
อ่าาาเอิ่ม…
“อาโปไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาแตะต้องตัว แต่สำหรับเธอที่ผ่านการฝึกมาด้วยกันแล้วคง… ไม่เป็นไรมั้ง!”
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเฉินเหวินรู้สึกหมดหนทางเรียกเก็บเงิน และตกลงตามคำขอของเพื่ิอนอย่างไม่เต็มใจนัก.....
ครั้งต่อไปเขาคงไม่สามารถอนุญาตใครให้มาจับตัวอาโปโดยง่ายแบบนี้อีก เพราะมิฉะนั้น หลังจากข่าวแพร่ออกไปก็จะเป็นการยากที่จะเรียกเก็บเงินในอนาคต!
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องทำความเข้าใจกับอาโปก่อนว่าต่อไปจะต้องไว้ตัวไม่ให้ใครมาจับตัวได้ง่ายๆ แต่จะต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าอาหารของมันก่อน.....
อาโปเต็มไปด้วยพลังเมื่อมันเล่น แต่ตอนนี้มันเริ่มเฉื่อยชา และผลอยหลับไปบนสนามหญ้า
หลังจากได้รับอนุญาตจากเฉินเหวิน มี่ซู่เหรินก็รีบย่อตัวลง และยื่นฝ่ามือของเธอไปหาอาโป
เธอสัมผัสท้องอันอ่อนนุ่มของอาโป ดวงตาของ เธอก็เปล่งประกายด้วยความสุข
เพียงครู่เดียวเธอก็ต้องดึงมือออก และรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและพูดว่า: "น่าเสียดายที่มันหลับไป มันช่างน่ารักเหมือนตุ๊กตา แต่มันไม่ขยับเลย..."
ก่อนที่เธอจะพูดจบ อาโปก็เหยียดขาบิดขี้เกียจ แยกขาอ้าซ่าซึ่งเป็นอิริยาบถประจำตัวของมันนั่นเอง!