(ฟรี) บทที่ 295 สตรีชั่วร้ายฉู่หลิงฉวน!
สองวันผ่านไป คฤหาสน์ตระกูลหลี่เงียบสงบอย่างคาดไม่ถึง
หลินหลางเยว่กับฉินหรูเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
พวกนางคิดว่าผู้นำนิกายฉู่ที่อารมณ์ร้ายได้เปลี่ยนไปแล้ว
แต่หารู้ไม่ว่าฉู่หลิงฉวนเพียงติดหมากรุกจนถอนตัวไม่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านางจะฝึกสมองและซ้อมอย่างหนักแค่ไหน นางก็ยังไม่สามารถเอาชนะหลี่หรานได้
หลี่หรานไม่เพียงแต่มีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมเท่านั้น เขายังใช้กลวิธีที่เป็นอันตรายได้ดีอีกด้วย แม้ว่าเขาจะถูกปราบปรามโดยกองทัพ แต่เขายังสามารถพึ่งพาการคิดคำนวณของตัวเองเพื่อเอาชนะได้
สิ่งนี้ทำให้นางไม่พอใจ
ยิ่งแพ้นางก็ยิ่งต้องการเล่น นางมุ่งมั่นที่จะเอาชนะหลี่หรานมากขึ้น
ทุกวันนางต้องรั้งตัวเขาไว้เป็นเวลาหลายชั่วยามและไม่ได้รับอนุญาติให้ออกไปง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ทักษะการเล่นหมากรุกของนางไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย
เป็นผลให้นางตกอยู่ในวงจรไร้ที่สิ้นสุด: เล่น แพ้ เล่น แพ้ เล่น...
เดิมทีหลี่หรานต้องการออมมือเพื่อให้อีกฝ่ายชนะสักรอบ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่านางยังไม่สามารถเอาชนะได้
และนางยังสังเกตได้ว่าเขาต่อให้นาง ดังนั้นสิ่งที่ตามมาไม่จำเป็นต้องพูดถึง นางระเบิดออกมาทันที
โชคดีที่นางยังคงยับยั้งตัวเองไว้ นางไม่ได้ใช้กำลังเพื่อระบายความโกรธ มันเหมือนกับการทะเลาะกันมากกว่า
—
ภายในห้องนอน
ฉู่หลิงฉวนมองไปที่หมากตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่และลูบผมยาวของนางด้วยความเจ็บปวด
“ทำไมถึงมีกับดักตรงนี้? เจ้าวางมันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลี่หรานยักไหล่ “ข้าวางมันไว้ตั้งแต่แรก”
ฉู่หลิงฉวนพูดด้วยความประหลาดใจ “วางมันไว้ตั้งแต่แรก? เจ้าสามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้?”
หลี่หรานส่ายหัว “ข้าไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่ข้าคิดว่าด้วยไอคิวของท่าน ท่านจะเหยียบมันอย่างแน่นอน”
ฉู่หลิงฉวนโกรธมาก
“อีกตา! ข้าไม่เชื่อว่าจะเอาชนะเจ้าไม่ได้!”
หลี่หรานยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและพูดว่า “เล่นอีกร้อยรอบก็เหมือนเดิม เหตุใดผู้นำนิกายฉู่จึงดื้อรั้นเช่นนี้?”
ฉู่หลิงฉวนจ้องมองเขา “เจ้ากำลังดูถูกข้า?”
หลี่หรานส่ายหัวและพูดว่า “นั่นไม่ใช่ที่ข้าจะสื่อ ข้าไม่เคยรู้สึกว่าผู้นำนิกายฉู่โง่เขลา ถ้าข้าต้องใช้คำพูดเพื่ออธิบายท่าน มันควรจะเป็นคำว่าตรงไปตรงมาเกินไป”
“จริงหรือ?” ฉู่หลิงฉวนตกตะลึง
“บุคลิกของท่านตรงไปตรงมาและจริงใจ ท่านกระทำมันอย่างซื่อตรงและไม่เข้าใจแผนการเหล่านั้น นี่นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง” หลี่หรานตบไหล่นาง “ไม่ใช่ว่าท่านโง่ แต่เกมนี้ไม่เหมาะกับท่าน”
ฉู่หลิงฉวนมองเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
แม้ว่านางจะเป็นผู้นำของศาลาหมื่นดาบ แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา ใครก็ตามที่เข้าใจนางอย่างแท้จริงจะเรียกนางว่าสตรีบ้า
แม้แต่นางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบุคลิกของนาง
ตรงไปตรงมาและจริงใจ?
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับนางแบบนี้
และคนๆนั้นยังเป็นคนที่นางเกลียดที่สุด
สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ของนางซับซ้อนเล็กน้อย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฉู่หลิงฉวนก็ตบมือและเหน็บแนม “ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่จะพูดจาภาษามนุษย์เป็นด้วย? เจ้าพูดมันขึ้นมาเพราะไม่อยากเล่นหมากรุกกับข้าใช่ไหม?”
หลี่หรานพูดอย่างจริงจังว่า “ทุกคำที่พูดมาจากใจจริงของข้า”
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาวของเขา ฉู่หลิงฉวนก็รู้สึกไม่สบายใจ
นางก้มหน้าลงและมองไปทางอื่นขณะพึมพำ “จริงใจแล้วไง? ข้าไม่สนใจหรอก...”
อะแฮ่ม
หลี่หรานกล่าวต่อว่า “แต่ข้าก็ไม่อยากเล่นมันจริงๆนั่นแหละ”
“อา?”
“ท่านรบกวนข้าทุกวันให้มาเล่นหมากรุกด้วย ข้าไม่มีแม้แต่เวลาไปอยู่กับภรรยาของตัวเอง มันส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตของข้า ท่านรู้ไหม?”
ไม่รู้ว่าฉู่หลิงฉวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ใบหน้าของนางร้อนขึ้นเล็กน้อย นางหันศีรษะหนีและพูดว่า “ในสมองเจ้ามีสิ่งอื่นอยู่บ้างไหม?”
หลี่หรานพูดอย่างจริงจัง “ท่านไม่เข้าใจ ข้าทำเพื่อการบ่มเพาะเท่านั้น”
“ไร้สาระ!” ฉู่หลิงฉวนจ้องมองเขา “ลืมมันซะ เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ ข้าไม่สนใจเจ้าแล้ว”
“ขอบคุณ” หลี่หรานยืนขึ้นและวิ่งหนีไปราวกับได้รับการอภัย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาวิ่งไปที่ประตู เขาก็ได้ยินเสียงของนางดังมาจากข้างหลัง “ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งชั่วยาม เสร็จแล้วกลับมาเล่นหมากรุกกับข้าด้วย”
“……” หลี่หรานเกือบจะสะดุดธรณีประตู
ฉู่หลิงฉวนมองไปที่ด้านหลังของเขาและมุมปากของนางก็โค้งขึ้น ลักยิ้มสองอันสามารถมองเห็นได้ลางๆ
แต่เมื่อนึกถึงความเคลื่อนไหวในห้องถัดไปเมื่อสองสามคืนที่ผ่านมา นางก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงด้วยความละอาย
“เจ้าเด็กนี่...”
—
ในตอนเย็นของวันที่สี่
นกเหยี่ยวตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลหลี่และผ่านห้องโถงไปยังห้องของหลี่หราน ปีกของมันกระพือและร่อนลงตรงหน้าเขา
หลี่หรานผายมือออกและจดหมายหยกก็ตกลงบนฝ่ามือ
นกเหยี่ยวเพิ่งบินออกไปขณะที่ฉู่หลิงฉวนผลักประตูและเข้ามา
“วิหารโหยวหลัวตอบกลับแล้ว?”
หลี่หรานพยักหน้า “ใช่”
ฉู่หลิงฉวนพูดอย่างร้อนรน “รีบๆดูว่าอาจารย์ของเจ้าตอบอะไรมา”
หลี่หรานเปิดจดหมาย หยิบหยกออกมาและใช้วิธีการเฉพาะของวิหารโหยวหลัวเพื่อเทพลังวิญญาณลงไป...
ครู่ต่อมาเสียงของเหลิงอู่เหยียนก็ดังขึ้นในหูของเขา
[ ข้าชัดเจนมากเกี่ยวกับความคิดไร้สาระของฉู่หลิงฉวน ไม่ใช่เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าศิลปะการต่อสู้ของนางแข็งแกร่งกว่าเต๋าของข้าหรอกหรือ? ]
[ ฮึ่ม! นางไม่สามารถเอาชนะข้าได้ ลูกศิษย์ของนางก็ไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้ นางจึงเกิดความคิดนี้... ]
[ ช่างโง่เขลา! ]
[ เนื่องจากนางได้ลงนามในจดหมายท้าทายแล้ว แน่นอนว่าข้าจะไม่หนีไปไหน บอกนางไปว่าข้าตกลง! ]
[ อย่างไรก็ตาม ข้าจำได้ว่าเจ้ากับเยว่เจียนหลี่... ระวังตัวด้วย ความบ้าคลั่งของฉู่หลิงฉวนไม่ใช่เรื่องดีที่จะยั่วยุ ]
[ นอกจากนี้ ข้าคิดถึงเจ้ามาก… ]
หลี่หรานอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นในขณะที่เขาฟังคำพูดสุดท้ายของเหลิงอู่เหยียน
‘ท่านอาจารย์น่ารักเกินไปแล้ว!’
เมื่อฉู่หลิงฉวนเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา นางก็พูดอย่างเศร้าสร้อย “เหลิงอู่เหยียนปฏิเสธข้อเสนอของข้าใช่ไหม? ข้ารู้อยู่แล้ว...”
หลี่หรานกลับมามีสติและพูดว่า “ไม่ ท่านอาจารย์เห็นด้วย”
ฉู่หลิงฉวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าวอย่างตื่นเต้น “เหลิงอู่เหยียนตกลงที่จะให้เซินหนิงเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้า?”
“ถูกต้อง” หลี่หรานพยักหน้า
ฉู่หลิงฉวนเดินออกจากประตูไปโดยไม่พูดอะไรอีก
หลี่หรานงุนงง “ท่านกำลังจะไปไหน?”
ฉู่หลิงฉวนไม่แม้แต่จะหันกลับมามองและพูดว่า “แน่นอนว่าข้าจะไปหาศิษย์รักของข้า!”
หลี่หรานไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “เช่นนั้นท่านต้องดูว่าเซินหนิงเต็มใจหรือไม่...”
ฉู่หลิงฉวนกล่าวอย่างมั่นใจ “ได้โปรดเถอะ ไม่ว่ายังไงข้าก็เป็นผู้นำนิกาย ข้าควรจะเกลี้ยกล่อมเด็กสาวตัวน้อยๆได้ใช่ไหม?”
—
หนึ่งก้านธูปผ่านไป
เซินหนิงซ่อนตัวอยู่หลังหลี่หรานและจับชายกางเกงของเขาไว้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
ฉู่หลิงฉวนแสดงสีหน้าใจดีและพูดว่า “เซินหนิง เจ้าเต็มใจรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือเปล่า? ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้สรวงสวรรค์... ข้าสามารถทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้”
เซินหนิงส่ายหัวของนางอย่างไม่ลังเล “ไม่”
ลมหายใจของฉู่หลิงฉวนแข็งค้าง “ทะ...ทำไมล่ะ?”
เซินหนิงพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ท่านรังแกพี่ชายของข้า ท่านเป็นผู้หญิงชั่วร้าย ข้าไม่ต้องการผู้หญิงชั่วร้ายมาเป็นอาจารย์”
“ผะ...ผู้หญิงชั่วร้าย?”
ราวกับว่าถูกฟ้าผ่า นางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลา
หลี่หรานพูดด้วยรอยยิ้มแข็งกระด้าง “ผู้นำนิกายฉู่ เด็กย่อมไม่โกหก”
“……” ฉู่หลิงฉวนกลับมามีสติ หน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลง “เห็นได้ชัดว่าพี่ชายของเจ้าเป็นคนรังแกข้า!”
/////